xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

ท็อป วราวุธ คุมเต็มตัว ชาติไทยพัฒนาตามรอยเตี่ย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


 วราวุธ ศิลปอาชา - กัญจนา ศิลปอาชา
สมการการเมือง


ไปจับจ้องพรรคใหม่กันเยอะ จนลืมพรรคเก่าที่มีแววจะรุ่ง โดยเฉพาะพรรคชาติไทยพัฒนา ที่มีรากมาจากพรรคชาติไทยของ มังกรสุพรรณ บรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรี


เป็นพรรคที่ถูกมองข้ามเยอะ และไม่คิดว่าจะกลับมารุ่งเรืองเหมือนกับยุคของบรรหารได้อีก ด้วยสไตล์แนวทางการเมืองที่เน้นเป็นไม้ประดับให้กับพรรคร่วมรัฐบาล จนถูกขนานนามว่า เป็นพรรคปลาไหล

ขณะเดียวกัน การเลือกตั้งที่ผ่านมาๆ ปริมาณ ส.ส.เหลือแค่หลักสิบ หัวใจหลักอยู่ที่บรรหารบุรี อย่าง จ.สุพรรณบุรี เพียงจังหวัดเดียว เลยไม่มีใครคิดว่า จะเติบโตไปกว่านี้แล้ว

ทรัพยากรในพรรค ส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นเก่า ศิษย์ก้นกุฏิของ เติ้งเสี่ยวหาร ติดภาพการเมืองแบบโบราณ ไม่เข้ากับยุคสมัยที่เน้นขายคนรุ่นใหม่เป็นหลัก

นอกจากนี้ ยังถูกปรามาสว่า เลือกตั้งคราวหน้าอาจจะเหลือชื่ออยู่แค่ สุพรรณบุรี เพราะเป็นพรรคตกยุค ไม่ถูกจริตกับคนยุคปัจจุบัน

การเมืองที่ไม่มีจุดยืนแบบปลาไหลสไตล์ ครั้งหน้าเกิดยาก

แต่นั่นเป็นเพียงคำค่อนแคะจากคนภายนอก แต่คนในแวดวงการเมืองไม่ได้มองแบบนั้น และยังเชื่อว่า พรรคชาติไทยพัฒนาจะโตกว่าการเลือกตั้งปี 2562

หนูนา กัญจนา ศิลปอาชา และ ลูกท็อป วราวุธ ศิลปอาชา ที่ใครต่อใครมองว่าเป็นลูกไม้ไกลต้น ฝีมือยังห่างชั้นกับผู้เป็นเตี่ย พรรคชาติไทยพัฒนาน่าจะจบในยุคของลูก ต้องคิดใหม่

3 ปีเศษ ในมือของสองศรีพี่น้องศิลปอาชา ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล ที่ได้โควตา 1 รัฐมนตรีว่าการ และ 1 รัฐมนตรีช่วยว่าการ ปั้นผลงานเกินขนาดพรรค
โดยเฉพาะในรายของ วราวุธ ที่พี่สาวดันให้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม บริหารงานกระทรวงเกรดบีให้เป็นกระทรวงเกรดเอได้

ไม่เพียงเท่านั้น วราวุธ ยังปล่อยของที่มีอยู่ในตัว โชว์สายเลือดมังกรให้เห็นว่า ลูกชายคนเล็กเชื้อไม่ทิ้งแถว ฝีไม้ลายมือได้มาจากเตี่ยเต็มๆ

วางตัวทางการเมืองดี ไม่มีปะทะสุ่มสี่สุ่มห้า ชั้นเชิงแบบนี้ได้เต็มๆ และหากจะเทียบว่าเป็นปลาไหล ก็เป็นปลาไหลยุค 5 จี ที่ประยุกต์ตัวเองเข้ากับเทรนด์การเมือง

ฟุดฟิดสปีคอิงลิชคล่องปร๋อ ขนาด บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ยังเคยเอ่ยปากชมกลางห้องประชุม ครม.มาแล้วว่า ใช้ภาษาได้เก่ง

ไปสปีชที่ไหนไม่เคยขายหน้า พูดอังกฤษสำเนียงเปะราวกับเจ้าของภาษา ขนาดแฟนคลับขั้วตรงข้ามรัฐบาลยังอดต้องกล่าวชมไม่ได้

และหากจัดอันดับ 5 รัฐมนตรีมีผลงานโดดเด่น อย่างไรต้องมีชื่อ วราวุธ ติดอยู่ในโผแน่

ฝีไม้ลายไม้เป็นสเปคคนรุ่นใหม่ ติดแค่เพียงไม่ได้อยู่กับพรรคขนาดใหญ่ที่มี ส.ส.เพียงพอจะยกมือให้เป็นนายกรัฐมนตรีเท่านั้น

