ถอดรหัส “บิ๊กทหาร” คุมเหล่าทัพ “บิ๊กอ๊อบ” ผบ.ทสส.- “บิ๊กต่อ” ผบ.ทบ. ทหารเรือเดือด “บิ๊กดุง”-ผบ.ทร. ทัพฟ้าวางหมากส่ง “บิ๊กไก่”-ผบ.ทอ.

ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - แม้จะมีข่าวออกมาว่า “ติดขัด” อยู่บ้าง แต่ในที่สุดเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2566 ราชกิจจานุเบกษาก็ได้เผยแพร่คำสั่งโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งโยกย้ายนายทหารประจำปี 2566 โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รักษาการนายกรัฐมนตรี ลงนามรับสนอง พระบรมราชโองการจำนวน 762 นาย

 ทั้งนี้ ถ้าพิจารณาจากรายชื่อที่ปรากฏก็พบว่า ในระดับ “หัวแถว” ของแต่ละ “เหล่าทัพ” เป็นไปตาม “โผ” ที่เผยแพร่ออกมาก่อนหน้านี้ เพียงแต่อาจจะมีรายละเอียดในเชิงลึกที่แตกต่างกันออกไป และที่ดุเดือดเลือดพล่านที่สุดเห็นทีจะหนีไม่พ้น “กองทัพเรือและกองทัพอากาศ” 

สำหรับทางด้าน  “กองบัญชาการกองทัพไทย”  ตำแหน่งสำคัญๆ ประกอบด้วย  “บิ๊กอ๊อบ” พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี  (ตท.24) รอง ผบ.ทสส.ขึ้นเป็น ผบ.ทสส.พล.อ. โดมศักดิ์ คำใสแสง หัวหน้าคณะฝ่ายเสธ.ประจำผบ.ทสส. เป็น รองผบ.ทสส. “บิ๊กป๋อง”พล.อ.อนุสรรค์ คุ้มอักษร(ตท.23) ผบ.นทพ. ‘บิ๊กคลื่น’พล.ร.อ.ปกครอง มนธาตุผลิน (ตท.23) ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพเรือ ‘บิ็กหนึ่ง’พล.อ.อ.ชานนท์ มุ่งธัญญา (ตท.23) รอง ผบ.ทอ. เป็น รอง ผบ.ทสส. โดยให้ “บิ๊กจิน” พล.ท.ธีระยุทธ จินหิรัญ (ตท.24) รองผู้บัญชาการหน่วยทหารพัฒนา (รอง ผบ.นทพ.) ขยับนั่ง “นักรบสีน้ำเงิน” ผบ.นทพ.

ขณะที่   “กองทัพบก(ทบ.) ผลปรากฏว่า  “บิ๊กต่อ” พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์  (ตท.23) รอง ผบ.ทบ. นายทหารคอแดง และถือว่าเป็น  “สายตรง พล.อ.ประยุทธ์”  ขึ้นเป็น ผบ.ทบ.คนใหม่ ขณะที่เพื่อนร่วมรุ่น “บิ๊กโต” พล.อ.สุขสรรค์ หนองบัวล่าง (ตท.23) ผช.ผบ.ทบ. จะขยับเป็นรอง ผบ.ทบ. ส่วน ‘บิ๊กหนุ่ย’พล.อ.ธราพงษ์ มะละคำ (ตท.24) ที่ปรึกษาพิเศษกองทัพบก เป็น ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก(ผช.ผบ.ทบ.) ด้าน “บิ๊กหยอย” พล.อ.อุกฤษฏ์ บุญตานนท์ (ตท.24) เสธ.ทบ. ที่อายุราชการยาวถึงปี 70 ที่ช่วงแรกมีข่าวว่าอาจอยู่ตำแหน่งเดิม ขยับขึ้น ผช.ผบ.ทบ.และ “บิ๊กปู” พล.ท.พนา แคล้วปลอดทุกข์ (ตท.26) แม่ทัพภาคที่ 1 ขยับขึ้นเสนาธิการทหารบก(เสธ.ทบ.)ลุ้นเป็น ผบ.ทบ.ในปี 2567

ส่วน ‘บิ๊กรุ่ง’ พล.ท.ชิษณุพงศ์ รอดศิริ(ตท.26) แม่ทัพน้อยที่1 เป็นแม่ทัพภาคที่ 1 คุมกำลังเมืองหลวง พล.ต.อดุลย์ บุญธรรมเจริญ (ตท.23) รองแม่ทัพภาค 2 เป็นแม่ทัพภาค 2 พล.ต.ประสาน แสนศิริรักษ์ รองแม่ทัพภาค 3 เป็นแม่ทัพภาค 3

