xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

ดวงเมือง 2566 ระวัง “ทหาร”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - พลิกตำราโหราศาสตร์ ตรวจเกณฑ์ชะตาบ้านเมืองปี 2566 ห้วงปีแห่งความเปลี่ยนแปลงจากอิทธิพลของดวงดาว ส่งผลกระทบต่อดวงเมืองทั้งด้านบวกและลบ ไล่ตั้งแต่ประเด็นร้อน ว่าด้วยเรื่อง “การเมือง” ยามปี่กลองการเมืองโหมบรรเลงรับ “เลือกตั้งปี 66” ภาพรวมเศรษฐกิจสังคม เจาะลึกเหตุการณ์ต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้

คำทำนายผ่านโหราศาสตร์พยากรณ์ ไม่ใช่เรื่องงมงาย แต่ให้รู้ไว้เพื่อพร้อมรับการเปลี่ยนแปลง

สำหรับเหตุบ้านการเมืองในปี 2566 จะเป็นอย่างไรบ้างนั้น ติดตามได้จากทำนายของเหล่าโหราจารย์คนดัง

 บ้านเมืองไม่สงบ จับตารัฐประหาร
ธุรกิจผิดกฎหมายล้นเมือง 

 “อ.ภิญโญ พงศ์เจริญ”  นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ เผยคำทำนายดวงเมืองปี 2566 เอาไว้อย่างน่าสนใจว่า อิทธิพลจาก “พระราหู”  ซึ่งเปรียบเหมือน  “จอมอสูร”  โคจรอยู่ตรงราศีเมษ ทับลัคนาเมือง ทับอาทิตย์เป็นตนุเศษของดวงเมือง ราหูเป็นบาปพระเคราะห์ เรียกว่าเป็นดาวที่ให้โทษมากกว่าให้คุณ พระราหูจะอยู่ราศีเมษ จวบจน 17 ตุลาคม 2566 แล้วย้ายเข้าสู่ราศีมีน และอยู่ไปอีก 1 ปีครึ่ง

ตามตำราเผยว่า พระราหูอยู่ราศีเมษมักเกิดเรื่องร้าย ฉะนั้น คนไทยจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองอย่างเข้มข้น พระราหูนั้นเป็นดาวโมหะจริต ส่งผลต่อเรื่องอบายมุข ธุรกิจสีเทา นายทุนใหญ่กลุ่มอิทธิพลยังคงครอบคลุมบ้านเมืองอยู่ นอกจากนี้ ราศีเมษธาตุไฟยกพระราศีธาตุน้ำ ต้องระวังทั้งไฟ ทั้งน้ำ พยากรณ์ได้ว่าจะมีภัยพิบัติครั้งใหญ่เกิดขึ้น

เกณฑ์ชะตาบ้านเมืองส่อปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ อิทธิพลพระราหูจรเกิดอุปราคา ปี 2566 จะเกิดอุปราคาขึ้น 4 ครั้ง

อุปราคานั้นเป็นลางไม่ดี พยากรณ์ได้ว่าในช่วงก่อนและหลังเกิดสุริยุปราคาจะเกิดปัญหาความสับสนวุ่นวาย

การเกิดอุปราคา ครั้งแรก  “สุริยุปราคาวงแหวน” ในวันที่ 20 เมษายน 2566 เวลา 11.16 น. เกิดในราศีเมษซึ่งอยู่ที่ระยะ 5 องศา 39 ลิปดา เป็นภพที่ 1 ของดวงเมือง จะส่งผลกระทบต่อรัฐบาลหรือผู้ปกครอง เกิดความอับโชคต่อความสำเร็จของประเทศชาติ ส่งผลให้ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับต่างประเทศมีปัญหา

