xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

เขย่าปมส่วย “รักเท่าไหร่ให้เขียนมา” เว็บพนันออนไลน์เจอไล่เช็กบิล โยงใยศึกชิงเก้าอี้ “ผบ.ตร.” คนใหม่!?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผู้จัดการสุดสัปดาห์ -  วลีสะท้านวงการสีกากี “รักผู้การเท่าไหร่ ให้เขียนมา” ไม่เพียงแต่ฉายภาพส่วยตำรวจไม่มีวันตาย งานนี้ลึกๆ แล้วยังสะท้อนศึกชิงอำนาจ ผบ.ตร.คนใหม่ ที่จะมาแทน “บิ๊กเด่น” พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ซึ่งจะเกษียณอายุในเดือนกันยายนนี้ใช่หรือไม่ แต่ที่แน่ๆ สำหรับประชาชนคนธรรมดาต่างตั้งตารอการกวาดล้างทั้งเครือข่ายแบบจัดไปให้จุกๆ 

กลายเป็นเรื่องฉาวโฉ่วงการสีกากี ภายหลังเครือข่ายเว็บพนันแจ้งความดำเนินคดี  พล.ต.ต.กัมพล ลีลาประภาภรณ์ ผบก.ภ.จ.ชลบุรี พร้อมพวก  ด้วยข้อกล่าวอ้างถูกเรียกเงิน 140 ล้านบาท กระทั่ง “บิ๊กเด่น” พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์  ผบ.ตร. มีคำสั่งย้ายด่วน พล.ต.ต.กัมพล และนายตำรวจที่เกี่ยวข้องรวม 8 นาย พร้อมสืบสาวถึงเครือข่ายที่มีผู้เกี่ยวข้องทั้งเจ้าหน้าที่และพลเรือน โดยเฉพาะตัวสับคัทเอาท์  นายพิสิษฐ์ หรือ ต้น คณิศรพาณี และนายวีระ หรือ บอย นาทรัพย์  ผู้ต้องหาคนสำคัญ ที่รับหน้าเสื่อเคลียร์เงินส่วยแก๊งพนันออนไลน์ซึ่งตอนนี้หลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว

เรื่องรักโรแมนติก “รักผู้การเท่าไหร่ฯ” จะว่าไปแล้วคนที่คลุกคลีอยู่ในวงการสีกากีมองว่านี่แทบเป็นเรื่องปกติของวงการ แต่ที่แหกบทกันคราวนี้ก็คงอยู่ตรงที่มีข้อเรียกร้องให้รักมากเกินไปและยาวนานไปจน “ผู้ต้องหา” สุดจะทนไหว จึงเข้าแจ้งความร้องทุกข์พลิกบทมาเป็น “ผู้เสียหาย” สร้างแรงสั่นสะเทือนเลือนลั่นอย่างที่เห็นและเป็นอยู่

ก่อนจะถึงบทไล่ล่า ขอย้อนรอยที่มาที่ไปสักเล็กน้อย เรื่องอื้อฉาววงการสีกากีคราวนี้ มีเอกสารหลุดผ่านโลกโซเซียลออนไลน์ในช่วงดึกของวันที่ 16 มิถุนายนที่ผ่านมา ว่า พ.ต.อ.วงกต สุวรรณวัตน์ ผู้กำกับการ สภ.คูคต จ.ปทุมธานี ทำหนังสือรายงานด่วนถึง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ว่ามีผู้เสียหาย 6 คน มาร้องทุกข์กล่าวโทษ พล.ต.ต.กัมพล ลีลาประภาภรณ์ ผบก.ภว.จ.ชลบุรี (ผู้การฯ ชลบุรี) กับตำรวจอีก 7 นาย และพลเรือนอีก 2 คน อ้างว่าถูกรีดทรัพย์เป็นเงิน 140 ล้านบาท หลังถูกจับกุมคดีเว็บพนันออนไลน์ Foxbet 168

ข่าวรั่วเรื่องใหญ่ไปไวเหมือนไฟลามทุ่ง เช้าวันรุ่งขึ้น 17 มิถุนายน 2566 พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เผยว่า ผบ.ตร. สั่งตั้งคณะกรรมการสืบสวน โดยมี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. เป็นหัวหน้าคณะทำงาน และออกคำสั่งให้ พล.ต.ต.กัมพล ย้ายมาช่วยราชการ ที่ ศปก.ตร. โดยขาดจากตำแหน่งเดิม รวมทั้งตำรวจอีก 7 นาย ซึ่งอยู่ในสังกัดกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี และกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.)