ที่ ทบ.ไม่มีอะไรน่าตื่นตาตื่นใจมากนัก จะมีพิเศษก็ตรงชื่อของ “บิ๊กหนุ่ย-พล.อ.ธราพงษ์ที่อาจเรียกได้ว่า เป็นการคืนความชอบธรรมให้ เพราะครั้งที่ผ่านมาที่แล้ว พล.อ.ธราพงษ์ ที่เป็น แม่ทัพน้อย 1 ไม่ได้ขึ้นแม่ทัพภาค 1 ด้วยต้องหลบทางให้ พล.ท.พนา

ด้าน “กองทัพเรือ”  เที่ยวนี้  “บิ๊กดุง” พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม  (ตท.23) ผบ.กองเรือยุทธการ (ผบ.กร.) ขึ้นเป็น ผบ.ทร. “บิ๊กวิน” พล.ร.อ.สุวิน แจ้งยอดสุข (ตท.25) ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือ (ผช.ผบ.ทร.) ขยับเป็น รอง ผบ.ทร. ส่วน “บิ๊กโอ๋” พล.ร.อ.ชลทิศ นาวานุเคราะห์ (ตท.23) เสธ.ทร. เป็น ผช.ผบ.ทร. ขณะที่ “บิ๊กน้อย” พล.ร.อ.วรวุธ พฤกษารุ่งเรือง(ตท.24) หัวหน้านายทหารฝ่ายเสนาธิการ ประจำผู้บัญชาการทหารเรือ เป็น เสธ.ทร. และ “บิ๊กโป๋ว” พล.ร.ท.ชาติชาย ทองสะอาด (ตท.24) รองเสธ.ทร. เป็น ผบ.กร.

.








รายชื่อที่ออกมาเห็นได้ชัดว่าเป็นการรอมชอมกันระหว่าง บิ๊กจ๊อด พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผบ.ทร. กับ พล.อ.ประยุทธ์ที่ยอมให้ “บิ๊กดุง” พล.ร.อ.อะดุง เข้าป้าย  “ตาอยู่”  เป็น ผบ.ทร. ก่อน 1 ปี ในฐานะรุ่นพี่ ตท.23 แล้วให้ “บิ๊กวิน” พล.ร.อ.สุวิน ผู้ช่วย ผบ.ทร. ที่เป็นรุ่นน้อง ตท.25 แต่อาวุโสกว่าและอายุต่างกัน 1 ปี ขยับเป็น รอง ผบ.ทร. ทว่า ถ้าหากพิจารณาในเชิงลึกแล้วจะเห็นได้ว่า การจัดวาง  “โผ 5 ฉลาม” ของ พล.ร.อ.เชิงชายก่อนลงจากอำนาจนั้นแยบยล ด้วยการวางคนล้อม พล.ร.อ.สุวิน เอาไว้ด้วยนายทหารรุ่นพี่ ตท.23 และ ตท.24 ที่อายุเกษียณเท่ากัน 2568

กล่าวคือ แม้ พล.ร.อ.สุวินจะขึ้นเป็นรอง ผบ.ทร. ที่ยิ่งทำให้อาวุโสดับเบิ้ล แต่ก็ใช่ว่า จะจ่อขึ้น ผบ.ทร. ในปีหน้าได้จ่าย ทั้งพล.ร.อ.ชลทิศ ที่ขยับขึ้นเป็น ผช.ผบ.ทร. และพล.ร.อ.วรวุธ ที่เป็น เสธ.ทร. จากโผเดิมจะเป็น ผบ.กองเรือยุทธการ โดยสลับกับ “บิ๊กโป๋ว” พล.ร.ท.ชาติชาย จากที่จะขึ้น เสธ.ทร. ให้มาเป็น ผบ.กองเรือยุทธการแทน

 หรือเรียกว่า พล.ร.อ.อะดุงมีสิทธิหยิบทั้ง “พล.ร.อ.ชลทิศและพล.ร.อ.วรวุธ” ขึ้นมาเป็น ผบ.ทร.ต่อจากตัวเองได้ ซึ่งก็คงต้องลุ้นกันต่อไปว่าสุดท้ายแล้วจะลงเอยอย่างไร 

