ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - พลิกตำราโหราศาสตร์ “ผ่าดวงเมือง ปี 2567” ปีแห่งมังกรไฟบรรลัยกัลป์อาละวาด ผ่านคำทำนายของเหล่าโหราจารย์ อาทิ “ซินแสเข่ง - อ.ชนม์ทรรศน์ ฤทัยผ่อง”, “อ.ภิญโญ พงศ์เจริญ”, “ฟองสนาน จามรจันทร์”, “นอสตราดามุสเมืองไทย - โสรัจจะ นวลอยู่” และ อ.โจ้ - อาณณัฐ สรรคชา พบประเทศไทยตกร่องมรสุม บ้านเมืองส่อวิกฤตขัดแย้งรุนแรง การเมืองระส่ำรัฐบาล นิติสงคราม ชิงไหวชิงพริบ ชิงผลประโยชน์ เกิดเหตุภัยพิบัติการสูญเสียใหญ่ การเงินการคลังอ่วม ทุนใหญ่กินรวบ ประชาชนจนกระจาย ระวังขัดแย้งกับต่างประเทศ
ปี 2567 มังกรไฟบรรลัยกัลป์
เปิดคำทำนายแรกกับ “ซินแสเข่ง - อ.ชนม์ทรรศน์ ฤทัยผ่อง” ผู้อำนวยการสถาบันโหราศาสตร์และนักพยากรณ์แห่งประเทศไทย ปี 2567 ที่พยากรณ์เอาไว้ว่า เป็น “ปีแห่งมังกรไฟบรรลัยกัลป์อาละวาดถล่มดวงเมือง” ส่งผลให้เกิดความโกลาหลความขัดแย้งรุนแรงเกิดขึ้นในบ้านเมือง ไม่ว่าจะเป็นองค์กรราชการ วงการสงฆ์ศาสนา วงการบันเทิง การล่มสลายทางเศรษฐกิจ การเงิน การธนาคาร การประกัน เกิดความความแตกแยกในสังคม วงการการเมืองระส่ำ เป็นปีแห่งการปะทะมีผลกระทบที่จะสร้างความรุนแรง สร้างความโกลาหล สร้างความไม่ไว้วางใจ ให้เกิดความแตกแยกตลอดทั้งปี
ดวงเมืองประเทศไทย ตรงกับวันที่ 21 เมษายน 2325 เวลา 06.54 น. ปีขาล ธาตุน้ำ ปะทะ ปี 2567 เป็นปีมังกรไฟบรรลัยกัลป์ ทำนายว่าจะเกิดปัญหาทางด้านความขัดแย้งทางด้านการเมือง งานราชการ ต่างฝ่ายต่างใหญ่ไม่ยอมกัน บ้านเมืองก็วินาศ ที่จะก่อให้เกิดการปะทะเกิดขึ้น สาเหตุเพราะต่างฝ่ายต่างแย่งความเป็นใหญ่ ทั้งพรรคการเมือง และองค์กร ที่ตกอยู่ภายใต้อำนาจของอสุรกาย
ดวงการเมืองมีเกณฑ์ความรุนแรงด้านความแตกแยกทางการเมือง ปี 2567 ผู้นำประเทศไทยตกดวงชะตาศัตรู ส่งผลให้เกิดให้เกิดความไม่ไว้วางใจในพรรคร่วมรัฐบาล จนอาจเกิดการเปลี่ยนตัวผู้นำแบบกลางคัน ซึ่งผู้นำคนใหม่ที่จะมารับช่วงต่อ อาจเป็นคนเดิมที่เคยมีประสบการณ์มาแล้ว ทำนายตามเกณฑ์ดวงชะตาบ้านเมือง หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมือง ถ้ามีการเปลี่ยนตัวผู้นำกลางคัน จะส่งผลดี
ก่อให้เกิดปัญหาความแตกแยกวุ่นวาย เกิดการปะทะเกิดขึ้น ระหว่างประชาชน ปัญหาความวุ่นวายที่จะเกิดขึ้น ทั้งภายในประเทศ และต่างประเทศ สารพัดเรื่องส่งผลกระทบอันส่งผลกระทบต่อเกิดเศรษฐกิจการค้าการขาย ล่มสลาย เกิดเหตุภัยพิบัติก่อให้เกิดการสูญเสียเกิดขึ้น อุทกภัย วาตภัย ดินถล่ม น้ำท่วม สึนามิ เกิดเหตุการณ์เพลิงไหม้ไฟบรรลัยกัลป์ เกิดการปะทุรุนแรงมากทั้งสงครามการเมืองและสงครามประชาชน