พอตกค่ำของวันที่ 18 มิถุนายน พล.ต.ต.กัมพล อดีตผู้การฯ ชลบุรี เข้ามอบตัวที่สโมสรตำรวจ โดยปฏิเสธไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่ได้พูดประโยคดังกล่าว ยอมรับว่าหลังเกิดเรื่องตอนนี้มีอาการเครียดพอสมควร

ต้นสายปลายเหตุของเรื่องราวที่เกิดขึ้น สื่อมวลชนหลายสำนักต่างรายงานตรงกันว่า จุดเริ่มต้นเกิดเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2566 ชุดเฉพาะกิจในนาม ศปอส. ของตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี นำหมายจับและหมายค้นเข้าตรวจค้น 3 จุด ที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ คือ จุดที่ 1 หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในเขตคลองสามวา กรุงเทพฯ จับผู้ต้องหา 1 คน คือ  นายธนินวัฒน์ หรือ “เป้” อุดมเชาวเศรษฐ์ , จุดที่ 2 และ 3 เป็นบ้านคนละหลังในหมู่บ้านแห่งหนึ่งย่าน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ทั้งสองจุดนี้ไม่เจอบุคคลเป้าหมาย

ในวันดังกล่าว จึงมีเพียง “นายเป้” คนเดียวที่ถูกควบคุมตัวไปที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี แทนที่ตำรวจชุดจับกุมจะนำตัวผู้ต้องหาส่งดำเนินการทางคดีกับ สน.ท้องที่เกิดเหตุ และ “นายเป้” ได้พบกับ พล.ต.ต.กัมพล ซึ่งตามรายงานข่าวระบุว่ามีการใช้คำพูด  “มีทางออก” และ “เป้รักผู้การเท่าไหร่ เป้เขียนมา”  ในการเจรจายังมีพลเรือนอีก 2 คน เข้ามาเกี่ยวข้องในลักษณะรีดทรัพย์กว่า 140 ล้านบาท ผู้เสียหาย 6 คน จึงเข้าแจ้งความกับ สภ.คูคต

 “ส่วยตำรวจ”  ที่มีท่วงทำนองการรีดทรัพย์ละม้ายคล้ายโจรรีดไถในคราบตำรวจใช่หรือไม่ กลายเป็นเรื่องใหญ่ให้สังคมเฝ้าคอยติดตามตอนจบว่าจะเป็นมวยล้มต้มคนดูเหมือนแทบทุกครั้งที่มีเรื่องอื้อฉาวของวงการสีกากีหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับว่า “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. หัวหน้าคณะทำงานในคณะกรรมการสืบสวน จะทลายเครือข่ายรีดทรัพย์คราวนี้แบบสาวให้ถึงที่สุด หรือว่าจะเพียงลูบหน้าปะจมูกกลบเกลื่อนให้เรื่องราวค่อยๆ เงียบหายไปตามสายลมอย่างที่เคยเป็นมา

อย่างไรก็ดี ปฏิบัติการแอคชั่นรายวันของ “บิ๊กโจ๊ก” หลังรับหน้าที่ ได้สั่งตำรวจชุดคลี่คลายคดีตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในอาคารกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ซึ่งพบหลักฐานสำคัญสามารถบันทึกภาพขณะที่ตำรวจชุดศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.) จังหวัดชลบุรี คุมตัวนายธนินวัฒน์ หรือเป้ อุดมเชาวเศรษฐ์ ผู้ต้องหาในคดีเว็บการพนัน เข้าพบกับ พล.ต.ต.กัมพล ลีลาประภาภรณ์ อดีต ผบก.ภ.จ.ชลบุรี ในเวลา 18.51 น. ของวันที่ 23 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันที่ตำรวจเข้าตรวจค้นและจับกุมนายเป้ ที่บ้านพักย่านคลองสามวา กทม.

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เผยว่า การเข้าควบคุมตัวนายเป้ที่บ้านพักย่านคลองสามวา และไม่ได้นำตัวไปส่งพนักงานสอบสวนที่ สน.คันนายาว แต่นำตัวไปที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี เป็นการกระทำที่เข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานฯ หรือ พ.ร.บ.อุ้มหาย อาจเป็นกรณีแรกที่มีการดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังบังคับใช้ พ.ร.บ.นี้ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ตามมาตรา 22 พ.ร.บ.อุ้มหาย เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้รับผิดชอบต้องบันทึกภาพและเสียงอย่างต่อเนื่องในขณะจับกุมและควบคุม จนส่งตัวให้พนักงานสอบสวนหรือปล่อยตัวบุคคลดังกล่าวไป เว้นแต่มีเหตุสุดวิสัยที่ไม่สามารถกระทำได้ หากเจ้าหน้าที่ไม่ปฏิบัติตามจะมีความผิดเบื้องต้นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ข้อหาละเว้นปฏิบัติหน้าที่ หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2,000 -20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ส่วนการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้งหมด 10 คน “บิ๊กโจ๊ก” บอกว่าเกินครึ่งให้การรับสารภาพ จึงแจ้งข้อหาและปล่อยตัวชั่วคราวไปแล้ว คาดว่าจะขยายผลจนได้ความชัดเจนภายใน 2 สัปดาห์ โดยต้องรอข้อมูลเส้นทางการเงินมาประกอบด้วย ส่วน พล.ต.ต.กัมพล ลีลาประภาภรณ์ อดีต ผบก.ภ.จ.ชลบุรี ยังให้การปฏิเสธโดยจะส่งคำให้การมาภายใน 5 วัน ส่วนผู้ต้องหาอีก 3 คน ที่ออกหมายจับไปแล้วนั้น มีรายงานว่านายบอย พร้อมภรรยา หลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว ซึ่งตำรวจจะขออนุมัติหมายแดงและประสานไปยังประเทศปลายทางเพื่อจับกุมตัวต่อไป

“บิ๊กโจ๊ก” ยังไม่ทราบว่าเงินที่ถูกรีดไถนั้นอยู่ที่ใด ทั้งยังระบุไม่ได้ว่ามีนายตำรวจยศสูงกว่า พล.ต.ต. ร่วมกระทำผิดหรือไม่ กำลังเร่งตรวจสอบว่าใครเป็นผู้สั่งการ และยืนยันว่าผู้ต้องหามีหลักฐานความเชื่อมโยงในการร่วมวางแผนและทำเอกสารเท็จ เช่น การลงนามในคำสั่งย้อนหลัง ส่วนการควบคุมตัวนายเป้ พบมีการแจ้งลงประจำวันที่ สน.คันนายาว แต่ไม่แจ้งสิทธิ์ผู้ต้องหา ก่อนควบคุมไปยัง บก.ภ.จ.ชลบุรี ซึ่งถือว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ.อุ้มหาย

“ส่วนการตั้งชุดเฉพาะกิจศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือ ศปอส. พบว่า นายบอย ร่วมกับ พล.ต.ต.กัมพล ตั้งศูนย์นี้ขึ้นมา รวมถึงเป็นคนคัดเลือกตำรวจชุดนี้ด้วยตนเอง เพราะนายบอยสามารถสั่งการตำรวจได้ การที่บุคคลเหล่านี้มีอำนาจมากกว่าตำรวจเพราะว่ามีผลประโยชน์ ตำรวจจึงให้อำนาจ เปรียบเสมือนเป็นนอมินี มีอำนาจยิ่งใหญ่กว่าผู้กำกับการทุกสถานีตำรวจในภาค 2 โดยจุดเริ่มต้นของเรื่องนี้คือนายบอยมีข้อเสนอที่ดีให้ตำรวจและตำรวจก็เห็นด้วย แต่ต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้กำกับการหลายๆ สถานีที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำนี้” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าว

ต่อมา “บิ๊กโจ๊ก” ยังระบุหลังประชุมชุดคลี่คลายคดีเมื่อวันที่ 19 มิถุนายนที่ผ่านมาว่า จากการสืบสวนสอบสวนพบตัวละครเพิ่มเกี่ยวข้องกับกระบวนการรีดไถเงิน เป็นตำรวจ 4-5 นาย และพลเรือนอีก 4-5 คน กำลังรวบรวมพยานหลักฐานเอาผิด

