xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

ใต้เงาจีน (28)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ในความเป็นไป
วรศักดิ์ มหัทธโนบล

เกี๊ยวซีอัน

ดังที่ผมได้กล่าวไปแล้วว่า การที่สุสานของจิ๋นซีฮ่องเต้ยิ่งใหญ่อลังการงานสร้าง ทั้งๆ ที่ยังขุดค้นไม่ทั่วถึงนั้น ทำให้นึกต่อไปได้ว่า ถ้าเช่นนั้นแล้วในขณะที่พระองค์ยังทรงพระชนม์อยู่ พระองค์จะยิ่งใหญ่สักเพียงใด

จากประวัติของพระองค์เท่าที่ปรากฏในบันทึกทำให้รู้ว่าพระองค์ยิ่งใหญ่จริง แต่ความยิ่งใหญ่นี้ตั้งอยู่บนฐานที่ชวนให้ถกเถียงกันไม่น้อย เพราะบทบาทของพระองค์ที่ทำให้พระองค์ดูยิ่งใหญ่นั้น บางแง่มุมก็ดูโหดเหี้ยม บางแง่มุมก็ดูฟุ่มเฟือย บางแง่มุมก็ดูไม่มีความสุข

 ในแง่ที่โหดเหี้ยมกล่าวกันว่า ช่วงที่พระองค์ทรงเป็นจักรพรรดิอยู่นั้น พระองค์มักใช้อำนาจอย่างเด็ดขาดจนเป็นที่หวาดกลัวของผู้คน อย่างเช่นการเกณฑ์แรงงานมนุษย์นับแสนคนมาสร้างกำแพงเมืองจีนที่ลือชื่อนั้น ว่ากันว่า มีผู้เสียชีวิตไปเป็นจำนวนมากจากการใช้แรงงานหนักเกินไป จำนวนไม่น้อยเสียชีวิตจากการเจ็บไข้ได้ป่วย หรือจากสภาพภูมิอากาศที่หนาวเหน็บขณะสร้างกำแพง

ในแง่ของความฟุ่มเฟือยกล่าวกันว่า พระองค์ทรงสร้างวังใหญ่โตหรูหราอลังการ วังนี้มีชื่อว่า อาฝังกง หรือเออผังกง หรือเออฝังกง (ชื่อเรียกที่แตกต่างกันนี้พบจากเอกสารในชั้นหลัง) แต่ต่อมาวังนี้ถูกเผาทำลายตอนที่มีการโค่นล้มราชวงศ์ฉิน อย่างไรก็ตาม ในบันทึกประวัติศาสตร์จีนไม่ได้ระบุที่ตั้งของวังนี้ นักประวัติศาสตร์และนักโบราณคดีได้แต่คาดการณ์หรือสันนิษฐานกันไป ว่าที่มีการค้นพบในปัจจุบันน่าจะเป็นที่ตั้งของวังนี้ 

เกี่ยวกับเรื่องที่ตั้งของอาฝังกงก็ดี หรือความยิ่งใหญ่อลังการของวังก็ดี ทำให้ผมนึกถึงเมื่อครั้งที่ไปนั่งเขียนงานวิจัยที่จีนเมื่อหลายสิบปีก่อนนั้น มีอยู่เย็นวันหนึ่งผมได้ดูสารคดีเกี่ยวกับวังแห่งนี้ โดยสารคดีเรื่องนี้เริ่มด้วยการบรรยายถึงความอลังการของวังนี้ตามที่มีการบันทึก เพื่อผู้ชมได้เข้าใจก่อนว่า หากจะมีขุดค้นหาวังนี้แล้วสิ่งที่ควรพบน่าจะมีอะไรบ้าง หรือตรงกับที่มีการบันทึกหรือไม่

จากนั้นสารคดีนี้ก็สรุปว่า ในเมื่อในบันทึกประวัติศาสตร์เล่าว่า วังนี้ถูกเผาวอดวายในขณะที่เกิดกบฏไปแล้ว สิ่งที่ควรจะเป็นหลักฐานก็คือ เศษซากเถ้าถ่านของวังนี้ เพราะฉะนั้น การขุดค้นแหล่งที่ตั้งของวังนี้จึงมีโจทย์ว่า ในเมื่อวังนี้ถูกเผาจนสิ้นแล้ว สิ่งที่ควรขุดพบก็คือ เศษซากเถ้าถ่านของวัง