อิทธิพลตามจันทรคติ ดาวอุบาทว์ ดาวกาลกิณี และดาวมฤตยู เริ่มโคจร ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2566 ส่งผลให้เกิดความสูญเสียของผู้คนในสังคม ย่างเข้าสู่เดือนแรกของปี 2567 ดวงเมืองและดวงโลกอยู่ในภาวะสงครามกระหึ่ม ส่งผลให้เศรษฐกิจเกิดความล่มสลาย แรงปะทะเกิดในธุรกรรมการเงิน การธนาคาร การประกันชีวิต ตลาดหุ้น โรงงานอุตสาหกรรม ธุรกิจรถยนต์ รถจักรยานยนต์ การขนส่ง เกิดแรงปะทะก่อให้เกิดการสูญเสียอย่างต่อเนื่อง แต่ก็มีธุรกิจดาวรุ่งน่าจับตาปี 2567ธุรกิจด้านไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ คอมพิวเตอร์โทรศัพท์มือถือ อุปกรณ์ไฟฟ้าทุกชนิด น้ำดื่ม น้ำหอม น้ำยาเคมี น้ำมัน และอาหารการกิน
ขณะที่ “นอสตราดามุสเมืองไทย” หรือ “โหรโสรัจจะ นวลอยู่” เปิดเผยคำทำนาย ปี 2567 เป็นปีแห่ง “ไฟสงคราม” ก่อการจลาจล ก่อการร้าย เกิดการสูญเสียบ้านเมืองลุกเป็นไฟ อันเป็นอิทธิพลจาก พระราหู สถิตอยู่ราศีมีน ภพวินาศ และดาวพฤหัสบดี ย้ายจากราศีเมษไปเข้าราศีพฤษภ เข้าทับดาวมฤตยู ในวันที่ 30 เมษายน 2567 ดาวอังคารย้ายเข้าราศีเมษ ในวันอาทิตย์ที่ 2 มิถุนายน 2567 และดาวศุกร์ย้ายเข้าราศีตุล ในวันที่ 21 กันยายน 2567 และดาวเกตุย้ายเข้าราศีตุล ในวันที่ 4 ธันวาคม 2567
อ่านคำทำนายดวงเมืองไทย ปี 2567 ได้ว่าเป็นปีแห่งการก่อการร้ายหนักที่สุดประวัติศาสตร์ชาติไทย ก่อให้เกิดความสูญเลือดเนื้อถึงขั้นสูญเสียชีวิต เรียกว่าไฟเผาผลาญทุกหนแห่ง เกิดความวุ่นวายทางการเมือง ภายในรัฐบาลเกิดการแตกแยกทางความคิด ประเทศประสบภัยพิบัติ จับตาสถานการณ์ภัยแล้ง ขาดแคลนน้ำเป็นวิกฤตการณ์ที่ไม่เคยประสบมาก่อนในรอบ 100 ปี
ให้เฝ้าระวังการปลุกระดมม็อบต่างๆ รังแต่จะทำให้บ้านเมืองลุกเป็นไฟ อิทธิพลจากราหูเป็นวินาศกับลัคน์ ทำนายว่าความดื้อรั้นเอาแต่ฝ่ายตน โดยมิได้ผ่อนปรนใดๆ จะส่งผลให้บ้านเมืองระส่ำ อันเป็นเหตุให้ผู้ถืออาวุธต้องเข้ามาแก้ไขสถานการณ์จนบานปลายเป็นเรื่องใหญ่ ระวังน้ำผึ้งหยดเดียวก่อเกิดความเลวร้ายอย่างใหญ่หลวงได้
เดือนมิถุนายน 2567 ดาวบาปเคราะห์อังคารเดินเข้ามาทับลัคน์ ให้โทษอย่างรุนแรง ดาวบาปเคราะห์ทำมุมปลายหอกกับบ้านเมือง สร้างปรากฏการณ์อันร้ายกาจ สถานการณ์ต้องจับตาหากมีนักการเมืองหรือผู้ใดปลุกระดม จุดชนวนความรุนแรงขึ้นมาจะลุกลาม
สถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนภายใต้ทวีความรุนแรง กลุ่มก่อการร้ายทั้งในและนอกใช้อาวุธที่มีอานุภาพหนัก ทำให้สูญเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก สถานที่ราชการและโรงเรียนอาจถูกเผาทำลายจำนวนมาก โดยที่เจ้าหน้าที่บ้านเมืองไม่อาจควบคุมสถานการณ์ เกิดการยั่วยุของฝ่ายที่ประสงค์ให้เกิดการแตกแยกภายในประเทศ ทั้งด้านการเมือง การปกครอง ด้านศาสนา รัฐต้องดำเนินการอย่างละเอียดรอบคอบ
