xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

ใต้เงาจีน (36)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ติ่มซำนี้มีความหมาย
ในความเป็นไป
วรศักดิ์ มหัทธโนบล

ติ่มซำนี้มีความหมาย


โต๊ะจีนที่กว่างโจวในคืนวันนั้นถือเป็นมื้ออำลาที่น่าประทับใจ ทั้งนี้ไม่ใช่เพราะอาหารอันเลิศรสแต่อย่างไร หากคือความรู้สึกต่างๆ ที่เราได้รับจากเจ้าภาพฝ่ายจีนซึ่งมีอยู่สองคน ชายคนหญิงคน ที่อยู่กับเราตั้งแต่วันแรกที่มาถึงวันสุดท้ายที่จากลา วันนั้นเราคุยกันในหลายเรื่องจากสองสัปดาห์ที่ไปไหนก็ไปด้วยกันตลอด

หลังโต๊ะจีนในคืนวันนั้นแล้วเราก็กลับที่พักที่โรงแรม ผมใช้เวลาจัดกระเป๋าเดินทางของตัวเองอยู่นานพอควร ในใจก็คิดไปเรื่อยถึงสองสัปดาห์ที่อยู่ในจีน พอคิดมาถึงว่าพรุ่งนี้จะจากลาแล้วก็ให้รู้สึกวิเวกวังเวงใจจนรู้สึกว่าไม่อยากกลับ แต่ครั้นจะให้อยู่ต่อก็รู้ดีว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะบ้านอยู่ที่ไทย ไม่ใช่จีน

คืนนั้นผมจึงหลับไปด้วยความรู้สึกอาลัยอาวรณ์

วันรุ่งขึ้นเราพบกันที่ล็อบบี้ของโรงแรม เมื่อทุกอย่างพร้อมจึงเดินทางไปยังสถานีรถไฟของเมืองกว่างโจวเพื่อเดินทางเข้าฮ่องกง สำหรับผมแล้วถือเป็นการหวนกลับมาที่สถานีนี้อีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่เคยมาแล้วเมื่อสองปีก่อน ผู้คนยังพลุกพล่านเหมือนเดิม

ด้วยเหตุนี้ พวกเราจึงต้องเบียดเสียดผู้คนด้วยความทุลักทุเล จนทำให้การอำลาของพวกเรากับเจ้าภาพฝ่ายจีนทุลักทุเลตามไปด้วย การอำลาเช่นนี้จึงไม่ชวนให้ประทับใจเลย แทนที่จะจับไม้จับมือและพูดคำพูดดีๆ ต่อกันก็กลับต้องโบกมือลาก่อนที่พวกเราจะจมหายไปกับผู้คนที่เบียดเสียดนั้น ส่วนผมก็มองดูคนทั้งสองจนลับสายตา
หลังจากนั้นผมก็ไม่เคยเจอคนทั้งสองอีกเลยจนทุกวันนี้ คงเหลือแต่ความทรงจำที่ดีๆ และความคิดถึงที่เกิดขึ้นในบางช่วงเวลา จนถึงขณะที่ผมกำลังเขียนถึงอยู่นี้ก็อดคิดถึงไม่ได้ ว่าตอนนี้คนทั้งสองยังอยู่ดีมีสุขหรือไฉน คิดแล้วก็ใจหวิวๆ ขึ้นมา

ความรู้สึกอาลัยอาวรณ์ยังคงกรุ่นในความรู้สึกของผมแม้เมื่อรถไฟเคลื่อนตัวออกจากสถานีไปแล้ว จนเมื่อพนักงานขายเครื่องดื่มและของว่างเข็นรถของเธอมาร้องขายผมจึงรู้สึกตัว คราวนี้ก็อดขำตัวเองไม่ได้เมื่อคิดถึงตอนที่ผมซื้อเครื่องดื่มมาดื่มจนปวดเบา แต่เข้าห้องน้ำไม่ได้เพราะมีเจ้าหน้าที่ยืนเฝ้าหน้าห้องน้ำไม่ให้คนเข้าเมื่อสองปีก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้คนจีนแผ่นดินใหญ่หนีทางหน้าต่างห้องน้ำเพื่อไปแสวงหาชีวิตที่ดีกว่า ที่ทำเอาผมทนทุกข์ทรมานจากการอั้นอาการปวดเบาที่สุดในชีวิต จนผมต้องบอกกับเพื่อนรุ่นน้องที่ไปด้วยว่าอย่าได้ซื้อมาดื่มเชียว ไม่งั้นจะเจอกับสถานการณ์เดียวกับที่ผมเจอ

