โดย ดร.เกียรติกำจร มีขนอน
เมื่ออาณาจักรซีเซี่ยและทิเบตได้ตั้งตัวเป็นปึกแผ่นทางตะวันตกของจีนและเริ่มคุกคามจีน ราชสำนักซ่งจึงให้พ่อค้าจากตะวันออกกลางและเปอร์เซียเปลี่ยนเส้นทางจากเส้นทางสายไหมทางบกมาใช้เส้นทางทางทะเลผ่านช่องแคบมะละกาทำให้ทำให้จีนต้องพึ่งเรือสำเภาต่างชาติที่แล่นผ่านช่องแคบมะละกาและสมาพันธรัฐศรีวิชัยได้รับผลประโยชน์ศรีวิชัยยังส่งทูตไปจีนและโจฬะ โจฬะค้าขายกับจีนโดยตรงผ่านศรีวิชัยโดยให้ศรีวิชัยออกหน้า เมื่อราชสำนักซ่งสูญเสียเส้นทางสายไหมทางบกจึงกระตุ้นให้พ่อค้าจีนสร้างเรือสำเภา แต่ศรีวิชัยเริ่มสูญเสียเส้นทางการค้าหลังจากการรุกรานของโจฬะ ศรีวิชัยสูญเสียอิทธิพลและเส้นทางการค้าในเกาะชวาเมื่ออาณาจักรคะหุริปันขยายอิทธิพลในชวาและในแหลมมลายูตอนบนเมื่อพุกามยึดเมืองศรีวิชัยตอนเหนือ กัมพูชาเริ่มแผ่อิทธิพลมาทางอ่าวไทยเข้ามาในแหลมมลายู ฉวนโจวในฝูเจี้ยนและกว่างโจวในกว่างตงเป็นศูนย์กลางการค้าในภูมิภาค มีชุมชนมลายูในเมืองท่ากว่างโจวและฉวนโจวในจีน แต่ขาดการติดต่อกับอ่าวเบงกอล แม้ว่าการรุกรานของโจฬะไม่กระทบกับพ่อค้าเอกชนศรีวิชัยมากนักเพราะโจฬะสนใจแต่การควบคุมช่องแคบมะละกา แต่พ่อค้าเหล่านี้ไม่เดินเรือไปไปทางตะวันตกค้าขายกับอ่าวเบงกอล มหาสมุทรอินเดีย ตะวันออกกลางและแอฟริกาตะวันออก มีกลุ่มการค้าชาวทมิฬเข้ามาค้าขายแข่งกับพ่อค้ามลายูในช่องแคบมะละกา นาคปฏินัมและคายาลปฏินัมยังคงเป็นเมืองท่าหลักทางชายฝั่งตะวันออกของอินเดีย นอกจากนี้พ่อค้าชาวอาหรับและเปอร์เซียยังคงแวะที่คายาลปฏินัมทางตอนใต้ของอินเดียเพื่อเดินทางมาค้าขายกับศรีวิชัยและพ่อค้าศรีวิชัยอาจจับทาสแอฟริกันมาขายที่ชวา
ยุทธวิธีในการโจมตีสมาพันธรัฐศรีวิชัยของอาณาจักรโจฬะ
เมื่อความสัมพันธ์ระหว่างสมาพันธรัฐศรีวิชัยและอาณาจักรโจฬะเสื่อมทรามลงไปพระเจ้าราเชนทราโจฬะที่ 1 จากเมืองทมิฬลักขัมในรัฐทมิฬนาดูทางใต้ของอินเดียจึงส่งกองทัพเรือโจมตีสมาพันธรัฐศรีวิชัยที่เคดาห์ โดยจะยกกองทัพเรือขนาดใหญ่บุกข้ามมหาสมุทรอินเดียตรงอ่าวเบงกอลแล้วเข้าโจมตีเมืองต่างๆของสมาพันธรัฐศรีวิชัยในปีพ.ศ.1568 ทั้งศรีวิชัยและโจฬะไม่มีกองทัพเรือประจำการต้องอาศัยเรือสินค้าขนส่งกำลังทหาร ดังนั้นปัจจัยชี้ขาดในยุทธนาวีคือ การเดินเรือ ยุทธวิธีโจมตีและการออกแบบเรือ โดยใช้การบุกกองเรือขนาดใหญ่กวาดเมืองศรีวิชัยที่ละเมือง โดยบุกเข้าโจมตีเมืองมานักกะวรัม (นาควารี) บนหมู่เกาะนิโคบาร์ที่เป็นประตูไปสู่สมาพันธรัฐศรีวิชัยเป็นเมืองแรก จากนั้นจึงแยกกองทัพเรือออกเป็น 2 กองเรือ กองเรือแรกบุกเข้ามาทางช่องแคบมะละกาผ่านเมืองลามูรีในอาเจะห์และเดินทางเลียบเกาะสุมาตราทางตะวันออกโจมตีเมืองปาไน กองเรือที่ 2 โจมตีเมืองทางชายฝั่งอันดามันตั้งแต่ปัปพาละ และอาจจะเป็นมะริดในเมียนมาร์ ไล่ลงมาถึงตักโกละ (ตะกั่วป่า) ลงไปยังช่องแคบมะละกา จากนั้นกองเรือทั้ง 2 มารวมตัวกันที่เคดาห์แล้วโจมตีอย่างหนักจนสามารถจับมหาราชาศรีสงครามวิชโยตุงคะวรมันได้ จากนั้นจึงยก
กองทัพเรือบุกโจมตีจัมบิและปาเล็มบังก่อนที่จะเลี้ยวเข้าไปโจมตีเมืองทางชายฝั่งของแหลมมลายู เช่น กลันตัน ลังกาสุกะ ตามพรลิงค์ หรือปัน-ปัน กองทัพเรือโจฬะไม่มีความจำเป็นที่จะต้องอ้อมผ่านทางตะวันตกของเกาะสุมาตราผ่านบาโรคบุกเข้าช่องแคบซุนดาเพื่อโจมตีเมืองปาเล็มบังเป็นเมืองแรกตามสมมติฐานของนักประวัติศาสตร์หลายท่าน ซึ่งถ้าทำเช่นนั้นจะทำให้การเดินทัพเรือช้าลงไปอีก ถ้ากองทัพเรือโจฬะจะต้องแยกย้ายไปโจมตีเมืองทางชายฝั่งตะวันออกของเกาะสุมาตรา เมืองทางชายฝั่งตะวันตกและตะวันออกของแหลมมลายูซึ่งแต่ละเมืองห่างกันมากซึ่งจะทำให้กองทัพเรือโจฬะที่กระจายต้องแล่นเรือทวนลมทำให้อ่อนกำลังลงไป
ในการเอาชนะสมาพันธรัฐศรีวิชัยโจฬะใช้จุดแข็งโดยรวมกองเรือขนาดใหญ่โจมตีกองทัพเรือที่ขาดการประสานงานกันที่ดีของศรีวิชัยที่เป็นจุดอ่อนทีละเมืองซึ่งต้านกองเรือขนาดใหญ่ในคราวเดียวกันไม่ได้ จากสภาพทางภูมิศาสตร์เมืองที่อยู่ในอ่าวไทยอย่างลังกาสุกะหรือตามพรลิงค์ยากที่จะยกกองเรือเข้ามาสมทบได้ในเวลาอันรวดเร็ว กองทัพเรือโจฬะอาศัยความได้เปรียบจากการอยู่เหนือลม และมีเรือรบขนาดเล็กกว่าแต่เพรียวลมและมีเสากระโดงเดียวทำให้เคลื่อนตัวได้รวดเร็ว คล่องตัวและบังคับทิศทางได้ง่ายกว่ากว่าเรือรบของศรีวิชัยที่มีลำตัวป้อมและกรอบโครงไม้คู่ที่ประคองตัวเรือและมีเสากระโดง 2 เสาซึ่งบังคับทิศทางได้ยากกว่า ไม่คล่องตัวและเคลื่อนตัวได้ช้าจึงเสียเปรียบในการรบ นอกจากนี้กราบเรือโจฬะยังดามด้วยโลหะ เช่น เหล็กและเหล็กกล้า จึงทำให้เรือแข็งแรงกว่าเรือศรีวิชัย กองทัพเรือโจฬะอาศัยความได้เปรียบนี้เข้าโจมตีเมืองศรีวิชัยทีละเมืองเนื่องจากเมืองในสมาพันธรัฐศรีวิชัยกระจายตัวอยู่ทั้งแหลมมลายูทั้ง 2 ฝั่ง เกาะสุมาตราทั้ง 2 ฝั่งทำให้กองทัพเรือจากทุกเมืองมารวมตัวกันตอบโต้ไม่ทัน แสดงว่าโจฬะมีการข่าวที่ดีและเข้าใจทิศทางลมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นอย่างดี ได้รับข่าวกรองจากพ่อค้าชาวทมิฬที่เข้ามาค้าขายกับเมืองต่างๆในสมาพันธรัฐศรีวิชัยอยู่ก่อนแล้วจึงรู้ว่าจะสามารถโจมตีเมืองต่างๆโดยไม่ให้ตั้งตัวติดได้อย่างไร
