ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - ธุรกิจผับบาร์และสถานบริการกลางคืน ติดอันดับธุรกิจดาวเด่นที่มีแนวโน้มการเติบโต โดยข้อมูลการจัดตั้งธุรกิจใหม่ระหว่างเดือนมกราคม-กันยายน 2565 พบว่า ธุรกิจผับบาร์ สถานบริการกลางคืน ตั้งใหม่ 102 ราย เพิ่มขึ้นถึง 200% ขณะที่คนในอาชีพนักร้องนักดนตรีกลางคืนกลับมารับงานโกยรายได้อู้ฟู่ ทำเงินขั้นต่ำต่อเดือน 30,000 – 40,000 บาท เรียกได้ว่ามากกว่ารายได้ขั้นต่ำเงินเดือนวุฒิปริญญาตรีที่รัฐบาลตั้งเอาไว้เสียอีก ธุรกิจกลางคืนฟื้นตัวบรรยากาศกลับมาคึกคักเหมือนช่วงก่อนเกิดสถานการณ์โควิด-19 ผู้คนออกมาใช้ชีวิตรื่นรมย์กันยามค่ำคืนเป็นปกติ
นักร้องนักดนตรีคนรุ่นใหม่ตามผับบาร์ร้านนั่งชิลกลางคืน จำนวนมากเป็นเมล็ดพันธ์ที่งอกเงยจากสถาบันดนตรี เข้าสู่การร้องเพลงกลางคืนจาก “คอนเนกชัน” และ “ออดิชัน” ยึดเป็นงานเสริมเป็นอาชีพหลัก ร้องเพลงเพิ่มประสบการณ์ สร้างโอกาสใหม่ๆ ให้ตัวเอง
เป็นประจำในช่วงเวลา 20.30 ของทุกๆ อังคาร นักร้องสาวผมยาวในลุคเท่ๆ จะปรากฎตัว ร้องเพลง – ดีดกีตาร์ ทำหน้าที่ขับกล่อมผู้คนที่มาเยือน Perfect Strangers Bangkok คาเฟ่กึ่งบาร์ ย่านถนนประดิพัทธ์ “กิ๊ก- น.ส.ธมลวรรณ เอกสัมพันธ์ทิพย์” สาวเหนือจากวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยพายัพ เชียงใหม่ เป็นคนดนตรีรุ่นใหม่ที่ยึดอาชีพ นักร้องกลางคืน
จากความชอบเล่นดนตรีมาตั้งแต่เด็ก โตขึ้นก็เรียนมหาวิทยาลัยด้านดนตรี มีคอนเนกชันก็เลยได้เล่นดนตรีกลางคืน กิ๊กเริ่มเล่นตั้งแต่ช่วงอายุ 21 - 22 ปี ตอนสมัยยังเรียนมหาวิทยาลัย ปี 2 ยาวมาจนเรียนจบ จนถึงตอนนี้ก็เข้าปีที่ 8 แล้ว นอกจากรับงานร้องเพลงกลางคืน ในช่วงเวลากลางก็รับงานสอนดนตรีเด็กเล็ก
สมัยก่อนร้องเพลงเล่นดนตรีอยู่ใน จ. เชียงใหม่ เธอเล่าว่าตอนเริ่มแรกเล่นที่เชียงใหม่ เคยเล่นชั่วโมงละ 250 บาท ซึ่งตอนนี้เชียงใหม่ก็ยังมีเรทนี้อยู่ นอกจากเรื่องของการหารายได้จากการร้องเพลงแล้ว มันเหมือนเป็นการเก็บประสบการณ์ เป็นความพอใจส่วนตัวในการรับงาน แต่การรับงานเรทต่ำๆ ก็มีบางคนที่มองว่าเป็นปัญหาเช่นกัน เพราะมองว่าถ้าบางคนยังรับเรทราคาต่ำมากๆ ก็จะเพิ่มเรทให้สูงเหมาะสมขึ้นไม่ได้ เป็นเรื่องเล็กๆ ของคนในแวดวงดนตรีกลางคืนที่มีปัญหามาตลอด
หลังจากเรียนจบก็ย้ายมาอยู่ใน จ.กรุงเทพฯ รับงานร้องเพลงกลางคืน ร้องเพลงอีเวนท์ต่างๆ เป็นงานเสริม และงานสอนดนตรีเด็กที่กลายมาเป็นงานหลัก กิ๊กเล่าให้ฟังถึงภาพรวมรายได้ต่อเดือนสำหรับงานร้องเพลงอย่างเดียว ถือว่าเยอะพอสมควร รวมๆ แล้วรายได้มากกว่าค่าแรงขั้นต่ำปริญญาตรี แต่การแข่งขันโหดมาก