หลังจากนั้น เมื่อวันที่ 21 มิถุนายนที่ผ่านมา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุได้แจ้งข้อหาเรียกรับผลประโยชน์ ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ข่มขืนใจผู้อื่นให้ได้ทรัพย์สิน กักขังหน่วงเหนี่ยว และมาตรา 157 ต่อ ส.ต.ท.ธนวัตร จันทร์ต๊ะมูล ผบ.หมู่ (สส.) สภ.สัตหีบ เพิ่มเติมอีก 1 ราย หลังพบว่าเป็นผู้ที่ทำรายงานการสืบสวนเท็จ และยังเป็นผู้ที่ขับรถรับ-ส่งให้นายวีระ นาทรัพย์ หรือบอย อีกด้วย ซึ่งตำรวจนายนี้ให้การรับสารภาพ

“บิ๊กโจ๊ก” ยังเผยว่า ขบวนการนี้นายบอย เป็นผู้อยู่เบื้องหลังเพราะรู้ว่าเว็บพนันไหนรายใหญ่ ก่อนชี้เป้าไปที่นายเป้ เว็บ Foxbet ตั้งราคาค่าใช้จ่าย โดยตำรวจเองได้ส่วนแบ่งเพียงเล็กน้อย เพราะตำรวจไม่ทราบว่าเว็บใดเป็นรายใหญ่ ซึ่งจากการสืบค้นข้อมูลนายบอย พบมีทรัพย์สินมูลค่ามากถึงหลักพันล้านบาท จะเร่งยึดอายัดทรัพย์ให้หมด ขณะนี้กำลังรอข้อมูลเส้นทางการเงินเข้า-ออกกว่า 200 บัญชี เบื้องต้นพบว่ามีเงินถูกโอนไปยังเซียนพระชื่อต้อมแต่เรียกมาสอบปากคำแล้วไม่พบความเกี่ยวข้องและยังให้การเป็นประโยชน์ โดยนายบอยซื้อขายพระกับนายต้อมถึง 400 ล้านบาท

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยืนยันว่า ไม่มี รอง ผบ.ตร.หรือ ผู้ช่วย ผบ.ตร.นายไหนเกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ เพียงแต่ลูกน้องทำเรื่องไม่ดีให้นายทะเลาะกันเอง เป็นการทำชั่วซ้ำซาก ไม่มีผู้บังคับบัญชารายใดจะสั่งให้ลูกน้องไปทำชั่ว ไม่มีใครเตี๊ยม แต่เกิดจากความขัดแย้งภายในเท่านั้น

สำหรับการบุกค้นและหาพยานหลักฐานนั้น ชุดปฏิบัติการพิเศษคอมมานโดบูรพา 491 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนภาค 2 นำโดย พล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผบก.สส.ภ.2 เข้าตรวจยึดรถตู้โตโยต้า อัลพาร์ด สีดำ ทะเบียนป้ายแดง ก 3831 พระนครศรีอยุธยา หลังสงสัยว่าเชื่อมโยงนายวีระ หรือบอย ถูกจอดทิ้งไว้ในร้าน FiFTHSTuDio หมู่ 6 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ก่อนนำรถคันดังกล่าวมาเก็บไว้ที่ สภ.เมืองพัทยา เพื่อตรวจสอบหาลายนิ้วมือ รวมทั้งตรวจสภาพรถว่าเกี่ยวข้องกับนายบอย หรือไม่

ขณะที่ก่อนหน้าเมื่อวันที่ 18 มิถุนายนที่ผ่านมา พล.ต.ต. ธีระชัย ชำนาญหมอ ผบก.สส.ภาค 2 นำกำลังพร้อมหมายค้นเข้าค้นบ้านเลขที่ 63/1 หมู่ 6 ต.หนองปลาไหล อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นบ้านของ นายวีระ หรือบอย ซึ่งถูกอ้างว่าเป็นเจ้าของคำพูด “มึงอยู่เฉยๆ เนียนกริ๊บ พี่เคลียร์ให้จบแล้ว มึงจ่ายที่ไอ้ต้นเลย”

