ระหว่างปี พ.ศ 2557-2558 นายเงินวสวัตติ์ ลิ่มทวีสกุล ซึ่งมีอาชีพเป็นนักธุรกิจและนักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้รับมรดกที่ดินสวนยางพาราจากมารดา เริ่มเข้าสู่วงการยางพาราและได้รับการแต่งตั้งให้เป็นนายกสมาคมสภาปฏิรูปวงการยางไทย นายเงินวสวัตติ์จึงถูกเชิญให้เข้าไปอยู่ในกลุ่มไลน์ของเกษตรกรชาวสวนยางพาราซึ่งมีสมาชิกในกลุ่มไลน์ประมาณ 500 คน
วันหนึ่งมีสมาชิกในกลุ่มไลน์ซึ่งเป็นนักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้โพสต์แสดงความคิดเห็นในกลุ่มไลน์ว่า พรุ่งนี้ราคาสินค้ายางพาราจะปรับตัวลดลง เนื่องจากวันนี้ดัชนีในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยปรับตัวลดลงหนักมาก นายเงินวสวัตติ์ตอบกลับข้อความของสมาชิกท่านนั้นว่า การขึ้นลงของดัชนีในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่มีความเกี่ยวข้องหรือมีความสัมพันธ์กับการจะขึ้นหรือลงของราคาสินค้ายางพาราแต่อย่างใด ทำให้สมาชิกท่านนั้นมีความไม่พอใจ
หลังจากนั้นมีสมาชิกในกลุ่มไลน์นักลงทุนและอยู่ในกลุ่มไลน์ชาวสวนยางพารา เชิญนายเงินวสวัตติ์เข้าไปอยู่ในกลุ่มไลน์ห้องนักลงทุน เพื่อใช้เป็นสถานที่พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนในตลาดหุ้น และสมาชิกได้ซักถามในสิ่งที่ตนเองอยากจะรู้ต่อนายเงินวสวัตติ์ด้วยคำถามต่างๆ นานา โดยนายเงินวสวัตติ์ตอบคำถามไปตามที่ตนเองเคยมีประสบการณ์กว่า 25 ปี และไม่เคยร้องเรียกค่าความรู้เป็นการตอบแทนใดๆ
สมาชิกในกลุ่มไลน์ส่วนใหญ่ให้ความนับถือนายเงินวสวัตติ์มากกว่าใคร เพราะการตอบคำถามของสมาชิกในกลุ่มไลน์ของนายเงินวสวัตติ์ เป็นการตอบข้อซักถามไปตามหลักวิชาการของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เช่น การจะเปิดพอร์ตการซื้อขายสินค้าในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจะต้องเปิดผ่านกับโบรกเกอร์ที่มีไลเซน(ได้รับอนุญาต) โดยให้เลือกโบรกเกอร์ที่คิดค่าคอมมิชชั่นในการเทรดต่ำ การลงทุนมีความเสี่ยง นักลงทุนห้ามนำเงินร้อนหรือเงินหมุนมาลงทุน ห้ามนำเงินที่ใช้จ่ายภายในครอบครัวมาลงทุน ห้ามยักยอกเงินของสามีหรือภรรยาโดยไม่บอกกล่าวต่อกันมาลงทุน ห้ามลงทุนด้วยเงินกู้ยืม(เสียดอกเบี้ย) และเมื่อมีกำไรจาการลงทุนจะต้องถอนเงินต้นที่ใช้ในลงทุนออกให้เทรดด้วยเงินกำไรแทน ประกอบการตอบข้อซักถามต่างๆ เป็นไปอย่างตรงไปตรงมาโดยไม่มีผลประโยชน์แอบแฝง จึงทำให้สมาชิกในกลุ่มไลน์เรียกนายเงินวสวัตติ์ว่า “อาจารย์”