ราศีเมษเป็นราศีธาตุไฟ เป็นราศีที่ปกครองโดยพระอังคาร การเกิดอุปราคาในราศีธาตุไฟ ทำนายว่าจะมีคดีฆาตกรรมที่สำคัญเกิดขึ้น เกิดความขัดแย้งและการเคลื่อนไหวของกองทัพและกองกำลัง มีความเป็นไปได้ที่จะเกิด  “รัฐประหาร”  เหตุบ้านการเมืองนำมามาซึ่งความร้อนใจของประชาชน ผู้คนเกิดความไม่พอใจ ความวุ่นวายปรากฎ ชนชั้นล่าง ชนชั้นกรรมาชีพ เกษตรกรกระดูกสันหลังของชาติเดือดร้อนสาหัญ นำสู่ประท้วงต่างๆ

นอกจากนี้ ยังส่งผลต่อภัยแล้งพืชผลการเกษตรเสียหาย มีการใช้จ่ายเงินงบประมาณเป็นจำนวนมาก รัฐมีความต้องการในการจัดเก็บภาษีเพิ่มมากขึ้น รวมทั้ง ภัยจากโรคระบาดหรือสุขภาพอนามัยโดยรวมของประเทศยังเป็นปัญหาต่อไป

การเกิดอุปราคา ครั้งที่ 2  “จันทรุปราคาเงามัว”  ในวันที่ 5 พฤษภาคม 2566 ตั้งแต่เวลา 22.13 น. ถึงวันที่ 6 พฤษภาคม 2566 เวลา 02.31 น. ศูนย์กลางคราสตรงกับวันที่ 6 พฤษภาคม2566 เวลา 00.32 น.จันทรุปราคาเกิดในราศีตุลย์ซึ่งเป็นภพที่ 7 ของดวงเมือง พยากรณ์ได้ว่าการเมืองและการต่างประเทศจึงถูกรบกวน ก่อให้เกิดความผันแปรในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และนำความยุ่งยากมาสู่รัฐบาลและประชาชน ซ้ำเติมพืชผลการเกษตรเสียหาย ราศีตุลย์ซึ่งเป็นราศีธาตุลม มักก่อให้เกิดลมพายุทำลายล้าง หรือผลกระทบต่อการเดินทางทางอากาศ ร่างกฎหมายบางฉบับล้มเหลว พรรคการเมืองเกิดความแตกแยก การต่างประเทศเกิดความยุ่งยาก ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศผันแปร เกิดปัญหาเกี่ยวกับสนธิสัญญาหรือสัมพันธไมตรีระหว่างประเทศ การเกิดอุปราคาสองครั้งแรก อาจทำให้เกิดปัญหาความขัดแย้ง มีภัยจากคู่แข่งขัน และอาจนำไปสู่การต่อสู้หรือสงคราม

การเกิดอุปราคา ครั้งที่ 3  “สุริยุปราคาวงแหวน”  ในวันที่ 15 ตุลาคม 2566 เวลา 00.59 น. สุริยปราคาเกิดในราศีกันย์เป็นทวิภาวะราศี พยากรณ์ได้ว่าจะเกิดความยุ่งยากสลับซับซ้อนในการสืบสวนสอบสวนคดีความ เกิดความยุ่งยากกับชนชั้นกรรมาชีพ เกิดความยุ่งยากในวงการศาสนา วงการศึกษา วงการกฎหมาย และวงการแพทย์ เกิดอุบัติเหตุจากการเดินทางท่องเที่ยวทั้งทางบก ทางทะเล และทางอากาศ

ราศีกันย์เป็นภพที่ 6 ของดวงเมือง หมายถึงเรื่องโรคภัยไข้เจ็บ จับตา 2 กระทรวงแบกรับภาระหนัก กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงกลาโหม ทั้งเรื่องธุรกิจการงานเกิดความอับโชค เกิดการว่างงาน เกิดความขัดแย้งระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง บริการของประเทศถูกกระทบกระเทือน

ราศีกันย์เป็นราศีธาตุดิน ระมัดระวังความเสียหายที่เกิดจากดิน หรือความเสียหายต่อพืชผลทางการเกษตร เกิดภัยแล้ง เกิดแผ่นดินไหว แผ่นดินถล่ม แผ่นดินทรุด ตึกถล่ม โลกธุรกิจได้รับผลกระทบ ถูกก่อกวน การค้าและการเกษตรเสียหาย จะเกิดปัญหาทางการเงิน เกิดความอับโชคแก่รัฐบาล

