ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - วัฒนธรรมการหาคู่เปลี่ยนแปลงตามยุคสมัย Dating App หรือ แอปพลิเคชั่นสำหรับหาคู่ ที่ไม่ใช่เพียงหาแฟนแต่ยังหาเพื่อนใหม่ๆ ได้รับความนิยมต่อเนื่อง Online Dating กลายมาเป็นวัฒนธรรมการหาคู่ของคนยุคใหม่ รายงานประจำปี Year in Swipe ของ Tinder เผยเทรนด์การเดท ปี 66 “เน้นสร้างโมเม้นต์ – ไม่เน้นนัดยิ้ม” คนโสดต่างเปิดโอกาสให้ตัวเองได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ ที่น่าจดจำมากกว่าเซ็กซ์
สำหรับ ายงานประจำปี Year in Swipe ของ Tinder แอปฯ หาคู่ยอดนิยม เปิดเผยเทรนด์การเดท ในปี 2566 พบว่าคนโสดที่กำลังหาคู่ไม่ได้กังวลว่าความสัมพันธ์จะเป็นอย่างไรต่อไป แต่เน้นเปิดโอกาสให้ตัวเองได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ ที่น่าจดจำมากกว่า เน้นสร้างความทรงจำที่ดี และมีความคิดเชิงบวก
“คนโสดนิวเจน” มองหาคู่ที่มีความคิดเชิงบวก มองโลกในแง่ดี โฟกัสไปที่การพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นพร้อมๆ กับการสร้างความสัมพันธ์ ไม่กดดันไม่รีบร้อนในการสร้างความสัมพันธ์ พวกเขาเน้นออกเดทที่สร้างประสบการณ์และความทรงจำดีๆ เริ่มต้นจากมองโลกในแง่ดีเปิดใจสร้างความสัมพันธ์ใหม่ๆ พร้อมที่จะลองสิ่งใหม่ๆ
เมลิสซ่า ฮ็อบลีย์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดของ Tinder เปิดเผยว่า 69 % ของคน Gen Z ต้องการความท้าทายและเปลี่ยนแปลงมุมมองความสัมพันธ์แบบเดิมๆ เมื่อประสบการณ์ระหว่างการออกเดท มีความสำคัญมากกว่าผลลัพธ์ คนรุ่นใหม่แสดงให้เห็นว่าทุกความเป็นไปได้เมื่อออกเดทเป็นอย่างไร ปลดปล่อยตัวเอง จากความคาดหวังแบบเดิม ๆ และกำหนดเรื่องราวที่มีคุณค่าของตัวเอง”
ทั้งนี้ การเดทที่ไม่ยึดติดกับผลลัพธ์นั้นใช่ที่สุด คนโสดไทยวัย Gen Z เน้นเชื่อมต่อกับผู้คนใหม่ๆ แบบไม่ยึดติดกับผลลัพธ์ หรือที่มาจากคำว่า not attached to outcomes (N.A.T.O) โดย 27% ของผู้ใช้วัย Gen Z เลือก “ยังค้นหาแบบที่ชอบอยู่” เป็นการอธิบายรูปแบบความสัมพันธ์ที่มองหา และ 22% ของคนที่ใช้ฟีเจอร์ Dating Goal เลือก “ยังคิดอยู่ว่าเอาไงดี” สะท้อนว่าคนโสดรุ่นใหม่ไม่ปิดกั้นตัวเองจากความเป็นไปได้ที่อาจเกิดขึ้น
คนโสดนิวเจน เชื่อมต่อกันผ่าน เพลง การท่องเที่ยว และหนังเรื่องโปรด และเปิดใจรับสิ่งใหม่เมื่อออกเดท เน้นสร้าง “เรื่องราวชีวิต” ให้น่าจดจำ มากกว่าการโฟกัสที่ “ตอนจบ” การเดทที่เน้นเรื่องราวและความทรงจำของชีวิตกำลังได้รับความนิยมบน Tinder ทั่วโลก
และพวกเขาไม่เสียเวลากับสถานะคนคุยอีกต่อไป คนรุ่นใหม่มีวิธีจัดระเบียบการออกเดท มีสติรู้ตัวว่ากำลังทำอะไรอยู่ ทำให้สถานะคนคุยเปลี่ยนแปลงไปในปีนี้ จากผลสำรวจ พบว่า 51% ของคนโสดที่ตอบแบบสอบถามระบุว่าากำลังมองหาวิธีจัดตารางการเดทในชีวิตประจำวัน และไม่ต้องการเสียเวลาอีกต่อไป โดย 50% ให้ความสำคัญกับการใช้เวลาร่วมกัน เป็นภาษารักมากกว่าการแสดงความรักแบบอื่นๆ
