ในความเป็นไป
วรศักดิ์ มหัทธโนบล
สุบินนิมิตเรื่องที่ 4 : โครุ่นเทียมเกวียน
ความเดิมมีว่า ฝันว่าหนึ่งโคใหญ่ไถนา ไม่นำพาปล่อยทิ้งจากสถาน เอาลูกโคเทียมไถเข้าใช้การ ไม่เคยงานเสียรอยย่อยยับไป เดินแตกแยกข้ามคันนาหน ไม่รู้ในท่วงทีทำนองไถ
สุบินนิมิตนี้มีความหมายว่า ได้เห็นคนเอาโคมาเทียมเกวียน โดยเฉพาะชาวไร่ชาวนาที่เคยใช้วัวควายที่โตเต็มที่ ชำนาญงานเคยไถคราด แต่กลับปล่อยทิ้งไว้ วัวควายใหญ่ไม่สนใจเลี้ยงดู
แทนที่จะเอาโคใหญ่ที่ใช้ลากเกวียนได้สมบูรณ์ด้วยส่วนสูง และความล่ำสันมาเทียมเกวียนก็ไม่เอา กลับไปเอาโครุ่นลูกวัวลูกควายที่เพิ่งหัดให้มาเทียมเกวียน ไถคราดในไร่นา โครุ่นพวกนี้ลากเกวียนไม่ไหวจึงสลัดทิ้ง เกวียนก็เคลื่อนไปไม่ได้ ทำให้เสียงานเสียการ ไร่นาคราดไถไม่ได้อย่างเคย
ฝันนี้จะมีผลประการใด พระพุทธเจ้าข้า...
ฝันนี้พุทธโคดมทรงพยากรณ์ว่า เสนาบดีชนชั้นผู้บริหาร ผู้เป็นใหญ่ในประเทศจะไม่ให้ยศ-ตำแหน่งหน้าที่แก่มหาอำมาตย์ที่เป็นบัณฑิตเชี่ยวชาญ ในแบบธรรมเนียมประเพณี สามารถบริหารงานได้ดี
แต่จะมีการเล่นพรรคเล่นพวก เอาแต่พรรคพวกของตนที่โง่เขลาเบาปัญญา ไม่รู้จริง ไม่มีความชำนาญจริง แต่เป็นที่ไว้วางใจ เพราะประจบสอพลอเก่ง เข้ามาร่วมงาน
จะมีการแต่งตั้งเด็กหนุ่มที่ไม่รู้จักงานราชการและข้อควรมิควร ให้เป็นผู้พิพากษาตัดสินอรรถคดี ไม่อาจจะบริหารงานราชการให้เกิดประสิทธิภาพได้ มีการให้เงินสินบนเพื่อความสะดวกในการดำเนินงาน และเมื่อทำไม่ได้ก็ปล่อยปละละเลยหน้าที่การงานนั้นๆ เสีย
ต่างก็จะคิดเสียว่า เรื่องอะไรที่เราจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวให้เปลืองตัว พวกเรากลายเป็นคนวงนอกไปแล้ว ผู้ใหญ่เหล่านั้นก็จะไม่สนใจกิจการบ้านเมือง ประเทศชาตินั้นก็จะมีความเสื่อมแต่เพียงอย่างเดียว บ้านเมืองนั้นก็จะพลอยเสื่อมไปด้วย
เหมือนคนเอาโครุ่นที่ไม่สามารถลากแอกได้มาเทียมเกวียน แทนที่จะเอาโคใหญ่ที่สามารถลากแอกได้มาเทียมเกวียนนั้นเอง
และในเรื่องนี้ก็จะไม่มีอันตรายแก่พระมหาบพิตร ขอถวายพระพร
พุทธพยากรณ์ต่อสุบินนิมิตเรื่องนี้แทบไม่ต้องกล่าวเปรียบในปัจจุบัน เพราะเป็นเรื่องที่รู้เห็นกันอยู่ทั่วไป แต่ถ้าดึงเอาคำสำคัญในเชิงหลักคิดของคำพยากรณ์แล้วจะมีอยู่สองคำ คำหนึ่งคือ การใช้คนไม่ตรงกับความสามารถ อีกคำหนึ่งคือ คนประจบสอพลอได้ดิบได้ดีในหน้าที่การงาน
คำสำคัญในเชิงหลักคิดทั้งสองจะมองแบบแยกส่วนก็ได้ จะมองแบบองค์รวมก็ได้
ที่ว่าแยกส่วนหมายถึง การใช้งานคนที่ไม่ตรงกับความสามารถนั้น บางทีก็ไม่เกี่ยวกับที่คนๆ นั้นประจบสอพลอ แต่เป็นเพราะผู้บริหารบริหารงานไม่เป็น ไม่รู้ว่างานใดควรใช้คนแบบใด
กรณีแบบนี้มักเกิดกับผู้บริหารที่ได้เป็นผู้บริหารเพราะเรียนมาสูง แต่ไม่มีประสบการณ์ในการทำงานมาก่อน กล่าวอีกอย่างคือ ได้เป็นผู้บริหารเพราะวุฒิบัตร หรือได้มาเป็นผู้บริหารเพราะเป็นลูกท่านหลานเธอ