และการเกิดอุปราคา ครั้งที่ 4 “จันทรุปราคาบางส่วน”  วันที่ 29 ตุลาคม 2566 ตั้งแต่เวลา 02.35-03.52 น. ศูนย์กลางของอุปราคาอยู่ที่เวลา 03.13 น. สมผุสตรงราศีเมษ พยากรณ์ได้ว่าการต่างประเทศจะนำความยุ่งยากมาสู่รัฐบาลตลอดจนประชาชน เกิดความผันแปรสำคัญทางการเมืองและการค้า

ราศีเมษเป็นราศีธาตุไฟ ต้องระวังเรื่องอัคคีภัย ความร้อน ภัยแล้ง แม้จันทรุปราคาจะเกิดในช่วงปลายฝนต้นหนาวก็ตาม เกิดเหตุการณ์สาธารณะตื่นเต้น เกิดปากเสียง มีคดีฆาตกรรม บางครั้งก็เกิดภัยสงคราม มีความเคลื่อนไหวของกองทัพ ต้องใช้จ่ายงบประมาณเยอะจึงมีการจัดเก็บภาษีเพิ่มขึ้น

กระนั้น อุปราคาก็ยังมีเรื่องดีอยู่บ้าง ราหูเป็นเจ้าเรือนชะตาที่ 11 หมายถึงรายได้ ผลประโยชน์ การจัดเก็บภาษีอากร เรื่องของสภาที่ออกกฎหมาย ส่งผลทำให้การหาเงินหรือกู้เงินของรัฐบาลประสบความสำเร็จ อย่างไรก็ดี ราหูเป็นบาปเคราะห์ ถ้าราหูเข้มแข็งในดวงเมืองจะส่งผลให้อบายมุข ผู้มีอิทธิพล ขบวนการสีเทายังมีอิทธิพล กลุ่มนักเลงต่างๆ ยังมีอิทธิพลต่อดวงบ้านดวงเมือง ซึ่งราหูจะย้ายออกวันที่ 11 ต.ค.2566 บ้านเมืองน่าจะผ่อนคลายหลังจากราหูย้ายออก

ถามถึงเรื่องด้านเศรษฐกิจมีทั้งดีและไม่ดี เนื่องจากดาวพฤหัสฯ โคจรมาทับลัคนาเมือง ทับพระอาทิตย์ในดวงเมือง พฤหัสฯ กับพระอาทิตย์เป็นคู่มิตร ตามตำราบอกว่าดวงเมืองจะโชคดีผู้ใหญ่จะให้คุณ

ที่ต้องจับตา เรื่อง  “การเมือง” ตั้งแต่เดือน เมษายน 2566 เป็นต้นไป การสวนกันของดาวพฤหัสฯ ซึ่งเป็นประธานฝ่ายศุภเคราะห์ กับราหูซึ่งเป็นดาวบาปพระเคราะห์ เกิดการเปรียบเทียบภาพของพรรคฝ่ายเทพ กับพรรคฝ่ายมารทางการเมืองน่าจะปรากฏขึ้นอีกครั้ง เกิดการต่อสู้การแข่งขันในทางการเมือง ฉายภาพชัดการหาเสียงเลือกตั้งในปีหน้าดุเดือดรุนแรง นอกจากนี้ อิทธิพลคือดาวเสาร์ส่อความขัดแย้งทางการเมือง เกิดความไม่พอใจคนที่มีความเห็นขัดแย้งกับรัฐบาล ทำให้เกิดปัญหากับดวงเมือง

