ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - กลายเป็นประเด็นร้อนไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับ “ขบวนการขอทานจีน” ที่เข้ามาทำมาหากินในประเทศไทย โดยปักหมุดทำเลทองใจกลางกรุง สามารถโกยรายจากความขี้สงสารและความใจบุญของไทยด้วยตัวเลขรายได้ถึงหลักล้านต่อเดือน
ที่น่าสนใจไปกว่านั้น ก็คือ บรรดาขอทานจีนเหล่านี้มีความเกี่ยวโยงกับ “ขบวนการค้ามนุษย์ข้ามชาติ” ซึ่งเป็นปัญหาระดับชาติที่รัฐบาลให้ความสำคัญ โดยรายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ 2566 (TIP Report 2023) จัดอันดับให้ไทยอยู่ระดับเทียร์ 2 (Tier 2)
ที่เป็นประเด็นร้อนขึ้นมาเนื่องจาก “อินฟลูฯ สายบู๊” อย่าง “กัน จอมพลัง” หรือ “นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวช” ได้ออกมาแฉพฤติกรรมของกลุ่มคนจีนลักษณะมานั่งขอทานโดยใส่ชุดนักศึกษาไทยเป็นรูปแบบเดียวกัน และลักษณะของบาดแผลก็มีร่องรอยคล้าย ๆ กัน ประสานตำรวจและดีเอสไอเพื่อติดตามขยายผล
“จากการตรวจสอบเงินจากการขอทาน พบว่าแต่ละคนได้เงินจากขอทานวันละ 10,000 บาท ใช้เวลานั่งขอทาน 6 ชั่วโมง คิดเฉลี่ยถ้าผู้ร่วมขบวนการมี 7 คน ตกรายได้รวมเดือนละ 2,000,000 บาท จึงเป็นไปได้ว่าต้องมีคนที่อยู่เบื้องหลังขบวนการ คาดมีโอกาสเป็นขบวนการค้ามนุษย์ข้ามชาติ เพราะขอทานจีนมานั่งยังจุดเหล่านี้ได้อย่างไร ถ้าไม่มีคนพามา เมื่อถูกจับมีคนมาเคลียร์ให้ถึงโรงพัก” กัน จอมพลังเปิดเผย
ทั้งนี้ พบรูปแบบของขบวนการขอทานจีน จะไม่มีการพกพาสปอร์ตติดตัว หากเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบจะไม่ตรวจยึดได้ และทันทีที่ถูกจับกุมจะมีล่ามคนไทยแสดงตัวช่วยเหลือทันที พร้อมควักเงินนับหมื่นขอเคลียร์กับทางตำรวจ และจะย้ายไปทำมาหากินจุดอื่นๆ
ผลของการ “แฉ” ดังกล่าว ส่งผลทำให้ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งขยายผลจับกุม “แก๊งขอทานจีน” ที่มีความผิดปกติอยู่ตรงที่ลักษณะหน้าเละผิดรูป ตามร่างกายมีรอยไหม้ นั่งขอทานอยู่ตามสถานที่คนสัญจรพลุกพล่าน ยกตัวอย่างเช่น ตามหน้าห้างดังและบีทีเอสในกรุงเทพฯ และข้อมูลที่สร้างความตื่นตะลึงก็คือ บรรดา “แก๊งขอทานจีน มีรายได้ของเฉลี่ยวันละ 10,400 บาท หรือตกเดือนละ 1.8 ล้านบาท” เลยทีเดียว
พล.ต.ต.อำนาจ ไตรพจน์” รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยถึงกรณีแก๊งขอทานจีนว่า มีการดำเนินการจับกุมแล้วอย่างน้อย 6 คน ซึ่งจากการสืบสวนพบความเชื่อมโยงขอทานชาวจีนทั้ง 6 คน บางส่วนใช้ล่ามแปลภาษาชาวไทยคนเดียวกันและมีขอทานชาวจีน 2 คน ที่พักอาศัยอยู่ด้วยกันในย่านวังทองหลาง แต่เข้ามาในประเทศไทยด้วยเครื่องบินโดยสารคนละไฟลท์ ที่เหลือพักในโรงแรมต่างๆ ละแวก กทม. ต่างคนต่างเดินทางมาไม่ได้เข้ามาพร้อมกัน อยู่ระหว่างขยายผลทั้งหมดเป็นขบวนการค้ามนุษย์ข้ามชาติใช้ไทยเป็นฐานเพื่อส่งเงินกลับไปยังประเทศจีน และคาดมีคนไทยอยู่เบื้องหลังทำเป็นขบวนการ
นอกจากนี้ บช.น.ตั้งชุดปฏิบัติการขึ้นมาประกอบด้วย ตำรวจ กก.ดส. ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจท้องที่และ พม. เพื่อรวบรวมข้อมูลสืบสวนหาต้นตอของขบวนการดังกล่าว พบแก๊งขอทานชาวจีนกลุ่มนี้นำเงินเหรียญที่ได้แลกเป็นแบงก์ 1,000 บาทไทย แต่ยังไม่ทราบสถานที่แลกเงินไทยเป็นเงินหยวน ซึ่งพล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. กำชับให้ทุกพื้นที่ในนครบาลกวดขันจับกุมขอทานชาวต่างชาติและรายงานผลปฏิบัติทุกวัน
