xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

“เสี่ยนอท กองสลากพลัส” ลุ้น “เป็นถ่าน” เจอโจทย์หินเชื่อมเครือข่าย “นายบ่อนใหญ่-บิ๊กเว็บพนันหนีคดี”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


นายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ หรือ “นอท กองสลากพลัส” แถลงข่าวหลังเข้าให้การกับดีเอสไอ
ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - อยู่ไม่เป็น เย็นไม่พอ รอไม่ได้ กลายมาเป็นความซวยซ้ำซวยซ้อนของ “เสี่ยนอท กองสลากพลัส” ที่ยิ่งดิ้นคดีความยิ่งมัดตัวและความพัวพันกับทุนสีเทาเบื้องหลังความรวยโยงใยขบวนการฟอกเงินยิ่งฉายภาพชัดเจน ตามที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กำลังสืบสวนสอบสวนการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินเงินทองของแก๊งอาชญากรรม ซึ่งโยงมาถึง “เสี่ยนอท” 

เส้นทางเงินสีเทาที่ว่านี้ขยายผลจากคดีพิเศษที่ 288/2565 จากหลัก 53 ล้านบาท พุ่งทะยานขึ้นสู่หลักพันกว่าล้านบาท จาก 39 เส้นทางเงิน ซึ่งดีเอสไอได้แยกออกเป็นอีกคดีคือคดีพิเศษเลขที่ 6/2566 นับเป็นความซวยที่มาเร็วราวติดจรวด แม้จะยังไม่ได้มีการแจ้งข้อหา “เสี่ยนอท” ก็ตามที

ยัง ...ยังไม่พอ เพราะ  พ.ท.หนุน ศันสนาคม  ผอ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เจ้ากรรมนายเวรอีกหนึ่งของนายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ ซีอีโอบริษัท ลอตเตอรี่ออนไลน์ จำกัด หรือ “เสี่ยนอท กองสลากพลัส” เจ้าของแพลตฟอร์มขายหวยออนไลน์กองสลากพลัส ได้ระดมทีมร่วมกับ พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. นำกำลังตำรวจดีเอสไอ ปปง. สคบ.และสรรพากร บุกเข้าตรวจสอบสำนักงานของกองสลากพลัส ควานหาหลักฐานความผิดขายสลากเกินราคา ทำให้ “เสี่ยนอท” ออกมาโวยวายว่าเป็นการจ้องจับผิดเตะสกัดกองสลากพลัสที่เป็นคู่แข่งโดยตรงของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล

ยุทธการดับ “เสี่ยนอท” ดาวรุ่งของวงการค้าสลากออนไลน์ ยิ่งมาก็ยิ่งชัด และดูทรงแล้ว “เสี่ยนอท” ซึ่งไต่ระดับจากอาชีพแมสเซนเจอร์เงินเดือน 7 พันกว่าบาท สู่ความมั่งคั่งยกฐานะเป็น “เศรษฐีหมื่นล้าน” คงรอดพ้นวิบากกรรมได้ยากยิ่ง ดังที่ “เสี่ยชูวิทย์” นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองที่ผันตัวเองมาจากอดีต “เสี่ยอ่าง” ว่าไว้ว่าเรื่องทำนองนี้พี่เจอมาหมดแล้ว และถึงตอนนี้สภาพของ “เสี่ยนอท” ต้องเรียกว่าอยู่ในภาวะฝีแตกคือเอาไม่อยู่แล้ว แม้ว่าเขาจะพยายามปลุกปลอบใจตัวเอง  “แพ้เป็นถ่าน ผ่านเป็นเพชร”  ทั้งยังเตรียมตั้งพรรคการเมืองชื่อ  “เปลี่ยน”  ชูนโยบายแก้ปัญหาสลากเกินราคาเอาใจมวลชนนักเสี่ยงโชค และวาดหวังว่าการเข้าสู่วงการเมืองจะเป็น  “ไม้กันหมา”  ให้เขาก็ตามที