 การเมืองร้อนแรง เศรษฐกิจย่ำแย่
โรคระบาดคงอยู่ แต่ทุเลาลง  

เข้าสู่ปี 2566 ดวงเมืองจะอายุครบ 241 ปี ในวันที่ 21 เมษายน 2566 ดาวใหญ่ที่เรียกว่า “ดาวเทพ” หรือ “ดาวจตุรเทพ” อันได้แก่ พระเสาร์ ดาวพฤหัส ราหู และมฤตยู ลีลาการโคจรวิปริตเดินหน้าถอยหลัง ฉายภาพชัดดังเช่นปี 2565 ส่งผลให้บ้านเมืองมีปัญหา ครั้นเข้าสู่ปี 2566 ดาวใหญ่เคลื่อนมาเจอกันในลัคนาราศีเมษ ซึ่งเป็นลัคนาราศีดวงเมือง ภาพรวมทำนายดังนี้

 “อ.โจ้ - อาณณัฐ สรรคชา” อาจารย์โหราศาสตร์ไทย เผยว่าปี 2566 ดาวมฤตยูยังคงอยู่ ส่งผลเรื่องการเกิดโรคระบาดแต่สถานการณ์จะไม่รุนแรง ขณะเดียวกัน เรื่องภัยพิบัติ อิทธิพลจากราหูย้ายเข้าราศีมีน ภพวินาศไปทับราหูเดิม ทับพระศุกร์ ทับพุธเดิม ในตำแหน่งพินทุบาทว์ของดวงเมือง มฤตยูอยู่ภพที่ 2 ดาวบาปเคราะห์ทำมุมเล็งไปที่ราศีตุลย์ซึ่งเป็นธาตุลม พยากรณ์ได้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดจากท้องทะเลจากน้ำ ซึ่งจะเกิดขึ้นช่วงหลังกลางปี 2566 ต้องระวังภัยทางน้ำคลื่นลมทะเลปั่นป่วนรุนแรง

อิทธิพลดาวมฤตยูส่งผลเรื่องเศรษฐกิจการเงินยังมีปัญหาอีกหลายปี แต่ในช่วงเดือน ต.ค.ปีหน้า น่าจะเริ่มหายใจคล่องขึ้น อย่างไรก็ดี ปีหน้าธุรกิจด้านอสังหาฯ ก่อสร้าง ที่ดินจะมาแรง ราคาที่ดินจะแพงขึ้น จะมีการแย่งชิงในการซื้อขายที่ดินโดยมีนักการเมืองหนุนหลัง

วาระร้อนเรื่องการเมืองตามคำพยาการณ์ฉายภาพนักการเมืองจะเป็นเหมือนนักกรีฑา วิ่งกันฝุ่นตลบ ใครอยู่ข้างหน้าก็จะทิ้งฝุ่นไว้ทำให้คนข้างหลังมองไม่เห็น และไม่ว่าใครขึ้นมาเป็นผู้นำก็ต้องรับภาระหนัก ต้องจับตาคดีความทางการเมือง เป็นผลมาจากอิทธิพลของดาวพฤหัสฯ เกิดอารยขัดขืน มีการหยิบยกเรื่องกฎหมายมาสู้กัน แม้นผู้นำก็โดนหางเลขด้วย ส่วนการประท้วงเรื่องส่วนการเมืองบนท้องถนนมีอยู่บ้างแต่ไม่รุนแรงเท่าใดนัก

สำหรับการโคจรของดวงดาว พฤหัสฯ ย้ายเข้ามาทับด้วย น่าจับตาในช่วง เมษายน2566 จะมีชุมนุมดาว พระอาทิตย์ก็เข้ามาอยู่ด้วย พระพุธเข้ามาเสริม ราหู 4 ดวง พระเสาร์ ย้ายจากราศีมังกรเข้าราศีกุมภ์ ภพที่ดีภพที่ 11 ของดวงเมือง ในช่วงต้นเดือน มี.ค. 2566 สำหรับพระเสาร์นั้นหมายถึงอสังหาริมทรัพย์ หลักทรัพย์ ส่งผลให้ธุรกิจอสังหาฯ การก่อสร้างโปรเจกต์ต่างๆ ขยายตัวดีขึ้น

ลัคนาดวงเมือง พฤหัสกับราหูมาเจอกัน พฤหัสหมายถึงกฎหมาย จริยธรรม องค์กร แม้นเข้ามาในตำแหน่งที่ดีเป็นราชาโชค แต่มีราหูอยู่ย่อมส่งผลให้การพัฒนากฎหมายหยุดติดขัดชะงักงัน

