xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

อวสานซีอีโอหมื่นล้าน “นอท กองสลากพลัส” บทเรียนรวยไวดับไว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผู้จัดการสุดสัปดาห์ -  ดูทรงคงไปไม่รอดแล้วสำหรับ “นอท” นายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ ซีอีโอกองสลากพลัส ที่เจอคดีสุมใส่ไม่ยั้งทั้งข้อหาฟอกเงิน จัดให้เล่นการพนันออนไลน์ ขายสลากเกินราคา โฆษณาเกินจริง แพลตฟอร์มถูกสั่งปิด แม้เจ้าตัวยังโวจะฟื้นชีวิตใหม่ดั่งนกฟีนิกซ์ที่เป็นโลโก้ของบริษัท 


วิบากกรรมของเสี่ยนอท ล่าสุด กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ซึ่งขยายผลการจับกุม  “บัญชีม้า”  แล้วพบเส้นทางเงินสีเทาพัวพันเว็บพนันออนไลน์ เชื่อมโยงมายังบัญชีของ “นอท กองสลากพลัส” ก็ฟันโช๊ะออกหมายเรียกนายพันธ์ธวัชมารับทราบข้อกล่าวหาคดี 288/2565 ร่วมกันฟอกเงิน และคดี 6/2566 ข้อหาร่วมกันจัดให้มีการเล่นการพนันออนไลน์ เมื่อวันที่ 31 ม.ค. 2565 ที่ผ่านมา

นอกจากสองข้อหาข้างต้นแบบจุกๆ แล้ว แพลตฟอร์มขายสลากออนไลน์กองสลากพลัส ยังต้องปิดการขาย ขณะเดียวกัน  “รองโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล  รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ได้สั่งฟ้องกองสลากพลัสในฐานความผิดจำหน่ายสลากเกินราคาและโฆษณาเกินจริงไปก่อนหน้านี้ เรียกได้ว่าตอนนี้ “เสี่ยนอท” มีคดีรออยู่ในแฟ้มเพียบ

กระนั้น เขาก็หาได้สะทกสะท้านไม่ แถมยังคุยว่าตอนนี้มี “นายทุนคนใหม่” ที่พร้อมควักจ่ายให้เขาเดินหน้าทำธุรกิจใหม่อีกต่างหาก

สำหรับคดีฟอกเงินและพนันออนไลน์นั้น นายพงษธร อินอำนวย ผอ.ศูนย์คดียาเสพติด กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ย้อนรอยสืบเนื่องจากคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ สืบสวนสอบสวนเว็บไซต์พนันออนไลน์ที่เปิดให้เล่นตลอด 24 ชั่วโมง กระทั่งพบข้อมูลบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายดังกล่าวมี “บัญชีม้า” รอรับการโอนเงินเข้าไปเล่นพนันออนไลน์หลายบัญชี และเมื่อมีการโอนเงินเข้าไปเล่นพนันออนไลน์จำนวนมาก กลุ่มขบวนการนี้จะโอนเงินจาก “บัญชีม้า” ไปยังบัญชีเครือข่ายอีกหลายทอด เมื่อตรวจสอบเส้นทางการเงินพบบัญชีของกลุ่มผู้ต้องหาทำธุรกรรมการเงินหน้าเคาน์เตอร์ธนาคารเบิกถอนเงินสดแล้วนำมาให้เครือข่าย ซึ่งเป็นตัวการหลักที่ควบคุม “บัญชีม้า” ก่อนนำเงินส่วนหนึ่งมาให้นายพันธ์ธวัชและคนอื่นๆ ในการทำกิจการผิดกฎหมายรวมทั้งรอรับผลประโยชน์จากกิจการที่ผิดกฎหมายดังกล่าว

“จากการสอบสวนยังพบนายพันธ์ธวัช มอบสลากฯ ถูกรางวัลที่ 1 ให้นายอรรถกานต์ นำไปขึ้นเงินรางวัลกว่า 53 ล้านบาท เพื่อสร้างหลักฐานการได้มาของทรัพย์สินอันเป็นกิจการที่ร่วมกระทำผิดกฎหมายเพื่อเปลี่ยนสภาพทรัพย์สินเกี่ยวกับการจัดให้มีการเล่นพนันออนไลน์ เพื่อปิดบัง ซุกซ่อนแหล่งที่มาของทรัพย์สิน อันเป็นความผิดมูลฐานร่วมกันฟอกเงินตาม ม.5 แห่ง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินฯ เบื้องต้นนายพันธ์ธวัชให้การปฏิเสธทุกข้อหาและถูกปล่อยตัวชั่วคราวตามกฎหมาย โดยมีเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศ” นายพงษธร กล่าว

