ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - การปรับตัวอยู่กับโควิด-19 ทำให้ผู้คนออกมาใช้ชีวิตนอกบ้านกันเป็นปกติมากขึ้น เกิดเทรนด์การท่องเที่ยวที่เรียกว่า “Cafe Hopping” มีคาเฟ่เปิดใหม่หลากหลายคอนเซ็ปต์เกิดขึ้นทั่วทุกพื้นที่ในประเทศไทย เร่งเร้าให้สายคาเฟ่ไปเยือน เช็กอิน ถ่ายรูป อัพโซเซียลฯ
อย่างไรก็ตาม รอบสัปดาห์ที่ผ่านมาเกิดความคุกรุ่นสำหรับประเด็น ลูกค้าคอมเพลนอาหารเชิงลบคาเฟ่แห่งหนึ่ง โดยทางร้านขู่ว่าหากไม่ลบโพสต์จะฟ้องร้องดำเนินคดี แต่สุดท้ายคณะรถทัวร์ชาวเน็ตไปลงจอด ทางร้านจึงตัดจบด้วยการออกมาขอโทษขอโพยน้อมรับคำติเพื่อปรับปรุงบริการ
กรณีดังกล่าวไม่ใช่กรณีแรกที่เกิดขึ้น แต่นับเป็นบทเรียนอีกครั้งสำหรับร้านอาหารเครื่องดื่ม จำเป็นต้องลดอีโก้เน้นเซอร์วิสให้มาก เพราะต้องยอมรับว่า นอกจากเรื่องของบรรยากาศดี มีดีไซน์ คอนเซ็ปต์ดึงดูด เรื่องงานบริการเป็นหัวใจสำคัญ และรสชาติเครื่องดื่มหรืออาหารที่ต้องถูกปากให้ลูกค้าติดใจกลับมาใช้เพราะบริการซ้ำ
มาต่อกันที่เทรนด์เที่ยว Cafe Hopping มาจากคำว่า Cafe หมายถึง ร้านกาแฟ และ Hopping ที่แปลว่ากระโดด พอรวมคำกันแล้วจะกลายเป็นความหมายประมาณว่าคนที่ชอบไปร้านกาแฟเป็นประจำ โดยไปหลายร้านในวันเดียว
หนังสือ Café Culture For Lovers of Coffee and Good Design โดย Robert Schneider ฉายภาพการเกิดขึ้น Cafe Hopping ไว้ความว่าจากบรรยากาศสภากาแฟที่มีไว้พบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องราวไปจิบกาแฟไป ได้กลายร่างมาเป็นคาเฟ่หลากสไตล์ นอกจากกาแฟยังมีเครื่องดื่มมากมาย ทั้งขนม เบเกอรี่ และอาหาร ไว้บริการความอร่อย ท่ามกลางบรรยากาศการตกแต่งอันโดดเด่นไปด้วยดีไซน์ที่หลากหลายเพื่อสร้างความแตกต่าง จนเป็นเหมือนสถานที่ท่องเที่ยวของคนรักการถ่ายภาพมากกว่าชอบดื่มกาแฟ และเกิดคำศัพท์ที่ใช้บัญญัติกิจกรรมของคนรุ่นใหม่ว่า Cafe Hopping ขึ้น ซึ่งเป็นงานอดิเรกสุดฮอตของคนที่ชอบไปร้านกาแฟเป็นประจำ และไปหลายร้านในวันเดียว โดยไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นคนชอบดื่มกาแฟนั่นเอง
นอกจากจะเป็นงานอดิเรกยอดนิยมของคนยุคนี้ จนมีเหล่า Cafe Hopper กลายเป็นอินฟลูเอนเซอร์คอยพากินพาเที่ยวและแนะนำคาเฟ่จนสร้างทั้งชื่อเสียงและรายได้ได้จำนวนไม่น้อยแล้ว กระแสของ Café Hopping ยังเป็นปัจจัยสำคัญของคาเฟ่เกิดใหม่มากมาย ที่ต่างพากันงัดจุดดีสร้างจุดเด่นที่พิเศษมากกว่าแค่ร้านขายกาแฟธรรมดาสามัญ
“วัฒนธรรมการดื่มกาแฟได้รับการพัฒนาให้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก หากจะกล่าวถึงความแตกต่างระหว่างร้านกาแฟแบบดั้งเดิมกับคาเฟ่สมัยใหม่ จะพบว่าแต่ละที่ต่างให้บรรยากาศ สิ่งแวดล้อม บุคลิกภาพ รูปลักษณ์ และประสบการณ์ที่แตกต่างกัน โดยร้านกาแฟแบบดั้งเดิมยังคงให้ความสำคัญกับเรื่องของกาแฟ หรือเครื่องดื่มอย่างช็อกโกแล็ต รวมถึงขนมอบต่างๆ ขณะเดียวกันก็มีร้านกาแฟอีกไม่น้อยที่เพิ่มในส่วนของเมนูอาหาร รวมถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างเบียร์หรือไวน์ อันเป็นผลให้ร้านกาแฟแปรเปลี่ยนเป็นคาเฟ่มากขึ้นในปัจจุบัน”