ภาพรวมเศรษฐกิจภายในประเทศยังไม่สามารถแก้ไขได้ เศรษฐกิจทั่วโลกก็ประสบปัญหาเช่นกัน ประชาชนคนไทยเดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้า เศรษฐกิจถึงขั้นล้มละลาย ธนาคารของรัฐไม่สามารถทำให้เศรษฐกิจฟื้นขึ้นมาได้ ตลาดหุ้นถูกกระทบอย่างหนักเป็นแนวดิ่งตลอดทั้งปี ประชาชนคนไทยประสบความยากจนข้นแค้น เกิดโจรลักขโมยเพื่อความอยู่รอดเพิ่มขึ้น
บ้านเมืองเผชิญหน้ากับภัยที่ขวางอยู่เบื้องหน้า มีศัตรูที่ลอบบ่อนทำลายอยู่ในมุมมืด ขบวนการก่อการร้ายใต้ดินจะเหิมเกริม ศัตรูเก่าทั้งภายนอกและภายในประเทศจะทำลายอย่างมีประสิทธิภาพดีเยี่ยม โรคภัยไข้เจ็บจะระบาดอย่างรุนแรง ผู้คนและสัตว์เลี้ยงจะล้มตายจำนวนมาก จะเกิดภัยพิบัติจากธรรมชาติร้ายแรง เกิดสถานการณ์ภัยแล้ง ขาดแคลนน้ำอย่างหนักในรอบ 100 ปี เกิดภับพิบัติ น้ำป่าเริ่มไหลบ่า น้ำท่วมใหญ่ เฝ้าระวังการกลับมาของโรคระบาดไข้หวัดนก หรือ ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ส่งผลต่อการสูญเสียของผู้คนจำนวนมาก
ปีแห่งการปฎิวัติเศรษฐกิจ
รัฐบาลยังเหนียว ฝ่านค้านสายแข็ง
คำทำนายของ ฟองสนาน จามรจันทร์ แม่หมอสมัครเล่น เผยดวงชะตาเมืองรัตนโกสินทร์ปี 2567 บ้านเมืองอยู่ในโหมดปฎิวัติเศรษฐกิจ เรื่องร้ายยังกวนเมืองให้ระส่ำ โดยภาพดวงชะตาเมืองรัตนโกสินทร์และดาว-ทักษาจรสำคัญปี 2567 พฤหัสบดีจร(5)เดินในราศีเมษตั้งแต่ต้นปี-ย้ายเข้าราศีพฤษภตั้งแต่ 30เ มษายน 2567-สิ้นปี, พระราหูจร(8)เดินในราศีมีนตั้งแต่ต้นปี-เริ่มเป็นกาลกิณีจรตั้งแต่21เมษายน 2567, พระเสาร์จร(7) เดินในราศีกุมภ์ตั้งแต่ต้นปี-สิ้นปี (มีเดินผิดปกติ), พระมฤตยูจร(0)เดินในราศีพฤษภ(มีเดินผิดปกติ
ตั้งแต่ต้นปี - 21เมษายน 2567 เมืองยังตกภูมิราหู(8) -พฤหัสบดี(5)เป็นกาลกิณีจร-พระจันทร์(2)เป็นศรีจร ระหว่างวันเกิดเมืองที่21 เมษายน 2567-สิ้นปีเมืองอายุเต็ม 242 ย่าง 243 ปี ทักษาจรตกภูมิศุกร์(6) -พระอังคาร(3)เป็นศรีจร-พระราหู(8)เป็นกาลกิณีจร
ทำนายว่าตลอดปี 2567 ปรากฎการณ์สำคัญที่จะเกิดในเมืองรัตนโกสินทร์ทั้งปีทั้งดีร้าย ดังนี้
เรื่องร้ายที่ต้องจับตา ตลอดปีมีโอกาส “เจ็บหมู่-ตายหมู่-เสียหาย-วิบัติฉับพลัน” เศร้าเสียใจในวงกว้างจะเกิดเป็นระลอกๆ ทั้งจาก “อุบัติเหตุร้ายแรง อาวุธปืน ระเบิด เลือด ไฟพิษ ควันพิษ” เกิดได้ทั้ง “บนดิน-ในน้ำ-ลมอากาศ-ไฟ” ตัวอย่างคือการสังหารหมู่ 38 ศพที่ อ.นากลาง หนองบัวลำภูเมื่อ 6 ตุลาคม 2565 ซึ่งรอบใหม่จะเกิดขึ้นเป็นระลอกๆ ปลายปี เกิดเหตุกราดยิงที่สยามพารากอน สถานการณ์จะซาไปก่อนจะเริ่มรอบใหม่ปีต่อไปข้ามมาปีใหม่ 2567
