ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - “ดรามาทัวร์ทิพย์” ซื้อแพคเกจทัวร์ แต่โดน บ. ทัวร์ เท! กำลังสั่นสะเทือนความเชื่อมั่นธุรกิจนำเที่ยว โดยเฉพาะตลาดไทยเที่ยวนอกที่กำลังฟื้นตัวต่อเนื่อง สถานการณ์หลอกขายแพคเกจท่องเที่ยวต่างประเทศ “ทัวร์ทิพย์” ล็อกเป้า “ไทยเที่ยวนอก” นับเป็นโจทย์ท้าทายของรัฐ เพราะมีผู้เสียหายเป็นจำนวนมากมูลค่าความเสียหายสูง
เป็นภาพสะท้อนกลับไปยังกระบวนการทำงานของหน่วยงานที่กำกับดูแลคือ “กรมการท่องเที่ยว” ซึ่งมีหน้าที่รับเรื่องร้องเรียน ตรวจสอบ ออกคำสั่ง “พักและเพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว” และ “สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.)” หลังรับเรื่องร้องเรียนประสานคู่กรณี “ผู้เสียหาย - บ.ทัวร์” ไกล่เกลี่ย เข้าสู่ขั้นตอนคุ้มครองสิทธิให้ความเป็นธรรม
ขณะเดียวกัน สังคมยังตั้งคำถามถึงมาตรการแก้ปัญหาไม่ต่างจากวัวหายล้อมคอกหรือไม่ เพราะแทนที่จะดำเนินการหลังเกิดเหตุกลุ่มเสียหายจากบริษัทนำเที่ยวหลอกขายทัวร์ทิพย์รวมตัวร้องเรียนขอความเป็นธรรม เหตุใดหน่วยงานที่กำกับดูแลไม่สร้างกลไกให้รัดกุมเพื่อควบคุมการประกอบกิจการนำเที่ยวตั้งแต่แรก?
ล่าสุด เกิดกรณีกลุ่มผู้ซื้อแพคเกจทัวร์ท่องเที่ยวกับบริษัททัวร์ชื่อดัง “บริษัท อ้วนผอม อะราวด์ เดอะ เวิลด์ จำกัด” เจ้าของเฟซบุ๊กแฟนเพจ “อ้วน ผอม จอมเที่ยว” ซึ่งมีผู้ติดตามนับแสนคน แต่ปรากฏว่าไม่สามารถเดินทางไปตามแพคเกจทัวร์ได้ โดยแจ้งกับผู้เสียหายว่าพบปัญหาเกี่ยวกับวีซ่าหรือปัญหาอื่นๆ และเลื่อนการเดินทางออกไปโดยไม่มีกำหนด และไม่ยอมคืนเงินให้กับลูกค้า โดยมีผู้เสียหายร้องเรียนไปยัง “สภาองค์กรของผู้บริโภค” เป็นจำนวนมากได้
ทั้งนี้ ลักษณะการทำธุรกิจของ บ.อ้วนผอม อะราวด์ เดอะ เวิลด์ จำกัด จะเปิดจองทัวร์ท่องเที่ยวซึ่งจะมีระยะเวลาในการเดินทาง 2 - 3 เดือนภายหลังการจองทัวร์ โดยทางบริษัทจะให้ผู้ที่สนใจโอนเงินเพื่อจ่ายค่าทัวร์แบบเต็มจำนวน และมีผู้ซื้อทัวร์กับทางบริษัทเป็นจำนวนมาก เนื่องจากมีการตั้งราคาแพคเกจถูก และโปรโมชันดี มีความน่าสนใจ รวมทั้งมีรีวิวการเดินทางท่องเที่ยวประชาสัมพันธ์ผ่านโซเซียลมีเดียสร้างความน่าเชื่อถือ
ผู้เสียหายรายหนึ่ง เปิดเผยว่าซื้อโปรแกรมเดินทางไปเที่ยวประเทศเวียดนาม หลังเห็นโฆษณาตามสื่อโซเชียลฯ เพราะเห็นว่าราคาถูก 10,000 บาทต่อคน โดยจ่ายเงินในเดือน พ.ค. 2566 กำหนดออกเดินทางในเดือน พ.ย. แต่พอเดือน ต.ค. ได้ติดต่อไปสอบถามแผนการเดินทางดังกล่าว แต่ทางบริษัททัวร์บ่ายเบี่ยง จนก่อนเดินทาง 1 วัน ทางบริษัททักมาบอกขอเลื่อนกำหนดการเดินทาง จึงขอเงินคืนซึ่งทางบริษัทตกลงคืนเงินแต่กลับติดต่อไม่ได้
ขณะที่ผู้เสียหายอีกรายหนึ่ง เปิดเผยว่าทราบจากเพื่อนที่เคยร่วมเดินทางไปกับบริษัททัวร์แห่งนี้ว่า ดูแลลูกทัวร์ดี จึงสนใจซื้อทัวร์ไปประเทศสวิตเซอร์แลนด์กับเพื่อนๆ พร้อมโอนเงินค่าทัวร์ไปแล้วทั้งหมด 2.4 แสนบาท จองข้ามปีตั้งแต่เดือน ต.ค. 2565 กำหนดเดินทางเดือน ต.ค. 2566 ใช้เวลาทั้งหมด 10 วัน แต่พอใกล้กำหนดเดินทางก็ไม่แจ้งกำหนดและเงียบหายไม่สามารถติดต่อได้
