เห็น “สื่อตะวันตก” ไม่ว่าจะ BBC, Daily Express ฯลฯ เขาออกข่าวใหญ่โตว่า “เศรษฐกิจจีน” กำลังใกล้เจ๊ง ใกล้พังพินาศ ใกล้เป็น “ระเบิดเวลา” เต็มที ก็เล่นเอา “โตะ-จาย-โหมะ-เลย!!!” อันเนื่องมาจากการไปหยิบเอาข่าวคราว ความเคลื่อนไหวของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ในเมืองจีน ประเภท “Evergrande” หรือ “Country Gardens” ที่กำลังพะงาบๆ ทำท่าว่าใกล้เจ๊ง หรืออาจเจ๊งไปแล้ว มาผสมปนเปไปกับเรื่อง “ระบบเศรษฐกิจทั้งระบบ”...
แต่ครั้นได้มีโอกาส...อ่านข้อเขียน บทความ เรื่อง “Property shaken-out Beijing’s tool to fight fiefdoms” ของนักคิด นักวิเคราะห์ ระดับ “ของจริง-ของแท้” อย่าง “นายDavid P. Goldman” ที่สำนักข่าว “ผู้จัดการ” ของหมู่เฮา นำมาแปลและถ่ายทอดไว้ในชื่อภาษาไทยเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาว่า...“ความผันผวนในภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีน คือเครื่องมือของปักกิ่งในการต่อสู้ชิงอำนาจคุมการเงินจากพวกรัฐบาลท้องถิ่น” ก็พอได้หายหูแหก-ตาแหกลงไปมั่งไม่มากก็น้อย โดยเฉพาะการเน้นย้ำให้เห็นถึงแนวนโยบายด้านเศรษฐกิจ ด้านอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาลจีน ที่มุ่งก่อให้เกิด “ความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน” หรือเพื่อให้ “บ้าน...มีไว้สำหรับอยู่อาศัย ไม่ใช่สำหรับการเก็งกำไร” ฯลฯ เป็นต้น...
ไม่ต่างไปจากเรื่อง “ค่าเงินรูเบิล” ของรัสเซีย ที่เคยลดฮวบฮาบลงมาเหลือแค่ 101 รูเบิลต่อดอลลาร์สหรัฐ หรือ 111 รูเบิลต่อยูโร จนทำให้สำนักข่าว “Business Insider” ของพวกผู้ดีอังกฤษอีกนั่นแหละ ถึงขั้นลงทุนถ่อไปสัมภาษณ์อดีตรัฐมนตรีคลังรัสเซีย “นายMikhail Zadornov” ยุคปี ค.ศ. 1997-1999 หรือยุคอดีตประธานาธิบดี “Boris Yeltsin” โน่นเลย!!! มาให้ความคิด ความเห็น คล้ายๆ รัสเซียใกล้จะเจ๊งแล้ว พังแล้ว ไม่ต่างไปจากพันธมิตรทางยุทธศาสตร์อย่างคุณพี่จีนนั่นเอง ชนิดถึงขั้นออกมาชี้แนะ ชี้นำ ให้รัฐบาลรัสเซียที่กำลังพยายาม “De-dollarization” อย่างเป็นระบบและเป็นกระบวนการ ให้หันไปดิ้นรนขวนขวายหาเงินยูเอสดอลลาร์ให้มากๆ เข้าไว้ แทนที่จะจมอยู่กับเงินรูปีของอินตะระเดีย...แต่ครั้นธนาคารกลางของรัสเซีย เขาขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปเป็น 12 เปอร์เซ็นต์ ค่าเงินรูเบิลก็แข็งค่าขึ้นมาโดยฉับพลัน-ทันที เป็น 93 รูเบิลต่อ 1 ดอลลาร์ และ 101 รูเบิลต่อ 1 ยูโร แถมระบบเศรษฐกิจทั้งระบบยังโตเพิ่มขึ้นถึง 20 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับ 5 ปีที่แล้ว หรือสรุปง่ายๆว่า...มันไม่ได้ถึงกับเป็น “ปัญหา” ระดับจะเป็นจะตายอะไรกันมากมาย เผลอๆ ยังเป็น “ผลดี” กับเศรษฐกิจรัสเซียในบางแง่ บางมุม อีกด้วยต่างหาก ชนิดที่ที่ปรึกษาเศรษฐกิจประธานาธิบดี “ปูติน” “นายMaksim Oreshkin” ต้องออกมาปฏิเสธข่าว ว่าไม่ได้เป็น “แผนการ” ของรัฐบาลรัสเซียที่จะทำให้เงินรูเบิลต้องอ่อนค่าลงไปถึงขั้นนั้น...
