xs
xsm
sm
md
lg

การโน้มน้าวดึงดูดใจผู้เลือกตั้ง / Phichai Ratnatilaka Na Bhuket

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



"ปัญญาพลวัตร"
"พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต"

  ในช่วงการเลือกตั้ง บรรยากาศทางการเมืองมีความคึกคัก พรรคการเมืองแต่ละพรรคพยายามนำเสนอนโยบายและการกระทำที่มีลักษณะโน้มน้าวดึงดูดความสนใจของประชาชนเพื่อให้เลือกพรรคของตนเอง ด้านผู้นำพรรคต่างก็พยายามสร้างภาพลักษณ์ให้ผู้คนยอมรับ เพื่อเป็นฐานความชอบธรรมในการก้าวขึ้นไปเป็นผู้นำประเทศในอนาคต

การโน้มน้าวจูงใจผู้เลือกตั้งมีแนวทางที่สำคัญคือ การใช้นโยบาย การสร้างภาพลักษณ์ความเป็นผู้นำที่น่าเชื่อถือและสอดคล้องกับสถานการณ์ การสร้างความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสและความสามารถในการบริหารประเทศ และการแสดงจุดยืนทางการเมือง

 นโยบายที่มักนิยมนำมาใช้จูงใจประชาชนส่วนมากเป็นนโยบายประชานิยม อันได้แก่การเสนอผลประโยชน์ในเชิงรูปธรรมแก่ผู้เลือกตั้ง พรรคการเมืองแต่ละพรรคต่างก็ผลิตนโยบายจำนวนมากเพื่อให้ครอบคลุมประชากรในทุกกลุ่มอายุและอาชีพ กลุ่มที่พรรคการเมืองสนใจมากคือ กลุ่มที่มีสมาชิกเป็นจำนวนมากอันได้แก่ เกษตรกร ผู้ใช้แรงงาน กลุ่มพนักงานเอกชน กลุ่มผู้ประกอบการขนาดเล็กและกลาง กลุ่มคนจน กลุ่มผู้สูงอายุ และกลุ่มเยาวชน แต่บางพรรคอาจเน้นกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเป็นพิเศษมากกว่ากลุ่มอื่น ๆ ดังนั้นเราจึงเห็นนโยบายของพรรคส่วนใหญ่จะมีทิศทางในลักษณะนี้

อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากนโยบายประชานิยมแล้ว ก็ยังมีนโยบายบางอย่างของพรรคการเมืองบางพรรคที่มีความเชื่อมโยงกับความคิดและอุดมการณ์ทางการเมือง ที่เห็นได้ชัดเจนคือนโยบายทางการเมืองของบางพรรคที่เน้นการปรับเปลี่ยนโครงสร้างการเมืองและบรรทัดฐานดั้งเดิมของการบริหารราชการ เช่น การเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด การยกเลิกการเกณฑ์ทหาร บางพรรคอาจเน้นนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมเป็นพิเศษ โดยเฉพาะการผลักดันกฎหมายอากาศสะอาด การส่งเสริมเรื่องคาร์บอนเครดิต การพัฒนาที่ยั่งยืน บางพรรคก็มีนโยบายในเชิงพหุวัฒนธรรมนิยมและความเท่าเทียมทางเพศ หรือในกรณีที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจก็จะเน้นการขจัดการผูกขาดทางเศรษฐกิจ

นโยบายประชานิยมมีพลังในการจูงใจประชาชนที่มีฐานะทางเศรษฐกิจไม่ดีนัก แต่ประชาชนมิใช่ผู้เลือกตั้งไร้เดียงสา หรือคิดง่าย ๆ ว่า พรรคใดเสนอนโยบายที่ให้ผลประโยชน์มากกว่าแล้วจะเชื่อและเลือกพรรคนั้น ประชาชนใช้เหตุผลที่ซับซ้อนและหลากมิติในการตัดสินใจ อันได้แก่ แนวโน้มของการรักษาสัญญาของพรรคการเมืองหากได้เป็นรัฐบาล ข้อนี้ประชาชนจะดูการทำงานในอดีตของแกนนำของพรรคการเมือง หากพรรคการเมืองใดเคยหาเสียงเอาไว้ แต่เมื่อได้เป็นรัฐบาลแล้ว ไม่ปฏิบัติตามสัญญา ประชาชนก็จะไม่เชื่อถืออีกต่อไป

