xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

พระพิชัยสงครามสุวรรณภูมิ หนุนดวงชะตา เสริมวาสนาบารมี ขึ้นสู่จุดสูงสุดของชีวิต

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



คอลัมน์ศิลปะแห่งศรัทธา
โดย Artmulet

 พระพิชัยสงคราม 

ตำราพิชัยสงคราม เป็นตำราที่ว่าด้วยยุทธศาสตร์และยุทธวิธีต่างๆ เพื่อเอาชนะข้าศึกศัตรูในยามสงคราม ซึ่งมีมาตั้งแต่ครั้งสมัยกรุงศรีอยุธยาต่อมาในช่วงต้นกรุงรัตนโกสินทร์จึงได้มีการชำระขึ้นใหม่เป็นตำรับ “พิชัยสงครามฝ่ายทัพ” อีกทั้งยังมีตำรับ “พิชัยสงครามฝ่ายโหร” ซึ่งเป็นตำราที่รวบรวมความรู้ด้านโหราศาสตร์ พุทธาคมที่ค้นพบกันในสมัยหลัง ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่า ตำราพิชัยสงคราม จัดได้ว่าเป็นมรดกทางภูมิปัญญาที่สำคัญทางวัฒนธรรมของชาติ ถึงแม้ว่าในปัจจุบันนี้จะหาผู้รู้ที่จะสามารถอธิบายถึงองค์ความรู้ดังกล่าวได้ยากเต็มทีก็ตาม ส่วนมูลเหตุของการสร้าง “พระพิชัยสงคราม” นั้น มาจากตำรับพระพิชัยสงครามฝ่ายโหร ซึ่งได้กล่าวถึงการสร้างและบูชาดวงพระชันษาขององค์พระมหากษัตริย์ในอดีต โดยจะจัดทำเป็นแผ่นทองดวง 2 ดวง โดยดวงหนึ่งบรรจุใน “ยันต์พิชัยสงคราม” แบบเพชรพยุหะล้อมรอบด้วยอักขระ 3 ชั้น เป็นพระมหาประเจียดใหญ่ ซึ่งต้องสักการะบูชาด้วยเครื่องบูชามงคลอยู่เสมอ และเมื่อเวลาที่พระองค์จะทรงเสด็จออกศึกสงครามหรือเมื่อเวลาที่พระองค์จะทรงเสด็จไปที่ใด เมื่อนำดวงพระชันษานั้นไปด้วย เชื่อว่าจะทำให้พระองค์ทรงมีตบะ เดชะ บารมีคุ้มครองป้องกันภัยได้นานับประการ ในส่วนอีกดวงหนึ่งนั้น บรรจุดวงชะตาแบบจักรราศีล้อมรอบด้วยอักขระ 3 ชั้น แล้วนำไปบรรจุในไม้ง่าม เพื่อค้ำพระศรีมหาโพธิ์ อันมีนัยยะประดุจดังถูกข้าศึกล้อมไว้ถึง 3 ชั้น แต่ก็จะ “กลับร้ายให้กลายเป็นดี” นอกจากนี้ยันต์พิชัยสงครามยังเป็นยันต์ที่เคยใช้ในการบรรจุดวงชะตาพระนคร เพื่อให้เกิดความเป็นสิริมงคล มั่นคงถาวรแก่บ้านเมือง อีกทั้งการลงดวงพระชันษาของพระมหากษัตริย์ในอดีตนั้นก็เพื่อให้พระองค์ทรงมีพระชนม์พรรษายิ่งยืนนาน โดยสรุปแล้วการลงดวงชะตาตามตำรับพระพิชัยสงครามแต่เดิมนั้นเป็นการประกอบพิธีกรรมเกี่ยวข้องกับราชการสงคราม ชะตาบ้านเมือง และองค์พระมหากษัตริย์เป็นสำคัญ ต่อมาในภายหลังได้มีโหราจารย์ ได้นำพิธีกรรมการบรรจุดวงชะตาในยันต์พิชัยสงครามมาประกอบพิธีดังกล่าวให้กับเหล่าพระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ จนถึงคหบดีและประชาชนทั่วไป เพื่อให้ผู้ที่มียันต์พิชัยสงครามบูชาประสบแต่ความสุขความเจริญรุ่งเรืองในชีวิต