แกะรอยที่มาทรงอย่างแบด แซดอย่างบ่อยของ “เสี่ยนอท” ที่รุ่นพี่ชูวิทย์ ไล่เรียงลำดับความซวยของ “เสี่ยนอท” จากการคบค้าสมาคมกับกลุ่มทุนสีเทา ว่าความซวยยกที่หนึ่ง เริ่มจาก  นาย “ล” ลูกชายจ่า “มนายบ่อนใหญ่ ทำเว็บพนันออนไลน์ร่วมกับ  นาย “อ” ชื่อเล่น “เฟย” หลานชายจ่า “ม” เช่นกัน ส่งลูกน้องไปหวดทำร้าย “บัญชีม้า” แบบไม่ยั้งเพราะดันไปอมเงิน โหดชนิดที่ “เสี่ยชูวิทย์” เตือนว่าใครคิดจะเปิดบัญชีม้าให้ดูไว้ให้ดี ไม่เจ็บตัวก็เสี่ยงคุก ได้เงินหลักร้อย แต่พอเห็นเงินเข้ามาความโลภขึ้นสมอง

คดีทำร้ายบัญชีม้าไปถึงมือ DSI สืบสาวราวเรื่องโยงเส้นทางเงินไปมา ดันมีเส้นทางเงินเป็นแคชเชียร์เช็คจ่ายไปให้ที่ “กองสลากพลัส” 2 ฉบับ รวม 53 ล้านบาท DSI เลยตั้งแท่นคดีเลขที่ 288/65 เมื่อวันก่อนเพิ่งเรียกตัว “เสี่ยนอท” ให้ไปชี้แจงที่มาของเงิน ที่ว่ากันว่านาย อ. และนาย ท. โอนมาที่บัญชี “กองสลากพลัส”

ตามมาด้วยความซวยยกที่สองโดยขยายผลจากคดีแรกที่ยังไม่จบซ้ำกลับลุกลามเหมือนไฟไหม้ป่า เมื่อ DSI สืบเส้นทางการเงินต่อ ไปเจอเส้นเงินจากทุนไทยเทาอีก 39 เส้น รวม 1,090 ล้าน แถมบางเส้นมาจากเจ้าของเว็บพนันรายใหญ่ที่หนีไปเสวยสุขอยู่อังกฤษ ซื้อโรงแรมหรูกลางกรุงลอนดอน จน DSI ต้องตั้งเป็นคดีใหม่อีกคดี เลขที่ 6/66

“เสี่ยชูวิทย์” เล่าต่อว่า เท่านั้นยังไม่พอ ตำรวจเกิดขยันขึ้นมากะทันหัน สนธิกำลังไปบุกออฟฟิศกองสลากพลัส ข้อหาขายลอตเตอรี่เกินราคา เอาเปรียบผู้บริโภคเข้าไปอีก เป็นซวยซ้ำซวยซ้อนยกที่ 3

“เสี่ยชูวิทย์” สอนเสี่ยรุ่นน้องว่า ต้องเข้าสุภาษิตชูวิทย์ “อยู่ให้เป็น เย็นให้พอ รอให้ได้” เพราะหากอยู่เมืองไทยแล้ว เย็นไม่พอ รอไม่ได้ ล้วนมีเรื่องเดือดร้อนไม่หยุดหย่อนตามมาเป็นพรวน

“ความสุขต้องออกไปค้นหา แต่ความซวยมันมาเยือนโดยไม่รู้ตัว เรื่องแบบนี้ ผมผ่านมาหมดแล้ว” นายชูวิทย์ ระบุ และยังทิ้งท้ายด้วยว่า “นับวันพนันออนไลน์จะกร่างสุดๆ ตำรวจไซเบอร์ และ DSI ช่วยจัดการทีเถอะ ทำกันมากไป ตีกันเหมือนหมูเหมือนหมา นี่มันคน และมีลูกร้องไห้อยู่ด้วย หากอยากรู้เรื่องมากกว่านี้ จะจัดให้ครับ แต่ตำรวจไซเบอร์คงไม่เรียกมาเคลียร์นะครับ ส่วน ล. และ ฟ. คือใคร? DSI รู้ดี ลูกหลานใครเดาไม่ยาก!”