กล่าวคือร้านกาแฟหรือคาเฟ่เกิดใหม่เริ่มมองเห็นว่าการออกแบบสามารถสร้างมูลค่าในการสร้างแบรนด์ของร้านตัวเองให้เป็นที่จดจำและสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัว การออกแบบคาเฟ่ในปัจจุบันก็มีความประณีต พิถีพิถัน และซับซ้อนมากขึ้น เนื่องมาจากการเลือกใช้สถาปนิกและนักออกแบบมืออาชีพที่มีชื่อเสียงเพิ่มมากขึ้น จึงทำให้คาเฟ่หรือร้านกาแฟมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งสถาปนิกและนักออกแบบได้มีการใช้ข้อจำกัดต่าง ๆ เช่น โครงสร้าง สถานที่ตั้ง กฎในการก่อสร้างอาคารของท้องที่นั้นๆ มาเป็นแรงบันดาลใจในการกำหนดแนวคิด สร้างสรรค์การออกแบบร้านแต่ละร้าน เพื่อเป็นการสร้างความต่างที่มอบประสบการณ์การดื่มกาแฟหรือการเข้าคาเฟ่ให้ลูกค้าเกิดความประทับใจ มากกว่าจะแข่งขันกันในเรื่องของสูตรหรือรสชาติกาแฟ
ความนิยมและความสำเร็จ cafe Hopping ไม่ใช่เพียงแค่หัวใจของร้านอาหารอย่างเมนูเครื่องดื่มหรืออาหารที่ต้องอร่อย หน้าตาสวยงาม และมีคุณภาพเท่านั้น เรื่องของการสร้างความแตกต่างในด้านของบรรยากาศ การตกแต่ง และเรื่องราวของคาเฟ่แต่ละที่เป็นปัจจัยสำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน
นายธนวัฒน์ เพชรพันธ์ อาจารย์ประจำสาขาวิชาการท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ได้อธิบายความหมายของ Cafe Hopping ระบุว่าเป็นการผสมผสานระหว่างของคำว่า Cafe หรือร้านกาแฟ (บางร้านมีการขายอาหารร่วมด้วย) กับ Hopping หรือการกระโดด เมื่อรวมกันแล้วจึงหมายถึงนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปเที่ยวยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ แล้วมักจะเลือกร้านกาแฟสำหรับทานอาหารและถ่ายรูปมาเป็นส่วนหนึ่งของการวางแผนการท่องเที่ยวในครั้งนั้นๆ
แรงจูงใจของนักท่องเที่ยวแบบ Cafe Hopping ร้านที่มีการตกแต่งสวยงาม วิวและบรรยากาศดี เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการถ่ายภาพ เครื่องดื่มรสชาติอร่อยและจัดแต่งได้ดี สามารถนำไปถ่ายภาพได้ ทางร้านจะต้องสร้างความพิเศษเฉพาะขึ้นมา อาทิ การคิดค้นสูตรเครื่องดื่มแบบใหม่ เช่น กาแฟผสมน้ำส้มโอ กาแฟผสมน้ำทับทิม เป็นต้น ผู้ประกอบการจะต้องพยายามหาจุดขายให้แตกต่างจากร้านอื่น
ส่วนข้อจำกัดของการท่องเที่ยวแบบ Cafe Hopping นักท่องเที่ยวที่ได้ถ่ายรูปกลับไปแล้ว มักจะไม่กลับมาบริโภคซ้ำหรือกลับมาใช้บริการค่อนข้างน้อย หากเครื่องดื่มที่ร้านนั้นไม่ได้มีรสชาติดีจริงจนหาทานไม่ได้อีก ในขณะที่ทางร้านเองได้ลงทุนค่าตกแต่งดัดแปลงทางภูมิสถาปัตย์ไปแล้ว ประกอบกับการที่ Cafe ไม่ได้ยึดโยงกับชุมชนเหมือนในอดีต เมื่อสถานที่ท่องเที่ยวบริเวณนั้นหมดความนิยมไปแล้ว ในระยะยาวจะทำให้ร้านมีผลประกอบการขาดทุนและต้องเลิกกิจการไปในที่สุด
อย่างไรก็ดี แม้สถานการณ์วิกฤติโควิด-19 ในห้วง 2 ปีที่ผ่านมาจะผลกระทบต่อภาพรวมธุรกิจกาแฟ โดยเฉพาะร้านกาแฟที่ตอบสนองการบริโภคกาแฟนอกบ้าน ตลาดมีการหดตัวสูงถึง 30 - 40% แต่ปัจจุบันมีร้านกาแฟใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย โดยเฉพาะร้านกาแฟ Specialty รวมทั้งร้านเล็กๆ อย่าง Slow bar coffee ดึงดูดด้วยเมนูเมล็ดกาแฟพิเศษเครื่องดื่มเมนูซิกเนเจอร์ และบรรยากาศการตกแต่งร้านที่ชวนเข้ามาเยี่ยมเยียน