ทั้งนี้ ดีเอสไอมีพยานหลักฐานเชื่อได้ว่าทั้งหมดเป็นการจัดให้มีการเล่นพนันและร่วมกันฟอกเงินจากบรรดากลุ่มทุนของเขาด้วย

ส่วนเรื่องที่ดีเอสไอ ส่งหนังสือขอให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ปิดแพลตฟอร์มกองสลากพลัสเนื่องจากพนักงานสอบสวนเจอความผิดทางอาญาจัดให้มีการเล่นพนัน แต่นายพันธ์ธวัช แสดงสปิริตขอปิดเว็บไซต์ของตัวเอง ด้วยการงดซื้อ-ขายลอตเตอรี่บนแพลตฟอร์ม


เวลาไล่เลี่ยกัน  นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์  โพสต์ภาพและข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว “ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์” ความว่า ด่วน! โดนแล้ว ข้อหาหนัก สั่งปิด “กองสลากพลัส” ดีเอสไอออกหมายเรียก “นอท กองสลากพลัส” เข้ารับทราบข้อกล่าวหา 2 คดี 1.คดี 288/2565 ข้อหาร่วมกันฟอกเงิน จากกรณีที่ “นอท” ร่วมกันฟอกเงินกับนายอรรถกานต์ หรือเฟย เพราะอ้างว่ามอบอำนาจไปให้เฟยขึ้นเงินรางวัลให้ แต่กลายเป็นว่าเงินที่รับมาจากเฟย เป็นเงินที่มาจากพนันออนไลน์

2.คดี 6/2566 ข้อหาร่วมกันจัดให้มีการเล่นการพนันและร่วมกันฟอกเงิน จากกรณีเส้นทางการเงิน 39 เส้นทาง มูลค่ากว่าพันล้าน มาจากทั้ง เอ็ดดี้ นอมินี และพวกพนันออนไลน์ทั้งหลาย โดยดีเอสไอ ส่งหนังสือถึงรัฐมนตรีกระทรวงดิจิทัลฯ เสนอให้ปิดแพลตฟอร์ม “กองสลากพลัส” แล้วยังอายัดบัญชีของบริษัท ลอตเตอรี่ออนไลน์ จำกัด ของ “กองสลากพลัส” และบัญชีส่วนตัวของ “นอท” ด้วย

นายชูวิทย์ ระบุว่า ดีเอสไอยุคใหม่ของอธิบดีสุริยา สิงหกมล และ ผอ.พงษธร อินอำนวย ทำงานรวดเร็ว เพื่อกอบกู้ชื่อเสียงขององค์กร เพราะเจ้าหน้าที่บางคนทำชื่อเสียมาก่อนหน้านี้ หลังจากนี้ “นอท” นั่งก็ไม่ได้ เดินก็ไม่ได้ ต้องวิ่งอย่างเดียว

อย่างไรก็ดี หลังถูกแจ้งข้อหาจากดีเอสไอ นายพันธวัช ยืนยันว่าไม่ได้กระทำตามที่ถูกกล่าวหา แต่เมื่ออยู่ภายใต้กฎหมายของไทย อยู่ในประเทศไทย ก็ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเพื่อไม่ให้กระทบต่อความเชื่อมั่น และขอยุติบทบาทการจำหน่ายลอตเตอรี่ออนไลน์ของกองสลากพลัสเพียงเท่านี้ และขอเวลาพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง ซึ่งคดีที่ถูกดีเอสไอแจ้งข้อกล่าวหานั้นไม่ได้รู้สึกหนักใจ เป็นเรื่องที่ต้องพิสูจน์ตามขั้นตอน พยานหลักฐานขณะนี้คาดว่าจะสู้ได้ 100% เพราะไม่ได้ทำตามที่ถูกกล่าวหาและสามารถชี้แจงเส้นทางเงินได้ทั้งหมด