วราวุธ โชว์ให้เห็นว่า เป็นคนมีศักยภาพ รับผิดชอบพรรคชาติไทยพัฒนาได้แล้ว และนั่นอาจจะเป็นที่มาว่า ทำไม หนูหนา จึงยื่นใบลาออกจากหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา เพื่อให้มีการแต่งตั้งกรรมการบริหารพรรคใหม่ในวันที่ 3 ตุลาคมนี้

มีการมองกันว่า การที่ หนูนา ไขก๊อกพ้นหัวหน้าพรรค เพื่อต้องการปูทางให้น้องชายขึ้นมาถือธงนำเต็มตัวในการเลือกตั้งครั้งหน้า สเปค วราวุธ น่าจะเหมาะกว่าพี่สาวคนโต

จริงๆ วราวุธ จะถือธงนำตั้งแต่ครั้งก่อน ในโครงการยังบลัด ที่มีการวางตัวให้ วราวุธ เป็นหัวหน้าพรรค และ เสี่ยโต้ง สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ส.ส.ศรีสะเกษ เป็นเลขาธิการพรรค เพื่อต้องการเปลี่ยนพรรคให้เข้ากับยุคสมัย ใช้คนรุ่นใหม่เป็นผู้นำ

แต่โครงการล่มลงเสียก่อน หลังจากมีนักการเมืองบิ๊กเนมระดับผู้หลักผู้ใหญ่ย้ายเข้ามาอยู่ในพรรค ประกอบกับสถานการณ์การเมืองที่ต้องใช้ความเก๋าในการต่อรอง เลยต้องปรับแผนเอาพี่สาวคนโตที่มีความอาวุโสทางการเมืองมากกว่ามาเป็นหัวหน้าพรรค

เพื่อตอกย้ำให้เห็นว่ายังเป็นแบรนด์ศิลปอาชา โดยมีนักการเมืองรุ่นเก๋าที่ร่ำเรียนวิชามาจากบรรหารอย่าง ประภัตร โพธสุธน เป็นเลขาธิการพรรค

ขณะที่ วราวุธ ถูกโยกไปเป็นประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์พรรคชาติไทยพัฒนา แต่ยังได้สิทธิ์ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ เบอร์หนึ่งของพรรค

และแม้ หนูนา จะเป็นหัวหน้าพรรค แต่เหมือนเข้ามาในเชิงสัญลักษณ์ ไม่รับเก้าอี้รัฐมนตรี แต่ให้น้องชายเป็น และแม่บ้านพรรคเป็น โดยที่ตัวเองรับบทเงาข้างหลังน้อง

เรียกว่า เป็นการเปิดฟลอร์ให้น้องชายได้แสดงฝีมือเต็มที่ งานการเมืองยกให้ วราวุธ และ ประภัตร เป็นคนจัดการทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นในฝ่ายบริหารหรือฝ่ายนิติบัญญัติ

หากปัญหามันใหญ่เกินกว่าจะรับมือได้ ก็ต้องพึ่งบารมีผู้เป็นแม่ คุณหญิงแจ่มใส ศิลปอาชา เข้ามาช่วย
ตลอดระยะเวลาการ 3 ปีเศษๆ วราวุธ พิสูจน์ให้เห็นว่า ดีพอจะเป็นผู้นำ ทั้งลวดลายทางการเมือง และฝีไม้ลายมือที่ดูทันสมัย เป็นแรงดึงดูดให้กับพรรคได้ ไม่แพ้กับพรรคคนรุ่นใหม่อื่นๆ

นอกจากนี้ ยังมีข่าวว่า กลุ่มทุนชื่อดัง ที่โลดแล่นอยู่ในทางการเมือง เลือกเข้ามาให้การสนับสนุนพรรคชาติไทยพัฒนาอีกพรรค เพราะเห็นแววว่า จะมีบทบาทมากขึ้นในครั้งหน้า

พรรคชาติไทยพัฒนาไม่ได้ฝันไกลถึงขนาดว่า ต้องยิ่งใหญ่เหมือนสมัยเตี่ย เพราะรู้ว่า ยังต้องใช้เวลาอีกนาน เพียงแต่ขนาดพรรคต้องไม่เล็กกว่าตอนปี 2562

เป้าหมายในสนามเลือกตั้งครั้งหน้า บรรหารบุรีเป็นฐานที่มั่น 5 ที่นั่ง ใช้โมเดลสมัยเตี่ย ไล่ต้อนกลุ่มจังหวัดบ้านใกล้เรือนเคียงให้ได้มากที่สุด รวมถึงภาคอีสานบางส่วนที่ตัวผู้สมัครของพรรคแข็งโป๊กอย่างที่ จ.ร้อยเอ็ด

25 ที่นั่งคือ เป้าหมายที่พรรคชาติไทยพัฒนาอยากจะแตะให้ถึง วันนี้พรรคมีความพร้อมกว่าเดิม ทั้งคนและกระสุนดินดำ



กำลังโหลดความคิดเห็น