และปิดท้ายกันที่ “กองทัพอากาศ(ทอ.)”  ที่  “บิ๊กไก่” พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล  (ตท.24) ผช.ผบ.ทอ. ขึ้นเป็นผู้บัญชาการทหารอากาศ(ผบ.ทอ.) “บิ๊กณะ”พล.อ.อ.ณรงค์ อินทชาติ(ตท.23) เสธ.ทอ. เป็นรอง ผบ.ทอ. พล.อ.อ.พงษ์สวัสดิ์ จันทสาร(ตท.23) ผช.ผบ.ทอ. เป็น ประธานคณะที่ปรึกษา ทอ. ส่วน “บิ๊กเบิร์ท” พล.อ.ท.อนันตชัย แก้วศรีงาม (ตท.22)ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ทอ. “บิ๊กแต๋ม” พล.อ.อ.วิศรุต สุวรรณเนตร (ตท.23) ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ทอ. เป็น ผช.ผบ.ทอ. และ “บิ๊กคิม” พล.อ.ท.เสกสรร คันธา(ตท.26) เจ้ากรมยุทธการทหารอากาศ เป็น เสธ.ทอ. และคาดว่า ถูกวางตัวไว้เป็น ผบ.ทอ. ต่อจาก พล.อ.อ.พันธ์ภักดี ที่จะเกษียณ 2568

งานนี้ต้องบอกว่า แม้ “บิ๊กไก่” จะเป็นน้องเล็กสุดในบรรดาแคนดิเดท รุ่นพี่ ตท.23 หลายคน และมีอายุราชการเหลือ 2 ปี คนเดียว แต่ก็ต้องถือว่ามีความโดดเด่นสูสีกับ  “บิ๊กหนึ่ง” พล.อ.อ.ชานนท์ มุ่งธัญญา  รองผบ.ทอ และ  พล.อ.อ.ณรงค์ อินทชาติ  ที่บดบี้กันดุเดือดในเกมชิงอำนาจในทอ. สุดท้าย “บิ๊กไก่” ที่เป็นน้องเล็กจึงได้มาเป็น ผบ.ทอ.ส่วนผู้ที่มีอาวุโสสูงสุดอย่าง “บิ๊กหนึ่ง” ถูกเด้งข้ามห้วยไปอยู่ที่ บก.ทัพไทย ในเก้าอี้ รองผบ.ทหารสูงสุดแทน ไม่สามารถล้างอาถรรพ์  “ผู้การกองบิน 4”  ที่ยังไม่เคยมีใครได้เป็น ผบ.ทอ.ได้

แต่ที่จัดเต็มแบบมีนัยสำคัญคือ มีการขยับ รองเสธ.ทอ. ที่เป็น ตท.25 แบบยกชุด ทั้งพล.อ.ท.พิบูลย์ วรวรรณปรีชา เป็น ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ทอ. พล.อ.ท.มนัท ชวนะประยูร เป็น ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพอากาศ และ พล.อ.ท.ไวพจน์ เกิงฝาก ที่เคยมาแรงในยุค พล.อ.อ.มานัต วงษ์วาทย์ เป็นผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพอากาศ โดยให้เป็น พลอากาศเอก

และเปลี่ยนรอง เสธ.ทอ.ชุดใหม่ เป็น ตท.25 สาย “บิ๊กป้อง” พล.อ.อ.นภาเดช ธูปะเตมีย์ อดีต ผบ.ทอ. มาเสียบแทน ทั้ง พล.อ.ท.ประกาศิต เจริญยิ่ง เจ้ากรมยุทธศึกษาทหารอากาศ เป็น รองเสนาธิการทหารอากาศ พล.อ.ท.สุรฤทธิ์ กิจจาทร ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพอากาศ เป็นรองเสนาธิการทหารอากาศ พล.อ.ท.กฤษฎา สุพิชญ์ เจ้ากรมข่าวทหารอากาศ เป็น รองเสนาธิการ ทหารอากาศ

เรียกได้ว่า ทุ่งดอนเมืองเต็มไปด้วยความขัดแย้งไม่จบไม่สิ้นเลยก็ว่าได้

 เอาเป็นว่า ปีนี้คงเดินหน้ากันต่อไปภายในรัฐมนตรีกลาโหมและนายกรัฐมนตรีชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ส่วนปีหน้าฟ้าใหม่คงต้องถึงคราวของ “รัฐบาลพรรคเพื่อไทย” เข้ามามีส่วนร่วมอย่างแน่นอน แม้ในทางทฤษฎีแล้วจะไม่สามารถเข้ามายุ่งได้ด้วยเป็นอำนาจโดยตรงของ “สภากลาโหม” แต่ในทางปฏิบัตินั้น...อีกเรื่อง