เมื่อถูกถามว่าพยานหลักฐานเรื่องไหนที่ทำให้ถูกแจ้งข้อกล่าวหาครั้งนี้ นายพันธ์ธวัช ตอบว่า น่าจะเป็นแคชเชียร์เช็ค 53 ล้านบาท ที่รับมาจากนาย อ. หรือ นายอรรถกานต์ ผู้ถูกกล่าวหาตามหมายเรียกในคดีฟอกเงินพนันออนไลน์ ซึ่งตนยอมรับว่ารู้จักนายอรรถกานต์ แต่เคยเจอกันเพียงครั้งเดียว

นายพันธ์ธวัช ยืนยันด้วยว่า นาย อ. ไม่ใช่ นายเอ๊ดดี้ ตามที่นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล กล่าวอ้าง อย่างไรก็ตาม ตนรู้จักกับนายเอ๊ดดี้ เพราะเคยทำธุรกิจร่วมกัน แต่เจ๊งไปแล้ว และทราบว่าเขาทำธุรกิจที่ดิน โรงแรม ก่อสร้าง และไม่ทราบว่าเกี่ยวข้องกับการพนันหรือยาเสพติดหรือไม่ ส่วนกรณีเส้นทางเงิน 39 รายการ ก็ต้องพิสูจน์กันต่อไป

 “.... ผมขอเวลาในการพิสูจน์ตัวเอง และผมยืนยันว่าผมไม่ได้กระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวหา ผมไม่เคยฟอกเงินให้ใคร” นายพันธ์ธวัช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก และยังบอกว่า บริษัทอาจต้องหยุดชั่วคราว แต่ยังมีโปรเจคอื่นที่จะทำกันต่อประมาณ 3-4 โปรเจค ขอพักผ่อนสัก 15 วัน จะกลับมาขึ้นแพลตฟอร์มอื่นและเดินหน้าต่อไป  

เสี่ยนอท ยืนยันจะยังไม่เลิกจ้างพนักงาน และให้อยู่ทำงานด้วยกันต่อไปอีก 1 เดือน จะรับงานอื่นเพิ่มมากขึ้น เช่น บริษัทการตลาด บริษัทกฎหมาย ทีมงานโปรดักชั่น รวมถึงขายเสื้อ ขายของที่ระลึกของกองสลากพลัส เพื่อหารายได้ให้ได้เดือนละอย่างน้อย 6 ล้านบาท ให้ครอบคลุมรายจ่ายพนักงาน 200 คน

ส่วนเรื่องเงินทุนที่โดนอายัดไว้ นายพันธ์ธวัช กล่าวว่า ตอนนี้หากู้ใหม่ด้วยนายทุนที่ไม่มีปัญหา เราจะไปต่อ เพราะมีนายทุนให้โอกาส ขณะนี้ตนไม่มีเงินแล้ว บริษัทลอตเตอรี่ออนไลน์ไม่มีเงินแล้ว แต่จะหาทางไปต่อให้ได้ ทีมงานต้องอยู่ต่อไป


อย่างไรก็ดี คดีความที่เสี่ยนอทเจอยังแค่เริ่มต้น เพราะนับจากนี้จะมีการไล่อายัดทรัพย์สินของ “เสี่ยนอท กองสลากพลัส” ระหว่างทำธุรกิจแพลตฟอร์มลอตเตอรี่ออนไลน์ เพราะแว่วว่า นอกจากดีเอสไอโดยศูนย์คดียาเสพติดสั่งอายัดบัญชีธนาคารของนายพันธ์ธวัชไว้แล้ว ยังจะมีการอายัดอสังหาริมทรัพย์และสังหาริมทรัพย์เพิ่มเติมด้วย หากธุรกิจหรือทรัพย์สินรายการใดของนายพันธ์ธวัช ไม่ว่าจะเป็นบ้าน รถยนต์ ตึกแถว หากตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นทรัพย์สินที่ได้มาระหว่างการทำธุรกิจค้าขายสลากกินแบ่งออนไลน์กองสลากพลัส ดีเอสไอก็จะดำเนินการอายัดไว้ตรวจสอบทั้งหมด เพื่อดูว่ามีการนำเงินออกไปฟอกไว้ยังที่ใดอีกหรือไม่