ดาวเสาร์ได้ธงชัยเป็นกาลโยค พระเสาร์อันหมายถึงรากฐาน ความมั่นคง ธุรกิจอสังหาริทรัพย์ อุตสาหกรรม เกษตรกรรม ธงชัยหมายถึงความสำเร็จ พยากรณ์ได้ว่าธุรกิจอสังหาฯ จะเติบโต มีการพัฒนาต่อเนื่อง ราคาที่ดินจะแพงขึ้น ตลอดจนภาคอุตสาหกรรมและภาคกษตรจะดีขึ้น

ดาวพุธได้อธิบดี หมายถึงการเจรจาต่อรอง การสื่อสาร การทำสัญญา ดาวพุธได้อธิบดีจึงแปลว่าการเจรจาสำเร็จลุลวง ข้อสัญญาต่างๆ จะรัดกุมขึ้น

ดาวศุกร์ได้ทั้งอุบาทว์และโลกาวินาศ ดาวศุกร์หมายถึงการเงินการคลัง พยากรณ์ว่าการเงินการคลังจะปั่นป่วนวุ่นวาย มฤตยูย้ายเข้ามาพฤษก เป็นเรื่องต่างประเทศที่อยากเข้ามาร่วมลงทุนด้วย ส่งผลต่อราศีพฤษก ซึ่งเป็นราศีของการเงินการคลัง เกี่ยวเนื่องกับการจะเข้ามาร่วมลงทุนจึงมีปัญหาเรื่องการต่อรอง การทำสัญญา ซึ่งอาจทำให้การลงทุนสะดุด

ดาวพฤหัสโคจรพบราหู อาจเกิดปัญหาเรื่องข้อกฎหมายซึ่งทำให้ไทยเสียเปรียบ เช่น อาจมีการทำสัญญาระยะยาวกับประเทศคู่ค้า แต่พอจะเปิดการค้าเสรี คู่ค้าเก่าก็เกิดความไม่ไว้วางใจ เกิดการฟ้องร้อง เป็นคดีความระหว่างประเทศวุ่นวาย เป็นต้น แต่ทั้งหมดทั้งมวล พื้นฐานดวงเมืองของไทยเป็น  "นักเจรจา”  ความที่ต่อรองเก่ง จะช่วงชิงจังหวะเจรจานอกรอบได้ ถึงแม้จะเสียเปรียบ แต่จะเกิดการเสียเปรียบน้อยที่สุด


 จับตาสงครามเศรษฐกิจ
ปัญหาหนี้สินครัวเรือน 


เกณฑ์สำคัญทางโหร โดย “ฟองสนาน จามรจันทร์” โหราจารย์ เผยคำทำนายดวงชะตาเมืองรัตนโกสินทร์ปี 2566 ตั้งแต่ต้นปี – 1 มีนาคม 2566 เอาไว้ว่า ใครเป็นรัฐบาลภาระก็หนักต่อเนื่อง ส่วนฝ่ายค้านก็ยังจะเหมือนคนป่วย ทำอะไรก็ไม่ขึ้น ด้านเศรษฐกิจยังอ้อยอิ่งพยายามฝ่าความทุกข์ใหญ่ร้อยแปดที่มาในแบบหนักๆ ทำได้เพียงพยายามโงหัว พลิกกลับเป็นค่อยๆ ฟื้นด้วยโครงสร้างพื้นฐานของชาติที่ทำเอาไว้ก่อนหน้า และจะทำเพิ่มเอีกอย่างต่อเนื่อง