รถไฟมาถึงฮ่องกงราวๆ เที่ยง จากนั้นพวกเราก็ขนสัมภาระมาถึงหน้าสถานี ตอนนี้เองที่ผมเป็นคนจัดการในฐานะผู้ประสานงาน ที่ผมได้เตรียมการณ์มาก่อนหน้านี้ตั้งแต่อยู่ที่ไทย โดยผมได้แจ้งว่าจะมีคนมารับพวกเราและพาไปที่พัก และบอกว่าผมได้ให้เพื่อนมิตรที่ฮ่องกงช่วยหาที่พักราคาถูกให้ ทั้งยังบอกว่าจะมีเพื่อนมิตรทางฮ่องกงมารับพวกเราด้วย ทุกคนฟังแล้วก็ดีใจที่ผมเตรียมการณ์มาอย่างดี

พอมาถึงหน้าสถานีก็พบกับเด็กหนุ่มหน้าตาดีมารับเราจริงๆ เขาเรียกรถแท็กซี่มาสองสามคันเพื่อรับพวกเราไปยังที่พัก ตอนนั้นพวกเรารู้ดีว่าค่าครองชีพที่ฮ่องกงสูงมากกว่าจีนหมายเท่า การได้อยู่ในห้องพักราคาถูกย่อมเป็นเรื่องดี

 แต่พอมาถึงที่พักเข้าจริงเราทุกคนก็ตกใจ เพราะมันไม่ใช่โรงแรม แต่เป็นโฮสเต็ล (hostel) ที่เล็กมาก พอทุกคนได้เห็นห้องพักก็ตกใจยิ่งขึ้นไปอีก เพราะมันเล็กกว่าห้องของโรงแรมสองสามเท่า เล็กจนคนสองคนที่พักด้วยกันต้องเบียดกันเวลาเดิน ส่วนห้องน้ำไม่ต้องพูดถึง มันเล็กจนอาบน้ำไม่สะดวก  

 ตอนนั้นเองใจผมก็หล่นมาที่ตาตุ่ม ผมบอกทุกคนว่าผมไม่นึกว่าจะเป็นแบบนี้ และถึงแม้ทุกคนจะเข้าใจผม แต่ผมก็อดรู้สึกผิดไปไม่ได้จนทุกวันนี้ หลังจากหารือกันไม่นานเราก็ตกลงว่าจะไม่ย้ายที่พักให้ลำบาก เพราะสถานการณ์เช่นนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะหาที่พัก และถ้าเกิดหาไม่เจอแล้วจะทำอย่างไร นี่เป็นสถานการณ์ที่เราไม่อยากให้เกิดขึ้น อย่างไรเสียก็ต้องทนอยู่ไปแค่คืนเดียวเท่านั้น 

หลังจากที่ทุกคนนำสัมภาระเข้าห้องพักกันเรียบร้อยแล้ว เราก็ลงมาที่หน้าโฮสเต็ลเพื่อหารือกันว่าจะไปไหน จะมีก็แต่ผมคนเดียวที่ต้องแยกจากคณะไป เพราะผมมีนัดกับพรรคพวกชาวฮ่องกงมาก่อนแล้ว ผมรู้แต่เพียงว่า ทุกคนในคณะพากันไปหาซื้อของตามห้าง และรู้ต่อมาว่าไม่มีใครได้อะไรสักเท่าไหร่ด้วยว่าแต่ละสิ่งแต่ละอย่างล้วนแพงกว่าบ้านเรา

ส่วนผมที่แยกไปคนเดียวนั้น ได้สนทนากับเพื่อนชาวฮ่องกงในเรื่องการเมืองจีนหลังวิกฤตการณ์เทียนอันเหมินเมื่อสองปีก่อน ซึ่งมีบางคนที่ผมสนทนาด้วยอยู่ในเหตุการณ์ครั้งนั้นตั้งแต่ต้นจนจบ ข้อมูลที่ได้มาจึงสดใหม่และน่าสนใจ แต่จากเหตุการณ์ครั้งนั้นก็นำพาเราให้มาคุยถึงอนาคตของฮ่องกง ที่นับจากวันที่เราคุยกันอยู่นั้น (ค.ศ.1991) จะเหลือเวลาอีกหกปีก็จะกลับไปสู่การปกครองของจีน

เพื่อนชาวฮ่องกงต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ฮ่องกงจะไม่เหมือนเดิมและพวกเขาก็ทำใจแล้ว

หลังจากสนทนาจนพอแก่เวลาแล้ว เพื่อนชาวฮ่องกงก็พาผมไปกิน  ติ่มซำ  ร้านตั้งอยู่ไม่ไกลจากสำนักงานของพวกเขา แต่พอเข้าไปผมก็ตกใจ เพราะนึกไม่ถึงว่าขนาดบ่ายแล้วคนยังนั่งเต็มร้าน จนบอกไม่ถูกว่าเขามากินกันเป็นมื้อหนึ่งของอาหารหรือมากินกันเล่นๆ รู้แต่ว่าทุกคนต่างก็กินไปคุยไปโขมงโฉงเฉงด้วยภาษาจีนกวางตุ้ง