ทั้งนี้ ผู้ใช้งานชาวไทยมีการเดินทางด้วย Tinder's Passport นิยมปักหมุดไปที่ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ และภูเก็ต ส่วนต่างประเทศพิกัดยอดฮิตคือ กรุงโซล ลอนดอน และนิวยอร์ก
บทความเรื่อง “โลกโรแมนติกใหม่ออนไลน์” โดย ดร.วรากรณ์ สามโกเศศ บอกว่าเล่าวัฒนธรรมการหาคู่ของมนุษยชาติ จากการแนะนำของญาติและเพื่อนฝูงสู่การหาคู่ออนไลน์ในปัจุบัน
“เมื่อเกิดโลกอินเทอร์เน็ตขึ้น ระบบการจับคู่ก็พลิกผันทันที ในปี 1995 ก็เกิดเว็บไซต์ ชื่อ match.com ขึ้นเพื่อให้บริการในแถบเบย์แอเรียของซานฟรานซิสโก online dating ก็เกิดขึ้นและได้รับความนิยมสูง โดยเฉพาะในหมู่ผู้รักร่วมเพศชายซึ่งมีอยู่ในบริเวณนั้นเป็นที่เลื่องลือ ปี 2010 การจับคู่กันเองไปได้รวดเร็วมากในกลุ่มที่เรียกในภาษาสมัยใหม่ว่า LGBT (Lesbian, Gay, Bisexual และ Transgender) กล่าวคือ อินเทอร์เน็ตเป็นสถานที่นัดพบกันโดยมีประมาณการว่ามีส่วนร่วมกว่าร้อยละ 70 ของความสัมพันธ์ทั้งหมด”
ต่อมา ปี 2013 ธุรกิจ startup ชื่อ Tinder เป็นแอปฯ หาคู่ได้รับความนิยมมาก การใช้งานเลือกปัดหาคนที่ถูกใจ หากแมทช์กันก็ได้ลองคุยกัน ถูกใจก็สานสัมพันธ์ ต่อมา เกิด Dating App ขึ้นเป็นจำนวนมาก รูปแบบการใช้งานคล้ายๆ กัน
“online dating เป็นวิธีการที่ทำให้หญิงชายแต่ละคนได้มีโอกาสเลือกคู่เดทอันอาจนำไปสู่การแต่งงานได้อย่างกว้างขวางมากขึ้น ตามรสนิยมที่ตนเองต้องการ เช่น ระดับการศึกษา ความเชื่อทางศาสนา อาชีพ อายุ หน้าตา ฐานะ นิสัยใจคอ ค่านิยม เรื่องที่สนใจ งานอดิเรก รสนิยมในการดำเนินชีวิต พื้นฐานครอบครัว ถิ่นที่อยู่อาศัย ฯลฯ และประการสำคัญคือเลือกได้อย่างเป็นอิสระเสรีโดยไม่มีฝ่ายใดต้องเกรงใจใคร ไม่มีใครเสียหน้า ฯลฯ ส่วนจะมีเรื่องปวดหัวตามมาหรือไม่นั้นเป็นเรื่องของแต่ละคนที่จะต้องจัดการเอง” ดร.วรากรณ์ สามโกเศศระบุ
ทว่า online dating มีข้อจำกัดในหลายสังคมและหลายวัฒนธรรม อันเป็นผลพวงจากค่านิยมในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างหญิงชายก่อนแต่งงาน อย่างไรก็ดี ความปรารถนาที่จะมีคู่มีน้ำหนักมากกว่าจนทำให้ธุรกิจจับคู่ออนไลน์ไปได้ดี ดังเช่นในประเทศจีน Tantan ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันจับคู่ออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของจีนมีผู้ใช้ 20 ล้านคน และทำให้แต่งงานกันไปแล้ว 10 ล้านคู่