ส่วนประชาชนคนเดินดินยังอยู่กับยังทุกข์ใหญ่ร้อยแปดด้วยเรื่องหนี้สิน การเจ็บไข้ได้ป่วย เจอเหตุการณ์ใหญ่ให้อกสั่นขวัญแขวนหรือเศร้าระทม ความขัดแย้งเรื่องราคาพลังงานยังกดดันการหลอกลวงต้มตุ๋นขนาดใหญ่ เรื่องอวิชาและธุรกิจสีเทาโผล่เต็มเมือง หลังจากนั้นออกอาการส้องสุมแอบทำถึงสิ้นปี สถานการณ์การโรคระบาด โควิด19 ค่อยๆ สร่าง ดวงเมืองได้โปรโมชันจากพระเสาร์หัวหน้าดาวร้ายให้คุณงามความดีกับเมืองชนิดสามสิบปีมีให้ครั้งเดียว เสียอะไรสู้แล้วจะได้กลับมา

ช่วงวันเกิดเมือง 21 เมษายน 2566 ค่าเงิน-ทองคำ-ตลาดหุ้น-ธุรกิจไฟฟ้าผันผวนจัด ส่วนชนิดธุรกิจมีทั้งกลุ่มดีและกลุ่มผันผวน แต่ระวังการหละหลวมคุมกฎระเบียบทางเศรษฐกิจหรือปล่อยให้เสรีมากหรือเน้นกระตุ้นมากไป หรือกระตุกไม่พอ หรือมองมุมบวกเกิดไป หรือใช้นโยบายเพื่อชนะใจประชาชนไม่มีขอบเขตจนต่อไปยากที่จะควบคุม-คัดท้ายจนเหตุใหญ่รอเกิดอยู่ในอนาคต

ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองเลือกตั้งครั้งใหม่ที่เห็นอยู่ในระยะอันใกล้ ปี 2566 ใครเป็นรัฐบาลก็จะโชคดีกว่ารัฐบาลที่ผ่านมา ส่วนฝ่ายค้านที่เคยเหมือนนป่วย ก็จะค่อยๆ โงหัวขึ้น และเมืองได้ฝ่ายค้านที่ดีเข้มแข็งขึ้น

คนมียศศักดิ์ตำแหน่งใหญ่หรือผู้นำหรือคนสำคัญขององค์กรต่างๆ เข้าเคราะห์ทางกฎหมายหรือระเบียบ หากใช้อำนาจเกินขอบเขตหากไม่ระวังจะสร้างความขัดแย้งในสังคมหรือย้อนกลับมาเล่นงานผู้ใช้อำนาจอย่างสาหัส

จับตาการตีฝ่าสงครามเศรษฐกิจของโลกเพื่อปฏิวัติใหญ่ทางเศรษฐกิจ – การทำมาหาได้ – ระบบภาษี - ระบบบำเหน็จบำนาญของเมือง บางจังหวะสงครามเศรษฐกิจที่ทำกันจะเลยเถิดเป็นรบกันด้วยกำลังและอาวุธจริง ซึ่งในระยะเจ็ดปีของการปฏิวัติใหญ่เศรษฐกิจของชาติ และตีฝ่าสงครามเศรษฐกิจโลกนั้น ตั้งแต่1 มี.ค. 2566 เป็นต้นไป เมืองจะได้พัฒนาโครงสร้าง-พื้นฐานเศรษฐกิจ และจะทำได้ อะไรที่เสียไปทางเศรษฐกิจมีโอกาสได้ผลประโยชน์กลับมาตามโฉลก ลาภคืนคง รณณงค์เรามีชัย

แนวโน้มภาคธุรกิจดีแล้วร้าย-ร้ายแล้วดีผันผวนมาก ต้องประคับประคองอย่างระมัดระวัง เช่นธุรกิจโรงพยาบาล แพทย์แผนโบราณ โรงเรียน มหาวิทยาลัย ยา ไม้ผล อาหารสัตว์ สถาบันการเงิน ธุรกิจเช่า โค้ชชิ่ง-ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับยางพารา สินค้าพรีเมี่ยมทั้งหลาย-ธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมรวมทั้งธุรกิจการบิน ธุรกิจเกี่ยวกับไฟฟ้าทั้งหลาย

