xs
xsm
sm
md
lg

ศึก ‘นักร้อง นักลวง’

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: โสภณ องค์การณ์



อาชีพ “นักร้องเรียน” หรือเข้าใจในภาษาคนรุ่นใหม่ว่า “นักร้อง” บ้านเรานั้น จัดว่าเป็นอาชีพมีความเสี่ยงสูง ดังเร็ว ก็ร่วงเร็วได้ ขึ้นอยู่กับว่ามีพื้นฐานความรู้ข้อมูลแน่นหนา ภูมิความรู้ สติปัญญา ท่วงท่าลีลาการนำเสนอข้อมูล

ที่สำคัญ มีความน่าเชื่อถือแค่ไหน จะมีแบ็คดีหรือไม่ ขึ้นอยู่กับความสามารถส่วนบุคคล ถ้ามีประวัติไม่มัวหมอง ไม่มีเบื้องหน้าเบื้องหลัง พออยู่ได้

เป็น “นักร้อง” อิสระ ไม่มีค่ายสังกัด ไม่รับจ้างร้อง ทำให้มีศรัทธาความน่าเชื่อถือ ยิ่งถ้าเรื่องที่ร้องเรียนเกี่ยวกับผลประโยชน์ของประชาชน ยิ่งได้รับความนิยม แต่ต้องเป็นทองแท้ ซึ่งหาได้ยาก ต้องผ่านการพิสูจน์ ตรวจสอบตลอดเวลา

ยิ่งอยู่ในยุคโลกโซเชียล ใครสามารถค้นหาข้อมูลตรวจสอบได้ง่าย มีนักขุดคุ้ย มีแฟนคลับ ขบวนการทัวร์ลง ทำให้นักร้องบางคนไปลำบาก

ถ้าร้องแต่เรื่องขี้หมูรา ขี้หมาแห้ง เจาะจงร้องแต่บางฝ่าย งดเว้นไม่ร้องอีกฝ่ายแม้จะมีพฤติกรรมด่างพร้อยเหมือนกัน อย่างนี้เรียกว่านักร้องเลือกข้าง

ต้องถูกสงสัย กล่าวหาว่าเป็นพวกรับจ้างร้อง เสี่ยงต่อการโดนเปิดโปง ชื่อเสียงเสียหาย จะไปทำมาหากินต่อไปได้ยาก

นักร้องมีประเภทร้องเรื่องทั่วไปเกี่ยวกับสังคม และพวกร้องทางการเมือง หรือรับทุกงานที่อยู่ในความสนใจของประชาชน บางคนจัดอยู่ในประเภทชอบงานใหญ่ เป็นเดวิดล้มโกไลแอธ ล้มยักษ์ได้ก็ยิ่งดัง ส่งเสริมบารมี ชื่อเสียง ความยำเกรง

มีประเด็นร้องเพื่องานสาธารณะ หรือเพื่อสร้างราคาเรียกค่าตอบแทน

นักร้องที่มีบทบาท มีชื่อเสียงระดับแนวหน้า ผลงานโดดเด่น เช่น “น้าเรือง” นักบัญชีที่เล่นงานนายห้างดูไบ และ “เสี่ยหมัก” พ่อครัวทีวีสีช่อง 5 ซึ่งวายชนม์ไปแล้ว ทั้งคู่ต้องเด้งจากตำแหน่งผู้นำประเทศ เป็นฝีมือ “น้าเรือง” ซึ่งไม่รับงานพร่ำเพื่อย้ายงานแต่ละครั้ง “น้าเรือง” อ้างว่าภริยาคู่ชีวิตพอใจ ต้องซื้อรถเบนซ์ให้เป็นรางวัล ความเป็นนักบัญชีแบบคุณชายเน้นรายละเอียดทำให้เป้าหมายหลุดยาก

อีกราย “น้าวีระ” เน้นงานในขบวนการปราบนักคอร์รัปชัน ภายหลังไม่มีงานถี่มาก แต่ละงานเจอกระดูกชิ้นใหญ่ ผู้มีอำนาจ ทรงอิทธิพล เล่นด้วยยากทั้งนั้น แต่ก็ยังเป็นที่ครั่นคร้ามของพวกกังฉิน โดยเฉพาะถ้ามีการร่วมมือกันระหว่าง “นักร้อง”

นอกนั้นก็มี “นักร้องนักลุย” อย่างเช่น “หมอปลา” ซึ่งพลาดโดนฉมวกต้องหยุด ส่วนนักร้องรับงานการเมือง เล่นงานฝ่ายตรงข้ามบางรายดูไม่มีราคา เป็นการรับจ้างหาคดีให้พัวพันศัตรูการเมืองของผู้ว่าจ้างซึ่งเป็นฝ่ายรัฐบาล อนาคตไม่รุ่ง

อีกรายคือ “พี่ศรี” มีงานเยอะหลากประเภท ออกแนวจับฉ่าย จุกจิกจิ๊บจ๊อย บางครั้งถูกมองว่าไม่เป็นเรื่อง ก็ร้อง และถูกสงสัยว่าเรื่องใหญ่ระดับผู้มีอำนาจนั้น “พี่ศรี” มักเลี่ยง ไม่ข้องแวะด้วย เคยโดนขู่ว่าจะเล่นงาน “พี่ศรี” เรื่องไม่โปร่งใส