ต่อมาจึงได้มีการสร้างพระพิชัยสงครามขึ้น เป็นพระพุทธรูปยืนปาง “ห้ามสมุท” ซึ่งมีนัยยะถึง “สมุทัย” อันเป็นเหตุแห่งทุกข์ และเมื่อห้ามสมุทแล้ว ทุกข์ทั้งหลายจึงหมดสิ้นไป โดยคติเดิมการสร้างพระพิชัยสงครามนั้น จะใช้ไม้ศรีมหาโพธิ์นิพพานคือ กิ่งตายที่หักตกลงมาเอง นำมาแกะเป็นองค์พระ ให้มีขนาดความสูงจากพระบาทไปถึงพระเมาลีประมาณ 11-13 นิ้วหัวแม่มือของผู้สร้าง และให้มีเดือยใต้ฐานพระบาทสำหรับยึดแผ่นรองพระบาทด้วยไม้ไผ่สีสุก เปลวรัศมีใช้ไม้ชุมแสง แผ่นรองพระบาทใช้ไม้นนทรี ส่วนแท่นรองพระบาทใช้ไม้ขนุนแกะ คว้านใต้ฐานให้กลวงเพื่อใช้สำหรับบรรจุดวงพระพิชัยสงคราม ซึ่งต้องพับเป็นรูปดอกบัว พร้อมทั้งบรรจุสิ่งของมงคล เครื่องยา ตามตำรับการสร้างพระพิชัยสงคราม


อาจารย์เทพย์ สาริกบุตร ปรมาจารย์ด้านไสยเวทย์ พุทธาคมและโหราศาสตร์ จัดได้ว่าเป็นผู้ที่เผยแพร่การสร้างพระพิชัยสงครามที่มีความสำคัญท่านหนึ่ง ได้อธิบายถึงการสร้างพระพิชัยสงครามว่า การสร้างพระบรรจุดวงชะตานั้น องค์พระเปรียบประดุจเป็นตัวรถยนต์ การบรรจุดวงชะตาเปรียบเสมือนเครื่องยนต์ มีแรงศรัทธาเปรียบเสมือนน้ำมัน หากตัวรถยนต์ไม่มีเครื่องก็ไม่สามารถแล่นไปได้ แต่ถึงมีเครื่องแต่ถ้าไม่มีน้ำมันซึ่งก็คือแรงศรัทธาแล้วไซร้ รถก็ไม่สามารถแล่นไปได้เช่นกัน แต่หากมีครบองค์ประกอบดังกล่าว รถยนต์ย่อมแล่นถึงที่หมายโดยบรรลุผลดังที่หวังได้สำเร็จ การสร้างพระบรรจุดวงชะตานี้ ได้มีการกระทำกันมาแล้วหลายสำนักด้วยกัน เช่น วัดจักรวรรดิ์ราชาวาส โดยสมเด็จพระพุฒาจารย์ (มา) วัดกลางบางแก้ว โดยท่านเจ้าคุณพระพุทธวิถีนายก หลวงวิศาลดรุณกร (อั้น สาริกบุตร) ซึ่งกระทำตามตำราของท่านพระเทวโลกโหรหลวงคนสำคัญ
ด้วยความสำคัญดังกล่าวนี้ Artmulet นำโดย อ.ธนทัศน์ ทองเนียม ผู้เชี่ยวชาญด้านการสื่อสารงานพุทธเทวศิลป์ และ ดร.ทรงพล เขมะบุลกุล นักวิชาการด้านประวัติศาสตร์สังคมและการเมือง ที่ปรึกษาโครงการ และคณะกรรมการวัดขุนอินทประมูล จ.อ่างทอง จึงมีมติเห็นตรงกันว่า สมควรให้มีการจัดสร้าง “พระพิชัยสงคราม” ขึ้นมาเพื่อหนุนดวงชะตาชีวิตให้เกิดความเป็นสิริมงคลแก่ผู้ที่จะนำพระพิชัยสงครามไปสักการะบูชาโดยถวายพระนามตามชัยภูมิถิ่นกำเนิดว่า “พระพิชัยสงครามสุวรรณภูมิ” นอกจาก Artmulet จะเล็งเห็นถึงความสำคัญในการจัดสร้างพระพิชัยสงครามแล้ว โดยที่ผ่านมาผลงานของ Artmulet ได้เน้นให้ความสำคัญกับงานศิลป์ชั้นสูงมาโดยตลอด จึงได้มีการประยุกต์การสร้างพระพิชัยสงครามจากองค์พระที่ต้องสร้างด้วยไม้พระศรีมหาโพธิ์นิพพานไปสู่โลหะสัมฤทธิ์ที่ทรงคุณค่าและมีความศักด์สิทธิ์อยู่ในตัว นอกจากนี้ยังได้รับเกียรติจากจิตรกรเอกชื่อดัง อ.เกรียงกมล นาคบางแก้ว และอ.สุชาติ แซ่จิว บรมครูด้านประติมากรชื่อดัง เป็นผู้รังสรรค์ปั้นแต่งพระพุทธปฏิมากรองค์ต้นแบบนี้ ด้วยความประณีต วิจิตรบรรจง งดงาม ตระการตาและอลังการเป็นที่สุด โดยมีพุทธลักษณะในแบบพระพุทธรูปยืน ปางห้ามสมุท (ห้ามทุกข์) ทรงเครื่องใหญ่ในแบบพระเจ้าจักรพรรดิ ศิลปะอยุธยาตอนปลาย ยุคราชวงศ์บ้านพลูหลวง เพื่อให้ “พระพิชัยสงครามสุวรรณภูมิ”มีความงดงามอลังการเป็นที่สุด โดยภายในฐานขององค์พระพุทธรูปนั้นจะทำการบรรจุ “ดวงพิชัยสงคราม” ที่ลงดวงมหาอุจจ์ อีกทั้งยังต้องประกอบไปด้วยพิธีกรรมทางโหราศาสตร์ พุทธาคม รวมทั้งอักขระเลขยันต์ ฤกษ์ยามโดยได้มีการประยุกต์รูปแบบการบรรจุดวง ซึ่งแต่เดิมจะบรรจุดวงชะตาของผู้ที่จะนำไปสักการะบูชา เป็นการบรรจุดวงมหาอุจจ์ในยันต์พระพิชัยสงครามแทน ซึ่งจะสะดวกต่อหลายท่านที่ต้องการนำพระพิชัยสงครามสุวรรณภูมิไปบูชา แต่ตนเองไม่ทราบเวลาเกิดที่แน่ชัด ดวงมหาอุจจ์นี้ทางโหราศาสตร์ว่าไว้เมื่อผู้ใดมีดวงมหาอุจจ์ในดวงชะตาของตนเองแล้วไซร้ ผู้นั้นจะได้ขึ้นเป็นใหญ่สู่จุดสูงสุดของชีวิตในทุกๆ ด้าน ทั้งนี้เพื่อมอบไว้เป็นสมบัติอันล้ำค่าแด่ผู้มีจิตศรัทธาในการร่วมจัดสร้างที่พักสำหรับผู้มาปฏิบัติธรรมและศาลาอเนกประสงค์ ณ วัดขุนอินทประมูล จ.อ่างทอง

