xs
xsm
sm
md
lg

ฝาแฝด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: อ.สุดาทิพย์ จารุจินดา อินทร



น่าจะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์มนุษยชาติที่มีเหตุการณ์ทางการเมืองสำคัญๆ ที่เกิดขึ้นในลักษณะที่คล้ายกันราวกับเป็นฝาแฝดของเหตุการณ์ทีเดียว

นั่นคือ เกิดการจลาจลโดยฝ่ายประชาชนที่ไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งประธานาธิบดี ได้บุกรุกเข้าทำลายอาคารรัฐสภา เพื่อต้องการให้ผู้นำคนเดิม (ที่แพ้เลือกตั้ง) ยังคงเป็นประธานาธิบดีต่อไป เพราะเขาถูก “โกงการเลือกตั้ง”

เป็นการขัดขวางขบวนการเปลี่ยนผ่านอำนาจอย่างสันติวิธี หลังผลการเลือกตั้งเป็นตัวชี้ขาดว่า ประธานาธิบดีคนใหม่คือ ผู้ชนะการเลือกตั้ง

วิธีการก่อหวอดนำเอาประชาชนเข้ามาก่อจลาจลบุกสภา ก็แทบจะเป็นวิธีที่ลอกกันมาทีเดียว

แม้แต่วันที่ก่อจลาจลก็แทบจะเป็นวันที่เดียวกันในเดือนเดียวกัน

ต้นแบบก็น่าจะเป็นการก่อจลาจลบุกอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2564 ซึ่งเป็นวันนับคะแนนอย่างเป็นทางการของผู้แทนรัฐต่างๆ ที่กำลังนับคะแนนอยู่ภายในอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ

เหตุการณ์ฝาแฝดครั้งนี้เกิดขึ้นที่เมืองบราซิเลีย เมืองหนาวของบราซิล เกิดจลาจลในวันอาทิตย์ที่ 8 มกราคมหยกๆ นี้เอง หลังจากการสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของปธน.ลูลา ที่ชนะเลือกตั้งรอบ 2 ตั้งแต่วันที่ 31 ตุลาคมปีที่แล้ว และต้องรอ (ช่วงเปลี่ยนถ่ายโอนอำนาจ) ถึง 2 เดือนกว่าจะสาบานเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 1 มกราคมปีนี้

ช่วงก่อนวันที่ 6 มกราคม 2564 ได้มีการรณรงค์ชักชวนจากฝ่ายผู้ศรัทธาสนับสนุนทรัมป์ รวมทั้งพวกขวาตกขอบที่ติดอาวุธ เพื่อระดมเกณฑ์กันมาก่อจลาจลเพื่อทำลายพิธีนับคะแนนอย่างเป็นทางการ

และปธน.ทรัมป์ได้ออกมาที่เวทีหน้าทำเนียบในการปลุกเร้าปลุกปั่นให้สาวกของเขาบ้าคลั่งเพื่อเดินไปยังสภา และไปทำลายการนับคะแนน

ฉากการบุกทำลายรัฐสภาที่ดี.ซี. ก็ไม่ต่างจากเหตุการณ์ฝาแฝดที่เกิดที่รัฐสภาบราซิล เพียงแต่เหล่าผู้ก่อจลาจลของบราซิล ได้บุกทำลาย ไม่เพียงอาคารรัฐสภา แต่ได้เข้าทำลายบางส่วนของทำเนียบรัฐบาล และอาคารศาลสูงด้วย...ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของอำนาจสูงสุดทั้ง 3 ที่คานและถ่วงดุลอำนาจกัน

กว่าการจลาจลที่ปะทะกับฝ่ายความมั่นคง (จนบาดเจ็บไปตามๆ กัน) จะสงบลงได้ก็ผ่านเวลาไปหลายชั่วโมง ทั้งสองเหตุการณ์

กรณีของบราซิลนั้น ตัวผู้ว่าการ (คล้ายๆ นายกเทศมนตรี) เมืองบราซิเลีย เป็นผู้สนับสนุนคนสำคัญของอดีตปธน.โบลโซนารู (ซึ่งแพ้การเลือกตั้งในครั้งนี้ให้แก่ปธน.ลูลา) ไม่ได้รีบออกคำสั่งให้ตำรวจมาเข้าปกป้องอาคารทั้ง 3 แห่ง; ทั้งๆ ที่ตนเองมีอำนาจโดยตรงในการสั่งการ... เพราะ “รู้เห็น” เป็นใจให้มีการบุกทำลายรัฐสภา+อีก 2 อาคาร.. .เพื่อให้เกิดการจลาจลนั่นเอง

ขณะที่ปธน.ทรัมป์ ก็เช่นกัน แม้จะถูกรบเร้า (จาก ส.ส., ส.ว.ทั้งจากพรรครีพับลิกันและเดโมแครต) ผ่านทางโทรศัพท์ ให้หาทางหยุดยั้งการก่อจลาจล โดยให้เรียกหน่วยงานความมั่นคงมาเสริมกำลังเพื่อหยุดความบ้าคลั่ง และการทำลาย แต่ทรัมป์ได้ปล่อยให้การจลาจลดำเนินต่อไปอีก 2-3 ชั่วโมงกว่าที่กองกำลังรักษาดินแดนจะออกมาระงับการจลาจล!