“พี่ศรี” ต้องมีปัญหาความน่าเชื่อถือระดับหนึ่งเพราะความจับฉ่าย

อีกรายคือ “น้าอัจ” มักช่วยเหลือเหยื่อเจ้าหน้าที่รัฐที่ไม่ให้ความยุติธรรมในคดีต่างๆ เป็นตัวแทนชาวบ้าน แต่งานเรื่อง “น้องแตงโม” ผลงานไม่เข้าตาอย่างแรง

โดยรวมแล้ว นักร้องกลุ่มนี้ประสบสภาวะปัญหาการยอมรับบางเรื่อง งาน “น้าอัจ” สดๆ ร้อนๆ ก็คือการเข้าร่วมลุย “เสี่ยอ่าง” โดยมีสีกากีเป็นเป้าหมายด้วย

ทำให้เพิ่มสีสันในการปะทะกันในกลุ่มนักร้อง ทนายหนุ่มคนดัง สนั่นเมือง

นั่นคือ “นักร้องนักลุย” ที่เรตติ้งสูงสุดในประเทศ “เสี่ยอ่าง” ผู้ลุยขบวนการทุนจีนสีเทาจนบางค่ายแตกสลาย ลุยผู้มีอำนาจในองค์กรตรวจสอบ ลุยหลานท่านห้าวเป้ง ลุยตำรวจนครบาล ลุยนักการเมืองเขากระโดงกัญชา รถไฟฟ้าสายสีส้ม

“เสี่ยอ่าง” ลุยเหมือนกับฝากฝีมือให้ลั่นแผ่นดินไทยว่าไม่มีใครกล้าลุยได้ มีทั้งเงินทุนหนา ธุรกิจ เครือข่ายพรรคพวกทุกสี ทุกสาย รวมทั้งสายดาร์ก

เครือข่ายในกลุ่มคนมีสีกากี สีเขียวไม่ธรรมดา การเป็นเจ้าพ่ออ่าง อยู่ในวงการค้าน้ำกาม เป็นเจ้าของธุรกิจอาบ อบ นวด 6 แห่ง ทำให้รู้จักคนทุกประเภท

การลุยทุนจีนสีเทา เอาขาใหญ่สายเลือดมังกรเข้าไปอยู่ในห้องขังทำให้ “เสี่ยอ่าง” ได้รับความนิยม ประชาชนแซ่ซ้องว่าเป็นผู้กล้าลุยกลุ่มอิทธิพล ไม่กลัวตาย

ช่วงหลัง “เสี่ยอ่าง” หยุดลุยหลานท่านห้าวเป้งอย่างน่ากังหา หลังจากเข้าไปพบท่านห้าวเป้ง จากนั้นก็ซาเรื่องการลุยทุนสีเทา หันมาเล่นงานเรื่องกัญชา รถไฟฟ้าสายสีส้ม เปิดโปงขบวนการไม่ชอบมาพากล อ้างกัญชาเป็นภัยต่อเยาวชน

“เสี่ยอ่าง” เริ่มสะดุดยิ่งกว่าโดนเหยียบเบรกเมื่อโลกโซเชียลปูดว่าในโรงแรมของเสี่ยอ่างมีการขายผลิตภัณฑ์กัญชาเพื่อสันทนาการอย่างโล่งโจ้ง แม้จะอ้างว่ามีคนมาเช่าก็แก้ตัวไม่ขึ้น เพราะตัวเองและกล่องดวงใจเป็นผู้ถือหุ้น

“เสี่ยอ่าง” เสียขบวนกับความน่าเชื่อถือไประดับหนึ่ง แต่ยังลุยเรื่องกัญชาและรถไฟฟ้าสายสีส้ม เดินสายเปิดโปง ต่อต้านเป้าหมายคือพรรคการเมืองบุรีรัมย์จนอ่วม

ค่ายบุรีรัมย์ถูกกระหน่ำอย่างหนัก จะป้องกันอย่างไร ดูทุลักทุเล

“เสี่ยอ่าง” กำลังลุยอย่างเมามัน มีแบ็คดี แต่โชคไม่ดี เมื่อมาเจอ “ทนายตั้ม” เปิดโปงข้อมูลเรื่องรับเงินร้อนจากทุนสีเทาเอาไปบริจาคเอาหน้า ทำให้เสียจังหวะ

“ทนายตั้ม” เปิดข้อมูลเป็นระยะ ทำให้ “เสี่ยอ่าง” ชะงักกึก ก่อนหาข้อมูลมาโต้ว่าทนายตั้มก็มี “ค่าแถลงข่าว” ถือว่าเป็นการรับงานเช่นกัน ศึกเปิดโปงนี้ท่าจะยืดเยื้อ

ศึกใหญ่ของ “เสี่ยอ่าง” คือเรื่องที่ดินตัวเองทำเป็นสวนสาธารณะ แลกกับการลดเวลาการติดคุกไปทำโครงการหมื่นล้านบาท กลายเป็นวิบากกรรมยกกำลังสอง


กำลังโหลดความคิดเห็น