กล่าวสำหรับเส้นทางการโอนเงินที่เชื่อมโยงกับ  “นายแทนไท ณรงค์กูล” นั้น “เสี่ยนอท” ตอบคำถามนักข่าวว่า รู้จักกับนายแทนไทจริง แต่ไม่ทราบว่านายแทนไทเกี่ยวข้องกับการพนัน ตนเองเพียงนำแพลตฟอร์มกองสลากพลัสไปบรรยายให้นายแทนไทฟัง เพื่อขอยืมเงินและบอกถึงวิธีที่จะชำระหนี้ ทราบเพียงนายแทนไทมีเงินมาจากการซื้อ-ขายคริปโตเคอร์เรนซีเท่านั้น

“ยอมรับรู้จักนายแทนไท ณรงค์กูล ปี 2564 ในเว็บบอร์ดเดียวกัน แต่รู้จักเป็นการส่วนตัว 10 ธันวาคม 2564 ขายลอตเตอรี่ได้ 1.2 ล้านใบ มีลูกค้า 4 แสนกว่าคน รู้จักได้ปีกว่าตอนไปกู้เงิน เพราะต้องการให้ธุรกิจโตไปที่ 3 ล้านใบ เพราะธนาคารไม่ให้กู้ ไม่รู้แทนไททำอะไรบ้าง รู้แค่เทรดคริปโตเคอร์เรนซี ผมยืนเงินแทนไท เป็นเงินถูกกฎหมาย เทรดคริปโตฯ ก่อนหน้านั้นไม่รู้ ได้จ่ายดอกเบี้ย 15 เปอร์เซ็นต์ต่อเดือน ความจริงมีแค่นี้” นายพันธ์ธวั กล่าว

พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร.ประธานคณะทำงานเฉพาะกิจตรวจสอบผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลเสนอขายหรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคาเกินกว่าที่กำหนดในสลากกินแบ่งรัฐบาล พร้อม จนท.ที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจค้น บริษัท ลอตเตอรี่ออนไลน์ จำกัด(กองสลากพลัส) ซึ่งตั้งอยู่บริเวณอาคารเอสเอสพี ทาวเวอร์ 1 (SSP Tower 1) ซอยสุขุมวิท 63
คำชี้แจงของ “เสี่ยนอท” ดังกล่าวข้างต้น จะฟังขึ้นหรือไม่ อีกไม่นานก็คงรู้เพราะดีเอสไอกำลังรวบรวมพยานหลักฐานอย่างขะมักเขม้น ซึ่งก่อนหน้าจะถูกปลดฟ้าผ่า  นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)  ยืนยันเมื่อวันที่ 17 ม.ค. ว่า พนักงานสอบสวนมีพยานหลักฐานชัดเจนที่จะดำเนินคดีโดยหลักฐานที่พบในคดีแรกเป็นแคชเชียร์เช็คที่ออกจากผู้ชาย 2 คน คือ นาย อ. กับ นาย ท. โอนมาที่บัญชีของ “ผู้บริหารกองสลากพลัส”

“นายพงษธร อินอำนวย” ผอ.ศูนย์คดียาเสพติด กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยเมื่อวันที่ 19 มกราคม 2566 หลังนัดหมายพยานทั้ง 7 ราย เข้าให้ถ้อยคำในคดีที่พบว่ามีการรับโอนเงินจากผู้ต้องหาในคดีพนันออนไลน์ที่ถูกดีเอสไอจับว่า เป็นกลุ่มซึ่งอยู่ในสำนวนการสอบสวนคดีพิเศษที่ 288/2565 ที่จับผู้ต้องหาเปิดบัญชีม้าของเว็บไซต์พนันออนไลน์ และพบมีการโอนเงินไปให้หลายบุคคลโดยเฉพาะนายพันธ์ธวัชประมาณ 53 ล้านบาท ส่วนในกลุ่มทั้ง 7 คนนี้ ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา มีเงินหมุนเวียนรวมกว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งทุกคนต้องเข้ามาให้ถ้อยคำถึงที่มาของเงินดังกล่าวว่ามีที่มาจากธุรกิจอะไรบ้าง ส่วนนายพันธ์ธวัชที่เข้ามาให้ถ้อยคำไปแล้วได้ขอเลื่อนนำเอกสารทางการเงินมาให้ในวันที่ 26 ม.ค.นี้

ส่วนที่แยกออกมาเป็นอีกคดีพิเศษเลขที่ 6/2566 เกี่ยวข้องคดีฟอกเงินและพบพยานหลักฐานเป็นเส้นทางการเงินอีก 39 เส้นทาง มูลค่ากว่า 1,100 ล้านบาทนั้น นายพงษธรระบุมีเส้นทางการเงินเข้ามาที่นายพันธ์ธวัชผิดปกติและน่าสงสัยว่าเป็นเงินที่ได้มาจากธุรกิจผิดกฎหมาย ซึ่งจะตรวจสอบต่อไป