“สำหรับไทม์ไลน์ของกลุ่มขอทานชาวจีนนั้น เริ่มเดินทางเข้าประเทศไทยตั้งแต่เดือน มิ.ย. เดินทางเข้าไทยหลายครั้งโดยใช้วีซ่านักท่องเที่ยว พบ 1 ใน 6 ทำเรื่องขอศึกษาต่อเพื่อเปลี่ยนจากวีซ่าท่องเที่ยวเป็นวีซ่านักศึกษาของสถาบันเอกชนที่มีวิทยาเขตอยู่ทางภาคเหนือแห่งหนึ่ง เพื่อให้อยู่ประเทศไทยได้นานขึ้น นอกจากนี้บางรายอ้างเข้ามาท่องเที่ยวแต่ใช้เงินหมด มีผู้แนะนำให้ประกอบอาชีพขอทานเพื่อหาเงินซื้อตั๋วเครื่องบินกลับ แต่ปรากฏว่ารายได้ดีเลยติดลมทำเป็นอาชีพกระทั่งถูกจับกุม ทั้งนี้ขอทานชาวจีนมักเลือกขอทานในชุมชนแหล่งท่องเที่ยวอาศัยจุดอ่อนของคนไทยที่มีความเอื้ออารีขี้สงสาร ทำให้มีรายได้วันละกว่า 10,000 บาท” พล.ต.ต.อำนาจกล่าว
ทั้งนี้ การขอทานในไทยเป็นเรื่องผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ.ควบคุมขอทาน พ.ศ.2559 ขอทานถือเป็นอาชีพที่ผิดกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.ควบคุมการขอทาน ฉบับใหม่ มีโทษจำคุก 1 เดือน ปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และผู้ใดแสวงหาประโยชน์จากผู้ทำการขอทาน โดยการใช้ จ้าง วาน สนับสนุน ยุยงส่งเสริม หรือกระทำด้วยวิธีการอื่นใดให้ผู้อื่นทำการขอทาน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 3 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
กล่าวสำหรับ กรณีขบวนการ “ขอทานจีน” เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์หรือไม่ ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอยขยายผล แต่ที่แน่ๆ คือ สถานการณ์ค้ามนุษย์ยังเป็นปัญหาในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์นับเป็นวาระแห่งชาติของไทย โดยกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) มีความพยายามจัดระเบียบขอทานมาโดยตลอดแต่ยังไม่สามารถควบคุมได้
นายวราวุธ ศิลปอาชา” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เปิดเผยว่า กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ และภาคประชาสังคม ลงพื้นที่จัดระเบียบเป็นระยะอย่างต่อเนื่อง โดยหากเป็นคนต่างด้าวก็ต้องส่งสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ผลักดันกลับประเทศต้นทาง ส่วนกรณีขอทานที่เป็นคนไทยก็จะนำเข้าสู่สถานคุ้มครองเพื่อรับการฝึกอาชีพตามความสมัครใจ หรือส่งกลับภูมิลำเนา ส่วนใหญ่ไม่ค่อยสมัครใจเข้าสถานคุ้มครอง และหากบังคับก็อาจจะถูกมองขัดหลักสิทธิมนุษยชน อย่างไรก็ตาม เมื่อส่งกลับสักระยะก็กลับเข้ามาอีก เนื่องจากเห็นว่าเป็นช่องทางที่หารายได้ง่าย โดย พม. ไม่มีอำนาจในการดำเนินการจับกุม ต้องอาศัยเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการแนวทางการเพิ่มความเข้มข้นของกฎหมายเป็นกลไกในการป้องปรามกระบวนการขอทาน