สำหรับมูลค่ารายการทรัพย์สินที่ดีเอสไอได้อายัดไว้นั้น เบื้องต้นอยู่ระหว่างการแจ้งกลับมาของทางธนาคาร ซึ่งต้องนำรายการทรัพย์สินต่างๆ มาประมวลรวมกันอีกครั้ง และอยู่ระหว่างการไล่ตรวจสอบรายการทรัพย์สินของนายพันธ์ธวัช อีกหลายรายการ หากมีการยักย้ายถ่ายเท หรือมีบุคคลใด นิติบุคคลใดรับทรัพย์สินจากนายพันธ์ธวัชไป ก็อาจจะถูกแจ้งข้อกล่าวหาฟอกเงินได้เช่นเดียวกัน

ส่วนการปิดกั้นแพลตฟอร์มขายสลากออนไลน์นั้น  นายเวทางค์ พ่วงทรัพย์ รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ในฐานะ โฆษกกระทรวงดีอีเอส เผยว่า กระทรวงดีอีเอส ได้ประชุมเมื่อวันที่ 30 ม.ค. 2566 ร่วมกับผู้แทนสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล และผู้แทนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานประกอบคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวเพื่อปิดกั้นแพลตฟอร์มกองสลากพลัส ไม่ให้ดำเนินการขายสลากฯ จนกว่าศาลจะมีคำตัดสินให้ปิดกั้นเป็นการถาวร ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการไต่สวนของศาล

การดำเนินการปิดกั้นแพลตฟอร์มขายสลากออนไลน์ผิดกฎหมายนั้น นับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2565 กระทรวงดีอีเอส ได้ยื่นคำร้องต่อศาลในการขอปิดกั้นแพลตฟอร์มกองสลากพลัส และแพลตฟอร์มอื่นที่เข้าข่ายจำหน่ายสลากฯ อย่างผิดกฎหมาย ตามที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลได้แจ้งความดำเนินคดีต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จำนวน 15 แฟลตฟอร์ม ซึ่งศาลมีคำสั่งปิดกั้นแล้ว 12 แพลตฟอร์ม ส่วนที่เหลืออีก 3 แพลตฟอร์ม อยู่ระหว่างดำเนินการในชั้นศาล

 นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) แจงถึงสาเหตุที่ปิดแพลตฟอร์มกองสลากพลัสล่าช้าว่า กระทรวงฯ ยื่นต่อศาลเพื่อขอให้ปิดแพลตฟอร์มกองสลากพลัส ตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2565 แต่นายพันธ์ธวัช ซีอีโอกองสลากพลัส ใช้วิธีเลื่อนไม่มาไต่สวนที่ศาล คดีนี้ก็เลยเลื่อนยังไม่ได้ตัดสิน กระทรวงดีอีเอส จึงแก้ปัญหาโดยยื่นเรื่องขอคุ้มครองชั่วคราวไปที่ศาลเพื่อขอปิดชั่วคราวจะได้ไม่ต้องรอนายพันธ์ธวัช มาให้การ เพราะเรื่องนี้ยืดเยื้อมานาน มีความเสียหายต่อภาพรวมของประเทศ

ทั้งนี้ ศาลอาญา รับคำร้องขอปิดเว็บกองสลากพลัสไว้ไต่สวนวันที่ 6 ก.พ.นี้ เวลา 09.00 น. ขณะที่นายพันธ์ธวัช ชิงปิดแพลตฟอร์มเองไปก่อนหน้าตั้งแต่วันที่ 31 ม.ค.ที่ผ่านมา

รองโจ๊ก-พล.ต.อ.สุรเชษฐ์เล่าว่าในอดีตตนเองได้เป็นหัวหน้าชุดกวาดล้างดำเนินคดีกลุ่มแพลตฟอร์มที่จำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลออนไลน์เกินราคา รวมทั้งหมด 21 แพลตฟอร์ม รวมถึงกองสลากพลัส ซึ่งได้รวบรวมพยานหลักฐานและมีความเห็นสั่งฟ้องไปแล้ว 17 แพลตฟอร์ม ในฐานความผิดจำหน่ายสลากเกินราคาและโฆษณาเกินจริง ส่วนอีก 4 แพลตฟอร์ม ได้ยื่นหลักฐานเข้าต่อสู้คดี ขณะนี้จึงอยู่ระหว่างดำเนินการในชั้นศาล ส่วนกรณีของนายพันธ์ธวัช ที่เคยจับกุมในความผิดฐานจำหน่ายสลากเกินราคาและโฆษณาเกินจริงนั้นได้สั่งฟ้องไปเรียบร้อยแล้ว แต่ทราบว่าภายหลังกองสลากพลัสยังคงดำเนินการต่อโดยอ้างว่าเป็นค่าดำเนินการทางการตลาด ซึ่งคดีที่พบความผิดใหม่ก็เป็นเรื่องของคดีใหม่