อธิบายก็คือ เชียงใหม่ มีมหาวิทยาลัยดนตรีมีแค่ 2 ที่ แต่กรุงเทพฯ มี 6 มหาลัยฯ ยังไม่รวมเด็กต่างจังหวัดที่เข้ามา ทุกคนก็จะแข่งกัน การแข่งขันก็จะสูงมาก การเป็นนักร้องเล่นดนตรีกลางคืนเล่นกีต้าร์ด้วยก็ต้องแกะคอร์สกันตลอดเวลา ตามเทรนด์เพลง ทำงานหนักต้องวิ่งตามกระแส
“ตอนอยู่เชียงใหม่ร้องเพลงคืองานหลัก วิ่งหลายร้านต่อคืน เช่น 3 ร้าน เล่นร้านละ 1 ชั่วโมง เพราะว่าค่าร้องเพลงมันไม่ได้เยอะ 300 - 350 ก็เล่นแล้ว วันนึงต้องให้ได้ประมาณ 1,000 นึง ถ้าอย่างนั้นมันก็ไม่พอ แต่มาอยู่ที่ที่กรุงเทพฯ กลายเป็นว่างานสอนเป็นงานหลัก เพราะว่าอยู่กรุงเทพฯ การเดินทางไม่อำนวยจะมูฟจากร้านนึงไปอีกร้านหนึ่งไปไม่ทัน ร้องเพลงร้านในกรุงเทพฯ เงินดีกว่าที่เชียงใหม่เป็นเท่าตัว ร้องร้านเดียว 900 – 1,000 บาท ชั่วโมงครึ่ง”
ถามถึงเป้าหมายในชีวิต แน่นอนว่า “อยากเป็นนักร้อง อยากเป็นศิลปิน” ซึ่งการที่ตัดสินใจย้ายจากเชียงใหม่ มาอยู่ในกรุงเทพฯ ไม่ได้คิดเยอะ คิดเพียงว่าเผื่อได้เป็นเบื้องหลัง ซึ่งเป้าหมายในการร้องเพลงกลางคืนของกิ๊กไม่ใช่เพียงเรื่องรายได้ แต่เธอมองเป็นเรื่องของโอกาส พาตัวเองออกหาประสบการณ์ใหม่ๆ หาคอนเนกชันในงานดนตรี
ตอนนี้ร้องเพลงอยู่ 3 ร้าน ต่อสัปดาห์ แพลนไว้ว่าจะไม่ร้องเพลงมากกว่า 5 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ เพื่อไม่ให้ตัวเองไม่ใช้เสียงเยอะเกินกำหนด เพราะมีบทเรียนตอนร้องที่เชียงใหม่ วิ่งงายอะ ทำงาน 5 – 6 วันต่อสัปดาห์ รับงานไม่ได้พักแล้วเสียงพัง เพราะเสียดายเงินเล็กน้อย จนอาการสะสม เสียงแหบ เส้นเสียงอักเสบ จนเคยมีปัญหาต้องกินยากินเรื่อยๆ ซึ่งหายปกติแล้วเพราะช่วงโควิด-19 ไม่ได้ทำงานพักเสียงเป็นปีเกือบ 2 ปี
การเป็นนักร้องมันเหมือนต้องพิสูจน์ตัวเองตลอดเวลา ถามว่าซัสเซสไหม? ในเรื่องของรายได้ เรื่องของความสุข
“สำหรับกิ๊กรู้สึกว่ามันซัคเซสแล้ว สำหรับเราชอบร้องตั้งแต่เด็ก จนโตมาวันนี้ก็ยังร้องเพลงอยู่ มันเหมือนอาชีพนึงที่ทำให้เรามีเงินใช้ได้เลย ดูแลตัวเอง ซื้อของให้ตัวเอง ช่วยพ่อแม่ได้บ้าง ไม่เป็นภาระ จากการเป็นนักร้อง กิ๊กรู้สึกว่าประสบความสำเร็จนะ แต่ว่าเป็นได้มากกว่านี้ก็อยากเป็น (ยิ้ม)” กิ๊ก - ธมลวรรณ เอกสัมพันธ์ทิพย์ นักร้องนักดนตรีกลางคืน จากวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยพายัพ เชียงใหม่ กล่าว
@kik.eksumpantip #cover #ladygaga #astarisborn #movie ♬ เสียงต้นฉบับ - kik.eksumpantip