ด้าน นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เปิดเผยว่าปัจจุบันพบว่าขบวนการค้ามนุษย์เปลี่ยนรูปแบบการกระทำผิดผ่านช่องทางออนไลน์เพิ่มมากขึ้น เช่น การค้าประเวณี การหลอกเด็กหญิง เด็กชาย ผู้ชาย และผู้หญิงเพื่อผลิตสื่อลามกอนาจาร และการหลอกลวงโฆษณาจัดหางาน เพื่อชักชวนคนไทยให้ไปทำงานต่างประเทศ เป็นต้น โดยปี 2565 มีคดีค้ามนุษย์ผ่านช่องทางออนไลน์ถึง 182 คดี คิดเป็นร้อยละ 71 ของคดีค้ามนุษย์ทั้งหมด 253 คดี ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญกับการป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์อย่างจริงจังและต่อเนื่องในทุกมิติ
ขณะที่ “นายศราวุธ มูลโพ” ผู้อำนวยการกองคุ้มครองสวัสดิภาพและเสริมสร้างคุณภาพชีวิต ระบุว่า ข้อมูล ณ ปัจจุบันมีขอทานทั้งสิ้น 7,151 คน เป็นขอทานชาวไทย 4,678 คน ชาวต่างชาติ 2,473 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวกัมพูชาและเมียนมา ที่เหลือเป็นชาวจีน 68 คน เข้ามาขอทานในประเทศไทยในรูปแบบของขบวนการขอทาน
ล่าสุด กระทรวงการต่างประเทศ สหรัฐฯ เผยแพร่ “รายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ ประจำปี 2566 (TIP Report 2023)” จัดอันดับให้ไทย อยู่ที่ระดับเทียร์ 2 (Tier 2) ระบุว่ารัฐบาลไทยมีความพยายามอย่างมากในการดำเนินการจัดการกับปัญหาการค้ามนุษย์ และแสดงให้เห็นถึงความพยายามที่เพิ่มขึ้น รวมถึงประสิทธิภาพที่เพิ่มมากขึ้นของหน่วยงานของไทยในการค้นหาและยืนยันตัวตนของผู้ที่เป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ การเริ่มใช้แผนปฏิบัติการว่าด้วยกลไกการส่งต่อระดับชาติ (National Referral Mechanism: NRM) และการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติเกี่ยวกับการใช้ NRM เป็นต้น
สำหรับ TIP Report เป็นการรวบรวมรายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ในประเทศต่างๆ โดยมีเป้าประสงค์เพื่อแสดงถึงความพยายามที่ประสบความสำเร็จในการป้องกันการค้ามนุษย์ และเพื่อกำจัดการค้ามนุษย์ให้หมดไป
โดยขณะนี้ประเทศไทยอยู่ในขั้นตอนรวบรวมทำรายงาน Tip Report หรือการส่งรายงานเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ให้กับหน่วยงานต่างประเทศที่เกี่ยวข้อง โดยภายในเดือน ม.ค. 2567 จะส่งให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาต่อไป
ทุกๆ ปีประเทศไทยต้องทำรายงานดังกล่าว โดยมี 3 ส่วนประกอบสำคัญ 1. การดำเนินคดีและการฟ้องร้องทางกฎหมาย 2. การป้องกันและสร้างการรับรู้ 3. การเยียวยาและดูแล แต่ละส่วนจะมีหน่วยงานที่ดูแลต่างกันไป ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงแรงงาน และ พม. โดยเป้าหมายไทยต้องทำให้การเลื่อนสถานะเป็น เทียร์ 1
อย่างไรก็ตาม กรณี “ขบวนการขอทานจีน” กลายเป็นเรื่องร้อนสะเทือน “ฟรีวีซ่าจีน” ของรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน ที่มีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจท่องเที่ยว เพราะดูเหมือนฟรีวีซ่าจีนอาจเป็นช่องเอื้อให้กลุ่มจีนเทาแฝงตัวเข้ามาทำผิดกฎหมาย ดังเช่นกรณี “ขอทานจีนเงินล้าน” ที่ทางการไทยกำลังสะสางปัญหาอยู่ให้ห้วงเวลานี้ ซึ่งทาง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เผยว่าว่าทุนจีนสีเทามีมานานแล้ว ไม่ได้เกี่ยวกับการฟรีวีซ่าหรือไม่ ซึ่งสิ่งที่ต้องทำคือการบริหารจัดการต่อจากนี้
สำหรับสถานการณ์ “ขอทานข้ามชาติชาวจีน” ยังคงต้องติดตามความชัดเจนว่ามีความเกี่ยวข้องกับขบวนค้ามนุษย์หรือไม่?
ประการสำคัญประชาชนคนไทยต้องหยุดการให้เงินขอทาน และไม่สนับสนุนการขอทานทุกรูปแบบ.