ความผิดใหม่ที่ว่า ล่าสุด เมื่อวันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมา นายพันธ์ธวัชได้เข้าพบพนักงานสอบสอบ บก.ปคบ. หลังสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ร้องทุกข์กล่าวโทษบริษัท ล็อตเตอรี่ออนไลน์ฯ และนายพันธ์ธวัช ในข้อหา “ร่วมกันเสนอจำหน่าย และจำหน่ายสลากฯที่ยังไม่ได้ออกรางวัลเกินราคาที่กฎหมายกำหนด” โดยก่อนหน้านี้พนักงานสอบสวนเคยเรียกนายพันธ์ธวัช เข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้วหนึ่งครั้ง แต่เจ้าตัวขอเลื่อนเวลาออกไป พนักงานสอบสวนจึงออกหมายเรียกครั้งที่ 2 เพื่อดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาดังกล่าว

 พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ  ผบก.ปคบ. เผยว่าการแจ้งข้อกล่าวหาขายสลากฯเกินราคากับนายพันธ์ธวัช หากให้การรับสารภาพสามารถเปรียบเทียบปรับในชั้นพนักงานสอบสวนไม่เกิน 10,000 บาท แต่ถ้าปฏิเสธข้อกล่าวหาจะนำสำนวนส่งอัยการสั่งฟ้องต่อไป นอกจากนี้จะมีการตรวจสอบในเรื่องของการจดทะเบียนพาณิชย์ของบริษัทว่าถูกต้องหรือไม่ หากพบความผิดก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย

แพลตฟอร์มขายสลากออนไลน์มาไวก็ไปไว จะถึงคราวอวสานหรือไม่ วิเคราะห์กันได้ไม่ยาก ส่วนชะตากรรมของ “เสี่ยนอท พันธ์ธวัช” ก็ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานจะจบเห่ หรือจะแพ้เป็นถ่าน จะผ่านเป็นเพชร อย่างที่เจ้าตัวชอบยกมาปลุกปลอบใจตัวเองก็รอดูกัน

อย่าไม่ลืมว่าเส้นทางเงินสีเทากว่าพันล้านบาทที่วิ่งเข้าบัญชีเสี่ยนอทตามที่ดีเอสไอว่าไว้นั้นเป็นเงินสกปรก ส่งจากจากเจ้าของบ่อนพนันออนไลน์ทั้งหลาย ที่พีคสุดคือเส้นทางเงินจากบัญชีม้าของเว็บ fifa55 ซึ่งนอทเองเป็นเจ้าของ แล่นมาเข้าบัญชีส่วนตัวเขาด้วย

และว่ากันว่า อัตราค่าตอบแทนการฟอกเงินนั้น เจ้าของเงินสกปรกพร้อมจ่ายให้ระดับ 30-40 เปอร์เซ็นต์ กันเลยทีเดียว ซึ่งในกรณีของเสี่ยนอท มียอดเงินส่งมาฟอกกว่าพันล้าน ส่วนแบ่งที่แสนงามหากจะเจียดมาอัพโปรไฟล์ซื้อหาซูเปอร์คาร์ก็ทำได้สบายๆ

ทั้งหลายทั้งปวง ดูรูปการณ์แล้วข้อหาจากดีเอสไอ จึงส่อแนวโน้มสามารถดับอนาคต “ซีอีโอหมื่นล้าน” ได้ไม่ยาก เช่นเดียวกับแพลตฟอร์มกองสลากพลัสที่ดังเปรี้ยงปร้าง โฆษณาทั่วบ้านทั่วเมืองก็คงจบอนาคตทางธุรกิจไปพร้อมกับซีอีโอแบบไปอย่าหวังฟื้นชีพดั่งนกฟีนิกซ์ แม้เสี่ยนอทจะแก้ตัวน้ำขุ่นๆ ว่าไม่เคยฟอกเงินให้ใคร แต่จากหลักฐานเส้นทางเงินสีเทาที่ชัดแจ้งในทางกฎหมาย ดูทรงแล้ว  “น่าจะรอดยาก” 


กำลังโหลดความคิดเห็น