น.ส.ณัฏฐ์รดา คุณะวิวัฒนานนท์ นายกสมาคมกาแฟพิเศษไทย (วาระ 2565-2566) กล่าวถึงพฤติกรรมการดื่มกาแฟของผู้บริโภคมีความรื่นรมย์ขึ้นและเมล็ดกาแฟพิเศษก็ได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ ปัจจุบันเมื่อทุกคนกลับมาใช้ชีวิตนอกบ้านตามปกติ วัฒนธรรมการดื่มกาแฟจึงเปลี่ยนไปคอกาแฟมีความพิถีพิถันมากขึ้นและมีการใช้จ่ายเพื่อให้ได้เมล็ดกาแฟที่ดี และตรงตามความชอบของตัวเองมากขึ้น
และนอกจากตลาดผู้บริโภคจะคึกคักแล้ว ในฝั่งเกษตรกรก็มีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดเช่นกัน เกษตรกรไทยต่างใช้องค์ความรู้และประสบการณ์ที่มีมาพัฒนาเมล็ดกาแฟพิเศษ จนมีกาแฟไทยที่ได้รับคะแนน cupping score ซึ่งเป็นมาตรฐานการวัดคุณภาพกาแฟระดับโลกสูงถึง 92.89 คะแนนซึ่งเป็นคะแนนที่สูงที่สุดเท่าที่เคยมีมาของกาแฟไทย เป็นการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจตลาดกาแฟไทยที่ทำให้ได้เห็นโอกาสในแง่มุมต่างๆ ซึ่งการเดินทางสู่อนาคตของวงการกาแฟพิเศษไทย คือการรับโอกาสจากความเป็นไปได้ใหม่ๆ เพื่อสร้างประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ให้วงการกาแฟไทยต่อไป
นอกจาก “เมนูกาแฟ” เมนูยอดนิยมอันดับ 1 ในกิจกรรม Cafe Hopping “เมนูมัทฉะ” กับ “เมนูโกโก้” ก็ถูกจัดเป็นเมนู Recommend ของหลายๆ แห่ง ซึ่งเป็นที่ทราบกันว่า “มัทฉะ” คือชาเขียวญี่ปุ่นประเภทหนึ่งมีลักษณะเป็นผงละเอียดสีเขียวเข้ม มัทฉะมีหลากมีหลายสายพันธุ์จากหลายแหล่งปลูก มีรสชาติแตกต่างกัน มัทฉะมีกลิ่นหอมสามารถชงกับน้ำร้อนผสมนมเป็นเครื่องดื่ม มัทฉะเป็นเมนูที่ได้รับความนิยมในกลุ่มผู้ที่สนใจสุขภาพและทานอาหารจากพืชด้วย เนื่องจากคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระที่สูง มีคุณสมบัติช่วยเผาผลาญไขมัน ชะลอวัย ต้านมะเร็ง ป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน
สำหรับเป็นเมนูเครื่องดื่มยอดนิยมอีกอย่างคือ “โกโก้” ซึ่งมีกลิ่นมหอมมีรสขมอันเป็นเอกลักษณ์ ที่ทำให้ผู้คนหลงไหล เช่นเดียวกัน มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปกป้องเซลล์ในร่างกายไม่ให้ถูกทำลาย และช่วยลดระดับความดันโลหิต และยังช่วยให้ระบบไหลเวียนโลหิตทำงานได้ดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยยังผลิตโกโก้ได้น้อยจึงจำเป็นต้องนำเข้ามาโดยตลอด ปีละกว่า 4 พันล้านบาท หรือ 2 ล้าน ก.ก. ขณะเดียวกัน ความต้องการโกโก้ในเอเชีย มีความต้องการที่เพิ่มขึ้นตลอด และจากการคาดการณ์ พบว่าจะเติบโตได้ถึง 8 % ในอีก 5 ปีต่อนับจากนี้ ซึ่งปัจจุบันด้วยกำลังซื้อทางฝั่งเอเชียเติบโตขึ้นทำให้โกโก้ได้รับความนิยมในเอเชียมากขึ้น
เทรนด์ Cafe Hopping กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก คาเฟ่คอนเสปปังๆ เปิดใหม่ที่ไหน ที่นั่นจะเนืองแน่นไปด้วยผู้คนสายคาเฟ่ พร้อมใจแวะเช็คอิน ถ่ายรูป อัพโซเซียลฯ กันโดยมิได้นัดหมาย ปฏิเสธไม่ได้ว่า Cafe Hopping เป็นการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ที่เกิดขึ้นในยุคดิจิทัล