จากนั้นนักโบราณคดีจึงใช้วิธีขุดดินที่เชื่อว่าน่าจะเป็นที่ตั้งของวังลึกลงไปให้มากที่สุด และสุ่มขุดไปหลายสิบจุดเป็นวงกว้างเพื่อให้แน่ใจว่าขุดโดยรอบด้านแล้วจริงๆ จะได้สิ้นสงสัย แต่ก็พบว่า ไม่มีจุดใดที่มีเศษซากเถ้าถ่านแม้แต่จุดเดียว เมื่อเป็นเช่นนี้ทั้งนักโบราณคดีและนักประวัติศาสตร์จึงสรุปว่า ที่มีการบรรยายถึงอาฝังกงแบบอลังการงานสร้างนั้น บางทีวังนี้อาจยังสร้างไม่เสร็จ หรือไม่ก็ไม่มีอยู่จริงก็เป็นได้

หนักไปกว่านั้นก็คือ ถ้ามีอยู่จริงก็คงจะลึกลับไม่เป็นที่เปิดเผย เพราะในบันทึกได้บรรยายด้วยว่าวังนี้มีส่วนที่อยู่ใต้ดินด้วย และถูกสร้างให้มีทางวกวนเพื่อให้เข้าถึงยาก เพื่อความปลอดภัยของจักรพรรดิจิ๋นซีที่ทรงเป็นหวาดระแวงว่าพระองค์จะถูกลอบปลงประชนม์ ด้วยพระองค์ทรงรู้ดีว่า การปกครองของพระองค์ได้สร้างความไม่พอใจให้กับคนจำนวนไม่น้อย

แล้วสารคดีเรื่องนี้ก็สรุปว่า ยังไงเสียก็คงต้องค้นหากันต่อไป และที่ค้นพบในปัจจุบันนั้นถือเป็นจุดที่เชื่อว่าน่าจะใช่อาฝังกง ถึงแม้จะไม่พบความอลังการอย่างชัดเจนก็ตาม ส่วนเราคนไทยก็คงจะต้องปล่อยให้คนจีนเขาว่ากันเอง

รออย่างเดียวว่า เมื่อไหร่ที่ค้นพบจริงๆ แล้วค่อยไปเยือนกัน

 ส่วนในแง่มุมที่ว่าจักรพรรดิจิ๋นซีไม่น่าจะมีชีวิตที่มีความสุขก็คือว่า หลังพระองค์ทรงปกครองได้ระยะหนึ่งแล้วพระองค์ก็ทรงครุ่นคิดแต่เรื่องความตาย ว่าทำอย่างไรจึงจะอยู่เป็นอมตะ พระองค์จึงทรงให้แสวงหายาอายุวัฒนะเพื่อให้ชีวิตเป็นอมตะ ด้วยการให้เหล่านักบวชนักพรตมาช่วยหายาที่ว่า

พวกนักบวชนักพรตเหล่านี้ก็ช่างกล้าเสียเหลือเกิน คือกล้าที่จะหลอกจักรพรรดิว่ามียาอายุวัฒนะอยู่ที่ไหนบ้าง แล้วก็อาสาออกไปหา พอออกไปแล้วก็หายสาบสูญไปไม่กลับมาอีกเลย หาไม่แล้วอาจโดนกุดหัวเอาได้ เพราะยังไงเสียพวกตนก็หาไม่พบ 

การที่จักรพรรดิจิ๋นซีทรงหวาดกลัวเรื่องความตายเช่นนี้ทำให้เห็นว่า ชีวิตของพระองค์ไม่น่าจะมีความสุขมากนัก ชีวิตแบบนี้ต่อให้ยิ่งใหญ่สักปานใดก็ไม่มีความหมาย

ที่กล่าวมานี้เป็นเรื่องราวในบางแง่มุมของจักรพรรดิจิ๋นซีเท่านั้น ชีวิตของพระองค์ยังมีอีกหลายแง่มุมที่พิสดารเกินกว่าจะเล่าในที่นี้ได้ และที่เล่ามานี้เล่าเฉพาะที่สัมพันธ์กับสุสานของพระองค์เท่านั้น ที่ควรกล่าวด้วยก็คือว่า ตอนที่ไปเยือนครั้งนั้น สุสานแห่งนี้เพิ่งได้เป็นมรดกโลกได้ไม่นาน

จำได้ว่า ที่จอดรถไม่ได้ไกลจากอาคารสุสานมากนัก เดินไปเดี๋ยวเดียวก็ถึงสุสานแล้ว แต่เดี๋ยวนี้ได้มีการปรับภูมิทัศน์ใหม่ ทำให้บริเวณที่จอดรถกับที่ตั้งอาคารแสดงหุ่นทหารดินเผาอยู่ไกลกันมาก จนทำให้คิดถึงที่อื่นๆ ในจีนที่เป็นแหล่งโบราณสถานที่มีพื้นที่กว้างขวางนั้น จีนก็ปรับภูมิทัศน์ใหม่จนจุดที่จอดรถอยู่ไกลจากที่ตั้งโบราณสถานมาก ใครที่ไปเยือนหากไม่อยากเดินก็ต้องนั่งรถกอล์ฟเข้าไป ซึ่งผมขอแนะนำว่าให้นั่งรถเถิด จะได้ไม่เสียเวลาที่จะไปดื่มด่ำกับแหล่งที่ตนไปเยือน และเวลาที่จะไปเที่ยวในที่อื่นๆ ต่อไป