ทั้งทรัมป์และอดีตปธน.โบลโซนารู ต่างออกมาตอกย้ำ ทั้งในการให้ข่าวกับสื่อมวลชน และผ่านทางโซเชียลมีเดียว่า เขาถูกโกงการเลือกตั้ง โดยเฉพาะเครื่องนับคะแนนก็มีการตั้งโปรแกรมเพื่อโกงคะแนน

ก่อนการลงคะแนน ทั้งทรัมป์และโบลโซนารูได้บอกกับประชาชนและสื่อต่างๆ วันละหลายๆ รอบว่า ถ้าเขาแพ้-ก็เพราะเขาถูกโกงการเลือกตั้งนั่นเอง เพราะเขามั่นใจมากว่าเขาจะชนะแน่นอน!

ก่อนพิธีสาบานตนของปธน.ลูลา ไม่ถึง 48 ชั่วโมง ปธน.โบลโซนารูได้ขอวีซ่า (ในตำแหน่งปธน.) เพื่อเดินทางไปพักผ่อนที่รัฐฟลอริดา เพราะเขาไม่ต้องการทำพิธีสาบานรับตำแหน่งให้กับลูลา แม้จะเป็นธรรมเนียมปฏิบัติมาเกือบ 40 ปี (ที่บราซิลเพิ่งเริ่มมีประชาธิปไตยอย่างเต็มที่...หลังจากอยู่ใต้เผด็จการทหารมาเป็นเวลานาน)

ที่ฟลอริดาปธน.โบลโซนารูมีความสนิทสนมกับทรัมป์อย่างยิ่งขนาดตัวโบลโซนารู และลูกชาย (ที่เป็น ส.ส.ของบราซิลด้วย) ได้เคยเดินทางไปพบทรัมป์หลายครั้ง ตั้งแต่ก่อนเป็นปธน.บราซิลด้วยซ้ำ และโบลโซนารูมีอะไรเหมือนทรัมป์มาก ไม่เพียงตัวใหญ่พอๆ กัน แต่ทั้งคู่ไม่เชื่อเรื่องโลกร้อน, ทั้งคู่ไม่เชื่อว่าโควิด-19 จะขยายตัวอย่างรุนแรง ซึ่งทั้งคู่ก็ไม่เชื่อเรื่องวัคซีน (แต่ตอนหลังก็แอบฉีดวัคซีน) และไม่ยอมสวมหน้ากากอนามัย

โบลโซนารูไม่เชื่อเรื่องโลกร้อนถึงขนาดออกกฎหมายเพื่อเปิดป่าอะเมซอน โดยอนุญาตให้ตัดไม้ในป่าทึบแล้วขยายพื้นที่ป่ามาปลูกข้าวโพด เป็นต้น!! ขณะที่ลูลาปฏิญาณว่า ถ้าเขาได้กลับมาเป็นปธน. (รอบ 3) เขาจะหยุดการเปิดป่า และจะฟื้นฟูป่าอะเมซอน เพื่อช่วยปกป้องโลกจากอาการโลกร้อน

พวกสาวกของทรัมป์และโบลโซนารูเป็นพวกขวาจัด และเคร่งศาสนา โดยเฉพาะผู้สนับสนุนโบลโซนารูคือเหล่านายทุนที่ตัดไม้ทำลายป่า และอยู่ฝั่งตรงข้ามกับคนหาเช้ากินค่ำที่เป็นฐานเสียงของลูลา

ในการเลือกตั้งรอบแรกที่บราซิล ลูลาชนะนำโด่งได้คะแนน 48% ขณะที่โบลโซนารูได้แค่ 27%

แต่ฝ่ายนายทุนได้ผนึกกำลังให้กับโบลโซนารู จนทำให้การเลือกตั้งรอบ 2 โบลโซนารูได้คะแนนเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 49.1% ขณะที่ลูลาได้ 50.9% ซึ่งทำให้คำล้างสมองของฝ่ายโบลโซนารูได้ปลุกระดมจนมาบุกสภา โดยเชื่อว่ามีการ “โกง” การเลือกตั้ง!! ทั้งๆ ที่คณะกรรมการกลางก็พิสูจน์ว่า ไม่มีการโกง รวมทั้งศาลสูงก็ยืนยันว่าไม่มีการโกงเลือกตั้ง

เช่นเดียวกับที่ทรัมป์ได้แพ้คดีที่ศาลในหลายรัฐตัดสินว่า ไม่มีการโกงเลือกตั้ง...ที่ไบเดนชนะในรัฐที่คะแนนเคยคู่คี่กัน

โบลโซนารูยังเพิ่มเติมแผนอย่างแยบยลยิ่งขึ้น เมื่อมีการจลาจลบุกรัฐสภานั้น เขาอยู่นอกประเทศ ไม่ได้ไปบัญชาการบุกสภา แบบที่ทรัมป์ได้มีบทบาทในวันที่ 6 มกรา...แต่โบลโซนารูกลับไปตรวจอาการปวดท้องที่รพ. เพราะเขาเคยถูกแทงที่ท้องในช่วงหาเสียงในการเป็นปธน.ครั้งแรก! แผนของโบลโซนารูน่าจะพลิกแพลงกว่าของทรัมป์เสียอีก

นี่คือฝาแฝดทรัมป์-โบลโซนารูกับการพยายาม “โกง” การเลือกตั้ง ด้วยการกล่าวหาว่า ผู้ชนะเป็นฝ่าย “โกง” นั่นเอง!!


กำลังโหลดความคิดเห็น