บ้านหลังดังกล่าว มีเนื้อที่กว่า 5 ไร่ แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรก เป็นบ้านเดี่ยวสองชั้น อยู่ในเนื้อที่ 1-2 ไร่ มีโรงจอดรถขนาดใหญ่ มีรั้วล้อมรอบขอบชิด รอบตัวบ้านติดตั้งกล้องวงจรปิดทุกมุม ส่วนที่ 2 กว้าง 3 ไร่เป็นพื้นที่จอดเรือสปีดโบ๊ต และโรงซ่อมบำรุงเครื่องยนต์เรือ ระหว่างการเข้าค้นมีเพียง น.ส.นุ้ย คนดูแลบ้านออกมาเปิดประตูให้กับตำรวจ พร้อมทั้งแจ้งว่านายบอยพร้อมภรรยา หายออกจากบ้านไปตั้งแต่วันที่ 13 มิถุนายนที่ผ่านมา

การตรวจค้นเบื้องต้นตำรวจพบเงินสดในกล่องพลาสติกใส 2 กล่อง โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง แฟลชไดรฟ์บันทึกข้อมูลคอมพิวเตอร์อยู่ในบ้าน จึงประสานตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน เขต 2 ชลบุรี เข้ามาตรวจหาลายนิ้วมือแฝง และตรวจหาดีเอ็นเอ ส่วนเงินสดที่พบตำรวจตรวจสอบแล้วและไม่ได้ยึดไป เพราะเป็นเงินจากธุรกิจเรือสปีดโบ๊ต โดยมีบิลเงินสดแสดงเป็นหลักฐานชัดเจน

ความอื้อฉาวในวงการสีกากีดังกล่าวข้างต้น นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร  สะท้อนความเน่าเฟะ ผ่านการโพสต์เฟซบุ๊ก Wiroj Lakkhanaadisorn รีวิวซีรี่ย์ “รักนี้เท่าไหร่ ให้เขียนมา” จากกรณีที่มีการกล่าวหาว่า #ผู้การชลบุรี และพวกร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยว เรียกรับสินบน และประพฤติมิชอบ ซึ่งเป็นการกระทำความผิดอาญา ในหลายมาตรา อาทิ มาตรา 143 มาตรา 149 มาตรา 150 มาตรา 157 ซึ่งมีโทษสูงสุดถึง “ประหารชีวิต”

กรณีนี้ถ้าเปรียบเป็นซีรีส์ ก็คงเป็นซีรีส์ประเภท “รักซ้อนหลายเส้า” ที่มาพร้อมกับประโยคบอกรักที่แสนสะอิดสะเอียนว่า “เป้รักผู้การเท่าไหร่ เป้เขียนมา” ซึ่งข้อเท็จจริงเป็นประการใดคงต้องสืบสวนสอบสวนให้กระจ่าง ถ้าพบว่ามีการกระทำความผิดจริง ก็ต้องสาวให้ถึงต้นตอและกวาดล้างทั้งเครือข่ายให้ได้

สำหรับประเด็นที่ต้องติดตามต่อในซีรีส์เรื่องนี้ นายวิโรจน์ ระบุต้องติดตามความรักระหว่างเป้และผู้การ ซึ่งคงไม่ใช่รักแรก และไม่น่าจะใช่รักครั้งสุดท้ายแน่ๆ คงต้องสืบสวนดูว่า ระหว่างเป้กับผู้การนั้นเคยมีฉากเลิฟซีนกันมาแล้วกี่ฉาก ลำพังแค่ฉากล่าสุด ทุนสร้างก็ปาเข้าไป 140 ล้านบาทแล้ว ถ้านับฉากก่อนๆ เข้ามาด้วย ทุนสร้างน่าจะมากกว่านี้หลายเท่าตัว