เกณฑ์ชะตาผู้นำในองค์กรต่างๆ ทุกระดับของประเทศที่ดวงตก ต้องฆาฎที่เรียกกันว่าปัสสวะชีโว จึงให้จับตามองว่าจะมีการดำเนินการทางกฎหมายหรือระเบียบหรือเรื่องศีลธรรม จริยธรรมเรื่องใหญ่ๆกับผู้นำคนสำคัญในทุกวงการของประเทศ จนเกิดวิบัติกับพวกเขาเหล่านั้นด้วย เน้นไปที่วงการเศรษฐกิจ-กฎหมาย-ศาล-พระ-นักบวช-ผู้รู้-บุคลากรทางการแพทย์-ครูอาจารย์ทั้งหลาย

เกณฑ์ดวงเมืองเรื่องแผ่นดินไหวปีนี้จะเพิ่มมาให้รู้สึกถึงตึกสูงในกรุงเทพฯ พอให้ตื่นเต้นสักครั้งสองครั้ง แม้แผ่นดินไหวจะเกิดได้เป็นปกติบ่อยๆ ไปตามแนวรอยเลื่อนต่างๆ ในประเทศ แต่ปรากฎการณ์ที่จะเกิดในปีนี้จะแปลกออกไปคือมีโอกาสสร้างแรงสั่นสะเทือนมาถึงกรุงเทพฯ และปริมณฑลให้พอได้ตื่นเต้น ต้องไม่ลืมว่าประเทศไทยไม่ได้อยู่แนววงแหวนแห่งไฟ ปรากฎการณ์นี้ถ้าจะเกิดจริงก็ยังพอสบายใจได้

 2566 ปีแห่งมหาวิปโยค
ขัดแย้งสู่ตกต่ำ ระวังภัยพิบัติ 


สำหรับ  โสรัจจะ นวลอยู่  โหราจารย์ที่คุ้นชื่อกันในนาม “นอสตราดามุสเมืองไทย” เปิดเผยคำทำนายดวงเมืองปี 2566 โดยพุ่งเป้าไปที่สถานการณ์การเมืองยังคงยุ่งเหยิง ตั้งแต่การย้ายของดาวใหญ่หลายดวง อิทธิพลดาวมฤตยูย้ายออก จากลัคนาเมืองราศีเมษ ออกไปเข้าพฤษภตั้งแต่วันที่ 7 กรกฎาคม 2565 และจะถอยหลังกลับมาในช่วงธันวาคม 2565 ซึ่งอยู่ตรงนี้ไปอีกถึงช่วงต้นปี 2566 ก่อนย้ายออกไป ส่งผลให้เห็นตั้งแต่ปลายปี 2565 ภาพความการขัดแย้งวุ่นวาย การโจมตีกันและกัน

ถัดมาดาวศุกร์เข้าราศีกุมภ์ในวันที่ 25 มกราคม 2566 ส่งผลทุกด้านทั้งโรคภัยไข้เจ็บ เรื่องการเมือง จะเริ่มต้นความขัดแย้ง ดาวเสาร์ย้ายวันที่ 1 มีนาคม 2566 ดาวเสาร์หมายถึงบุคคลที่มีอำนาจ ซึ่งอาจเป็นนักการเมือง หรือคนในเครื่องแบบ เกิดการเคลื่อนไหวปมขัดแย้งน่าจับตา ปลายปี 17 ตุลาคม 2566 ราหูย้ายมาอยู่ในภพวินาศ สถานการณ์การเมืองน่าจะมีการเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลง เกิดเหตุการณ์บางอย่างเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของบ้านเมือง อาจถึงขั้นเกิดเหตุนองเลือดไปสู่การเปลี่ยนแปลงเลยก็ว่าได้

