xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

“ตู่”ตาย “ป้อม”ก็เฉา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา - พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - ประเด็นวาระการดำรงตำแหน่ง 8 ปี ของ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ที่กำลังโหมโรงกันหนักว่าจะกระเด็นตกเก้าอี้ ในวันที่ 24 ส.ค.นี้หรือไม่ เท่าที่จับปฏิกิริยาฝ่ายต่างๆ ไปๆมาๆ ดูเหมือนฝ่ายคนกันเองอยากจะให้ “บิ๊กตู่” เก็บกระเป๋ามากกว่าฝ่ายค้านเสียอีก

โดยเฉพาะการพยายามปั่นประเด็น “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีแทนเพื่อจัดการเลือกตั้ง

การนำเอาชื่อ “บิ๊กป้อม” มาเสียบแทนน้องเลิฟ มันไม่แปลกอะไร เพราะเป็นรองนายกรัฐมนตรี เป็นพี่ใหญ่ของน้องๆ ที่สามารถประคองสถานการณ์ไปจนถึงการเลือกตั้งได้

แต่เจตนามันไม่ได้มีเพียงแค่นั้น เพราะมีการตั้งข้อสังเกตกันว่า การจะเอา “บิ๊กตู่” ลงจากเก้าอี้ครั้งนี้เป็นทฤษฎีสมคบคิดของคนรอบตัว “บิ๊กป้อม”

เพราะคนเหล่านี้มองว่า “บิ๊กตู่” คือตัวปัญหาในหลายๆ เรื่องที่ตัวเองต้องการ ขนาดต่อรองหรือเรียกร้องไปแล้ว แต่ไร้การตอบสนองตลอด โดยเฉพาะการผลักดันให้ “บิ๊กป้อม”ไปนั่งเป็น รมว.มหาดไทย เพื่อหวังใช้กลไกให้เอื้อต่อการเลือกตั้ง

ขนาดมีการเขย่าแรง “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยให้ 6 ส.ส.กลุ่มปากน้ำ โหวตสวนจนทำให้ได้คะแนนไม่ไว้วางใจมากที่สุด ขณะที่ “บิ๊กป้อม” นอกจากไม่ตำหนิส.ส.ในสังกัด ยังจะตกรางวัลเก้าอี้เสนาบดีให้ เรียกว่า ขย่มกันแบบซึ่งหน้าให้รู้ตัว

แต่สุดท้าย “บิ๊กตู่” ไม่ปรับตามคำร้องขอแต่อย่างใด

และหากครั้งหน้ายังเป็น “บิ๊กตู่” ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อ จะยิ่งสร้างความลำบากให้คนเหล่านี้ เพราะ “บิ๊กตู่” ไม่มีอะไรหยิบยื่นให้ ไม่ว่าจะในวงการทหาร ตำรวจ ข้าราชการ

ฉะนั้น หากจะกำจัด “บิ๊กตู่” ต้องใช้ช่องทางนี้ เพราะถือว่าเป็นช่องทางที่นิ่มนวลที่สุด เป็นการลงหลังเสือโดยไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ขณะเดียวกันช่วงเวลาที่เหลือ คนเหล่านี้จะได้เซ็ตทีมเตรียมพร้อมสำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้าได้เต็มที่ โดยไม่มีตอมาขัดอีก

หากไม่มี “บิ๊กตู่” อยู่ในอำนาจ “บิ๊กป้อม” และเด็กในคาถาจะสามารถทำอะไรได้สะดวกโยธินเต็มที่ ต่างกับตอน “บิ๊กตู่” อยู่ ที่คอยเบรก คอยคานอำนาจอยู่ร่ำไป

นอกจากนี้ ยังทำให้การทำการเมืองครั้งหน้าง่ายขึ้น เพราะหาก “บิ๊กตู่” ยังดื้อดึง ลงเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีต่อ “บิ๊กป้อม” จะเหนื่อยมาก เนื่องจากปัจจุบันกระแส “บิ๊กตู่” ไม่ได้ดีเหมือนกับตอนเลือกตั้งปี 2562 กลับกันยังดิ่งลงเหว

แต่ถ้า “บิ๊กตู่” ไม่สามารถลงเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีได้อีก พรรคพลังประชารัฐภายใต้การนำของ “บิ๊กป้อม” จะทำการเมืองได้แบบไม่มีข้อจำกัด โดยเฉพาะการจับมือกับพรรคเพื่อไทย ที่ยังมีคอนเนกชันต่อกันอยู่