ต่อมามีนักลงทุนจำนวน 4-5 คน เกิดความผิดพลาดในการลงทุน และขอยืมเงินนายเงินวสวัตติ์ แต่นายเงินวสวัตติ์ไม่ให้ยืม จึงเกิดความโกรธ จึงชักชวนสมาชิกคนอื่นๆ อีก 10 กว่าคนหาทางร่วมกันกลั่นแกล้งนายเงินวสวัตติ์ด้วยวิธีการต่างๆ และด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เมื่อมีสมาชิกในกลุ่มไลน์สอบถามเกี่ยวกับหุ้นที่น่าลงทุน นายเงินวสวัตติ์จึงตอบไปตามที่ตนเองเข้าใจเพราะไม่เคยหวังสิ่งตอบแทน โดยไม่ทราบว่าการแนะนำการลงทุนอย่างนี้ต้องได้รับอนุญาตจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยให้เป็นผู้แนะนำการลงทุน บุคคลที่ไม่พอใจจึงเอาเรื่องดังกล่าวนี้มากลั่นแกล้งนายเงินวสวัตติ์ โดยแจ้งความนายเงินวสวัตติ์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจในข้อหาต่างๆ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่รับแจ้งความ
ต่อมานักลงทุนกลุ่มดังกล่าวแจ้งสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) ซึ่งเจ้าหน้าที่ ก.ล.ต. โทรมาหานายเงินวสวัตติ์ 2 ครั้ง เพื่อให้มาให้การแก้ต่างคำร้องเรียนที่กรุงเทพมหานครฯ แต่เนื่องด้วยนายเงินวสวัตติ์เป็นคนจังหวัดสงขลาและไม่สะดวกที่จะเดินทางมาให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ ก.ล.ต. ที่กรุงเทพมหานครฯ ได้ และอาจเป็นเพราะนายเงินวสวัตติ์ไม่ได้เดินทางมาแก้ต่างคำร้องเรียนของนักลงทุนที่ร่วมกันกลั่นแกล้ง นายเงินวสวัตติ์จึงถูก ก.ล.ต. กล่าวโทษ และที่น่าแปลกไปกว่านั้นคือ ผู้ที่ร้องเรียนว่านายเงินวสวัตติ์กระทำผิดนั้น ไม่กล้าจะปรากฏตนเพื่อให้ถ้อยคำต่อเจ้าหน้าที่ แต่กลับมีการยืนยันจาก ก.ล.ต. ว่ามีการดำเนินคดีกับนายเงินวสวัตติ์แล้ว โดย ก.ล.ต. จึงส่งเรื่องไปยังกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ(ปอศ.) และนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2561 ที่ ปอศ. ได้รับคดีมาจาก ก.ล.ต. จนปัจจุบัน นายเงินวสวัตติ์ไม่เคยถูกจับกุมตามที่เป็นข่าวในสื่อสังคมออนไลน์(Social Media) และไม่เคยตกเป็นจำเลยหรือถูกฟ้องคดีต่อศาลแต่อย่างใดๆ
แต่เรื่องดังกล่าวนี้กลับสร้างความเสียหายต่อชื่อเสียงของนายเงินวสวัตติ์เป็นอย่างมาก กว่านายเงินวสวัตติ์จะกอบกู้ชื่อเสียงของตนให้กลับมาดังเดิมคงต้องใช้เวลาพอสมควร และอาจเป็นฝันร้ายของนายเงินวสวัตติ์ที่ยังคงตามหลอกหลอนต่อไปจนกว่าการดำเนินคดีที่เกิดจากการกลั่นแกล้งของผู้ร้องเรียนซึ่งไม่กล้าเปิดเผยตัวตนจะสิ้นสุดลง
เรื่องนี้จึงเป็นอุทาหรณ์แก่บุคคลทั่วไปว่าการจะตอบคำถามใดๆ เกี่ยวกับหุ้นหรือการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์นั้น ต้องใช้ความระมัดระวังอย่างยิ่งยวด เพราะอาจกลายเป็นช่องโหว่ให้บุคคลผู้ไม่หวังดีเอาไปเป็นเครื่องมือในการกลั่นแกล้งกันได้ แม้จะเป็นผู้บริสุทธิ์แต่ความบริสุทธิ์นั้นกว่าจะได้กลับคืนมาอาจต้องใช้ระยะเวลานาน หรือบางครั้งอาจนานเกินจนไม่อาจทำให้ความบริสุทธิ์นั้นกลับคืนมาได้ดังเดิม แล้วใครล่ะจะรับผิดชอบต่อความเสียหายนี้