ดังนั้น “พระพิชัยสงครามสุวรรณภูมิ” จึงถือได้ว่าเป็นพระพุทธปฏิมากรที่ทรงคุณค่าเป็นที่สุดในทุกๆ ด้าน สมควรอย่างยิ่งที่ต้องมีไว้เป็นพระประจำตัว ประจำบ้าน ประจำตระกูลเพื่อให้ผู้ที่สักการะบูชาขึ้นสู่จุดสูงสุดของชีวิต เป็นมรดกสืบต่อไปยังลูกหลานในวันข้างหน้า และเพื่อมอบไว้เป็นสมบัติอันล้ำค่าของคนไทยสืบไป

“พระพิชัยสงครามสุวรรณภูมิ”

ผู้ออกแบบแนวคิดและรังสรรค์ผลงาน : ARTMULET
จิตรกร : อ.เกียงกมล นาคบางแก้ว
ประติมากร : อ.สุชาติ แซ่จิว
หล่อด้วยโลหะสัมฤทธิ์ (บรอนซ์ออสเตรเลีย)

พิธีบวงสรวงเทวาภิเษกและพุทธาภิเษกสวดบูชาเทพดาวนพเคราะห์ : ณ วัดขุนอินทประมูล จ.อ่างทอง
กำหนดฤกษ์ยาม : ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (สมเด็จธงชัย) วัดไตรมิตรวิทยาราม
วัตถุประสงค์ : เพื่อร่วมจัดสร้างที่พักสำหรับผู้มาปฏิบัติธรรมและศาลาอเนกประสงค์ วัดขุนอินทประมูล จ.อ่างทอง