แต่ถ้ามองแบบองค์รวมแล้วจะเห็นได้ว่า การใช้คนไม่ตรงกับความสามารถมักแยกไม่ออกจากการใช้คนเพราะคนๆ นั้นประจบสอพลอ การมองแบบองค์รวมจึงตรงกับพุทธพยากรณ์เรื่องนี้มากกว่า และเป็นปัญหาที่หนักหน่วงในบ้านเมืองของเรามาช้านาน
กรณีนี้ทำให้คิดถึงข่าวหนึ่งที่เกิดเมื่อนานมาแล้ว ว่ามีข้าราชการคนหนึ่งผูกคอตายจากเหตุที่ผู้บังคับบัญชาส่งเสริมคนที่ประจบสอพลอ ข่าวรายงานว่า ข้าราชการคนนี้ขยันขันแข็งในหน้าที่การงานของตนจริงๆ ซึ่งก็ย่อมมีความหวังที่จะได้ก้าวหน้าหรือความดีความชอบบ้างเป็นธรรมดา
อย่างไรก็ตาม การฆ่าตัวตายดังกล่าวแม้จะเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ก็ตาม แต่การฆ่าตัวตายก็มิใช่ทางออกที่ถูกต้อง สิ่งที่ควรเป็นก็คือ ควรทำความเข้าใจกับสภาพดังกล่าวให้ดีว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร และพึงอยู่กับสภาพที่ว่าอย่างอดทนและมีความหวัง ว่าสภาพเช่นว่ามิใช่สภาพจีรังถาวรตลอดไป
แต่การที่ผู้บังคับบัญชาใส่ใจแต่คนที่ประจบสอพลอ จึงย่อมเป็นการทำลายขวัญกำลังใจของข้าราชการที่ดี บางกรณีเคยได้ยินมาว่า การประจบสอพลอมีถึงขั้นไปเล่นไพ่กับภรรยาของผู้บริหาร แล้วแสร้งทำเป็นแพ้ให้กับภรรยาของผู้บริหารเพื่อเอาอกเอาใจ
ที่น่าเศร้าก็คือ จนทุกวันนี้ยังมีคนที่ประจบสอพลอที่ได้ดิบได้ดีอยู่ไม่น้อย
สุบินนิมิตเรื่องที่ 5 : ม้ามี 2 ปาก
หนึ่งฝันว่า มีม้าก็สองปาก เห็นหญ้าอยากปากอ้าน้ำลายไหล บุรุษสองป้องป้อนจนอ่อนใจ หยิบหญ้าหย่อนยื่นให้ไม่เว้นวาย
ฝันนี้มีความหมายว่า ได้ฝันเห็นม้าตัวหนึ่งมี 2 ปาก มีชายสองคนนำหญ้ามาให้ม้ากินทั้งสองปาก โดยใช้ปากทั้งสองเคี้ยวกินหญ้า แต่ม้านั้นก็หาได้อิ่มพอกับการกินหญ้าแต่ประการใด
ฝันนี้มีผลอย่างไรหรือไม่ พระพุทธเจ้าข้า
พุทธโคดมทรงพยากรณ์สุบินนิมิตนี้ว่า ผลของความฝันนี้จะมีในอนาคตกาลเบื้องหน้าโน้น บุคคลผู้ที่มีหน้าที่ในการตัดสินคดีความต่างๆ จะใช้เล่ห์เหลี่ยมกลอุบาย และวิธีการอันสกปรก เพื่อหลอกเอาเงินทั้งฝ่ายโจทย์และจำเลยในการตัดสินคดีความ
โดยผู้พิพากษาจะตัดสินคดีความตามน้ำหนักของเงินสินบน ว่าฝ่ายไหนจะให้ตนมากกว่ากัน ถ้าฝ่ายจำเลยให้สินบนมากกว่าฝ่ายโจทย์ ก็จะตัดสินคดีความให้ฝ่ายจำเลยชนะหรือพ้นผิดไม่ต้องรับโทษ
เรื่องนี้ไม่เป็นอันตรายแก่มหาบพิตรอีกเช่นกัน ขอถวายพระพร
พุทธพยากรณ์ต่อสุบินนิมิตเรื่องนี้ดูเข้าเค้าปัจจุบันน้อยมาก เพราะผู้พิพากษาในปัจจุบันยังไม่สู้มีปัญหามากนัก ในแต่ละปีมีการลงโทษผู้พิพากษาที่กระทำผิดน้อยมาก แต่ถ้ารวมเอาผู้ที่อยู่กระบวนการยุติธรรมทั้งหมดมาพิจารณาด้วยแล้ว พุทธพยากรณ์เรื่องนี้ก็จะชัดขึ้น
นั่นคือ รวมเอาตำรวจและอัยการมาพิจารณาด้วย ซึ่งในปัจจุบันเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง เช่น การทำสำนวนสอบสวนให้อ่อนจนจำเลยพ้นความผิดของตำรวจ หรือการสั่งไม่ฟ้องหรือไม่อุทธรณ์ในคดีสำคัญของฝ่ายอัยการ เป็นต้น
จนทำให้คำว่า “คุกมีไว้ขังหมากับคนจน” เป็นจริงแม้ในทุกวันนี้