เมื่ออาณาจักรซีเซี่ยและทิเบตได้ตั้งตัวเป็นปึกแผ่นทางตะวันตกของจีนและเริ่มคุกคามจีน ราชสำนักซ่งจึงให้พ่อค้าจากตะวันออกกลางและเปอร์เซียเปลี่ยนเส้นทางจากเส้นทางสายไหมทางบกมาใช้เส้นทางทางทะเลผ่านช่องแคบมะละกาทำให้ทำให้จีนต้องพึ่งเรือสำเภาต่างชาติที่แล่นผ่านช่องแคบมะละกาและสมาพันธรัฐศรีวิชัยได้รับผลประโยชน์ศรีวิชัยยังส่งทูตไปจีนและโจฬะ โจฬะค้าขายกับจีนโดยตรงผ่านศรีวิชัยโดยให้ศรีวิชัยออกหน้า เมื่อราชสำนักซ่งสูญเสียเส้นทางสายไหมทางบกจึงกระตุ้นให้พ่อค้าจีนสร้างเรือสำเภา แต่ศรีวิชัยเริ่มสูญเสียเส้นทางการค้าหลังจากการรุกรานของโจฬะ ศรีวิชัยสูญเสียอิทธิพลและเส้นทางการค้าในเกาะชวาเมื่ออาณาจักรคะหุริปันขยายอิทธิพลในชวาและในแหลมมลายูตอนบนเมื่อพุกามยึดเมืองศรีวิชัยตอนเหนือ กัมพูชาเริ่มแผ่อิทธิพลมาทางอ่าวไทยเข้ามาในแหลมมลายู ฉวนโจวในฝูเจี้ยนและกว่างโจวในกว่างตงเป็นศูนย์กลางการค้าในภูมิภาค มีชุมชนมลายูในเมืองท่ากว่างโจวและฉวนโจวในจีน แต่ขาดการติดต่อกับอ่าวเบงกอล แม้ว่าการรุกรานของโจฬะไม่กระทบกับพ่อค้าเอกชนศรีวิชัยมากนักเพราะโจฬะสนใจแต่การควบคุมช่องแคบมะละกา แต่พ่อค้าเหล่านี้ไม่เดินเรือไปไปทางตะวันตกค้าขายกับอ่าวเบงกอล มหาสมุทรอินเดีย ตะวันออกกลางและแอฟริกาตะวันออก มีกลุ่มการค้าชาวทมิฬเข้ามาค้าขายแข่งกับพ่อค้ามลายูในช่องแคบมะละกา นาคปฏินัมและคายาลปฏินัมยังคงเป็นเมืองท่าหลักทางชายฝั่งตะวันออกของอินเดีย นอกจากนี้พ่อค้าชาวอาหรับและเปอร์เซียยังคงแวะที่คายาลปฏินัมทางตอนใต้ของอินเดียเพื่อเดินทางมาค้าขายกับศรีวิชัยและพ่อค้าศรีวิชัยอาจจับทาสแอฟริกันมาขายที่ชวา
ยุทธวิธีในการโจมตีสมาพันธรัฐศรีวิชัยของอาณาจักรโจฬะ
เมื่อความสัมพันธ์ระหว่างสมาพันธรัฐศรีวิชัยและอาณาจักรโจฬะเสื่อมทรามลงไปพระเจ้าราเชนทราโจฬะที่ 1 จากเมืองทมิฬลักขัมในรัฐทมิฬนาดูทางใต้ของอินเดียจึงส่งกองทัพเรือโจมตีสมาพันธรัฐศรีวิชัยที่เคดาห์ โดยจะยกกองทัพเรือขนาดใหญ่บุกข้ามมหาสมุทรอินเดียตรงอ่าวเบงกอลแล้วเข้าโจมตีเมืองต่างๆของสมาพันธรัฐศรีวิชัยในปีพ.ศ.1568 ทั้งศรีวิชัยและโจฬะไม่มีกองทัพเรือประจำการต้องอาศัยเรือสินค้าขนส่งกำลังทหาร ดังนั้นปัจจัยชี้ขาดในยุทธนาวีคือ การเดินเรือ ยุทธวิธีโจมตีและการออกแบบเรือ โดยใช้การบุกกองเรือขนาดใหญ่กวาดเมืองศรีวิชัยที่ละเมือง โดยบุกเข้าโจมตีเมืองมานักกะวรัม (นาควารี) บนหมู่เกาะนิโคบาร์ที่เป็นประตูไปสู่สมาพันธรัฐศรีวิชัยเป็นเมืองแรก จากนั้นจึงแยกกองทัพเรือออกเป็น 2 กองเรือ กองเรือแรกบุกเข้ามาทางช่องแคบมะละกาผ่านเมืองลามูรีในอาเจะห์และเดินทางเลียบเกาะสุมาตราทางตะวันออกโจมตีเมืองปาไน กองเรือที่ 2 โจมตีเมืองทางชายฝั่งอันดามันตั้งแต่ปัปพาละ และอาจจะเป็นมะริดในเมียนมาร์ ไล่ลงมาถึงตักโกละ (ตะกั่วป่า) ลงไปยังช่องแคบมะละกา จากนั้นกองเรือทั้ง 2 มารวมตัวกันที่เคดาห์แล้วโจมตีอย่างหนักจนสามารถจับมหาราชาศรีสงครามวิชโยตุงคะวรมันได้ จากนั้นจึงยก
กองทัพเรือบุกโจมตีจัมบิและปาเล็มบังก่อนที่จะเลี้ยวเข้าไปโจมตีเมืองทางชายฝั่งของแหลมมลายู เช่น กลันตัน ลังกาสุกะ ตามพรลิงค์ หรือปัน-ปัน กองทัพเรือโจฬะไม่มีความจำเป็นที่จะต้องอ้อมผ่านทางตะวันตกของเกาะสุมาตราผ่านบาโรคบุกเข้าช่องแคบซุนดาเพื่อโจมตีเมืองปาเล็มบังเป็นเมืองแรกตามสมมติฐานของนักประวัติศาสตร์หลายท่าน ซึ่งถ้าทำเช่นนั้นจะทำให้การเดินทัพเรือช้าลงไปอีก ถ้ากองทัพเรือโจฬะจะต้องแยกย้ายไปโจมตีเมืองทางชายฝั่งตะวันออกของเกาะสุมาตรา เมืองทางชายฝั่งตะวันตกและตะวันออกของแหลมมลายูซึ่งแต่ละเมืองห่างกันมากซึ่งจะทำให้กองทัพเรือโจฬะที่กระจายต้องแล่นเรือทวนลมทำให้อ่อนกำลังลงไป
ในการเอาชนะสมาพันธรัฐศรีวิชัยโจฬะใช้จุดแข็งโดยรวมกองเรือขนาดใหญ่โจมตีกองทัพเรือที่ขาดการประสานงานกันที่ดีของศรีวิชัยที่เป็นจุดอ่อนทีละเมืองซึ่งต้านกองเรือขนาดใหญ่ในคราวเดียวกันไม่ได้ จากสภาพทางภูมิศาสตร์เมืองที่อยู่ในอ่าวไทยอย่างลังกาสุกะหรือตามพรลิงค์ยากที่จะยกกองเรือเข้ามาสมทบได้ในเวลาอันรวดเร็ว กองทัพเรือโจฬะอาศัยความได้เปรียบจากการอยู่เหนือลม และมีเรือรบขนาดเล็กกว่าแต่เพรียวลมและมีเสากระโดงเดียวทำให้เคลื่อนตัวได้รวดเร็ว คล่องตัวและบังคับทิศทางได้ง่ายกว่ากว่าเรือรบของศรีวิชัยที่มีลำตัวป้อมและกรอบโครงไม้คู่ที่ประคองตัวเรือและมีเสากระโดง 2 เสาซึ่งบังคับทิศทางได้ยากกว่า ไม่คล่องตัวและเคลื่อนตัวได้ช้าจึงเสียเปรียบในการรบ นอกจากนี้กราบเรือโจฬะยังดามด้วยโลหะ เช่น เหล็กและเหล็กกล้า จึงทำให้เรือแข็งแรงกว่าเรือศรีวิชัย กองทัพเรือโจฬะอาศัยความได้เปรียบนี้เข้าโจมตีเมืองศรีวิชัยทีละเมืองเนื่องจากเมืองในสมาพันธรัฐศรีวิชัยกระจายตัวอยู่ทั้งแหลมมลายูทั้ง 2 ฝั่ง เกาะสุมาตราทั้ง 2 ฝั่งทำให้กองทัพเรือจากทุกเมืองมารวมตัวกันตอบโต้ไม่ทัน แสดงว่าโจฬะมีการข่าวที่ดีและเข้าใจทิศทางลมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นอย่างดี ได้รับข่าวกรองจากพ่อค้าชาวทมิฬที่เข้ามาค้าขายกับเมืองต่างๆในสมาพันธรัฐศรีวิชัยอยู่ก่อนแล้วจึงรู้ว่าจะสามารถโจมตีเมืองต่างๆโดยไม่ให้ตั้งตัวติดได้อย่างไร