เรื่องดีๆ ในปี 2567 เป็นไปตามโฉลก ลาภคืนคง รณรงค์เรามีชัย ปูมโหรบันทึกไว้เป็นตัวอย่างเกณฑ์นี้ที่ได้เกิดขึ้นแล้วตั้งแต่มีนาคม 2566 คือ จากที่เป็นลูกหนี้ไอเอ็มเอฟไทยพลิกกลับเป็นเจ้าหนี้ เงินบาทไทยที่เคยเป็นความอัปยศของชาติคราววิกฤตต้มยำกุ้งปี 2540 พลิกกลับเป็นยืดหยุ่นแกร่งเป็นอันดับสองของโลกรองจากสวิสฟรังส์ตามรายงานของนิตยสารไฟแนลเชียลไทม์ บริษัทการบินไทยจำกัดที่ต้องเข้าแผนฟื้นฟูพลิกถูกกระชากพลิกกลับเป็นทำกำไรในปี 2566โดยฝีมือของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และรอกลับเข้าซื้อขายในตลาดหุ้น ฯลฯ
บ้านเมืองมีเกณฑ์บวกตั้งแต่วันเกิดเมือง 21 เมษายน 2567 เมืองจะได้ลาภเป็นอันมาก ตามโฉลก ลุลาภามากคาม เกิดสิริมงคล ด้วยดาวประจำเมือง (พระอังคาร) เป็นศรีจร สิ่งมงคลจะเกิดในเมืองเป็นระยะๆ เช่น แข่งขันกีฬานัดสำคัญมีโอกาสชนะ หรือประกวดแข่งขั้นระดับนานาชาติมีโอกาสได้รางวัลใหญ่ตลอดปี หรือโชคทางการเงินผ่านมือให้เมือง เช่น โครงการแลนด์บริจ หรือได้โชคจากแก๊สในทะเลที่จะนำมาใช้เพิ่มก็น่าจะเห็นความคืบหน้าระยะนี้
เข้าเข้าสู่ปีที่ 3 ใน 7 เจ็ดปีของการตีฝ่าสงครามเศรษฐกิจโลกและความล้ำสมัย ปั่นป่วน (Disrupt) ไปทั้งโลก เมืองต้องปฏิวัติเศรษฐกิจเมืองเป้าหมายคือหากทำได้ดีไทยจะหลุดจากประเทศกับดักรายได้ปานกลางไปสู่รายได้สูงในราวกลางปี 2572 หากทำได้ไม่ดีก็จะติดกับดักต่อไป
เรื่องเศรษฐกิจช่วงแรกตั้งแต่ต้นปี - 21 เมษายน 2567 เศรษฐกิจยังสั่นไหว ด้วยปัจจัยลบมากกว่าบวกทั้งปัจจัยภายนอก และภายใน ตลาดหุ้นออกทรงเดินหน้าหนึ่งถอยหลังสอง หลังวันเกิดเมืองที่ 21 เมษายน เป็นต้นไป - สิ้นปีสถานการณ์เศรษฐกิจพลิกกลับออกแนวบวกมากกว่าแนวลบ ข่าวดีเริ่มเข้ามาท่วมตลาด เป็นช่วงทองในการชิงลงมือของเมืองในการตีฝ่าสงคราม-ความปั่นป่วนทางเศรษฐกิจ
น่าจับตากิจกรรมทางเศรษฐกิจใหม่ๆ ล้ำสมัยจะเกิดขึ้นเป็นระยะๆ บางส่วนจะเป็นฐานเศรษฐกิจสำคัญที่จะได้ใช้ต่อไป แต่ก็มีด้านร้ายอาจจะมีกิจกรรมทางเศรษฐกิจบางส่วนที่อาจล้มหายตายจากด้วยถูกกระทบปั่นป่วน (Disrupt) อย่างหนัก หรือต้องปรับ-เปลี่ยน-ปฏิวัติ-ต่อยอดเพื่อความอยู่รอดเช่นการลดคนลงเอาเครื่องจักรมาแทน โดยขอให้ดูเครดิตสวิสเป็นตัวอย่าง
เกิดการเปลี่ยนแปลงมากในระบบเงินตรา บทบาทของธนาคารแห่งประเทศไทยที่จะเจอสภาวะล้ำสมัย ท้าทายมาก ต้องปรับตัวอย่างรุนแรงให้ทันสถานการณ์เศรษฐกิจล้ำยุค และคาดจะเห็นแววผุดขึ้นของเงินตราแบบใหม่ที่เห็นๆ คือเงินเหรียญอินทนนท์ที่จะออกโดยธนาคารแห่งประเทศไทย
ตลาดหุ้นมีโอกาสทำสถิติใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านมูลค่าซื้อขาย หรือมีผลิตภัณฑ์ กลุ่มธุรกิจใหม่เข้ามาในตลาดหุ้นเพิ่มมาให้เลือกลงทุน
ประเด็นเศรษฐกิจที่ต้องพิจารณากฎกติกาทางเศรษฐกิจใดที่เคยสร้างความอึดอัด-ผูกขาด - ตัดตอนเอื้อประโยชน์ต่อคนส่วนน้อย จะต้องเปลี่ยนแปลงใหญ่ไม่เช่นนั้นจะถูกท้าทาย-เปลี่ยนแปลง -ปั่นป่วน(Disrupt) หรือหากฝืนได้จะถูกทิ้งไว้ข้างหลังอย่างเจ็บปวด
ภาคเอกชนใดที่คุ้นเคยกับกฎเกณฑ์เก่าหรือความได้เปรียบทางเศรษฐกิจแล้วทำอะไรแบบเดิมๆ ไม่ยอมปรับตัวหรือต่อยอดจะถูกกระทบอย่างรุนแรง ตัวอย่างชัดธุรกิจเหล้าที่เคยครองตลาดผูกขาดไม่กี่รายในที่สุดก็ถูกปลดล้อคการผลิตที่เป็นนโยบายที่ได้ใจประชาชนของพรรคก้าวไกลที่ชูนโยบายสุราเสรี ทำลายการผูกขาด
เกณฑ์ด้านการเมือง “รัฐบาลนายกฯ เศรษฐา” ไม่รับภาระหนักเท่า “รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” มีความมั่นคงโดยรวมมีฝ่ายร่วมรัฐบาลมาเสริมกำลัง แต่นายกรัฐมนตรี รวมทั้งบุคคลมียศ-ศักดิ์ หรือผู้นำคนสำคัญในองค์กรต่าง ๆมีลีลาอันตราย
จับตาช่วงประมาณ 9 มกราคม 2567 ก่อนหลัง 7 วันจ ะเกิดเหตุใหญ่คล้ายๆ แผ่นดินไหวเกี่ยวกับนายกรัฐมนตรี หรือคนมียศศักดิ์ หรือไม่ก็บุคคลที่เป็นผู้นำในวงการต่างๆ ที่เป็นตำแหน่งแหน่งเด่น สุดแท้แต่ว่าใครจะดวงตกดวงดี หรือมีแรงด้านทานขนาดไหน หลังจากนั้นอันตรายแรกของปีที่นายกรัฐมนตรีหรือคนมียศศักดิ์หรือผู้นำคนอื่นๆ ต้องรักษาตำแหน่งให้มั่น คือ ประมาณ15 มิถุนายน-17 กรกฎาคม 2567
จากนั้นด่านอันตรายที่สอง ระหว่าง 26 สิงหาคม 2567 - 19 ตุ ลาคม 2567 ซึ่งด่านนี้แม้จะเหลื่อมล้ำกันบ้างก็สอดคล้องกับเกณฑ์ชะตาของรัฐบาลโดยรวม แม้รัฐบาลจะเข้มแข็ง แต่คาดว่าจะมีการปรับคณะรัฐมนตรีหรือนโยบายสำคัญ หรือพรรคร่วมรัฐบาล ให้จับตาจุดวกกลับสำคัญวันที่ 4 พฤศจิกายน 2567 ก่อนหลัง 7 วัน คาดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงใหญ่ในรัฐบาล หรือพรรคร่วมรัฐบาลหรือนโยบายสำคัญของรัฐบาล ส่วนฝ่ายค้านออกแนวสายแข็ง ถูกกดดันมีทุกข์เป็นระยะๆ
สถานการณ์ทั่วไปในเมือง มีปรากฎการณ์ยุ่งเรื่องคนอื่นทั้งที่ไม่ใช่ธุระของตน เกิดปรากฎการณ์ฝนตกขี้หมูไหล คนอะไรโผล่เป็นเรื่องใหญ่กลางเมือง สร้างเสียงฮือฮาเป็นระยะๆ
ปี 2567 ที่เมืองไทยเข้าสู่ความทันสมัย “เนื้อหอม ดึงดูดต่างชาติ” สามารถพลิกเป็นรายได้เข้าประเทศได้ แต่ในทางตรงกันข้ามความมีเสน่ห์แรงเกินไปอาจออกผลแนวร้ายแทรกมา ออกอาการมาตั้งแต่กรกฎาคมปี 2565 ประเทศไทยเสน่ห์แรงมากสำลักความนิยมจากชาวต่างประเทศอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นกรุงเทพเมืองหลวงที่ติดอันดับต้นๆ ที่นักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือน อีกทั้ง อาหารการกินที่ติดอันดับความนิยมระดับโลกเช่น ผัดไทย, ข้าวซอย, ชุดนักเรียน, มวยไทย ฯลฯ
นิติสงคราม อาชญากรรมลึกลับ
ภาวะเงินเฟ้อ การคลังอ่วม