คือพูดง่ายๆ ว่า...ท่ามกลางบรรยากาศการเผชิญหน้า การสู้รบ-ปรบมือ เพื่อเอาชนะ-คะคาน ระหว่างผู้ที่พยายามปกปักรักษา ความเป็น “โลกขั้วอำนาจเดียว” ให้ดำรง คงอยู่ ต่อไปให้จงได้ กับผู้ที่กำลังผงาดขึ้นมาท้าทาย กลายมาเป็นคู่แข่ง คู่ชิง อย่างพวก “โลกหลายขั้วอำนาจ” ทั้งหลาย ตามแนวทางทฤษฎีที่เรียกว่า “Thucydides Trap” อะไรทำนองนั้น ทุกสิ่งทุกอย่าง...มันเลยอาจเป็นไปอย่างที่ใครก็ไม่รู้??? เขาเคยสรุปไว้ทำนองว่า “In time of war, the first casualty is truth.” หรือในยามสงครามสิ่งที่เรียกว่า “ความจริง” นั่นแหล่ะจะถูกประหัตประหารก่อนอื่น การอ่าน การฟัง อะไรต่อมิอะไรก็ตาม เลยคงต้องเอา 5 หาร หรือ 10 หาร ก่อนที่จะหันไปเชื่อ ไปยึดมั่น ถือมั่น ไปหัวปัก-หัวปำกับสิ่งนั้นๆ โดยเฉพาะประเภทที่ถูกแพร่ ถูกขยาย ออกมาจากบรรดาสื่อกระแสหลัก หรือ “สื่อตะวันตก” นั่นแหละตัวดีนัก!!!
เพราะเอาเข้าจริงๆ แล้ว...ไอ้ที่กำลังใกล้เจ๊ง ใกล้พัง อยู่อีกไม่ใกล้-ไม่ไกลนับจากนี้ ก็น่าจะเป็นพวก “โลกขั้วอำนาจเดียว” หรือพวกโลกตะวันตกทั้งหลายนั่นแหละทั่น ไม่ว่าจะในแง่เศรษฐกิจ การเมือง หรือแม้กระทั่งการทหารเอาเลยด้วยซ้ำ ข่าวคราวเรื่องภาวะเงินเฟ้อ ที่ลุกลาม ลามปาม กดยังไงก็กดไม่ลง ตั้งแต่หัวขบวนอย่างคุณพ่ออเมริกาไปยันยุโรปทั้งยุโรป ส่งผลให้แบงก์เจ๊ง ระบบการเงิน-การธนาคาร ระบบอุตสาหกรรมปั่นป่วน วุ่นวาย ระส่ำระสาย เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยกันไปเป็นแถบๆ ถึงขั้นประเทศผู้ดีอังกฤษ จักรวรรดิที่พระอาทิตย์ไม่เคยตกดิน เต็มไปด้วยบรรดาพวก “แด่...น้องผู้หิวโหย” ต้องอดมื้อ-กินมื้อ นับไม่รู้กี่ล้านต่อกี่ล้านคนไปแล้วในทุกวันนี้...
