xs
xsm
sm
md
lg

แห่เที่ยวพิพิธภัณฑ์มาแรง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: อ.สุดาทิพย์ จารุจินดา อินทร



กระแสเที่ยวพิพิธภัณฑ์ในประเทศจีน (Museum Tourism Fever หรือเรียกสั้นๆ ว่า “Museum Fever”) กำลังมาแรงมาก ชนิดไม่เคยเกิดขึ้นมากเท่านี้ในครั้งใดๆ ในประวัติศาสตร์ชาติจีน

เกิดขึ้นในช่วงปลายของไตรมาส 2 โดยเฉพาะในช่วงที่อากาศนอกอาคารน่ารื่นรมย์ในปลายฤดูใบไม้ผลิ จนถึงตลอดฤดูร้อนที่กำลังจะหมดไปขณะนี้

โดยเป็นช่วงที่สามารถลาหยุดพักร้อน และพร้อมกับการหยุดยาวปลายภาคการศึกษา สำหรับนักเรียนและนักศึกษา ก่อนจะเริ่มเปิดการศึกษาในปลายฤดูใบไม่ร่วง

ประจวบกับการชะลอตัวทางเศรษฐกิจอย่างมากของจีน ตั้งแต่ต้นไตรมาส 2 ถึงขนาดหนุ่มสาววัยฉกรรจ์ที่เพิ่งจบการศึกษา (อายุ 16-24) มีอัตราการว่างงานสูงถึง 1/5 ของผู้อยู่ในตลาดแรงงานคือ สูงถึง 21.3% ทีเดียว ในขณะที่ยอดค้าปลีกก็ลดลงมาติดต่อกับตลอดไตรมาส 2, ลามถึงไตรมาส 3 ด้วยซ้ำ

แม้รัฐบาลจีนโดยธนาคารกลาง PBOC จะทยอยลดดอกเบี้ย (ซึ่งตรงข้ามกับเศรษฐกิจส่วนใหญ่ของ G7 ที่ทยอยขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ) เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่แรงซื้อสินค้าของประชาชนดูจะไม่กระเตื้องขึ้นเท่าใดนัก

ทำให้รัฐบาลกลางได้กระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศจีน หรือจีนเที่ยวจีน ซึ่งจะเห็นการใช้จ่ายภาคบริการของจีนยังคงเติบโต ต่างกับยอดค้าปลีกที่สินค้าหลายอย่างทยอยแข่งกันลดราคาด้วยซ้ำ

โดยคำชี้แนะ (Directives) จากรัฐบาลกลางไปยังรัฐบาลท้องถิ่น ให้ส่งเสริมการท่องเที่ยวในท้องถิ่น ซึ่งหมายถึงการสนับสนุน (ด้วยเงินงบท้องถิ่น) เพื่อให้ประชาชนจีนได้แวะเวียนไปเที่ยวในท้องถิ่นมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะกระตุ้นการเดินทางการบริการที่พัก, อาหาร เป็นการสร้างงานในท้องถิ่น รวมทั้งผลิตภัณฑ์ประจำท้องถิ่นที่จะขายดีขึ้น เป็นการสร้างงานในท้องถิ่นเพิ่มขึ้น แทนที่จะสนับสนุนให้ชาวจีนเดินทางไปใช้เงินท่องเที่ยวในต่างประเทศ ที่จะสร้างงานให้กับธุรกิจในต่างประเทศ หรือการจ่ายซื้อตั๋วราคาแพงเพื่อดูคอนเสิร์ตนักร้องดังๆ จากต่างประเทศ

จำนวนเที่ยวบินในประเทศได้เพิ่มขึ้นอย่างมาก จนเท่าๆ กับก่อนการเกิดโควิด ขณะที่จำนวนเที่ยวบินระหว่างประเทศยังเพิ่มขึ้นไม่เท่ากับก่อนโควิด

โดยมีสินค้าตัวใหม่ด้านการท่องเที่ยวที่รายงานในสื่อจีนว่า “ศิลปะบนนาข้าว” คือ การนั่งรถไฟชมนาข้าวที่ได้มีการจัดการคล้ายวาดรูปบนนาข้าว เป็นรูปตัวละครในอุปรากรหรือนิยายของจีน เหมือนกับการจัดสวนให้สวยงามด้วยดอกทิวลิปในประเทศเนเธอร์แลนด์ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก

แน่นอนว่า การสร้างรูปภาพทั้งสองมิติและสามมิติเป็นตัวละครต่างๆ บนนาข้าวนี้ จะต้องใช้เทคโนโลยีมาช่วยในการจัดสร้างภาพด้วยต้นข้าวที่มีขนาดความสูงและความเข้มของสีแตกต่างกัน ซึ่งจีนประสบผลสำเร็จอย่างยิ่งเป็นประเทศแรกๆ ที่คิดนวัตกรรมนี้ขึ้น จนสร้างสินค้าตัวใหม่ด้วยการท่องเที่ยวขึ้นมา สร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรที่จะได้จากบริการที่พัก, บริการอาหาร รวมทั้งการขายผลิตภัณฑ์ข้าวนานาชนิด และสินค้าต่อยอดเช่นเครื่องจักสาน รวมทั้งครีมบำรุงผิวชนิดต่างๆ

สินค้าใหม่ด้านการท่องเที่ยวอีกตัวหนึ่งคือ พิพิธภัณฑ์ทั้งระดับท้องถิ่นและระดับชาติ ที่รัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่นได้ร่วมมือการให้เงินอุดหนุน เพื่อทำให้การเที่ยวพิพิธภัณฑ์นั้นไม่เป็นเรื่องน่าเบื่อหน่าย โดยใช้ระบบแสงสีและเสียง และการโต้ตอบแบบ interactive ที่ผู้เข้าชมพิพิธภัณฑ์จะสนุกสนานกับความน่าตื่นตาตื่นใจกับโบราณวัตถุในอดีตที่ตนไม่เคยได้รับทราบ, หรือความสัมพันธ์ต่อรากและวัฒนธรรมที่สืบมาจนถึงปัจจุบัน

แม้ก่อนการตัดสินใจไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์ก็มีการเปิดเว็บไซต์เพื่อกระตุ้นความสนใจของประชาชนถึงโบราณวัตถุที่จัดแสดง จนทำให้ประชาชนไม่อยากพลาดการเข้าชมสิ่งของที่จัดแสดงนั่นเอง

ครั้งนี้ คำชี้แนะจากรัฐบาลกลางให้ทางท้องถิ่นเปิดให้บริการชมพิพิธภัณฑ์ในเวลาหลังเลิกงาน และบางแห่งเปิดตลอด 24 ชม. (อย่างกะร้านค้าปลีก 24 ชม.ทีเดียว!!)…รวมทั้งลดราคาเข้าชมพิพิธภัณฑ์ด้วย

หลายแห่งทดลองเปิดในวันจันทร์ (ซึ่งปกติพิพิธภัณฑ์ของทั้งโลกจะปิดบริการในวันจันทร์) ปรากฏจากการตอบรับดีเกินคาด ทำให้หลายแห่งมีการเปิดบริการในวันจันทร์ตามอย่างกันมากขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ และมีคนเข้ารอคิวเป็นแถวยาวเพื่อเข้าชม

และเพื่อความปลอดภัยในการให้บริการพิพิธภัณฑ์ที่มีของมีค่าประเมินมิได้ จึงมีการจำกัดจำนวนผู้เข้าชมในแต่ละชั่วโมงหรือแต่ละรอบของการเปิดให้เข้าชมเช่น ในบางห้องที่จัดแสดงของหายากยิ่งจำเป็นต้องจำกัดตั๋วเข้าชม (เพื่อป้องกันปริมาณคาร์บอนและความชื้นจากการหายใจ) ที่ต้องมีการจองคิวล่วงหน้า...ปรากฏว่า ฤดูร้อนปีนี้เกิดปรากฏการณ์ที่ตั๋วเข้าชมจะจำหน่ายล่วงหน้าหมดเกลี้ยงแทบทุกรอบ เต็มจนถึงปลายฤดูร้อนทีเดียว!! หลายคนต้องรอเข้าชมเลื่อนไปเป็นช่วงฤดูใบไม้ร่วงหรือถึงฤดูหนาวทีเดียว

ไม่ใช่เพียงการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการเที่ยวภายในประเทศของจีน แต่ทำให้คนจีนได้ภูมิใจในทรัพยากรธรรมชาติ ป่าเขา ทุ่งนาของจีนที่จะผูกพันกับแผ่นดินแม่ ขณะเดียวกัน ก็ซึมซับรากทางวัฒนธรรมที่เป็นต้นทางของคนจีนในปัจจุบัน รวมทั้งความรักชาติที่ได้เห็นถึงประวัติศาสตร์การต่อสู้ในอดีต ตลอดจนความวิจิตรอลังการของโบราณวัตถุที่บรรพบุรุษจีนได้บรรจงสร้างไว้

หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา ที่ประเทศญี่ปุ่นจะมีภาคบังคับให้นักเรียนทุกชั้นต้องไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ทั้งระดับท้องถิ่นและระดับชาติ รวมทั้งการเยี่ยมชมสถานที่สำคัญๆ ในอำเภอตำบลของตนเพื่อเรียนรู้และผูกพันกับทั้งสภาพภูมิศาสตร์ และประวัติศาสตร์ของประเทศของตน


กำลังโหลดความคิดเห็น