นอกจากเป้แล้ว ยังมีใครแอบปันใจมอบความรักให้กับผู้การอีกบ้าง เพราะดูแล้วคนที่แอบรักผู้การ ไม่น่าจะมีเป้แค่คนเดียว และนอกจากผู้การแล้ว เป้ยังแอบคบซ้อน ไปแอบรักกับผู้การคนอื่น หรือข้าราชการระดับสูงคนอื่นอีกหรือไม่ ส่วนผู้การเอง ก็อาจจะมีคนที่รักอยู่แล้วหรือเปล่า ก็ต้องตามดูต่อว่าทุกๆ ครั้งที่ผู้การได้รับความรักจากเป้ ผู้การต้องส่งต่อความรักนั้นไปให้คนที่ใหญ่กว่าผู้การหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาก็เคยมีคนเห็นผู้การเอาดอกไม้ เอากระเช้า ไปแอบมอบให้ใครบางคนอยู่เหมือนกัน ซึ่งตามพล็อตเรื่องสุดท้ายมักจะเฉลยว่าคนที่แอบรักผู้การได้นั้นไม่ใช่คนธรรมดา บางทีเป้อาจจะมีความสัมพันธ์กับมาเฟียข้ามชาติ หรือทุนจีนสีเทาก็ได้ใครจะไปรู้


นอกจากนั้น ตามปกติแล้วกว่าจะรักกันได้มันต้องมีเพื่อนพระเอกและเพื่อนนางเอก คอยเป็นกองเชียร์ คอยสนับสนุน ก็คงต้องสืบสวนขยายผลต่อ เพื่อที่จะรู้ให้ได้ว่ากองเชียร์ที่เป็นสักขีพยานในความรักของเป้และผู้การ ทั้งหมดมีใครบ้าง

นายวิโรจน์ ชี้ว่า ซีรีส์เรื่องนี้เป็นซีรีส์ ที่น่าติดตามมาก เผลอๆ อาจจะมีภาค 2 ภาค 3 ออกมาในไม่ช้านี้ พระเอกอาจจะเป็นผู้การที่จังหวัดอื่น หรืออาจจะเปลี่ยนอาชีพไปเป็นอธิบดีบ้าง เป็นปลัดบ้าง เป็นนายพลบ้าง ก็ได้ ต้องคอยติดตามดู จากปัญหาคอร์รัปชั่นที่ผุดกันขึ้นมาเต็มไปหมดขณะนี้ สะท้อนถึงความล้มเหลวของการจัดการกับปัญหาคอร์รัปชั่นของรัฐบาลที่ผ่านมา …. “รออีกสักนิดครับ ซีรีส์รักที่สะอิดสะเอียนเหล่านี้ทั้งหมด ไม่ว่าจะมีกี่ตอน มีกี่ภาค มันกำลังจะจบลงในไม่ช้านี้ ....”

ขณะที่วันก่อนหน้า นายวิโรจน์ ทวีตข้อความระบุว่า ‘เป้รักผู้การเท่าไหร่ เป้เขียนมา’ เป็นประโยคบอกรักโรแมนติก ที่ฟังแล้วลมสันดานขึ้นทันที” “เป้เลยเขียน 143 149 150 แล้วก็พ่วง 157 จัดไปจุกๆ”

ไม่เพียงแต่ส่วยเว็บพนันออนไลน์ Foxbet 168 ที่ฉายภาพความรักระหว่างเป้กับผู้การฯ เท่านั้น เวลานี้ “บิ๊กโจ๊ก” ยังดำเนินคดีกับนายพลตำรวจเพื่อนร่วมรุ่นที่เป็นเจ้าของเว็บการพนันออนไลน์ถึง 3 เว็บไซต์ หลังจากแอดมินเว็บไซต์พนันถูกอุ้มไปทำร้ายร่างกาย เนื่องจากทำยอดรายได้ลดลงพร้อมขู่ฆ่ายกครัว โดยพบว่ามีกลุ่มผู้กระทำผิดทั้งหมด 7 คน ลักพาตัวผู้เสียหายจากบ้านพักย่านโชคชัย กทม. ไปที่ร้านกาแฟใน จ.ชลบุรี แล้วข่มขู่ทำร้ายร่างกายเรียกเอาทรัพย์สินไป 100,000 บาท ก่อนปล่อยตัว โดยตำรวจสามารถจับกุมได้ 5 คน หลบหนีไปได้ 2 คน และพบมีตำรวจระดับสารวัตรเป็นผู้ให้ข้อมูลกับกลุ่มผู้ต้องหาเพื่อนำไปใช้ข่มขู่ผู้เสียหาย ทั้งหมดเข้าข่ายความผิดร่วมกันปล้นทรัพย์, ข่มขู่รีดเอาทรัพย์ ทำร้ายร่างกาย และข้อหาอื่นๆ รวมแล้ว 6 ฐานความผิด