ไม่เพียงแต่ดีเอสไอเท่านั้นที่กำลังไล่ถลุงซีอีโอของกองสลากพลัส เจ้ากรรมนายเวรของ “เสี่ยนอท” อีกหนึ่งที่ตามขยี้และมีคดีความระหว่างกันอยู่ก็คือ  พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ ก็ได้ทีฉวยจังหวะที่ “เสี่ยนอท” กำลังเมามัดยืนพิงเชือก เข้ามอบพยานหลักฐานและเบาะแสข้อมูลให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยอ้างว่าหลักฐานที่ใช้เวลารวบรวมมานานกว่า 7-8 ปี เชื่อมโยงเครือข่ายทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง ชี้ให้เห็นเส้นทางเงินที่ผ่านมาแล้วหลายปี วนเวียนอยู่ในเครือข่ายมีมูลค่านับหมื่นล้านไม่รวมทรัพย์สินในต่างประเทศ ซึ่งเส้นทางเงินที่ดีเอสไอดำเนินการจับในเวลานี้เป็นช่วงปลาย

ว่ากันว่าคดี “เสี่ยนอท กองสลากพลัส” สังคมให้ความสนใจอย่างยิ่ง และพนักงานสอบสวนตั้งใจทำผลงานเต็มที่ท่ามกลางกระแสข่าวทีมชุดทำคดีถูกกดดันอย่างหนักเพื่อให้หยุดขยายผล ซ้ำยังปล่อยข่าวดีสเครดิตว่ามีการเรียกรับผลประโยชน์ ขณะที่  “ม.ตัวพ่อ” ขาใหญ่บ่อนพนันคนดังที่นายชูวิทย์ กล่าวถึง ก็กำลังดิ้นรนอย่างหนัก เพราะเกรงว่าพยานหลักฐานสาวจะสาวมาถึงตัว

งานนี้สังคมคงต้องเอาใจช่วยทีมทำคดีและผู้บังคับบัญชาต้องปกป้องการทำหน้าที่ของทีมฯ เพื่อสร้างผลงานชิ้นโบแดงของดีเอสไอ เรียกความเชื่อมั่นศรัทธาจากสังคมในโมงยามที่เจ้าหน้าที่ดีเอสไอบางคนร่วมกับตำรวจและทหารบางนายทำเรื่องฉาวโฉ่ตบทรัพย์แก๊งทุนจีนสีเทา

ไม่เพียงแต่กรรมไล่ล่าจากการเข้าไปพัวพัวขบวนการฟอกเงินเท่านั้น ในเชิงธุรกิจ “เสี่ยนอท กองสลากพลัส” ดูทรงคงไปต่อไม่ราบรื่นเหมือนที่ผ่านมา เพราะไหนเม็ดเงินที่จะใช้หมุนเวียนในการนำมาซื้อสลากต้องถูกตรวจสอบเส้นทางเงินอย่างละเอียดยิบ ไหนจะถูกจับจ้องจากการขายสลากเกินราคา ซึ่งจะว่าไปผู้ค้าสลากฯ ไม่ว่าเจ้าไหนก็ต่างขายเกินราคาที่กำหนดแทบทั้งสิ้น เพียงแต่ตอนนี้ดูเหมือนว่า “เสี่ยนอท กองสลากพลัส” จะถูกล็อกเป้ากลายเป็นเขตกระสุนตกไปซะอย่างงั้น

ยุทธการดับดาวรุ่งกองสลากพลัสด้วยข้อหาขายสลากเกินราคานั้น มีการบุกเข้าตรวจสอบบริษัท ลอตเตอรี่ออนไลน์ จำกัด (กองสลากพลัส) ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มขายสลากกินแบ่งรัฐบาลออนไลน์ “กองสลากพลัส” เลขที่ 555/57 อาคารเอสเอสพี ทาวเวอร์ 1 ซอยสุขุมวิท 63 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม. ตามหมายค้นศาลอาญากรุงเทพใต้ เมื่อวันที่ 16 ม.ค. ที่ผ่านมา

พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวว่าการเข้าตรวจค้นเป็นผลสืบเนื่องจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เข้าแจ้งความกับตำรวจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) พบกองสลากพลัสมีพฤติการณ์ขายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคาและมีจำนวนสลากฯมาก คาดเกิดจากการกว้านซื้อเข้าข่ายหลอกลวงประชาชน จึงต้องตรวจสอบว่าเข้าข่ายผิดกฎหมายหรือไม่ โดยการบุกค้นในวันดังกล่าว “เสี่ยนอท กองสลากพลัส” นำการตรวจค้นนานเกือบ 2 ชั่วโมง

อย่างไรก็ตาม พล.ต.ท.ประจวบ กล่าวว่า การเข้ามาตรวจสอบตามคำร้องทุกข์ของสำนักงานสลากฯ และให้หน่วยงานต่างๆ ทั้ง สคบ. ปปง. กรมสรรพากร เข้ามาเก็บหลักฐานที่เกี่ยวข้องตามอำนาจของแต่ละหน่วยงาน ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาใดๆ กับนายพันธ์ธวัช นอกจากข้อหาจำหน่ายสลากฯเกินราคา

พ.ท.หนุน ศันสนาคม ผอ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า การเข้าตรวจค้นสำนักงานของกองสลากพลัส เป็นการเก็บข้อมูลสลากฯทุกใบในงวดวันที่ 17 ม.ค. 66 ที่มีสลากฯจริงทั้งหมดเกือบ 11 ล้านใบ ทั้งนี้ จะเก็บข้อมูลย้อนหลังทุกใบเพื่อตรวจสอบว่าสลากฯแต่ละใบเป็นของใคร เพื่อตัดโควตาของคนที่ขายส่งให้กับกองสลากพลัส คาดว่าจะเริ่มตัดโควตางวดวันที่ 16 มี.ค. 66 หรืองวดวันที่ 1 เม.ย. 66 เพราะต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ ส่วนกองสลากพลัส จะสามารถทำธุรกิจต่อได้หรือไม่นั้น สำนักงานสลากฯไม่มีอำนาจสั่งให้หยุดดำเนินการ ผู้ที่สามารถสั่งให้หยุดได้ คือกระทรวงดิจิทัลฯ ซึ่งต้องได้รับคำสั่งจากศาลอีกที

พ.ท.หนุน ยังระบุด้วยว่า กรณีผู้ซื้อสลากฯผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ มีตัวแทนจากแพลตฟอร์มมามอบเงินรางวัลให้เต็มจำนวนโดยไม่มีการหักภาษีหรืออากรแสตมป์ จะเท่ากับว่าผู้ถูกรางวัลนั้นมีหน้าที่จะต้องนำเงินรางวัลมายื่นเสียภาษีเงินได้บุคคลกับกรมสรรพากรด้วย เพราะตามกฎหมาย รางวัลสลากฯจะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้ก็ต่อเมื่อผู้ถูกรางวัลต้องเอาบัตรประชาชนไปยื่นรับจากสำนักงานสลากฯด้วยตัวเอง หรือช่องทางที่สำนักงานสลากฯกำหนด เช่น สาขาธนาคาร เป็นต้น

“ผมไม่ได้ร้องทุกข์เฉพาะแพลตฟอร์ม กองสลากพลัส แต่ไปแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินการกับแพลตฟอร์มที่จำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคาทุกแพลตฟอร์ม ปัจจุบันศาลมีคำสั่งระงับการทำให้แพร่หลายหรือปิดเว็บไซต์ไปแล้ว 12 แพลต ฟอร์ม อยู่ระหว่างการอุทธรณ์ กระทรวงดิจิทัลฯอีก 2 แพลตฟอร์มและอยู่ระหว่างการไต่สวนของศาลอีก 1 แพลตฟอร์ม ขอยืนยันสำนักงานสลากฯ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้นกับแพลตฟอร์มกองสลากพลัส ไม่เคยให้สิทธิจำหน่ายสลากฯ และการขายสลากฯของแพลตฟอร์มดังกล่าว ก็ไม่สามารถควบคุมผู้ซื้อที่อายุต่ำกว่า 20 ปีได้” ผอ.สำนักงานสลากฯ ระบุ

พ.ท.หนุน ยังชี้ว่า ก่อนหน้านี้มติ ครม.ปี 51 ระบุชัดเจนว่า สลากฯ เป็นการพนัน ห้ามสำนักงานสลากฯโฆษณาซื้อ-ขายประชาสัมพันธ์ ทำได้เพียงลักษณะของการให้ความรู้ แต่ปัจจุบันแพลตฟอร์มขายสลากออนไลน์มีพฤติการณ์เข้าข่ายการโฆษณาเต็มไปหมด ส่วนการที่สำนักข่าวต่างๆ ลงข่าวคนถูกรางวัลที่ 1 ถือเป็นการโฆษณาด้วยหรือไม่นั้น ได้ทำหนังสือไปถึงหน่วยงานที่ควบคุมสื่อในเรื่องนี้แล้ว