ในเรื่องภัยธรรมชาติรุนแรงกว่าปีที่ผ่านมา ไม่เฉพาะประเทศไทยแต่หมายถึงทั้งโลก เกิดแผ่นดินไหว สึนามิ มีโอกาสเกิดสึนามิในอ่าวไทยแต่ก็ไม่ใช่ขนาดใหญ่ แค่ทำให้ตกใจเพราะไม่เกิดขึ้นที่นั่นมากก่อน เกิดแผ่นดินไหวทางภาคเหนือ ในพื้นที่กรุงเทพฯ ก็ควรระวังบางส่วน จะมีตึกรามบ้านช่องล้มทลายลงมา ในช่วงก่อน 7 เดือนตุลาคม 2566 เกิดภัยน้ำท่วมภัยพิบัติ กรุงเทพฯ น้ำท่วม เป็นไปได้ว่าจะเกิดน้ำท่วมใหญ่อีกครั้งเช่นเดียวกับปี 2554 ซึ่งเป็นน้ำท่วมที่มาจากภัยพิบัติ ส่วนเรื่องของไฟไหม้ไฟป่าเกิดมากในภาคเหนือ มาตั้งแต่ต้นปี ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ก็จะกลับมา ตามมาด้วยโรคภัย เช่น โรคปอด มันรุนแรงหนักขึ้น

ปี 2566 เรียกได้ว่าเป็นปีแห่ง  “มหาวิปโยค”  สถานการณ์การเมือง ทำนายว่าใครมาเป็นนายกรัฐมนตรีก็ไม่ดีทั้งนั้น เกิดแตกแยกถึงแม้นสามัคคีก็แค่ช่วงโกยผลประโยชน์ อิทธิพลของดวงดาวต่างๆ ส่งผลด้านการเมืองดุเดือดอย่างยิ่ง จะเกิดการเคลื่อนไหวการเมืองหลายๆ เรื่อง มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น ชะตาเมืองกำลังตกต่ำ การแตกแยก ผู้คนโกรธแค้นชิงชัง อาจมีเหตุอาเภทต่างๆ เกิดขึ้น เกิดการจราจล อาจจะเกิดการรัฐประหาร บุคคลในเครื่องแบบแตกแยกแย่งเป็นสองฝ่าย ความเสื่อมอำนาจของผู้นำสำแดงให้เห็นถึงสภาวการณ์ทางการเมืองตึงเครียด มีการเดินขบวนต่อต้าน เพราะผลของการโคจรดวงดาวจากช่วงนี้ เห็นถึงความแตกแยกของบ้านเมืองต่อไปถึงปลายปีหน้า จนถึงปี 2567

อำนาจดวงดาวในปี 2566 ความยุติธรรมจะค่อยๆ ถูกกลืน ผู้มีอำนาจจะหลงระเริง ที่ได้มาด้วยการคอร์รัปชั่น ขมเหงผู้อื่น จะเป็นยุคอำนาจทมิฬ นำไปสู่ความไร้มมนุษยธรรม ลุ่มหลงในอำนาจ ให้เป็นหน้าที่ของประชาชนทุกต้องระมัดระวังไม่ให้สิ่งเหล่านี้ดำเนินต่อไปได้

สถานการณ์ประเทศร้อนรุ่ม ปัญหาเรื่องการเมืองยุ่งเหยิง สภาวะปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำรุนแรง จะส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ประชาชน เยาวชนถูกมอมเมาจากยาเสพติดพิ่มขึ้นหลายเท่า เกิดความแตกแยกในหมู่คณะสาขาวิชาชีพต่างๆ วงการสงฆ์ปรากฎเรื่องมัวหมอง ขุนนางกังฉินสร้างปัญหา อาจมีเรื่องกระทบกระทั่งประเทศเพื่อนบ้าน ส่วนสถานการณ์โรคระบาดร้ายแรงสร้างความสูญเสียต่อเนื่อง โรคโควิดจะกลายพันธุ์ระบาดไปอีกหลายปี ย้ำเตือนเรื่องภัยพิบัติให้ระวังแผ่นดินไหว จะเกิดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และอาจเกิดในกรุงเทพฯ ส่งผลให้สิ่งก่อสร้างเสียหาย ภาคเกษตรสูญเสียพืชผลจากภัยน้ำท่วมรุนแรงเทียบปี 2554

 และสุดท้าย คำทำนายของ 4 โหราจารย์ “ใครแม่น-ใครมั่ว” คงต้องรอดูเหตุการณ์ต่างๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นตลอดปี 2566  





กำลังโหลดความคิดเห็น