นอกจากนั้น ชุดสืบสวนสามารถขยายผลไปถึงนายพลตำรวจเพื่อนร่วมรุ่นคือ “ผู้การเบ้” ซึ่งเป็นเจ้าของเว็บพนันออนไลน์ RRD789, BLUE789, SEXY789 มีผู้ร่วมขบวนการไม่ต่ำกว่า 10 คน ซึ่งได้รวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้งหมด 9 คน และยังพบว่ามีนายตำรวจระดับผู้กำกับการเข้ามาเกี่ยวข้อง สำหรับ “ผู้การเบ้” ให้การปฏิเสธในชั้นสอบสวนและขอให้การในชั้นศาล

เบื้องต้นดำเนินคดีฐานร่วมกันจัดให้มีการเล่นหรือเป็นผู้สนับสนุนจัดให้มีการเล่นหรือทำอุบายล่อช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเรื่องการพนันออนไลน์ สมคบโดยกระทำตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปในความผิดฐานฟอกเงิน และจะตรวจสอบทรัพย์สินทั้งสิ้น ประมาณ 200 กว่าล้านบาท จะส่งให้ ปปง. ยึดทรัพย์เพื่อตรวจสอบ

คดีนี้ “บิ๊กโจ๊ก” ลั่นวาจา แม้ผู้ต้องหาจะเป็นนายตำรวจเพื่อร่วมรุ่น นรต.47 ใครผิดก็ว่าไปตามผิด เดินหน้าเอาผิดเต็มที่โดยไม่มีละเว้น ถึงเป็นเพื่อนกันก็ขออนุญาตดำเนินคดี

ไม่เพียงแต่ “บิ๊กโจ๊ก” เท่านั้นที่มีงาน ทาง พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร.ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ(ศปอส.ตร.) หรือ PCT ก็มีงานเช่นกัน โดยสั่งการให้ชุดปฏิบัติการเข้าจับกุม นายพงษ์ศิริ ฐานราชวงศ์ศึก  ตามหมายจับศาลอาญาที่ 1893/2566 ลงวันที่ 20 มิถุนายน 2566 ข้อหา “ร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยกันประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าเล่นการพนันซึ่งไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน, ร่วมกันฟอกเงิน, สมคบโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้กระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้สมคบกัน โดยจับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 88 หมู่ 9 ต.บ้านปิน อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา

คดีนี้ ทางตำรวจมีพยานหลักฐานที่น่าเชื่อว่านายพงษ์ศิริ และพวก น่าจะมีส่วนร่วมในการกระทำความผิดจริง เกี่ยวกับเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ TS911.com จึงได้รวบรวมหลักฐานของศาลออกหมายค้นในหลายพื้นที่จนพบว่านายพงษ์ศิริและพวกมีความเกี่ยวข้องในคดีจึงเสนอศาลออกหมายจับดังกล่าวข้างต้น
สำหรับทรัพย์สินทางตำรวจจะร่วมหารือกับ ปปง. สืบสวนหาทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องและเกี่ยวข้องกับคดีเพื่อยึด อายัด และดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งตามรายงานคาดว่าทรัพย์สินที่ต้องถูกยึด คือสโมสรฟุตบอลลำพูนวอริเออร์ ซึ่งนายพงษ์ศิริ นำเงินที่ได้ไปฟอกโดยเข้าซื้อสโมสรฟุตบอลดังกล่าว และทำธุรกิจอื่นบังหน้า รวมทั้งซื้อบ้านและที่ดินในหลายจังหวัดภาคเหนือ รถหรูจำนวนหลายคัน รวมมูลค่าไม่ต่ำกว่า 1 พันล้าน

 คดีส่วยเว็บพนันจะเป็นคดีที่สังคมให้ความศรัทธาหรือเสื่อมศรัทธาต่อตำรวจขึ้นอยู่กับขยายผลของคดีและการเอาจริงเอาจังในการทลายเครือข่ายส่วยแบบขุดรากถอนโคน หากเจอผิดจริงต้องฟาด “ตำรวจโจร” ให้หนัก หากไม่ผิดก็ต้องคืนความเป็นธรรมให้กับผู้ถูกกล่าวหา 



กำลังโหลดความคิดเห็น