ที่น่าสนใจ นอกจากรายได้จากงานร้องเพลง การสอนดนตรี ยังมีช่องทางโซเซียลมีเดียที่สร้างรายได้ให้นักร้องนักดนตรีผู้นี้ คือแพลตฟอร์ม tiktok แอคเคาท์ kik.eksumpantip เธอเล่าว่าทำ tiktok มาเกือบๆ ปี จากเมื่อก่อนไม่เล่นไม่เคยเล่นเลย แต่มาเล่นเพราะว่ามีสังกัดติดต่อมาช่วงที่โปรโมทวีเจ เริ่มจากไปไปร้องเพลง แล้วเพื่อนอัดคลิปลง tiktok แล้วมันแมสขึ้นมา ก็มีรายได้จาก tiktok ถ้าเราไลฟ์มีคนส่งของขวัญก็จะได้ส่วนแบ่งจากของขวัญ ไหนๆ ก็รับงานร้องเพลงอยู่แล้วไลฟ์ไปด้วยก็เหมือนได้ทิปเพิ่ม เป็นโอกาสมีคนเห็นเยอะๆ ติดต่องานเข้ามา
ขณะที่สาวเสียงพราวเสน่ห์จากคณะดุริยางคศาสตร์ สาขาดนตรีแจ๊ส มหาวิทยาลัยศิลปากร “บี - จตุพร บุตรคำโชติ” ปัจจุบันเป็นเจ้าของโรงเรียนสอนดนตรี Honeybeestudio เล่าถึงเส้นทางสายอาชีพดนตรีเริ่มจากร้องเพลงกลางคืนจากคอนเนกชันในช่วงเรียนมหาลัยฯ หลังเรียนจบเปิดร้านอาหารกึ่งผับ จนกระทั่งมาเปิดโรงเรียนสอนดนตรี ก็ยังรับงานร้องเพลงกลางคืนเป็นส่วนเสริมความสุข เล่าว่าสมัยเรียน 8 – 9 ปีก่อน เคยรับเรทต่ำสุด 600 บาท ชั่วโมงครึ่ง ส่วนใหญ่ 700 – 800 บาทต่องาน ส่วนตอนนี้งานร้องเพลงกลางคืนเป็นงานเสริม ร้องประจำอยู่ 1 ร้าน เรทหลักพันบาท
อย่างไรก็ตาม อาชีพนักร้องกลางคืนได้รับผลกระทบโดยตรงในช่วงสถานการณ์โควิด -19 แม้จะโกยรายดีแต่ความเสี่ยงสูง บีมองว่าการมีหลายอาชีพเสริมเป็นการกระจายความเสี่ยงเป็นช่องทางและโอกาสต่อยอดวิชาดนตรีที่ได้ร่ำเรียนมา
อย่างไรก็ดี เรื่องของรายงานงานร้องเพลงกลางคืนทั้งคู่บอกตรงกันว่าค่อนข้างเยอะ แม้ไม่แน่นอนแต่ขั้นต่ำต่อเดือนอยู่ราวๆ 30,000 – 40,000 บาท
สำหรับภาพรวมธุรกิจฟื้นตัวต่อเนื่อง ซึ่งประเด็นการขยายเวลาเปิดสถานบันเทิงยังเป็นเรื่องประเด็นที่อยู่งระหว่างรอบทสรุป โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มีแนวคิดการขยายเวลาเปิดให้บริการสถานบันเทิงถึง 04.00 น. จากเดิมเปิดได้ถึง 02.00 น. ซึ่งได้รับแรงสนับสนุนจากผู้ประกอบการในพื้นที่ท่องเที่ยวสำคัญ ทั้งนี้ แนวคิดเบื้องต้นจะเปิดสถานที่ท่องเที่ยว ผับ บาร์ สถานบันเทิง ถึงตี 4 จะทำเฉพาะพื้นที่ เพียงไม่กี่จังหวัด เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยว
ก่อนหน้านี้ มีการเสนอนำร่องขยายเวลาปิดตี 4 ในพื้นที่ 9 จังหวัดแหล่งท่องเที่ยวยามค่ำคืนที่มีศักยภาพสูงและเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวต่างชาติมาอย่างยาวนาน เหมาะสมต่อการพัฒนาให้เป็นพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวยามค่ำคืน ที่ภาคธุรกิจนำเสนอ ได้แก่ 1.กรุงเทพมหานคร ได้แก่ ถนนข้าวสาร ถนนสีลม (ซอยพัฒน์พงศ์ ซอยธนิยะ) ถนนรัชดาภิเษก และถนน สุขุมวิท (ซอย 11 ซอยคาวบอย ซอยนานา) 2.