พลังของนโยบายในการจูงใจประชาชนยังเชื่อมโยงกับความเป็นไปได้ของพรรคการเมืองนั้นในการชนะเลือกตั้ง หากพรรคการเมืองใดมีแนวโน้มชนะการเลือกตั้งหรือมีแนวโน้มที่จะได้เป็นพรรคร่วมรัฐบาล จะส่งผลให้พลังจูงใจของนโยบายเพิ่มขึ้นไปด้วย เพราะประชาชนจะประเมินว่านโยบายนั้นมีโอกาสสูงที่ได้รับนำไปปฏิบัตินั่นเอง อย่างไรก็ตาม ในบางกรณีพรรคการเมืองบางพรรค แม้ว่ามีโอกาสเป็นรัฐบาลน้อย แต่ก็สามารถขับเคลื่อนนโยบายผ่านกลไกรัฐสภาอย่างแข็งขัน แม้ว่าอาจไม่ประสบความสำเร็จ แต่ก็แสดงให้เห็นถึงความพยายามในการรักษาคำมั่นสัญญากับประชาชน ส่งผลให้พรรคการเมืองนั้นได้รับความเชื่อถือ และทำให้นโยบายของพรรคมีพลังจูงใจไม่น้อยทีเดียว

ภาพลักษณ์ความเป็นผู้นำเป็นอีกปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกพรรคการเมือง ภาพลักษณ์เกิดได้ในสองลักษณะคือ *การสร้างขึ้นมาโดยมีการวางแผนของผู้สร้าง และการถูกสร้างโดยปราศจากการวางแผน การสร้างภาพลักษณ์แบบแรก ผู้สร้างเริ่มจากการประเมินว่าภาพลักษณ์ความเป็นผู้นำแบบใดบ้างที่เหมาะสมกับตนเองและจะได้รับการตอบรับในเชิงบวกจากสาธารณะ จากนั้นก็มีการออกแบบบุคลิก เสื้อผ้า ท่วงทำนองในการพูด การแสดงออกทางการเมือง และการเลือกกิจกรรมและการกระทำทางการเมืองที่สามารถตอกย้ำและขยายภาพลักษณ์ อย่างไรก็ตาม ภาพลักษณ์ที่ถูกออกแบบก็มิได้สอดคล้องกับภาพลักษณ์ที่ประชาชนรับรู้เสียทั้งหมด กล่าวคือ ออกมาและต้องการสร้างภาพลักษณ์บางอย่างขึ้นมา แต่ปรากฎว่าประชาชนรับรู้ภาพลักษณ์ในอีกแบบหนึ่ง

ภาพลักษณ์แบบที่สองเป็นภาพลักษณ์ที่ไม่ได้ออกแบบหรือวางแผนมาก่อน แต่มาจากการที่สังคมรับรู้และสรุปจากข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการกระทำของบุคคลนั้นทั้งในอดีตและปัจจุบัน ภาพลักษณ์ที่ไม่ได้วางแผนมาก่อนอาจเป็นได้ทั้งภาพลักษณ์เชิงบวก และภาพลักษณ์เชิงลบก็ได้ ภาพลักษณ์เชิงบวก เช่น การเป็นนักบริหารมืออาชีพ การเป็นนักประสานสิบทิศ การเป็นผู้นำที่ซื่อสัตย์ การเป็นผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ การเป็นผู้นำที่มากบารมี การเป็นนักประชาธิปไตย การยืนเคียงข้างประชาชน การเป็นนักต่อต้านการทุจริต การเป็นผู้ใหญ่ใจเมตตา การมีจิตใจที่กว้างขวางยอมรับความแตกต่าง การเป็นคนทันสมัยทันเหตุการณ์ การเป็นผู้ที่มีจุดยืนอุดมการณ์มั่นคง การกล้าตัดสินใจ