คล้อยหลังการเจอบุกตรวจค้น “เสี่ยนอท” ก็แถลงข่าวตอบโต้ยืนไม่ได้ขายสลากเกินราคาแต่อย่างใด ทั้งที่ก่อนหน้านี้ “เสี่ยนอท” พูดมาตลอดว่าผู้ค้าสลากฯ ต่างมีต้นทุนดำเนินการในการขายสลากทำให้ขายสลากเกินราคากันแทบทั้งนั้น

เสี่ยนอทประกาศตั้ง “พรรคเปลี่ยน”
ความไม่อยู่กับร่องกับรอยของ “เสี่ยนอท” ยังเห็นได้จากการตอบคำถามที่ออกจะสับสนปนเป เมื่อถูกถามย้ำว่าการไปกว้านซื้อสลากมายังไงก็ซื้อเกินราคา 80 บาทอยู่แล้ว ดังนั้นการขายที่ใช้ว่าเพิ่มค่าบริการเป็นการเลี่ยงบาลีหรือไม่ นายพันธ์ธวัช ตอบว่า มีการทำมานานแล้วแต่ทำไมเพิ่งมาตื่นตอนที่มีกองสลากพลัส หน้าที่ที่ต้องแก้กลับไม่แก้ แต่มาโยนความผิดให้กับกองสลากพลัส มันใช่หรือ

“เสี่ยนอท” ยังกล่าวว่า การตรวจค้นมีการเก็บเอกสารหลายอย่าง ทั้งแฟลชไดรฟ์ รู้สึกว่าการตรวจสอบลอตเตอรี่ 70 ใบ ทำไมเก็บพยานหลักฐานมากขนาดนี้ ยืนยันว่าไม่ได้จำหน่ายเกินราคา ยังเป็นผู้บริสุทธิ์ ทราบว่า การมาตรวจค้นเพื่อหาข้อผิดพลาด แล้วยื่นปิดแพลตฟอร์มกองสลากพลัส ตอนนี้มีคดียื่นปิดแพลตฟอร์มในศาลอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องเข้ามาตรวจค้น การจำหน่ายลอตเตอรี่ไม่มีใบอนุญาตขาย ทุกคนขายได้ เรื่องนี้เคยหารือไปยัง ครม.ชุดก่อนหน้านี้แล้ว และยอมรับกว้านซื้อ แต่ประเทศไทยไม่มีกฎหมายห้ามกว้านซื้อ ทุกคนกว้านซื้อกันทั้งนั้น กว้านซื้อมานานแล้ว ระบบเป็นอย่างนี้ ทุกคนรู้ว่าลอตเตอรี่แพงมา 10 ปีแล้ว

นายพันธ์ธวัช CEO ของกองสลากพลัส ยังกล่าวผ่านไลฟ์สดของเพจเฟซบุ๊ก กองสลากพลัส ระหว่างการแถลงข่าวกรณีเจ้าหน้าที่บุกตรวจค้นสำนักงานฯ ด้วยว่า ด้วยความตั้งใจแก้ไขปัญหาสลากแพงคิดว่าจะต้องทำผ่านนโยบายทางการเมืองที่ได้รับความเห็นชอบและสนับสนุนจากประชาชน ดังนั้น จึงเตรียมตัวทำงานการเมืองไว้นานแล้ว ภายใต้ชื่อ  “พรรคเปลี่ยน”  ซึ่งได้ยื่นจดแจ้งจัดตั้งพรรคตั้งแต่วันที่ 31 ส.ค. 2565 ขณะนี้อยู่ระหว่างรอ กกต.ประชุมรับรองพรรคการเมือง หลังจาก กกต.รับรองพรรคแล้ว จะเปิดรับสมัครสมาชิกต่อไป

 “เสี่ยนอท” ยังประกาศว่าในการเลือกตั้งครั้งหน้าจะลงสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 ของพรรคด้วย โดยเรื่องที่พรรคอยากจะแก้ไขมากที่สุดคือปัญหาของสลากกินแบ่งรัฐบาลไทย ใครไม่กล้าพูด ใครไม่กล้าแก้ พรรคเปลี่ยนจะขออาสาทำเอง 