ผ่าดวงเมือง ปี 2567 โดย อ.ภิญโญ พงศ์เจริญ นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ อ่านคำพยากรณ์เหตุการณ์สำคัญของบ้านเมืองจากอิทธิพลของดวงดาวสำคัญ เริ่มจากดาวพฤหัสบดี ปี 2567 โคจร 2 ราศี ปัจจุบันโคจรตรงราศีเมษ และจะอยู่ไปถึงวันที่ 30 เมษายน 2567 จากนั้นจะย้ายเข้าราศีพฤษก ไปจนถึง 13 พฤษภาคม 2568 ก่อนจะย้ายราศีเข้าราศีมิถุน ตามตำรา ดาวพฤหัสบดีอยู่ในราศีเมษ ภพที่ 1 ของดวงเมือง “ประเทศจะเจริญรุ่งเรือง ประชาชนมีความผาสุก การค้าขายดี สัมพันธไมตรีกับต่างประเทศดี มีสันติสุข ศาสนาแพร่หลาย กิจการการกุศลก้าวหน้า”
ปีนี้ อายุเมือง ครบ 242 ปี ดาวพฤหัสบดีเป็นกาลกิณีจร จะให้ความยุ่งยาก ให้ผลร้าย ให้โทษทางด้านกฎหมาย ศีลธรรม คือ เกิดการใช้กฎหมายมาห้ำหั่นกัน หรือที่เรียกว่า นิติสงคราม ชิงไหวชิงพริบ ชิงผลประโยชน์
เดิมดาวพฤหัสบดี กุมกับราหูตรงราศีเมษ แต่ภาพปรากฏตอนนี้พระราหูย้ายเข้าราศีมีน ส่วนดาวเสาร์อยู่ตรงราศีกุมภ์ ช่วงปี 2566 ดาวตรีเทพส่งกระแสถึงกัน ดาวพฤหัสบดีถือเป็นจอมเทพ ส่วนราหูเป็นจอมมาร เทพกับมารผสมกลมกลืนกัน การตั้งรัฐบาลจึงออกตามดวงดาวที่ผสมกัน
ก่อนดาวพฤหัสบดี ย้ายเข้าราศีพฤษภวันที่ 30 เมษายน 2567 อยู่ถึง 13 พฤษภาคม 2568 ดาวพฤหัสบดีอยู่เรือนเศรษฐกิจ การเงินการคลัง จะอำนวยโชคดีให้การเงิน เศรษฐทรัพย์ทั้งหมดของประเทศ การค้าขายรุ่งเรือง ภาษีอากรเพิ่มขึ้น แต่ประชาชนส่วนใหญ่จะเสียภาษีน้อยลงและได้รับอานิสงส์มาก
อ.ภิญโญ ทำนายต่อไปว่าจะเกิดความยุ่งยากเกี่ยวกับสภาพดาวเคราะห์ที่เข้ามาเบียน เช่น ดาวอังคาร แสดงถึงการใช้จ่ายสูงขึ้น โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับกองทัพ ดาวเสาร์ เกิดความล้มเหลว สูญเสียทางสถาบันการเงิน ตลาดหุ้น และอิทธิพฤหัสมฤตยูครูวิเศษ จะเกิดการใช้กลวิธีใหม่เกี่ยวกับการเงิน การธนาคาร จะมีระเบียบวิธีการใช้จ่ายเงิน เงินตราเข้าสู่มิติแปลกไปจากเดิม มีการพัฒนา ระเบียบวิธีการ ทั้งนี้ ต้องระวังเรื่องการแข่งขันทางการเงินที่รุนแรง สถานการณ์ภาวะเงินเฟ้อที่ค่อนข้างรุนแรงขึ้น
อิทธิพลจาก ดาวพระเสาร์ โคจรอยู่ราศีกุมภ์ ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2566 - 19 พฤษภาคม 2568 เป็นมูลเกษตร กล่าวคือเกษตรดั้งเดิมเป็นมาตรฐานที่สร้างความมั่นคงให้ดาวเสาร์ ดาวเสาร์เป็นเจ้าเรือนกัมมะ หรือการบริหารราชการแผ่นดิน
ทำนายว่า ผู้ใช้อำนาจ เช่น นายกฯ และ ครม. เมื่อดาวเสาร์โคจร เข้าสู่ภพ 11 เจ้าเรือนกัมมะจรเข้าสู่เรือนลาภะ เรื่องการงานที่เคยทำไว้ หรือทำอยู่จะสำเร็จ ได้ผลประโยชน์ มิตรให้ความช่วยเหลือ หรือเป็นผลงานรัฐบาลที่เคยทำไว้ในยุคก่อนอันส่งผลดีเป็นรูปธรรมในรัฐบาลชุดปัจจุบัน
อ่านคำพยากรณ์ต่อไปความว่า รัฐบาลจะมั่นคงรัฐสภาก้าวหน้า แม้ต้องเผชิญหน้ากับฝ่ายค้านอย่างหนักก็ตาม เพราะได้รับการสนับสนุนจากดาวอาทิตย์ หรือมฤตยู และหากได้รับการสนับสนุนจากดาวพฤหัสบดี ดาวศุกร์ หรือดาวจันทร์ ร่างพ.ร.บ.งบประมาณ หรือที่เกี่ยวกับการเงิน จะดำเนินไปด้วยดี