จังหวัดภูเก็ต ที่ซอยบางลา 3. จังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่หาดเฉวง เกาะสมุย และหาดริ้น เกาะพะงัน 4.พัทยา ที่วอล์กกิ้งสตรีท 5. พังงา ที่เขาหลัก 6.จังหวัดเชียงใหม่ ที่ ถนนนิมมานเหมินทร์ 7.จังหวัดสงขลา ที่เมืองหาดใหญ่ เมืองสะเดา 8.กระบี่ ที่อ่าวนาง และ 9.ประจวบคีรีขันธ์ ที่เมืองหัวหิน
ขณะเดียวกัน หลังจาก “นายกฯ นิด” นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แสดงท่าทีทบทวนเกี่ยวกับการส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศไทย ทางด้านโต้โผ นายธนากร คุปตจิตต์ ที่ปรึกษาสมาคมธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไทย เป็นปากเสียงฝั่งผู้ประกอบการออกมาสนับสนุนประเด็นการพิจารณาแนวทางขยายระยะเวลาการปิดผับบาร์ เพื่อช่วยการส่งเสริมการท่องเที่ยวให้เกิดมีการจ้างงาน มีกิจกรรมเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ เพื่อเกิดผลเชิงบวกให้กับธุรกิจสถานบันเทิง ธุรกิจภาคบริการและธุรกิจที่เกี่ยวข้องต่างๆ ขนส่งสาธารณะ ผู้ผลิตสินค้า ร้านอาหารกลางคืน
โดยทางสมาคมฯ จะมีการประชุมกับเครือข่ายต่างๆ เพื่อนำเสนอสถานการณ์ ข้อเสนอแนะ และประโยชน์ที่จะเกิดขึ้น คือ ขยายเวลาปิดสถานบันเทิงในแหล่งที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติส่วนใหญ่ ขยายให้ปิดได้ 04.00 น.สำหรับร้านจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มทั่วไป ขยายให้ปิดได้ 02.00น.ปลดล็อกเวลาห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ช่วง 14.00-17.00 น. และทบทวนโซนนิ่งการห้ามขายให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปและมีความสมดุลในแต่ละพื้นที่มากขึ้น
ขณะที่หนึ่งเสียงสำคัญที่ต้องรับฟังในมุมของ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีฟื้นนโยบายขยายเวลาเปิดผับ-บาร์ถึง ตี 4 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจความว่าเรื่องนี้ยังต้องมีหารือในรายละเอียด เบื้องต้นหากดำเนินการจริงจะจัดทำในรูปแบบของโซนนิ่ง ซึ่งยังคงต้องดูว่าจะขยายเวลาถึงกี่โมงข้อสำคัญนอกจากการกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยว ในมิติอื่นๆ เช่น สุขภาพ เยาวชน อุบัติเหตุ เป็นประเด็นที่ต้องพิจารณาอย่างรัดกุมต้องควบคุมให้ได้
ปฏิเสธไม่ได้ว่าธุรกิจกลางคืนของไทยเม็ดเงินสะพัดมหาศาล นักร้องนักดนตรีกลางคืนเป็นอาชีพกอบโกยรายได้ดี ส่วนบทสรุปเรื่องขยายเปิดสถานบันเทิงยามราตรียังคงต้องติดตามกันไป