สำหรับท่านที่มีศรัทธาใน “พระพิชัยสงครามสุวรรณภูมิ” ท่านสามารถเลือกสั่งจองได้แล้วตามรายการต่างๆ ดังนี้ครับ

“พระพิชัยสงครามสุวรรณภูมิ”
จัดสร้าง 2 ขนาด ดังนี้


1.ขนาดความสูง 28 นิ้ว / 70 ซม. (ปิดจองแล้ว)

ฐานชั้นล่างถึงยอดพระเกศสูง 28 นิ้ว / 70 ซม.
พระบาทถึงยอดพระเกศสูง 21.6 นิ้ว / 54 ซม.
ฐานชั้นล่างถึงฐานรองพระบาทสูง 6.4 นิ้ว /16 ซม.
จีวรกว้าง 5.2 นิ้ว /13 ซม.
ฐานชั้นล่างกว้าง 7.2 นิ้ว /18 ซม.
ฐานรองพระบาทกว้าง 3.6 นิ้ว /9 ซม.

2.ขนาดความสูง 14 นิ้ว / 35 ซม.
ฐานชั้นล่างถึงยอดพระเกศสูง 14 นิ้ว / 35 ซม.
พระบาทถึงยอดพระเกศสูง 10.8 นิ้ว / 27 ซม.
ฐานชั้นล่างถึงฐานรองพระบาทสูง 3.2 นิ้ว /8 ซม.
จีวรกว้าง 2.6 นิ้ว /6.5 ซม.
ฐานชั้นล่างกว้าง 3.6 นิ้ว /9 ซม.
ฐานรองพระบาทกว้าง 1.8 นิ้ว /4.5 ซม.

ทั้ง 2 ขนาด จัดสร้างทั้งหมดเพียงขนาดละ 108 องค์เท่านั้น
จัดสร้างเฉพาะ AP สีพิเศษ สีละ 18 องค์ (มีเฉพาะหมายเลขมหามงคล)
ทั้งหมด 6 สี ดังนี้


1. AP สีพิเศษ องค์พระและเครื่องทรงสีทองน้ำผึ้งทูโทน และฐานสีทองน้ำผึ้งไล่เฉด
2. AP สีพิเศษ องค์พระสีน้ำเงิน เครื่องทรงและฐานสีน้ำเงินเข้ม
3. AP สีพิเศษ องค์พระสีทองน้ำผึ้ง เครื่องทรงและฐานสีน้ำตาลแดง
4. AP สีพิเศษ องค์พระและเครื่องทรงสีทองน้ำผึ้ง ฐานสีน้ำตาลแดง
5. AP สีพิเศษ องค์พระและเครื่องทรงสีน้ำเงิน ฐานสีน้ำตาลดำ
6. AP สีพิเศษ องค์พระและเครื่องทรงสีน้ำตาล ฐานสีทองน้ำผึ้ง


ขนาดสูง 28 นิ้ว สั่งจององค์ละ 49,900.-(ปิดจองแล้ว)
ขนาดสูง 14 นิ้ว สั่งจององค์ละ 29,900.-


ค่าจัดส่งขนาด 28 นิ้ว 500 บาท ต่อ 1 องค์
ค่าจัดส่งขนาด 14 นิ้ว 300 บาท ต่อ 1 องค์
กรณีรับที่วัดขุนอินทประมูลจ.อ่างทอง ไม่มีค่าส่ง

รายการจองรอบนี้มีกำหนดประมาณการจัดส่งปลายเดือนมิถุนายน 2567 เป็นต้นไป หลังผ่านพิธีบวงสรวงเทวาภิเษกและพิธีมหาพุทธาภิเษกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะแจ้งกำหนดการให้ทราบอีกครั้งเมื่องานหล่อใกล้เสร็จสมบูรณ์

สำหรับท่านที่สนใจต้องการสั่งจองหรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อได้ที่
Facebook Inbox: Artmulet
Facebook Inbox: Artmulet Official
Line ID: @artmulet
เว็บไซต์:www.artmulet.com
และที่วัดขุนอินทประมูล จ.อ่างทอง T. 0925577511


กำลังโหลดความคิดเห็น