ส่วนภาพลักษณ์เชิงลบ เช่น นักการเมืองสีเทา เป็นผู้มีอิทธิพล การมีวุฒิภาวะต่ำไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตนเองได้ การเป็นผู้สืบทอดอำนาจเผด็จการ การไร้ความสามารถในการบริหารเศรษฐกิจของประเทศ การเอื้อประโยชน์เฉพาะกลุ่มทุน การชอบเอารัดเอาเปรียบผู้อื่น การมีทัศนคติที่ดูถูกประชาชน การมีข้อจำกัดทางสติปัญญา การเอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง การไม่ให้เกียรติผู้อื่น การเอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่ผู้อื่น การดีแต่พูด มีความอื้อฉาวเรื่องทุจริต หรือล่วงละเมิดทางเพศ การมีจิตใจคับแคบไม่ฟังผู้อื่น การเป็นผู้ที่ลื่นไหลไร้จุดยืน การนิยมความรุนแรง การโลเลไม่กล้าตัดสินใจ

ผู้นำคนหนึ่งมิได้มีภาพลักษณ์ใดภาพลักษณ์หนึ่งเพียงอย่างเดียว แต่มีหลายภาพลักษณ์เหลื่อมซ้อนกัน และประชาชนแต่ละกลุ่มจะให้น้ำหนักภาพลักษณ์แต่ละประเภทแตกต่างกัน ภาพลักษณ์อย่างหนึ่งอาจมีพลังจูงใจเชิงบวกสูงต่อคนกลุ่มหนึ่ง แต่อาจไม่มีผลอะไรกับคนอีกกลุ่มหนึ่ง และอาจสร้างความรู้สึกเชิงลบในบางกลุ่มก็ได้ อย่างภาพลักษณ์การเป็นคนใจถึงพึ่งได้ของนักการเมืองบางคน เป็นภาพเชิงบวกในกลุ่มผู้ยากจนในพื้นที่ชุมชน แต่อาจเป็นภาพด้านลบในกลุ่มชนชั้นกลางในเขตเมือง ความเป็นนักบริหารมืออาชีพมีความเชี่ยวชาญทางเศรษฐกิจมีผลบวกในกลุ่มชนชั้นกลางที่ประกอบอาชีพธุรกิจเป็นหลัก แต่มีผลไม่มากต่อกลุ่มที่เกษียณอายุ

 ผู้นำทางการเมืองต่างก็พยายามสร้างภาพลักษณ์ที่ประเมินแล้วว่าจะได้รับการตอบสนองเชิงบวกจากผู้เลือกตั้งส่วนใหญ่ และหากเป็นไปได้พวกเขาจะพยายามสร้างภาพลักษณ์เป็นผู้นำที่เหมาะสมกับสถานการณ์เฉพาะในบริบทของประวัติศาสตร์ เช่น หากผู้นำการเมืองคนใดมองว่าสังคมมีความขัดแย้งกัน เขาก็คิดว่าการมีภาพลักษณ์เป็นผู้ประสานความขัดแย้ง โอบรับทุกฝ่ายน่าจะเป็นภาพลักษณ์ที่สอดคล้องกับสถานการณ์ แต่หากผู้นำการเมืองคนใดคิดว่าสังคมไม่มีความขัดแย้งใด ๆ หรือไม่มีความจำเป็นใด ๆ ที่จะต้องปรองดอง เขาก็จะไม่สนใจภาพลักษณ์การเป็นนักประนีประนอม แต่จะสร้างภาพลักษณ์ที่เชื่อมโยงกับความเป็นตัวตนของเขาเอาไว้ เช่น การใช้ความรุนแรงและกฎหมายที่เข้มงวดกับผู้เห็นต่างหรือผู้ที่เขาคิดว่าเป็นปรปักษ์ หรือ การประกาศจุดยืนว่าจะไม่ร่วมมือกับพรรคการเมืองที่มีความเชื่อทางการเมืองแตกต่างจากตนเอง และรักษาความเป็นขั้วตรงข้ามทางการเมืองเอาไว้อย่างมั่นคง