“คำถามที่สำคัญก็คือ dating online ทำให้เกิดการแต่งงานที่มีความสุขมากกว่าระบบเก่าหรือไม่ งานวิจัยในปี 2013 ของนักวิจัยจาก Harvard และ Chicago พบว่า การแต่งงานที่เริ่มจากการจับคู่ออนไลน์มีทางโน้มที่จะแตกหักน้อยกว่า และมีระดับความพอใจสูงกว่าคู่แต่งงานที่มาจากระบบเก่า ผลงานวิจัยนี้สอดคล้องกับงานศึกษาของ Thomas และ Rosenfeld จาก Stanford ซึ่งพบว่าคู่แต่งงานจากการพบกันออนไลน์มีคุณภาพของความสัมพันธ์โดยทั่วไปสูงกว่าระบบเก่า และมีทางโน้มน้อยกว่าที่จะเลิกรากันหลังจากแต่งงานกันไปได้แล้วครบปี นอกจากนี้ ยังพบว่าการก้าวเข้าสู่การแต่งงานหลังจากพบกันผ่านออนไลน์แล้วเป็น ไปอย่างรวดเร็วกว่าระบบเก่าอีกด้วย”
สารนิพนธ์เรื่อง “ พฤติกรรมของคนไทยกับการใช้โซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มเดทติ้งออนไลน์” โดย กิรณา มุ่งเจริญ วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล ระบุว่า Dating Application ได้สร้างเครือข่ายของคนโสด และคนไม่โสดที่อยากโสด โดยสามารถพบเจอผู้คนและมองหาประสบการณ์ใหม่ๆ จากคนที่มีรสนิยมความชื่นชอบที่ใกล้เคียงกัน เพียงการเลื่อนปลายนิ้วบน Smart Phone ที่สามารถพกพาติดตัวไปได้ทุกที่ ปัจจุบัน Dating Application ได้รับความนิยมอยางมาก เนื่องจากสามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตของกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ใช้ Smart Phone อยู่ตลอดเวลา สถิติจากทั่วโลกพบกว่า 200 ล้านคนเคยและใช้บริการ Dating Application
ลักษณะของผู้ใช้งานเดทติ้งออนไลน์จากการศึกษาของ Sautter et al พบว่านอกจากในเรื่องการมองหาเพศตรงข้ามแล้ว เดทติ้งออนไลน์ยังเป็นที่นิยมใช้เพื่อหาคนที่มีรสนิยมทิศทางเดียวกันเพศเดียวกัน เพื่อสร้างความสัมพันธ์ในรูปแบบที่ตัวเองกำลังมองหา ส่วนช่วงวัยนั้นสามารถพบได้ทั่วไปตั้งแต่วัยรุ่นไปถึงวัยผู้ใหญ่ สถานภาพตั้งแต่โสด ไปจนถึงผู้ที่เคยผ่านการแต่งงานและหย่าร้างมาแล้ว นอกจากนี้ ยังพบว่าผู้ใช้งานเดทติ้งออนไลน์มีแทบทุกระดับการศึกษา ทุกช่วงระดับรายได้ และเพศชายจะเป็นผู้ที่ใช้งานมากที่สุด และพบว่าการใช้เดทติ้งออนไลน์ผู้ที่มีอายุมากกว่าจะเป็ นที่ดึงดูดใจกับผู้ที่อายุน้อยกว่า
ขณะที่ผลการศึกษาของ Kang and Hoffman พบว่าผู้ใช้งานเดทติ้งออนไลน์มักจะมองหาคู่ที่ตนเองพึงพอใจ เพื่อความสนุก ผ่อนคลาย บรรเทาความเบื่อหน่ายที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน แลพการพบเจอกันออนไลน์ได้ง่ายเป็นปัจจัยที่สำคัญที่นำไปสู่แรงจูงใจนี้
นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของเวลาที่ค่อนข้างยุ่ง ในแต่ละวันของผู้ใช้งานแต่ละคนจนไม่สามารถจัดตารางเวลาเพื่อพบปะเพื่อนฝูง หาเพื่อนเพื่อพูดคุยได้ตรงกับตารางเวลาของตัวเอง หรือแม้กระทั้งคนที่ย้ายเข้ามาตั้้งหลักปักฐานในเมืองใหม่ ความสัมพันธ์ที่เริ่มต้นบนอินเทอร์เน็ตนี้สามารถขยาย และพัฒนาความสัมพันธ์กันได้ในระยะยาว จนกระทั่งพวกเค้าได้ใช้ชีวิตร่วมกัน
ยุคสมัยเปลี่ยนผ่าน Online Dating กลายมาเป็นวัฒนธรรมการหาคู่ของคนรุ่นใหม่ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว