“สอดแนมการเมือง”
“ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย”
การประชุม “เอเปค” จบลงแล้ว โดย “ภาพรวม” ถือว่า“ผลงานดีงาม” ชนิดต้องยกนิ้วโป้งให้“นายกฯตู่”กับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ทำงานกันอย่างแข็งขันไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย.. ขอขอบคุณไว้ ณ ที่นี้!
จากนี้เป็นต้นไป การเมืองไทยจะเดินสู่สมรภูมิการต่อสู้แย่งชิง “อำนาจรัฐ” อย่างเอาเป็นเอาตายยิ่งขึ้น โดย“นักเลือกตั้ง” ด้าน “พรรคฝ่ายค้าน” นำโดยอดีตนายกฯ “เหลี่ยม” ผู้พี่กับน้อง “ปูจ๋า” ที่ไร้เดียงสาในกลเกมการเมือง จึงปล่อยให้รัฐบาล “พี่คิด-น้องโกง” เดินตามแผนสามานย์ของ “พี่ชาย” เปิดมหกรรมโกงชาติไม่รู้จักพอ แถมเหิมเกริมบังอาจสนับสนุน“ขบวนการล้มเจ้า” ทั้งลับและเปิดเผยอีกด้วย ฯลฯ
รัฐบาลของมหาเศรษฐี “เหลี่ยม” ทำผิดอย่างมากมายมาตลอด โดยมิได้เกรงกลัวต่อกฎหมายชาติบ้านเมือง ในที่สุดรัฐบาลเครือข่าย “เหลี่ยม” ก็ถูกสื่อฯกับประชาชนแทบทุกวงการ เปิดโปงอย่างล่อนจ้อนครั้งแล้วครั้งเล่า จน “เหลี่ยม-ปู” และพลพรรค “ผี-โม่แป้ง” ผู้เห็นแก่เงินและอำนาจ ตกอยู่ในสภาพต้องรับใช้ “คนชั่ว” อีกทั้งถูก“ดำเนินคดี” สุดท้ายต้องเผ่นหนี ที่หนีไม่พ้นก็ “ติดคุก” กันไม่ใช่น้อย ฯลฯ
เรื่องของ “นักการเมืองผู้มีอำนาจรัฐ” เป็นถึง “วุฒิสมาชิกสภาฯ” และ “ประธานรัฐสภาฯ” รวมทั้ง “นายกฯ” กับ “รัฐมนตรี” กระทรวงต่างๆ ไม่เว้นกระทั่ง “สมาชิกสภาฯ” กับ “ผู้นำฝ่ายค้าน” ฯลฯ ซึ่งถือเป็น “ผู้มีอำนาจ” ทางการเมืองทั้งสิ้น เมื่อมีการกระทำผิดต่อกฎหมายบ้านเมือง โดยหลักการแล้ว..ไม่มีการยกเว้นการถูกลงโทษ..จริงไหม?
แต่นั่นเป็น“หลักการ”ของนิติรัฐกับนิติธรรม ทว่า..ความจริงของประเทศนี้ ถูกจัดในอันดับต้นๆของโลกในเรื่องการคอร์รัปชั่น มีทั้งการเรียกรับและจ่ายเงินสินบน ให้กับข้าราชการแทบทุกหน่วยงานของรัฐ ไม่ยกเว้นแม้แต่ “เจ้าหน้าที่” ในกระบวนการยุติธรรม ที่อยู่ในฐานะ “ให้คุณ-ให้โทษ” จนกระบวนการยุติธรรมด่างพร้อย จากเรื่อง “คนควรติดคุก-ก็รอดคุก” ส่วน “คนไม่ควรติดคุก-ก็ติดคุก” เป็นสิ่งที่ประชาชนได้รู้ได้เห็นมาตลอด..
ความยุติธรรมของชาติไทย จึงมักมีเรื่องให้ผู้คนได้รับรู้มานมนานว่า “คุกมีไว้ขังคนจน มิได้มีไว้ขังคนรวย” นะเว้ยเฮ้ย.. จริงไหม?
ที่ผ่านมา..มีเรื่องราวไม่น้อยในกระบวนการยุติธรรมของชาติไทย ที่ได้แต่ตั้งและชี้มูลความผิด “คดีความโกงชาติ” ทั้งในระดับองค์กรอิสระอย่าง “ป.ป.ช.” หรือ“ตำรวจ” ที่มีหน้าที่โดยตรงทั้งด้านการสืบสวน-สอบสวน ฯลฯ ก่อนจะสรุปสำนวนความผิด ส่งให้ “อัยการ” ตรวจสอบรายละเอียด ก่อนนำ “จำเลย” ขึ้นสู่กระบวนการ “ศาลยุติธรรม” พิจารณาแล้วพิพากษาอรรถคดีว่า “จำเลย” ได้ “ทำผิดจริง” ต้องติดคุกมากน้อย จากการกระทำความเสียหายต่อชาติและประชาชน!
หากถูกตัดสินว่า “มิได้ทำผิด” ดังที่ถูกกล่าวหา ก็ให้ปล่อยตัว “จำเลย” เป็นอิสระ กลับคืนสู่ชีวิตปกติ..
อย่างไรก็ตาม.. การพิพากษาลงโทษ “ผู้มีอำนาจ” ในคดีทำความผิดการโกงชาตินั้น กว่าจะลงโทษได้มิใช่เรื่องง่าย ไม่เหมือนดัง “ปอกกล้วยเข้าปาก” ด้วย “ข้าราชการ” ที่เกี่ยวข้องทุกหน่วย กับบรรดา“ องค์กรอิสระ” ทั้งหลายในกระบวนการยุติธรรม มักมี “คนทุจริตรับสินบน” แอบช่วยเหลือ “พวกโกงชาติ” ทั้งลับและเปิดเผยอยู่เสมอ..!
โดยเฉพาะ “พวกนักการเมือง” ที่มาจากการ “เลือกตั้งสกปรก” ที่ซื้อเสียงกับ “โกงเลือกตั้ง” สารพัดวิธี จน “พรรคชนะเลือกตั้ง” เหนือคู่แข่ง ในสนามเลือกตั้งแบบแลนสไลด์ ได้“ส.ส.”เกินครึ่งสภาฯ หรือประสบความสำเร็จในการรวบรวม“ส.ส.”จากพรรคอื่นๆ มาสมทบเกินครึ่งสภาฯ ก็เป็นอัน“ยึดอำนาจรัฐสภาฯ”ไว้ในกำมือได้แล้ว
จากนั้นจะใช้ “เสียงข้างมากในสภาฯ” ดำเนินการ“ยึดอำนาจรัฐ” จากการลงมติเสียงข้างมากในสภาฯ แต่งตั้ง “นายกรัฐมนตรี” เพื่อให้ “นายกฯ” ตั้ง “คณะรัฐมนตรี” เข้ามาเป็น “รัฐบาลเลือกตั้ง” บริหารชาติในกระทรวงทบวงกรมต่างๆ
ที่ผ่านมา..“นายกฯ” กับ “คณะรัฐมนตรี” ที่มาจากการเลือกตั้งสกปรก มักใช้อำนาจอธรรม แสวงหากับกอบโกยผลประโยชน์ โกงเงินของชาติกับประชาชนอย่างมโหฬาร ไปเข้ากระเป๋า“ตนเอง”กับ“พรรคพวก” ต่อเนื่องมาโดยตลอด
ดังเช่นในยุค “นายกฯ” กับ “รัฐบาล” เลือกตั้ง ของมหาเศรษฐี “เหลี่ยม” ที่โกงชาติและให้การสนับสนุนพวกล้มเจ้า ไม่ได้ใช้อำนาจรัฐทำเพื่อชาติกับประชาชน ไม่ได้ทำดังคำประกาศที่ให้ไว้ในช่วงหาเสียง กับห้วงเป็น “รัฐบาลเลือกตั้ง” ว่า “ผมรวยแล้วจะไม่โกงชาติ”
ทำให้ประชาชนผู้รักชาติอดรนทนไม่ไหว จำต้องออกมาชุมนุมเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง ประท้วงขับไล่ “รัฐบาลเลือกตั้ง” โกงชาติล้มเจ้า ของ “บิ๊กเหลี่ยม” กับเครือข่าย แม้จะถูก“อำนาจรัฐอธรรม” ปราบปรามจับกุมเข่นฆ่า ผู้รักชาติที่มีเพียงสองมือเปล่า ทำให้บาดเจ็บและล้มตายกันไปมากมาย
พฤติกรรมอำมหิตและโคตรโกงของ“รัฐบาลเครือข่ายเหลี่ยม” เป็น“ต้นเหตุ”ให้“คณะนายทหาร” ฉวยโอกาสใช้เป็น“ข้ออ้าง” นำกำลัง“กองทัพไทย”ออกมา“ทำรัฐประหาร” โค่นล้ม“รัฐบาลเหลี่ยม”กับเครือข่าย ที่มาจากเลือกตั้งสกปรก จนล้มครืนลงอย่างไม่เป็นท่า ถึงสองครั้งสองครา..
ทว่า.. “คณะนายทหาร” ที่ยกกำลังพลของ“ กองทัพไทย” ออกมาทำรัฐประหาร ยึดและสืบทอด “อำนาจรัฐ” ทั้งสองครั้ง ก็มิได้ทำเพื่อชาติกับประชาชนอย่างจริงจังเป็นหลัก พฤติกรรมจึงมิได้ต่างจาก “รัฐบาลเลือกตั้งเหลี่ยม” ที่ถูกทำรัฐประหารโค่นล้มลงเลย
โดยเฉพาะ“หน.ครปห.ตู่” ที่สถาปนา “ตนเอง”ขึ้นสู่ตำแหน่ง “นายกฯ เผด็จการทหาร” ได้ประกาศคำสัญญาจะ“ปฏิรูปชาติก่อนเลือกตั้ง”!
“นายกฯเผด็จการตู่” จึงสร้างความพึงพอใจ และได้รับ “ดอกไม้” มอบให้ “คุณทหาร”อย่างล้นหลามจาก “ประชาชน” ที่เรียกร้องต้องการให้เกิด “การปฏิรูปชาติ” ในมิติสำคัญๆ เพื่อทำให้การเมือง-เศรษฐกิจ-การศึกษา ฯลฯ อีกทั้งให้สังคมไทยมีความเอื้ออาทรต่อกัน มีความเป็นธรรมในมิติต่างๆ เกิดความสามัคคีปรองดอง มีความสุขสงบสันติทุกแห่งหนในผืนแผ่นดินไทย ฯลฯ
ทว่า.. รัฐบาลรัฐประหารของ “นายกฯ เผด็จการตู่” ที่มีอำนาจล้นฟ้า “มาตรา 44” ในกำมือ สามารถปราบปราม“คนโกงชาติ”ได้เต็มที่! สามารถลดความเหลื่อมล้ำ-ปรับเปลี่ยนโครงสร้างในมิติสำคัญๆ เช่น การกระจายรายได้อย่างเป็นธรรม ให้กับ“คนไทยส่วนใหญ่”ในสังคม ฯลฯ
โดยเฉพาะเรื่องสำคัญอย่างยิ่งยวด ก็คือ “นายกฯ ตู่” สามารถที่ทำตามคำมั่นสัญญา ในเรื่องจะ “ปฏิรูปชาติก่อนเลือกตั้ง”ให้สำเร็จได้ในหลายเรื่อง เพราะ “นายกฯ ตู่” มีอำนาจเผด็จการเบ็ดเสร็จเด็ดขาด และยึดอำนาจรัฐมานานต่อเนื่องกว่า 5 ปี!
แต่..“นายกฯ เผด็จการตู่” ตระบัดสัตย์! มิได้ทำตามคำพูด ไม่ได้ปฏิรูปชาติก่อนเลือกตั้งในครั้งที่ผ่านมา!
อีกทั้ง.. เมื่อได้สืบทอดอำนาจมานานกว่า 3 ปี รวมแล้ว “ตู่” ครองอำนาจ “นายกรัฐมนตรี” นานตั้ง 8 ปีกว่า โดยชาติมิได้มีการปฏิรูปแม้แต่น้อย!
และอีกไม่นาน..จะมีการเลือกตั้งอีกครั้ง “นายกฯ ตู่” ก็ยังคงตระบัดสัตย์ ไม่มีการปฏิรูปชาติให้สำเร็จแม้สักเรื่อง!
ปฏิรูปชาติ-ไม่มีให้เห็น! การเมืองเสื่อมทรามลง-เห็นกันทุกวี่วัน! การลดความเหลื่อมล้ำมิติสำคัญๆ-ไม่มีให้เห็น! การปราบปรามเรื่องโกงชาติ-ไม่จริงจังดังควร ฯลฯ
อนาคตภายใต้การบริหารชาติของ “นายกฯ ตู่” ประชาชนยังมองไม่เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์แม้แต่น้อยเลยว่ะ!
การประชุมเอเปคจบลงด้วยภาพสวยงาม มีคำชมจากทั้งในและนอกประเทศตามมาไม่หยุด การเก็บเกี่ยวผลประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรม พอมีให้เห็นในหมู่คนรวยที่เป็นคนส่วนน้อย แต่ยังไม่เห็นผลประโยชน์เด่นชัดสำหรับคนไทยส่วนใหญ่ “รัฐบาลตู่” จะต้องเร่งให้ปรากฏเป็นจริงโดยเร็วที่สุด
ผลดีจาก “เอเปค” จะจางหายไป อย่างไม่คุ้มค่าต่อชาติและประชาชน ถ้า “รัฐบาลตู่” ไม่เชื่อมประสานให้ด้านอุตสาหกรรมและเกษตรกรรม เกิดรายได้จากการพัฒนาอย่างมีคุณภาพมากที่สุดและโดยเร็วที่สุด และต้องเป็นรายได้ที่ประจักษ์ชัดต่อผู้คนที่เป็นคนส่วนใหญ่
เลือกตั้งครั้งหน้า.. แม้ “ผี-โม่แป้ง” จะสอบผ่านเป็น “ส.ส.” แบบแลนด์สไลด์ได้จริงดังใจ “บิ๊กเหลี่ยม” ปรารถนาก็ตาม หาก “บิ๊กตู่” เร่งสร้างผลงานให้ชาติกับประชาชน “บิ๊กตู่” ย่อมมีโอกาสจะกลับมาเป็น “นายกฯ” อีกครั้ง.. ก็เป็นได้นะจ๊ะ..
เฮ้อ.. แม้โอกาสจะริบหรี่..ริบหรี่... แต่โอกาสก็คือความหวัง..จริงไหม “นายกฯ บิ๊กตู่”..???