ในประเด็นนี้ นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สั่งการให้สำนักงานคณะกรรมการผู้บริโภค (สคบ.) เข้าไปตรวจสอบทันที และประสานไปยังกรมการท่องเที่ยวพิจารณาดำเนินการ ตาม พ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ ในฐานะนายทะเบียนผู้ออกใบอนุญาตและกำกับดูแลการประกอบธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์เรียบร้อยแล้ว
สำหรับมาตรการของ สคบ. ในการเยียวยาผู้บริโภคที่ได้รับความเสียหาย จะส่งเรื่องให้กรมการท่องเที่ยวดำเนินการเรียกบริษัทชี้แจงข้อเท็จจริง รวมถึงการเยียวยาความเสียหายจากเงินประกันที่บริษัทได้วางเงินประกันไว้กับกรมการท่องเที่ยว หากเงินจำนวนดังกล่าวไม่เพียงพอต่อการเยียวยาความเสียหายให้กับผู้บริโภคครบทุกราย กรมการท่องเที่ยวจะส่งเรื่องกลับมายัง สคบ. เพื่อฟ้องดำเนินคดีแทนผู้บริโภครายที่ยังไม่ได้รับการเยียวยาความเสียหายต่อไป และ สคบ. บูรณาการความร่วมมือกับกรมการท่องเที่ยว รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการบังคับใช้กฎหมาย กำหนดแผนการตรวจสอบบริษัทนำเที่ยว เพื่อป้องกันผู้ประกอบธุรกิจที่เอาเปรียบผู้บริโภค และปกป้องผู้บริโภคที่ได้รับความเสียหายจากการกระทำของผู้ประกอบธุรกิจ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและความเป็นธรรม
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่าผู้เสียหายผู้ซื้อแพจเกจทัวร์กับทาง เที่ยว บ.อ้วน ผอม อะราวน์ เดอะ เวิลด์ จำกัด แบ่งได้เป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรก กลุ่มที่จองทัวร์ไว้ เมื่อถึงกำหนดการเดินทางกลับโดนเลื่อนการเดินทางไม่มีกำหนดหรือถูกยกเลิกการเดินทางโดยไม่ได้แจ้งล่วงหน้า กลุ่มที่ 2 กลุ่มที่จองทัวร์ไว้แต่ยังไม่ถึงกำหนดการเดินทาง และไม่สามารถติดต่อบริษัทได้
สำหรับการจัดการ “บ.ทัวร์ทิพย์” ล่าสุด “กรมการท่องเที่ยว” สั่งพักใช้ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว “บ.อ้วน ผอม อะราวน์ เดอะ เวิลด์ จำกัด” เป็นเวลา 1 เดือน และออกคำสั่งเรียกเจ้าของบริษัททัวร์ “นายอัจฉริยะ ลิ้มสุวรรณ” กรรมการผู้จัดการ บริษัท อ้วนผอม อะราวด์ เดอะ เวิลด์ จำกัด มาเข้าพบเพื่อตักเตือน และให้คำแนะนำแนวทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
ทั้งนี้ บ.ทัวร์ดัง โพสต์ข้อความผ่านเพจ “อ้วน ผอม จอมเที่ยว” สรุปความว่ามีความพยายามจะแก้ไขทุกอย่างให้ดีขึ้น และมีความตั้งใจที่จะชดใช้ค่าเสียหายในทุกกรณี และคืนเงินให้กับผู้ที่ประสงค์จะยกเลิกการเดินทาง
และล่าสุด เมื่อวันที่ 28 พ.ย. 2566 กลุ่มผู้เสียหายประมาณ 100 คน พร้อมทนายความ เดินไปยังศูนย์รับแจ้งความ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) เข้าพบ พ.ต.อ.ไกรวิศท์ แสนทวีสุข ผกก.1 บก.ปคบ. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับผู้บริหาร “บ.อ้วน ผอม อะราวน์ เดอะ เวิลด์ จำกัด” ในข้อหา “ฉ้อโกงประชาชน” และ “พ.ร.บ.คอมพ์ฯ” หลังประกาศเปิดจองทัวร์ท่องเที่ยวหลายประเทศทั่วโลก แต่ยกเลิกการเดินทางโดยไม่ได้แจ้งล่วงหน้า และไม่คืนเงินแก่ผู้เสียหายที่จ่ายเงินซื้อโปรมแกรมทัวร์ มูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท
สถานการณ์ “ทัวร์ทิพย์” เป็นปัญหาเรื้อรังที่เกิดขึ้นในสังคมไทยสั่นสะเทือนความเชื่อมั่นธุรกิจนำเที่ยว สาเหตุหลักๆ ของปัญหาบริษัททัวร์ทิ้งลูกทัวร์มาจากหลายปัจจัย ทั้งปัญหาการขาดสภาพคล่องของบริษัท การทำทัวร์แบบโฮลเซลรายใหญ่ทิ้งลูกทัวร์ ฯลฯ ซึ่งที่ผ่านมาแวดวงธุรกิจทัวร์ต่างประเทศในเมืองไทยกำลังเผชิญปัญหา “บริษัททัวร์นำเที่ยวรายใหญ่” หรือเรียกว่า “โฮลเซล” เททริปทิ้งลูกทัวร์ จนสร้างความเสียแก่ “ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวรายย่อย” หรือเรียกว่า “รีเทล” ส่งผลกระทบโดยต่อประชาชนผู้ซื้อทัวร์จาก “รีเทล” โดยที่ “โฮลเซล” ลอยตัวเหนือดรามา ส่วนความรับผิดชอบผลักภาระอยู่กับ “รีเทล”
ขณะเดียวกัน “กรมการท่องเที่ยว” ซึ่งเป็นหน่วยงานงานที่กำกับดูแลโดยตรง รับทราบถึงสถานการณ์ปัญหาที่เกิดขึ้นดี แม้มีมาตรการรองรับแต่ก็ยังไม่สามารถอุดช่องโหว่ปิดกั้นมิให้เกิดปัญหาดังกล่าวได้ 100 เปอร์เซ็นต์ จนทำให้หลายครั้งหลายหนผู้เสียหายต้องรวมตัวรวบรวมหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับบริษัททัวร์เอง
อย่างไรก็ดี ประเทศไทยมีพระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ. 2551 และพระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2559 คุ้มครองนักท่องเที่ยวให้ได้รับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ได้รับความคุ้มค่าจากรายการ นำเที่ยวในราคาที่เป็นธรรม และป้องกันการเอารัดเอาเปรียบจากผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวเป็นสำคัญ
โดยกรมการท่องเที่ยว กำชับให้บริษัททัวร์ปฏิบัติตามกฎหมาย และข้อตกลงหรือโฆษณาที่ชี้ชวนไว้กับนักท่องเที่ยว ช่วยกันปกป้องอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยให้มีภาพลักษณ์ที่ดี มีความปลอดภัย หากบริษัททัวร์รายใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย กรมการท่องเที่ยวจะดำเนินการตามกฎหมายขั้นสูงสุดต่อไป
นายจาตุรนต์ ภักดีวานิช อธิบดีกรมการท่องเที่ยว ย้ำเตือนไปยังนักท่องเที่ยวที่มีแผนเดินทางท่องเที่ยวกับบริษัททัวร์ ขอให้เลือกซื้อทัวร์ที่มีคุณภาพ มีใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ซื้อทัวร์ที่ราคาต่ำกว่าทุนหรือราคาถูกกว่าเมื่อเทียบกับโปรแกรมนำเที่ยวใกล้เคียงกัน ไม่หลงเชื่อการรับจองโปรแกรมทัวร์ข้ามปีที่ราคาถูกมากเกินไป หรือมีการเรียกเก็บค่าบริการเพิ่มหลังจองไปแล้ว และต้องจ่ายมัดจำเต็มจำนวน เพราะเสี่ยงต่อการถูกหลอกลวงและไม่สามารถออกทัวร์ได้จริง
อุตสาหกรรมท่องเที่ยวเป็นแกนสำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยที่รัฐตระหนักให้ความสำคัญ โดยกรณีประชาชนซื้อทัวร์จากบริษัทนำเที่ยวต่างประเทศไทยแต่ไม่สามารถเดินทางได้ การแก้ปัญหา “ทัวร์ทิพย์” นับโจทย์ข้อใหญ่ของรัฐ เนื่องจากมีผู้เสียหายเป็นจำนวนมาก มูลค่าความเสียหายสูง หากมีไม่มีกลไกควบคุมอย่างรัดกุมประชาชนจะได้รับผลกระทบอย่างหนัก