การสร้างความเชื่อมั่นในการเป็นรัฐบาลเป็นประเด็นที่ดึงดูดใจผู้เลือกตั้งไม่น้อย เพราะผู้เลือกตั้งจำนวนมากเชื่อว่า หากพวกเขาสนับสนุนพรรคการเมืองที่ได้เป็นรัฐบาล ก็จะมีโอกาสที่จะได้รับประโยชน์ในภายหลัง ดังนั้นพรรคการเมืองเกือบทุกพรรคมีแนวโน้มที่หาเสียงด้วยการประกาศและตอกย้ำว่าพรรคตนเองได้เป็นรัฐบาลแน่นอน เช่น พรรคการเมืองบางพรรคประกาศว่าให้เลือกผู้สมัครพรรคตนเองทั้งแบบแบ่งเขตและแบบบัญชีรายชื่อ โดยไม่ต้องแบ่งปันให้พรรคอื่น เพื่อให้พรรคชนะอย่างเด็ดขาดและจะได้ไปจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียว

การประกาศจุดยืนทางการเมืองของตนเองอย่างชัดเจนของพรรคการเมืองเป็นอีกประเด็นหนึ่งที่มีความสำคัญในการเลือกตั้ง โดยเฉพาะหากในช่วงการเลือกตั้งมีประเด็นที่ประชาชนให้ความสนใจและมีการถกเถียงในวงกว้าง อย่างในการเลือกตั้งครั้งนี้มีประเด็นที่สำคัญอย่างน้อย 2 ประเด็นที่มีผลต่อการตัดสินใจของประชาชน ประเด็นแรกคือ การสนับสนุนหรือคัดค้านนโยบายกัญชาเสรี ประเด็นที่สองคือ การจับมือกันจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง ซึ่งมี 2 ประเด็นย่อยคือ พรรคการเมืองจำนวนหนึ่งประกาศไม่จับมือกับพรรคการเมืองที่สืบทอดอำนาจรัฐประหาร แต่มีพรรคการเมืองอีกจำนวนหนึ่งประกาศไม่จับมือกับพรรคการเมืองที่สนับสนุนการแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112 อย่างไรก็ตาม ก็มีพรรคการเมืองบางพรรคที่ไม่กล้าประกาศจุดยืน เพราะเกรงว่าจะเสียคะแนนนิยม

นอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้น พรรคการเมืองใดที่เป็นรัฐบาลระหว่างมีการเลือกตั้ง ก็มักจะใช้อำนาจรัฐเพื่อจูงใจผู้เลือกตั้งเสมอ อย่างรัฐบาลประยุทธ์ในขณะนี้ก็ใช้อำนาจคณะรัฐมนตรีอนุมัติการขึ้นเงินเดือนแก่ผู้บริหารและสมาชิกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อาสาสมัครสาธารณสุข กำนัน และผู้ใหญ่บ้าน แม้ว่ารัฐบาลจะบอกต่อสาธารณะว่าทั้งหมดเป็นเรื่องที่มีการเตรียมการมาอย่างยาวนานและไม่มีเจตนาในการหาเสียง แต่คำพูด สีหน้า ภาษากาย และการกระทำของผู้นำรัฐบาลในการปราศรัยกับผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทำให้ประชาชนยากที่จะเชื่อในสิ่งที่ผู้นำรัฐบาลกล่าวอ้าง คนจำนวนมากเชื่อว่าผู้นำรัฐบาลกระทำโดยมีเป้าหมายทางการเมืองแอบแฝงอย่างชัดเจน

 การโน้มน้าวดึงดูดใจเป็นกลยุทธ์ทั่วไปที่พบได้อย่างแพร่หลายในการเลือกตั้ง อย่างไรก็ตาม ในการแข่งขันทางการเมืองมักมีปรากฏการณ์คู่ขนานเกิดขึ้นเสมอ นั่นคือการบั่นทอนความน่าเชื่อถือ และที่หนักกว่านั้นคือการขจัดพรรคการเมืองคู่แข่งให้พ้นสนามการเลือกตั้ง ซึ่งในการเลือกตั้งครั้งนี้ก็เริ่มมีการใช้กลยุทธ์นี้มากขึ้น และเป็นเรื่องน่าสนใจที่จะต้องติดตามต่อไป



กำลังโหลดความคิดเห็น