แต่ถ้าจะเดินก็ขอเตือนไว้ก่อนว่า เดินกันขาลากแน่

 เมื่อเยือนสุสานเสร็จแล้ว ทางเจ้าภาพก็พาคณะของเราไปกินมื้อเที่ยง อาหารมื้อนี้เป็นเกี๊ยวจีนล้วนๆ ซึ่งมีอยู่ราว 40 ชนิดให้ลูกค้าเลือก ซึ่งทางเจ้าภาพได้จองไว้ก่อนล่วงหน้าแล้ว 20 ชนิด ใครที่เคยกินเกี๊ยวจีนก็จะรู้ว่าเขาจะเสิร์ฟมาเป็นเข่งที่นึ่งมาร้อนๆ เข่งหนึ่งจะมีเกี๊ยวอยู่ 10 ชิ้น ซึ่งก็พอดีกับจำนวนคนในคณะของเราและเจ้าภาพ


แต่ที่เขาจองมา 20 อย่างนี้ถือว่ามากสำหรับคนไทยทั่วไป ซึ่งกินได้ 10-15 ชิ้นก็อิ่มแล้ว แต่เรื่องแบบนี้จีนถือมาก ว่าจะกินทั้งทีก็กินให้พอ ไม่ให้แขกรู้สึกว่าน้อยไปหรือไม่อิ่ม หาไม่แล้วเจ้าภาพจะเสียหน้ามาก สำหรับผมแล้วการได้ลิ้มลองเกี๊ยวในครั้งนั้นถือเป็นความประทับใจอย่างยิ่ง เพราะไม่เคยเจอเกี๊ยวมากชนิดมากแบบแบบนี้มาก่อน ซ้ำแต่ละชนิดก็มีรสชาติดีด้วย

จนอีกราว 20 ปีต่อมา ผมได้ไปซีอันอีกหลายครั้ง แต่ละครั้งคนนำเที่ยวก็จะพาไปกินเกี๊ยวหลายสิบชนิดอีกเช่นกัน แต่ที่เปลี่ยนไปคือ นอกจากเกี๊ยวไส้หมูสับแล้ว ชนิดอื่นๆ รสชาติไม่เป็นสับปะรดเอาเสียเลย จนผมรู้สึกว่า ทางร้านกำลังเอาเปรียบนักท่องเที่ยว พอรู้ว่านักท่องเที่ยวนิยมกินร้านของตัวเองก็ลดคุณภาพอาหารลง แต่ได้ราคาเต็มไปแบบเนื้อๆ

แต่ผมพูดอะไรไม่ได้ เพราะเราตามเขาไป เขาจัดอะไรมาก็ต้องรับไว้หมด

ก่อนที่ผมจะได้สัมผัสเกี๊ยวที่ไม่เป็นสับปะรดนั้น ผมดีใจมากที่จะได้กลับไปลิ้มลองอีกที และบอกกับคนที่ไปด้วยว่ามันเป็นรายการอาหารที่สุดยอดเพียงใด แต่พอรู้ว่าไม่เป็นสับปะรดผมก็หน้าแตกที่ได้เที่ยวโฆษณาไปก่อน ทุกคนต่างก็ผิดหวังไปตามๆ กัน เกี๊ยวแต่ละเข่งเหลือบานเบอะ ยกเว้นเข่งแรกที่เป็นไส้หมูสับ

จนครั้งหนึ่งที่ลูกศิษย์กลุ่มหนึ่งของผมได้จัดไปเที่ยวซีอัน และได้ถามผมว่า มีอะไรที่จะแนะนำไหม ผมจึงแนะนำไปว่า จะไปไหนในซีอันก็ไปเถิดรับรองไม่ผิดหวัง แต่อย่าไปร้านเกี๊ยวที่ว่าก็แล้วกัน ซึ่งลูกศิษย์ก็เชื่อผมโดยเปลี่ยนจากร้านเกี๊ยวไปเป็นร้านเป็ดย่าง และก็ไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆ

ผมแนะนำอย่างนั้นเพราะไม่อยากให้ใครต้องมาอารมณ์เสียเหมือนถูกหลอก ไม่ได้มีเจตนาที่จะมาด้อยค่าแต่อย่างไร แต่ก็หวังว่าร้านเกี๊ยวนี้จะปรับปรุงคุณภาพให้เหมือนตอนที่ผมได้กินครั้งแรกด้วย




กำลังโหลดความคิดเห็น