 คำว่า ติ่มซำ นี้เป็นภาษาจีนกวางตุ้ง ภาษาจีนกลางออกเสียงว่า เตี่ยนซิน (点心) ถ้าว่ากันตามรูปคำแล้วอาจแปลได้ว่า เติมใจ แตะใจ จึงไม่แปลกที่มีผู้แปลเป็นภาษาอังกฤษว่า touch the heart ผมยังนึกชมเลยว่า คนที่คิดคำนี้ในภาษาจีนก็ช่างคิดเสียจริง ว่าเมื่อจะต้องกินของว่างหรือกินเล็กกินน้อยไม่ให้อิ่ม แต่รองท้องไว้ก่อนก่อนจะกินมื้อจริง ควรเรียกมื้อแบบนี้ว่าอะไรดี แล้วก็คิดคำว่า ติ่มซำ ขึ้นมาใช้เรียก จนเป็นที่รู้จักกันไปทั่วโลก 

ดังนั้น ความหมายของ ติ่มซำ ที่ว่า เติมใจหรือแตะใจนี้จึงสื่อว่า แม้ใจอยากก็จริง แต่ในเมื่อยังไม่ถึงเวลาก็ลดทอนความอยากนั้นด้วยการกินแต่เบาๆ ไม่ให้ท้องว่างหรือหิวซึ่งจะไม่ดีต่อสุขภาพ ด้วยเหตุนี้ ในฐานะลูกจีนแล้วผมจึงรู้จักคำนี้ตั้งเด็ก เพราะที่บ้านมักพูดกันเป็นปกติ โดยเฉพาะเวลาบ่ายที่จะต้องหาอะไรมารองท้อง ที่บ้านก็จะพูดคำว่า  เตี้ยมซิม ซึ่งเป็นภาษาจีนแคะของคำว่า  ติ่มซำ 

 แต่ ติ่มซำ ที่คนจีนแถวบ้านผมสื่อนั้นไม่ได้หมายถึงของกินประเภทขนมจีบซาลาเปา หรืออะไรอื่นที่เรารู้จักผ่านคำว่า ติ่มซำ ในทุกวันนี้ หากคืออะไรก็ได้ที่เป็นอาหารว่างในความหมายของคนไทยหรือที่คนไทยเข้าใจกัน เพราะฉะนั้นแล้ว เตี้ยมซิม ของผมในสมัยเด็กจึงมักเป็นขนมจีนน้ำยาใต้ หรือไม่ก็รอเยาะกาปงอันเป็นของว่างของชาวมุสลิมปักษ์ใต้ 

รอเยาะกาปงเป็นรายการอาหารที่ประกอบไปด้วยเส้นหมี่ลวกสุก เต้าหู้ทอดหั่นชินเล็ก แป้งทอดกรอบ น้ำราดที่ปรุงรสหวานอมคลุกกับถั่วลิสงคั่ว ไข่ต้ม พริกน้ำส้ม และเครื่องเคียงผักต่างๆ เวลากินจะนำเครื่องต่างๆ ที่ว่ามามาคลุกเคล้าเข้าด้วยกัน รสชาติจะหวานอมเปรี้ยวจากน้ำราดกับพริกน้ำส้ม

แต่ด้วยเหตุที่ติ่มซำที่เรารู้จักคือของว่างประเภทขนมจีบซาลาเปา เราจึงเข้าใจว่าติ่มซำก็คือของกินประเภทนี้ ทั้งๆ ที่ความหมายที่คนจีนใช้กันจะหมายถึงอาหารว่างอะไรก็ได้ที่กินเพื่อรองท้อง เมื่อเป็นเช่นนี้ติ่มซำที่เพื่อนชาวฮ่องกงพาผมไปกินจึงคืออาหารประเภทขนมจีบซาลาเปา และก็เป็นครั้งแรกที่ผมได้กินติ่มซำแบบกวางตุ้ง

หลังจากนั้นอีกหลายปีต่อมาผมก็มีโอกาสได้กินอีกหลายครั้งทั้งที่ฮ่องกงและที่กว่างโจว ทุกครั้งที่ได้กินก็บอกได้แต่ว่า ติ่มซำที่เมืองไทยสู้ที่ฮ่องกงหรือกว่างโจวไม่ได้ ผมไม่รู้ว่าเพราะอะไร จำได้แต่ว่าครั้งหนึ่งผมเคยแนะนำรายการสารคดีรายการหนึ่งที่จะทำเรื่องติ่มซำ ว่าหากอยากจะรู้ว่าติ่มซำที่แท้จริงเป็นอย่างไงก็ควรไปสัมผัสที่ฮ่องกง และรายการนั้นก็เชื่อผมแล้วก็ยอมรับว่ามันต่างกันจริงๆ


กำลังโหลดความคิดเห็น