xs
xsm
sm
md
lg

เลือกตั้ง 14 พฤษภา : ใครจะเป็นรัฐบาล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: สามารถ มังสัง



ในที่สุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ฤกษ์ยุบสภาฯ และมุ่งหน้าเลือกตั้งเพื่อหวังเป็นรัฐบาลต่อ ส่วนว่าจะได้เป็นหรือไม่ขึ้นอยู่กับปัจจัยดังต่อไปนี้

1. พรรครวมไทยสร้างชาติ จะได้เลือกเข้ามา 5% หรือ 25 คนขึ้นไปหรือไม่?

2. เมื่อพรรคพลังประชารัฐได้รับเลือกเข้ามาจำนวน 25 คนขึ้นไป และสามารถรวบรวมเสียง ส.ส.ได้เสียงข้างมากเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ทั้งได้รับเสียงสนับสนุนจาก ส.ว.รวมกันแล้วได้รับการออกเสียงให้เป็นนายกรัฐมนตรีอีกสมัยหรือไม่?

ปัจจัย 2 ประการข้างต้น จะเป็นตัวชี้ขาดว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะไปต่อเป็นสมัยที่ 3 หรือไม่

แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าดูจากปัจจัยแวดล้อมโอกาสที่พล.อ.ประยุทธ์ จะไปต่อในตำแหน่งผู้นำรัฐบาลสมัยที่ 3 ค่อนข้างยาก ทั้งนี้อนุมานได้จากปัจจัยดังต่อไปนี้

1. จากการที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นผู้นำรัฐบาล 2 สมัยที่ผ่านมา โดยเฉพาะในสมัยแรกพล.อ.ประยุทธ์ มีอำนาจเต็มโดยอาศัยมาตรา 44 แต่ไม่มีความเด็ดขาดในการแก้ปัญหา โดยเฉพาะปัญหาทุจริต คอร์รัปชัน และปัญหาอาชญากรรม ซึ่งเป็นปัญหาสังคมร้ายแรงเช่น ยาเสพติด และการพนัน เป็นต้น ซึ่งเป็นต้นตอของความเดือดร้อนทั้งในระดับครอบครัว และสังคมโดยรวม

2. จากปัจจัยในข้อ 1 ทำให้การเมืองจากขั้วตรงกันข้าม โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยและพรรคเกิดใหม่เช่น พรรคก้าวไกลได้รับเลือกตั้งเข้ามาเป็นจำนวนมากในการเลือกตั้งปี 2562 และคาดว่าจะได้รับเลือกตั้งเพิ่มขึ้นหรือไม่น้อยกว่าเดิมในการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคมนี้

3. ฐานทางการเมืองของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในการเลือกตั้งครั้งนี้ได้แบ่งออกเป็น 2 ฝ่ายคือ ฝ่ายของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ภายในการดำเนินการของพรรคพลังประชารัฐหรือ พปชร. และฝ่ายของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ภายใต้การดำเนินการของพรรครวมไทยสร้างชาติ

ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ฐานทางการเมืองของพล.อ.ประยุทธ์ ลดน้อยลงและดูเหมือนจะเป็นรองพล.อ.ประวิตร ด้วยซ้ำไป

อีกประการหนึ่ง ถ้านำสภาวะแวดล้อมทางการเมืองในทุกด้านมาพิจารณาแล้ว จะเห็นได้ว่าโอกาสที่พล.อ.ประยุทธ์ จะได้ไปต่อในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีกสมัยเป็นไปไม่ได้ ถ้าปัจจัยตัดรอนต่อไปนี้เกิดขึ้นคือ

1. พรรคเพื่อไทยได้รับเลือกเข้ามาเป็นอันดับหนึ่ง แต่มีจำนวนไม่มากพอที่จะเป็นรัฐบาลพรรคเดียวได้ ทั้งไม่สามารถหาพันธมิตรทางการเมืองในการจัดตั้งรัฐบาล โดยไม่ต้องพึ่ง ส.ส.ได้

2. พรรคภูมิใจไทยได้รับเลือกเข้ามาเป็นอันดับสอง และทำแนวร่วมทางการเมืองกับพรรคพลังประชารัฐ โดยมีพรรคการเมืองอื่นเช่น พรรคประชาธิปัตย์ เป็นต้น เข้ามาร่วมด้วยก็จะเป็นมูลเหตุจูงใจให้พรรคเพื่อไทยเข้ามารวมกลุ่มด้วย ถ้าเป็นเช่นนี้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีก็จะเป็นของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ค่อนข้างแน่นอน เพราะจะต้องไม่ลืมว่า พล.อ.ประวิตร มีฐานเสียง ส.ว.อยู่ไม่ต่ำกว่าร้อยในมือ

นอกจากปัจจัยแวดล้อมทางการเมืองแล้ว หันมามองจากโหราศาสตร์ดูบ้าง ก็จะตอกย้ำความแม่นยำในการคาดการณ์ได้มากยิ่งขึ้น

จากวันที่ 12 เมษายนไปถึงต้นปี พ.ศ. 2567 ดาวพฤหัสบดีจะโคจรเข้าทับลัคนา ดวงเมืองในราศีเมษจะทำให้การเมืองไทยเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางดีขึ้น ทั้งนี้อนุมานจากทฤษฎีแห่งดวงดาวดังต่อไปนี้

ดาวพฤหัสบดีเป็นดาวแห่งคุณธรรม เมื่อโคจรมาทับลัคนาในตำแหน่งราชาโชค ทั้งยังทับดาวอาทิตย์คู่มิตรด้วย ก็จะส่งผลให้ประเทศไทยได้ผู้นำที่มีคุณธรรม และยึดหลักความถูกต้องเป็นแนวทางการบริหารประเทศ ส่วนนักการเมืองประเภทมีวาระซ่อนเร้น พูดอย่าง ทำอย่าง อ้างประชาชนแต่ทำเพื่อตนเอง คงจะขึ้นสู่อำนาจได้ยาก ถึงแม้จะขึ้นมาได้โดยอาศัยพวกมากลากไปแบบประชาธิปไตยเพียงรูปแบบก็คงอยู่ไม่นานต้องแพ้ภัยตนเอง มีอันต้องจากไปด้วยเหตุแห่งผลของกรรม ซึ่งอยู่เหนืออำนาจแห่งเงินตราและเสียงประชาชนที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์


กำลังโหลดความคิดเห็น