การขายสลากเกินราคา เป็นปัญหาคู่วงการมานานนมขึ้นอยู่กับว่าจะหยิบจับขึ้นมาเป็นประเด็นเมื่อไหร่ และใครบ้างจะเป็นเป้าสอย ซึ่งกระแสการไล่บี้เอาผิดเกี่ยวกับการขายสลากเกินราคาคราวนี้มีคน “หิวแสง” ไม่น้อย หนึ่งในนั้นคือ นายถาวร เสนเนียม ประธานพรรคไทยภักดี เกาะขบวนตรวจสอบสลากเกินราคาด้วยการเข้ายื่นหนังสือต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เมื่อวันที่ 16 ม.ค. 2566 ที่ผ่านมา

นายถาวร กล่าวหาคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล และ พ.ท.หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ซึ่งดำรงตำแหน่งตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 2558-ปัจจุบัน ว่า เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบกรณีละเลยเพิกเฉย และไม่ดำเนินการแก้ไขปัญหาการขายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคา 80 บาท เนื่องจากปรากฏข้อเท็จจริงว่า บริษัท ลอตเตอรี่ออนไลน์ จำกัด ได้เสนอขายสลากกินแบ่งรัฐบาลผ่านแพลตฟอร์มกองสลากพลัสเกินราคา 80 บาท มาเป็นเวลามากกว่า 1 ปี และมีแพลตฟอร์มอื่นอีกจำนวนได้มีการเสนอขายหรือขายสลากกินแบ่งเกินราคาเช่นเดียวกับกองสลากพลัสมาเป็นเวลานาน

อย่างไรก็ดี ประเด็นร้อนว่าด้วยเรื่องสลากฯ นอกจากเรื่อง “เสี่ยนอท” พัวพัวขบวนการฟอกเงิน การขายสลากเกินราคาของบรรดาแพลตฟอร์มต่างๆ แล้ว ยังมีประเด็นการห้ามโฆษณา ประชาสัมพันธ์การซื้อขายสลากฯ ที่ ผอ. สำนักงานกองสลากฯ ทำหนังสือไปถึงหน่วยงานที่ควบคุมสื่อให้จัดการ โดยเฉพาะกรณีกองสลากพลัส ที่มีข้อหาพัวพันขบวนการฟอกเงินอยู่ด้วย

เรื่องดังกล่าวนายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแล อสมท. ได้ให้ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ อสมท. ที่กองสลากพลัสได้ซื้อโฆษณาไปพิจารณาว่าสามารถดำเนินการต่อไปได้หรือไม่

ส่วนโฆษณากองสลากพลัสที่ติดหราตามรถเมล์ที่วิ่งทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑลนั้น นายกิตติกานต์ จอมดวงจารุวรพลกุล ผู้อำนวยการ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก”.) โบ้ยว่า ขณะนี้ทางกองสลากพลัสไม่ได้มีการเจรจาขออนุญาตติดป้ายโฆษณากับรถโดยสารของขสมก.

เช่นเดียวกันกับนายสัญลักข์ ปัญวัฒนลิขิต กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ที่ปัดว่า ปัจจุบันทางกองสลากพลัสไม่ได้มีการขอติดป้ายโฆษณากับรถของ บขส. แต่อย่างใด ซึ่งหากเป็นไปตามนี้ โฆษณาที่เสี่ยนอท กองสลากพลัส สวมสูทแดงเชิญชวนซื้อสลากออนไลน์ข้างรถเมล์ต้องถูกถอดออกไป ขณะที่การประโคมข่าวรางวัลใหญ่แตกของสื่อต่างๆ ก็ต้องทบทวนกันใหม่เช่นเดียวกัน
สั่นสะเทือนกันเป็นวงกว้าง เจอหางเลขกันระนาว

อย่างไรก็ดี แม้ “นอทจะคลาย” ให้ได้สืบเสาะหาความจริงกัน โดยเฉพาะในประเด็นพัวพันการฟอกเงิน แต่ ณ วันนี้ก็ยังต้องถือว่า นอทมิได้กระทำผิดตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาออกมาเป็นที่สิ้นสุด.


กำลังโหลดความคิดเห็น