ไม่ต่างไปจาก “การเมือง” นั่นแหละ...ความโดดเดี่ยว โฮมอโลน ของพวกโลกตะวันตก โลกขั้วอำนาจเดียว สามารถเห็นได้ถนัดชัดเจน จากการ “แซงชั่นรัสเซีย” ที่บรรดาประชากรโลกกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ต่างไม่คิดจะเอาด้วย ไม่เห็นควรด้วยกับมาตรการต่างๆ ของคุณพ่ออเมริกาและพันธมิตร จนทำให้บรรดาพวกอดีตจักรวรรดินิยม อดีตนักล่าอาณานิคมทั้งหลาย ต้องหัน “ปอกกล้วยเปลี่ยวในบ้านร้าง” อยู่ตามลำพัง การยุแยงตะแคงรั่ว ในตะวันออกกลาง ก็ดัน “ยุไม่ขึ้น” ซะดื้อๆ!!! เมื่อพี่เบิ้มอย่างซาอุฯ อิหร่าน หันมาจูบปากกันซะเฉยเลย แถมยังหันไปสุมหัว รวมตัว อยู่ในกลุ่มประเทศ “BRICS” กลุ่มประเทศ “SCO” ที่ไม่มีแม้แต่ “เก้าอี้สำหรับเด็ก” ให้กับพวกโลกตะวันตกเอาเลยแม้แต่น้อย...
แม้แต่ทวีปทั้งทวีปที่เคยตกอยู่ภายใต้ฝ่าตีน ฝ่าเท้า ของพวกจักรวรรดินิยม พวกนักล่าอาณานิคม อย่างชนิดโงหัวไม่ขึ้นมาโดยตลอดเช่นทวีปแอฟริกา เป็นต้น ใครที่มีโอกาสได้อ่านข้อเขียน บทความ เรื่อง “The coup in Gabon matters for us: it shows the West has failed” ของ “นายBen Judah” ในหนังสือพิมพ์ “The Evening Standard” เมื่อไม่นานมานี้คงพอนึกภาพออกถึงความเสื่อมโทรม ทรุดโทรม ของบทบาท อิทธิพลโลกตะวันตก โดยเฉพาะหลังจาก “คณะรัฐประหาร” ในหลายต่อหลายประเทศ ไม่ว่าบูร์กินาฟาโซ, กินี, ชาด, มาลี, ซูดาน, ไนเจอร์ และกาบองรายล่าสุด หันมาโค่นล้มรัฐบาลที่ฝักใฝ่ตะวันตก ชนิดพังพินาศกันไปเป็นแถบๆ แล้วทำท่าว่าคิดจะหันไปพึ่งพาโลกตะวันออกกันแทนที่...
ส่วนในเรื่อง “การทหาร” นั้น...คงไม่ต้องเสียเวลาดูอื่นไกล เอาแค่การผนึกรวมตัว รวมตีน ของบรรดาชาติ “NATO” ภายใต้การนำของคุณพ่ออเมริกาในการสู้กับหมีขาวรัสเซีย โดยมีประเทศยูเครนเป็นสมรภูมิ มาถึงทุกวันนี้...โอกาสที่จะบั่นทอนทำลายศักยภาพด้านต่างๆ ของรัสเซีย ชนิด “ระบอบปกครองปูติน” ต้องล้มคว่ำคะมำหงาย ประเทศถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆ ตามความมุ่งมาดปรารถนาของตัวเอง ก็ยังคงเป็นไปในแบบแทบไม่มีโอกาสเห็น “แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์” เอาเลยก็ว่าได้ การโจมตี-ตอบโต้เพื่อยึดคืนดินแดนของ “ตัวตลก-ตัวแทน” อย่างยูเครน กลายเป็น “Forever War” หรือเป็น “สงครามที่ไม่มีวันรู้จบ” ไปแล้วในทุกวันนี้ ยิ่งถ้าหากไปนำเอาคำพูดของรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย “นายSergei Lavrov” ที่ถูกบรรดาเพื่อนสมาชิกกลุ่ม “BRICS” ตั้งคำถามในช่วงการประชุมเมื่อไม่กี่วันมานี้ ก็ยิ่งน่าเจ็บปวดกระดองใจยิ่งขึ้นไปใหญ่...