ทว่า เกณฑ์ร้าย บาปพระเคราะห์การบัญญัติกฎหมายการเงินจะชะงัก เพราะเกิดภัยจากคะแนนเสียงข้างมาก กระทบ พ.ร.บ. บางฉบับ เกิดความวุ่นวายในพรรคการเมือง เกิดปัญหายุ่งยาก โดยเฉพาะกฎหมายการเงิน ถ้าดาวเคราะห์เบียนมาจากภพที่ 8 บุคคลสำคัญ รัฐบุรุษบางคนก็จะถึงแก่กรรม แลหากถ้าเกิดในภพ 11 หมายถึงรัฐสภา ทำนายว่า สส. คนสำคัญ อาจจะถึงแก่กรรม แล้วต้องมีการเลือกตั้งซ่อม
อิทธิจาก พระราหู ช่วงที่ผ่านมา ทำร้ายดวงเมืองค่อนข้างเยออะ ปีนี้ ราหูออกจากราศีเมษ เข้าราศีมีน และอยู่ไปถึงวันที่ 5 พฤษภาคม 2568 ความมืดที่ครอบงำดวงเมืองค่อยๆ จางหาย ส่งผลดีต่อบ้านเมือง ทั้งนี้ ดวงเมือง ตรงราศีมีนมีดาวอยู่ 3 ดวง คือ ราหู พระพุธ พระศุกร์ อยู่ด้วย
ส่งผลเรื่องของรัฐสภาออกกฎหมาย การกำหนดนโยบายของชาติ เมื่อราหูทับราหูจะให้โทษ เกิดปัญหาครั้งสำคัญ เกิดความสับสน วุ่นวายในรัฐสภา หรือพรรคการเมือง รวมทั้งเกิดปัญหาคดีเกี่ยวกับการสื่อสาร เกิดคดีหมิ่นประมาท การเดินทาง การขนส่ง
อีกทั้งกิจการต่างประเทศ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เพราะฉะนั้นต้องดูแลเรื่องปากท้อง เศรษฐกิจการเงินการคลังให้ดี โดยเฉพาที่กระทบความเป็นอยู่ของประชาชน และความสัมพันธ์กับต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นความร่วมมือ หรือความขัดแย้งที่สามารถเกิดขึ้นได้
“ปี 2567 จะเกิดอุปราคา 4 ครั้ง ก่อให้เกิดเหตุการณ์ยุ่งยากซับซ้อนในบ้านเมือง เรื่องที่เกี่ยวกับประชาชนคนส่วนใหญ่ เกษตรกร กรรมกร แรงงาน อาจจะมีการนัดหยุดงาน อาชญากรรม โรคภัยไข้เจ็บ ความยุ่งยากทางศาสนา การศึกษา มีผลตามหลังมาด้วยอุบัติเหตุเกี่ยวกับการเดินทางและการท่องเที่ยว ทั้งทางบก ทางทะเล”
จับตาเรื่องความเสียหายให้พืชผลทางการเกษตร โลกธุรกิจถูกก่อกวน กระทบกระเทือนการค้า และเกษตรกรรมเสียหาย ความยุ่งยากปัญหาทางการเงิน เกิดความอับโชคเกี่ยวกับรัฐบาล และเกิดฝนแล้ง ดังนั้นปีหน้าภัยแล้งเป็นปัญหาสำคัญ แต่บางพื้นที่ก็เกิดปัญหาอุทกภัย สร้างความเสียหายจาก เกิดความยุ่งยากเกี่ยวกับอาชีพที่เกี่ยวกับน้ำ ชนชั้นกรรมาชีพเดือดร้อน
“ความอับโชค ความเศร้าโศกเสื่อมเกียรติ เสื่อมโทรมสู่ประเทศหรือรัฐบาล” ผลจากสุริยุปราคาเต็มดวง ส่งผงให้โรงพยาบาล เรือนจำ ราชทัณฑ์ โรงงาน สถานการกุศล จะถูกกระทบกระเทือน อาชญากรรมลึกลับเพิ่มขึ้น แต่หากเป็นจันทรุปราคา ประเทศจะเผชิญศัตรูลึกลับจากต่างประเทศ
“สรุปปีหน้าเรื่องดีมีหลายเรื่อง มีสิ่งดีมากกว่าสิ่งร้าย คราวราหูทับดวงเมืองที่ผ่านมาอยู่ปีครึ่ง แต่อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยยังเดินไปได้”
