คอลัมน์ ศิลปะแห่งศรัทธา
โดย ARTMULET
สวัสดี ครับ ในช่วงสามสัปดาห์ที่ผ่านมา Artmulet ได้กล่าวถึงผลงานประติมากรรมที่ยิ่งใหญ่และทรงคุณค่าที่เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกด้วยการประสานกันเป็นหนึ่งเดียวด้วยหน้าที่ทั้งพญาครุฑและพญาอนันตนาคราช โดยมีองค์พระนารายณ์เป็นศูนย์กลางในการหลอมรวมจิตใจให้เป็นหนึ่งเดียว ด้วยเหตุนี้ผลงานครั้งนี้จึงทรงพระนาม นารายณ์ทรงสุบรรณอนันตนาคราช ถือได้ว่าเป็นสามประสานแห่งความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ ผลงานประติมากรรมในครั้งนี้มีความงดงามอลังการเป็นที่น่าอัศจรรย์ทั้งรายละเอียดที่ดูอ่อนช้อยแต่แฝงด้วยพลังอำนาจอันยิ่งใหญ่เหนือคำบรรยาย และทั้งหมดนี้เพื่อมอบไว้เป็นมรดกอันล้ำค่าสืบทอดไปยังลูกหลานเพื่อเป็นเครื่องเจริญสติในการสร้างคุณงามความดีทั้งหลายและเพื่อฝากไว้เป็นสมบัติอันล้ำค่าของคนไทยสืบไป
สำหรับในสัปดาห์นี้จะขอกล่าวถึงผลงานประติมากรรมที่เกี่ยวข้องกับความเชื่อความศรัทธาแต่เฉพาะองค์พระนารายณ์ผู้ยิ่งใหญ่เหนือกว่าผู้ใดในจักรวาล ทรงพระนาม “นารายณ์พลิกแผ่นดิน” ที่ได้เคยนำเสนอไปแล้ว พระนารายณ์นั้นถือเป็นองค์เทพเจ้าสูงสุดในศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ลัทธิไวษณพนิกายถือเป็นผู้ที่มีฤทธิ์เดชมีอำนาจมีความเก่งกล้าสามารถเป็นอย่างมากสามารถอวตารหรือแปลงร่างเป็นอะไรก็ได้ตามแต่วาระที่ต้องการ ส่วนในทางพุทธนั้นคำว่า “นารายณ์พลิกแผ่นดิน” ถือเป็นวิชาที่ใช้ลงอักขระเลขยันต์ เช่น ยันต์นารายณ์พลิกแผ่นดิน ใช้สวดท่องเป็นพระคาถาศักดิ์สิทธิ์ คะ พุท ปัน ทู ทัม วะคะ ใช้พลิกชีวิต พลิกชะตา จากร้ายกลายเป็นดี ตามแต่ใจปรารถนามาแต่ครั้งโบราณ ดังนั้นที่มาของพระนาม “นารายณ์พลิกแผ่นดิน” ในทางพุทธนั้นจึงถือว่ายิ่งใหญ่และศักดิ์สิทธิ์ ส่วนในพราหมณ์-ฮินดูนั้นต้องขอกล่าวถึงตอนนารายณ์อวตารเป็น วราหะ เป็นมนุษย์ที่มีศีรษะเป็นหมูป่าเพื่อสังหารหิรันตยักษ์ที่ม้วนเอาแผ่นดินไปซ่อน หิรันตยักษ์เป็นยักษ์ที่มีฤทธิ์เดชมากทั้งยังข่มเหงเหล่ามนุษย์โลกมากมาย พระนารายณ์จึงอวตารเป็นวราหะครึ่งคนครึ่งหมูป่าไล่ขวิดหิรันตยักษ์แล้วสังหารด้วยการฟาดด้วยกระบอง ส่วนมหากาพย์รามเกียรติ์ หิรันตยักษ์คือพญายักษ์ที่บำเพ็ญเพียรด้วยการบูชาพระอิศวร ผู้สถิต ณ เขาไกรลาส จนได้รับพรให้มีฤทธิ์เดชมากมายทั้งมนุษย์และเทวดาใครฆ่าก็จะไม่ตายสามารถม้วนแผ่นดินได้ ด้วยความกำเริบและคิดว่าตนนั้นมีฤทธิ์มากไม่มีผู้ใดทัดเทียม แม้แต่ฤๅษี นักพรต เทวดา ต่างก็พากันเกรงกลัวต่อหิรันตยักษ์ เพื่อแสดงฤทธิ์เดชให้ทั้งสามโลกได้รับรู้หิรันตยักษ์จึงทำการม้วนแผ่นดินหนีบไว้กับตัวแล้วลงไปยังเมืองบาดาลเพื่อให้มนุษย์และเทวดาทั้งหลายต้องเดือดร้อนกันไปทั่ว ร้อนถึงพระนารายณ์ต้องเสด็จลงไปยังเมืองบาดาล เห็นหิรันตยักษ์ม้วนแผ่นดินหนีบไว้ ก็แปลงร่างเป็นพญาหมูป่าเข้าไล่ขวิดต่อสู้กับหิรันตยักษ์ ในที่สุดพญาหมูป่าก็ไล่ขวิดหิรันตยักษ์ด้วยเขี้ยวเพชรจนตัวขาดหัวขาดสิ้นใจตายลงทันที แล้วพญาหมูป่าหรือพระนารายณ์อวตารก็พลิกเอาผืนแผ่นดินคืนความสุข ความสงบร่มเย็นให้แก่มนุษย์และเทวดาดังเดิม
จากตำนานเรื่องราวแห่งความเชื่อความศรัทธาขององค์พระนารายณ์ผู้เป็นใหญ่ด้วยฤทธิ์เดชและอำนาจเหนือกว่าผู้ใดในสามโลกสู่ผลงานประติมากรรมอันทรงคุณค่าที่มีศิลปะอันงดงามสุดอลังการ ด้วยพระนามอันยิ่งใหญ่และศักดิ์สิทธิ์ “นารายณ์พลิกแผ่นดิน” ด้วยการรังสรรค์ผลงานด้านจิตรกรรมและประติมากรรม ที่ถ่ายทอดเรื่องราวแห่งองค์นารายณ์มหาเทพผู้ยิ่งใหญ่ในจักรวาลด้วยรูปแบบศิลปะไทยลักษณะทรงเครื่องเต็มยศมีพระพักตร์ที่สงบนิ่งแต่แฝงไปด้วยพลังแห่งฤทธิ์เดชและอำนาจแต่เปี่ยมล้นด้วยพระเมตตา พระหัตถ์ซ้ายบนทรงสังข์สัญลักษณ์ของการมีชื่อเสียงคุณธรรมความดีปรากฏไปทั้งสามโลก พระหัตถ์ขวาบนทรงจักรสัญลักษณ์แห่งการเคลื่อนไปข้างหน้าขจัดปัญหาอุปสรรคทั้งปวง พระหัตถ์ขวาล่างทรงกระบองสัญลักษณ์ของการทำลายสิ่งเลวร้ายทั้งหลาย พระหัตถ์ขวาล่างทรงศรนารายณ์สัญลักษณ์แห่งการพุ่งตรงไปยังเป้าหมายสู่ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ ส่วนบริเวณฐานเป็นฐานทรงกลมบัวคว่ำบัวหงาย ฐานชั้นล่างเป็นลวดลายน้ำ ด้านหน้ามีสัญลักษณ์ของหมูป่าเขี้ยวโง้งยาวอันเป็นที่มาของปางวราหะ “นารายณ์พลิกแผ่นดิน” ดังนั้น ผลงานประติมากรรมแห่งศรัทธาครั้งนี้ จึงเป็นผลงานอันเกิดขึ้นจากการประยุกต์เรื่องราวแห่งศรัทธาอันจะนำมาเป็นเครื่องเจริญสติแก่ผู้ที่ได้มีไว้ในครอบครองและเพื่อเป็นสมบัติของวงศ์ตระกูลสืบต่อไป โดยผลงานดังกล่าวนี้เป็นเรื่องราวอันมีความต่อเนื่องจากผลงาน “นารายณ์แปลงรูป” มหาเทพองค์สูงสุดตามลัทธิไวษณพนิกายที่ทาง ARTMULET นั้นได้เคยจัดสร้างไว้แล้ว จากแนวคิดของ อ.ธนทัศน์ ทองเนียม ประธานดำเนิน งานแห่ง ARTMULET และ ดร.ทรงพล เขมะบุลกุล ที่ปรึกษาโครงการ ผ่านจิตรกรเอก อ.เกรียงกมล นาคบางแก้ว และประติมากร อ.สุชาติ แซ่จิว สองศิลปินผู้รังสรรค์ปั้นแต่งผลงานในครั้งนี้ได้อย่างงดงามสุดอลังการน่าอัศจรรย์ทั้งรายละเอียดที่ดูอ่อนช้อยงดงามพริ้วไหวแต่ทรงพลังอำนาจอันศักดิ์สิทธิ์และยิ่งใหญ่เกินคำบรรยาย ทั้งหมดนี้เพื่อมอบไว้แด่ผู้ที่มีจิตศรัทธาและมอบไว้เป็นสมบัติอันล้ำค่าของคนไทยสืบไป
สำหรับท่านที่มีศรัทธาและต้องการเก็บสะสมผลงานประติมากรรม “นารายณ์พลิกแผ่นดิน” ในครั้งนี้ ท่านสามารถเลือกสั่งจองได้ตามรายการต่างๆ ดังนี้ครับ
งานประติมากรรม “นารายณ์พลิกแผ่นดิน”
ผู้ออกแบบแนวคิดและรังสรรค์ผลงาน : ARTMULET
ทุกชิ้นงานหล่อด้วยโลหะบรอนซ์ออสเตรเลีย (ทองสัมฤทธิ์)
พิธีบวงสรวงเทวาภิเษกและพิธีมหาพุทธาภิเษก ณ วัดขุนอินทประมูล จ.อ่างทอง
วัตถุประสงค์ในการจัดสร้างเพื่อร่วมจัดสร้างที่พักสำหรับผู้มาปฏิบัติธรรมและศาลาอเนกประสงค์ วัดขุนอินทประมูล จ.อ่างทอง
“นารายณ์พลิกแผ่นดิน”
จัดสร้างเป็น 2 ขนาด
1.ขนาดความสูงฐานถึงปลายชฎา 25 นิ้วถึงรัศมี 27 นิ้ว
องค์นารายณ์สูงถึงปลายชฎา 20.5 นิ้ว
องค์นารายณ์กว้างแขนซ้ายถึงแขนขวา 13 นิ้ว
ฐานสูง 4.5 นิ้ว
ฐานกว้าง-ลึก 7 นิ้ว
1.1 จัดสร้าง AP ทั้งหมด 5 สี สีละ 18 องค์ (มีเฉพาะหมายเลขมหามงคล)
เปิดให้สั่งจององค์ละ 45,900.-
1.2 จัดสร้าง ED 1 สี รวม 99 องค์
เปิดให้สั่งจองเลขมหามงคลองค์ละ 42,900.-
เปิดให้สั่งจองเลขทั่วไปองค์ละ 40,900.-
2.ขนาดความสูงฐานถึงปลายชฎา 12 นิ้วถึงรัศมี 13 นิ้ว
องค์นารายณ์สูงถึงปลายชฎา 9.9 นิ้ว
องค์นารายณ์กว้างแขนซ้ายถึงแขนขวา 6 นิ้ว
ฐานสูง 2 นิ้ว
ฐานกว้าง-ลึก 3.3 นิ้ว
จัดสร้างทั้งหมด 4 สี สีละ 99 องค์
เปิดให้สั่งจององค์ละ 16,900.- ถึง 19,900.-
ค่าจัดส่งขนาดสูง 27 นิ้ว 500 บาท ต่อ 1 องค์
ค่าจัดส่งขนาดสูง 13 นิ้ว 300 บาท ต่อ 1 องค์
กรณีรับที่วัดขุนอินทประมูลจ.อ่างทอง ไม่มีค่าส่ง
รายการจองในครั้งนี้มีกำหนดประมาณการจัดส่งปลายเดือนตุลาคม 2566 เป็นต้นไป หลังผ่านพิธีบวงสรวง
เทวาภิเษกและพิธีมหาพุทธาภิเษกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
สำหรับท่านที่สนใจต้องการสั่งจองหรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Facebook Inbox: Artmulet
Facebook Inbox: Artmulet Official
Line ID: @artmulet
เว็บไซต์: www.artmulet.com
และที่วัดขุนอินทประมูล จ.อ่างทอง T.0925577511