คือเมื่อถูกถามว่า...คิดว่าอีกนานเท่าไหร่ที่โลกตะวันตกจะให้การสนับสนุนยูเครนในการสู้กับรัสเซีย “นายLavrov” ท่านได้หันไปใช้ “ภาษาทางการทูต” ตอบคำถามดังกล่าวได้อย่างคมคาย แหลมคม เอามากๆ นั่นคือคำพูดที่ว่า...“ผมคงไม่อยากเสี่ยงที่จะคาดเดาในสิ่งเหล่านี้ แต่มันก็พอมีตัวอย่างในประวัติศาสตร์ให้เห็น เช่นคำถามที่ว่าโลกตะวันตกจะสนับสนุนอิรักได้นานเท่าไหร่ สนับสนุนอัฟกานิสถานได้นานขนาดไหน เพื่อให้บรรลุถึงเป้าหมายของพวกเขา ผมคิดว่าคำตอบจากตัวอย่างเหล่านี้ค่อนข้างชัดเจน เมื่ออเมริกาและนาโตจำต้องถอนตัวออกจากอิรักและอัฟกานิสถาน หลังจากที่พวกเขาใช้เวลาร่วมทศวรรษในการยึดครองและสูญเสียงบประมาณไปไม่รู้จะกี่ล้านล้านดอลลาร์...”
ด้วยความเฉียบขาด แหลมคม ในลักษณะทำนองนี้นี่เอง...ที่ทำให้รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียรายนี้ ได้แสดงออกถึงความมั่นอก-มั่นใจ ต่อบรรดานักศึกษาแห่งสถาบัน “The Moscow State Institute of International Relations” เมื่อช่วงวันศุกร์ (1 ก.ย.) ที่ผ่านมาว่า แม้ว่ากระบวนการที่จะนำไปสู่โลกแบบใหม่ หรือ “โลกหลายขั้วอำนาจ” และระเบียบโลกใหม่ที่มีความยุติธรรม เท่าเทียมกันเป็นพื้นฐาน ยังยากที่จะคาดเดาได้ว่าจะต้องใช้เวลาอีกนานขนาดไหน แต่ที่แน่ๆ ก็คือกระบวนการดังกล่าว เป็นสิ่งที่ไม่อาจหยุดยั้งอีกต่อไปได้แล้ว (unstoppable) ไม่ว่าพวก “โลกขั้วอำนาจเดียว” จะเพียรพยายามสร้างการเผชิญหน้าแบบใหม่ ความยากลำบากใหม่ๆ แต่นั่นเป็นเพียงแค่ความพยายามที่จะหน่วงเหนี่ยวกงล้อประวัติศาสตร์ให้อาจช้าลงไปบ้างแต่เพียงเท่านั้น แต่สุดท้าย...การบรรลุถึงซึ่ง “เป้าหมายทางประวัติศาสตร์” ย่อมทำให้เปลี่ยนผ่านไปสู่ขั้นตอนสุดท้าย หลังการครอบงำโลกทั้งโลกมาไม่น้อยกว่า 500 ปีของโลกตะวันตก โลกขั้วอำนาจเดียว กำลังใกล้จะมาถึงเต็มที!!!
ไม่ต่างไปจากผู้นำรัสเซีย ประธานาธิบดี “ปูติน” ที่กล่าวไว้ในเวทีเดียวกัน ด้วยการเท้าความไปถึงความรู้สึก นึกคิด ของคนรุ่นปู่ รุ่นย่า ชาวรัสเซียทั้งหลาย ตั้งแต่เมื่อครั้งสงครามโลกครั้งที่ 2 หรือครั้งที่ต้องสู้กับพวกนาซีเยอรมัน ให้บรรดานักศึกษา “MGIMO” ได้รับรู้ รับทราบกันโดยถ้วนหน้า พร้อมกับข้อสรุปที่สุดแสนจะมั่นอก-มั่นใจว่าบรรดาชาวหมีขาว ชาวรัสเซียที่สืบทอดจิตใจมาจากคนรุ่นปู่ รุ่นย่า เหล่านี้ ก็คือ “Absolutely Invincible” หรือผู้ที่ไม่ว่าใครก็มิอาจเอาชนะได้โดยเบ็ดเสร็จ สมบูรณ์ จริง-ไม่จริง...เชื่อ-ไม่เชื่อ คงต้องลองเก็บไปคิดเป็นการบ้านเอาเองก็แล้วกัน...