ขณะที่ อ.โจ้ - อาณณัฐ สรรคชา โหราจารย์ เปิดเผยคำทำนาย อิทธิพลจากราหูโยกย้าย ดวงเมืองบรรเทาเบาบางลง ภาพรวมดวงเมืองปี 2567 การเงินการคลังอ่วม เกิดการปฏิรูปเปลี่ยนแปลงทิศทางบวก มีการพัฒนาในเรื่องของกฎหมายต่างๆ มีความโดดเด่นเรื่องอสังหาริมทรัพย์
ลัคนาดวงเมืองอยู่ในราศีเมษ เดินถอยหลัง พฤหัส เกี่ยวกับเรื่องของจริยธรรม กฎหมาย กฎเกณฑ์ ระเบียบแบบแผน เป็นเรื่องของผู้ถือกฎหมาย พระสงฆ์ ครูบาอาจารย์ ยู่ในกลุ่มของจริย โคจรทับลัคนาตำแหน่งราชาโชค เดินถอยหลัง ส่งผลให้มีควาผิดเพี้ยน ดังปรากฎเป็นข่าว มฤตยู เข้าไปราศีพฤษก เป็นภพการเงินการคลัง มฤตยู เป็นดาวภัยอาเพศ อยู่ที่ไหนเหมือสว่านเจาะรู อยู่ตรงไหนก็มีปัญหา การเงินปี 2567 จึงมีจุดรั่ว จุดบอด
พระราหู ย้ายเข้าราศีมีน ภพวินาศ ดวงกำเนิดมีพระราหูประทับตา ราหูโคจรประทับร่าง พระราหู ความหมายคือมัวเมา แต่ในคัมภีร์พระศาสนาพระราหูเป็นพระอรหันต์รูปหนึ่งที่ไม่ยึดติด ถ้าอยู่ในที่ดี ราหู เป็นดาวบาปเคราะห์ ดีในเรื่องโลดโผนโจนทะยาน ราหูส่งผลเรื่องความการเสี่ยงการลงทุน ตีความหมายเด่นเรื่องการเข้ามาของนักลงทุนต่างชาติแถบ เพราะในราหูมีพระพุธ พระศุกร์ เรื่องการเจรจาต่อรอง อิทธิพลพระศุกร์ เปรียบดังศิวิไลซ์ กระตุ้นเรื่องไอเดียโปรเจคต่างๆ เรื่องการลงทุน ส่งผลดีต่อการคลัง
“การค้าการขายมีการติดต่อเชื่อมโยงจากแดนไกล ภูมิภาคโซนเอเซียลับๆ ไม่เปิดเผย เป็นปีที่จะเกิดโครงการใหญ่ต่างๆ มากมาย แต่ส่อไปทางปิดบังซ่อนเร้นไม่เปิดเผย"
พระเสาร์ โคจร ในราศีกุมภ์ เกี่ยวข้องกับเรื่องของโครงสร้าง ภาคอุตสาหกรรม เกษตรกรรม อสังหาริมทรัพย์ จะมาแรง ที่ทางราคากระฉูด ใครๆ ก็อยากมากว้านซื้อ โดยเฉพาะการเข้ามาของนักธุรกิจในโซนเอเซีย และเป็นปีที่มีการเปลี่ยนผ่านเรื่องกฎหมายใหม่ๆ เอื้อประโยชน์ต่อประเทศชาติ นักลงทุนต่างชาติ แต่อย่าตามใจทุกอย่าง เพราะเข้ามาสร้างปัญหาก็เยอะ
เรื่องการเงินการคลังอ่วมผลพวงจากมฤตยูทับ สภาวะการคลังการเงินไม่ดี อิทธิพลจากดาวมฤตยู คงอยู่อีก 5 ปี แม้การเงินการคลังมีสะสมไว้พอสมควร แต่ข้อเสียมีรูรั่ว
เรื่องของภัยพิบัติต้องจับตา ปี 2567 เป็นปีที่ต้องจับตาเกิดภัยพิบัติ อุบัติเหตุต่างๆ อิทธิพลจากพระเกตุ ส่งผลเกิดอุบัติเหตุภาคพื้นดินบนถนน เกิดอุบัติเหตุใหญ่ต่อเนื่อง ดินถล่ม แผ่นดิน เกิดอุบัติเหตุเลือดตกยางออก อุบัติเหตุบนพื้นที่
สำหรับข่าวดี ภาคเกษตรกรรมทิศทางดี ประเทศไทยเป็นแนวหน้าได้ ภาคอสัหาริมทรัพย์เด่น ใครจับธุรกิจอสังหาฯ อาจปรับสถานะสภาพตัวเองให้ดีขึ้นได้ ธุรกิจกลางคืนเฟืองฟู อิทธิจากพระราหู เป็นปีที่คนทำมาหากินมีช่องทางดี ภาพรวมดีต่อกลุ่มทุนระดับเจ้าสัว ประชาชนทั่วไปยังดิ้นรน
ฟังคำทำนายทายทักดังที่กล่าวมาข้างต้น ก็เพราะจะสรุปรวมความได้ว่า นับเป็นปีแห่งการปฏิรูปใหญ่ของประเทศไทยเลยก็ว่าได้