เจ้าของอพาร์ทเม้นท์ ย่านปากเกร็ด เข้าแจ้งความตร. ถูกเสมียนแสบทำงาน 3 เดือน ยักยอกเงินค่าเช่าอพาร์ทเม้นท์เข้าบัญชีตัวเองหลักแสน ขณะเดินทางไปต่างประเทศ
เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 23 มิ.ย. 66 ที่สภ.ปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี น.ส.สุภางค์รัตน์ ชัยพรธนภัทร อายุ 57 ปี เจ้าของอพาร์ทเม้นท์ ธนภัทรเพรส ซ.แจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 23 ต.คลองเกลือ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ได้เดินทางนำหลักฐานการโอนเงิน หลักฐานการแชตไลน์และหลักฐานการสร้างคิวอาร์โค้ดปลอมหลอกลูกค้าให้โอนเงิน เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.กิตตินันท์ อักษรสม รองสว.(สอบสวน)สภ.ปากเกร็ด เพื่อให้ดำเนินคดีกับนางสาวปุญชรัตน์ โพธิ์ชื่น หรือ นก ซึ่งเป็นเสมียรของอพาร์ทเมนท์ที่ยักยอกเงินค่าเช่าห้องของลูกค้าโอนเงินเข้าบัญชีของตัวเอง
ภาพจากกล้องวงจรปิดวันที่ 17 มิ.ย. 66 เวลา 18.30 น. จับภาพ น.ส.นกนั่งทำงานอยู่ภายในออฟฟิศ โดยได้มีการพูดคุยกับลูกค้าที่เข้ามาติดต่อเช่าห้องพัก
น.ส.สุภางค์รัตน์ (เจ้าของอพาร์ทเม้นท์) กล่าวว่า น.ส.นกได้เข้ามาทำงานเป็นเสมียนที่อพาร์ทเม้นท์ของตนประมาณ 3 เดือน เริ่มงานเมื่อเดือนเมษายน 2566 แต่ช่วงเดือนพฤษภาคมน่าจะเริ่มก่อเหตุยักยอกเงินค่าเช่า เพราะเห็นว่าตนไม่ค่อยเข้าไปที่อพาร์ทเม้นท์ ตนไม่แน่ใจว่าน.ส.นกเคยก่อเหตุที่ไหนมาก่อนบ้าง แต่คิดว่า น.ส.นกจงใจจะยักยอกเงินค่าเช่าอพาร์ทเม้นท์ตน เพราะไม่ได้ทำครั้งเดียว ทำเกือบ 20 ห้อง ยอดเงินทั้งหมดที่เสียหายนับได้ตอนนี้คือ 102,592 บาท ทั้งลูกค้ารายวัน และรายเดือน ตนเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. และได้ตรวจบัญชีพบว่ามีลูกค้ายังไม่ได้จ่ายค่าเช่าหลายห้อง จึงสอบถามกับลูกค้า โดยลูกค้าหลายๆ ห้องได้แจ้งกับตนว่าชำระค่าเช่าไปหมดแล้ว ตนจึงขอดูหลักฐานการโอนเงิน ซึ่งพบว่าเป็นบัญชีของน.ส.นก เสมียรที่ดูแลอพาร์ทเม้นท์ โดยน.ส.นกได้แจ้งกับลูกค้าว่าจะนำเงินสดมาให้ตนเอง ซึ่งปกติทางอพาร์ทเม้นท์จะให้ลูกค้าชำระค่าเช่าผ่านการโอนเข้าบัญชีของตนเท่านั้น แต่ช่วงนี้มีนักศึกษาเริ่มเปิดเทอมและเข้ามาติดต่อเช่าห้องจำนวนมาก น.ส.นกจึงใช้จังหวะที่ตนเดินทางไปต่างประเทศ สำหรับลูกค้าใหม่ ให้ลูกค้าทำสัญญาและเก็บเงินสดไป ไม่รับโอน ส่วนลูกค้าเก่าที่เช่าอยู่ปัจจุบัน น.ส.นกจะแจ้งว่าเปลี่ยนบัญชี และให้สแกนคิวอาร์โค้ดเข้าบัญชีของ น.ส.นกเอง มีการทำคิวอาร์โค้ดของตัวเองมาแทนคิวอาร์โค้ดของตนด้วย
น.ส.สุภางค์รัตน์ กล่าวต่ออีกว่า จากการตรวจสอบ น.ส.นกน่าจะก่อเหตุมาแล้วตั้งแต่เดือนที่แล้วที่ตนเดินทางไปต่างประเทศครั้งก่อน พอมาเดือนนี้ตนก็ไปอีก 2 อาทิตย์ เฉลี่ยแล้วค่าเช่าแต่ละห้องจะประมาณ 4,000 กว่าบาท แล้วแต่การใช้น้ำไฟของลูกค้า ส่วนใหญ่ที่น.ส.นกก่อเหตุเป็นจำนวนเงินเยอะจะเป็นลูกค้าที่เข้ามาทำสัญญาเช่าห้องใหม่ ซึ่งจะมีเงินมัดจำและค่าเช่าห้องล่วงหน้า ตนไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ ตนจึงไว้ใจเสมียนตอนนี้รู้สึกเสียใจ เพราะตนไว้ใจเขามาตลอดและไม่คิดว่าจะมาทำแบบนี้กับตน น.ส.นกทักมาหาตนทางไลน์ บอกกับตนว่านำเงินของลูกค้าไปใช้จ่ายส่วนตัวเนื่องจากมีปัญหาด้านการเงิน บอกว่าจะชดใช้ให้โดยผ่อนจ่าย 2 งวด ความเสียหายเท่าที่ตรวจสอบเบื้องต้นกว่า 100,000 บาทแต่ น.ส.นกบอกกับตนว่ายอดเพียง 60,000 บาท
ตนคิดว่าน.ส.นกคงยักยอกเงินตนจนจำไม่ได้เพราะก่อเหตุหลายครั้ง ตนคาดว่าอาจจะมีจำนวนลูกค้าที่ชำระค่าเช่ามากกว่านี้ ตอนนี้ตนยังเช็คได้ไม่หมด เพราะน.ส.นกได้นำสัญญาของลูกค้าที่เข้ามาจองห้องไว้บางส่วนไปด้วย ทำให้ตนติดต่อกับลูกค้าไม่ได้ ตนอยากฝากถึงน.ส.นก ว่าอย่าไปทำแบบนี้กับที่อื่นมันไม่ดี เบื้องต้นได้ขอโทษลูกค้าไปแล้ว บุคลากรของตนไม่ดี แต่ลูกค้าสบายใจได้เพราะทางเราจะรับผิดชอบค่าเช่าที่ชำระมาให้แล้ว หลังจากเกิดเหตุตนและน.ส.นก ยังมีการพูดคุยติดต่อกันอยู่ ซึ่งน.ส.นกบอกว่าจะรับผิดชอบ และชดใช้เงินให้กับตน แต่ตนคิดว่าคงไม่ได้คืนเพราะเงินค่อนข้างเยอะ ตนได้แต่บอกให้เข้ามาคุยและหาทางออกร่วมกันแต่น.ส.นกยังไม่มา
น.ส.สุรัสวดี การบรรจง อายุ 18 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง (ผู้เช่า) กล่าวว่า ตนเพิ่งมาอยู่ที่อพาร์ทเม้นท์นี้ได้เพียงเดือนกว่าๆ ถึงเวลาจ่ายค่าห้องตนได้ไปถามเสมียนว่าให้โอนเข้าบัญชีไหน ทางเสมียนบอกกับตนว่าให้โอนเข้าบัญชีเขาเลย เป็นการสแกนคิวอาร์โค้ด เดือนหน้าค่อยโอนอีกบัญชี ซึ่งแม่ตนเป็นคนโอนจ่ายไป พอทราบเรื่องตนตกใจ เคยพูดคุยกับเสมียนเขานิสัยดี พูดจาดี ไม่คิดว่าจะทำแบบนี้ วันนี้ตนเดินทางมาแจ้งความ เพราะเป็นเงินจำนวนเยอะ ค่าเช่าห้อง 5,000 กว่าบาท กว่าจะหามาได้ตนต้องเก็บเงินช่วยแม่ทำงานพาร์ทไทม์ไม่น่ามาทำกันแบบนี้