ต่างจากกรณี “บิ๊กตู่” ดึงดันจะเป็นนายกรัฐมนตรีต่อ การจับมือกับพรรคเพื่อไทย เลิกฝันได้เลย เพราะเกลียดพรรคเพื่อไทยและทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้ากระดูกดำ ไม่ประนีประนอมด้วย

ข้อจำกัดทางการเมืองจะมีเยอะขึ้น ไม่สามารถทำงานร่วมกับพรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล พรรคเสรีรวมไทย ขณะเดียวกัน ต้องเป็นผู้นำต่อ เป็นผู้ตามไม่ได้

แต่ถ้า “บิ๊กตู่” ไม่อยู่ “บิ๊กป้อม” ไม่จำเป็นต้องเป็นนายกรัฐมนตรีเสมอไป สามารถไปเป็น รมว.กลาโหม หรือ รมว.มหาดไทยได้ ซึ่งอยู่ในฐานะผู้จัดการรัฐบาล หรือเป็นผู้มากบารมีเหมือนกับตอนรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ถึงขั้นต้องไปเชิญมาเป็นรมว.กลาโหม

  ดังนั้น หากวันที่ 24 สิงหาคมนี้ “บิ๊กตู่” หลุด ปัญหาสำหรับคนวงในของ “บิ๊กป้อม” จะจบ จะเป็นนายกรัฐมนตรี หรือ รมว.มหาดไทย หรือ รมว.กลาโหม ได้หมด

การจัดทัพและการหาเสียงในการเลือกตั้งจะง่ายขึ้น เพราะไม่ต้องมาชู “บิ๊กตู่” ที่กระแสไม่ดีอีกแล้ว สามารถเลือกแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ที่ไม่ถูกต่อต้านจากประชาชน

และการไม่มี “บิ๊กตู่” นั้น ยังเหมือนเป็นการยิงนกสองตัว เพราะ “บิ๊กป๊อก” น้องรองก็คงไม่อยู่เช่นกัน เพราะไม่อยากสังฆกรรมกับบรรดาคนเหล่านี้ต่อ

แต่อย่างไรก็ดี หลายคนมองว่า “บิ๊กตู่” ไม่มี “บิ๊กป้อม” ลำบาก ในขณะที่ “บิ๊กป้อม” ไม่มี “บิ๊กตู่” อยู่ได้สบาย เพราะมีคอนเนกชันกว้างขวาง ทำงานร่วมกับทุกฝ่ายได้

แต่อย่าลืมว่า ที่ผ่านมา ใน 3 ป.นี้ แต่ละคนต่างมีจุดแข็ง จุดอ่อน ต่างกัน ซึ่งนำมาเพื่อเกื้อหนุนกันและกัน จุดแข็งของ “บิ๊กตู่” คือ ยังเป็นขวัญใจเบอร์หนึ่งของประชาชนสายจงรักภักดี และยังเป็นสัญลักษณ์เบอร์หนึ่งในการต่อสู้กับระบอบทักษิณ สามารถดึงดูดคะแนนจากคนเหล่านี้ที่มีไม่น้อยได้

ในขณะที่ “บิ๊กป้อม” ไปโดดเด่นเรื่องการบริหารจัดการการเมือง แต่ติดลบเรื่องภาพลักษณ์ที่ไม่ดีสักเท่าไหร่ ทำให้ไม่สามารถดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หลังการรัฐประหารเมื่อปี 2557

ในสายตาทีมเชียร์ลุงตู่ มีทัศนคติที่ไม่ดีกับ “บิ๊กป้อม” นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์กบฏศึกซักฟอก ที่นำโดย “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” ส.ส.พะเยา และหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย โดยเชื่อกันว่า “บิ๊กป้อม” รู้เห็นด้วย


และจะเห็นว่า นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์นี้ คะแนนนิยมของพรรคพลังประชารัฐใน กทม. และภาคใต้ ดรอปลงอย่างเห็นได้ชัด เพราะคนรู้สึกว่าพรรคพลังประชารัฐ ไม่ใช่พรรคของ “บิ๊กตู่” อีกต่อไป

ฉะนั้น ถ้าถึงวันที่ “บิ๊กป้อม” ต้องฉายเดี่ยวทางการเมือง โดยไร้ 2 ป. อยู่ข้างๆ มันอาจทำงานง่ายขึ้นก็จริง แต่จะไม่ได้เติบโต หรือกว้างขวางเท่ากับวันนี้

เพราะตัว “บิ๊กป้อม” โดดเด่นในเบื้องหลัง แต่ไม่ได้เฉิดฉายในเบื้องหน้า ยังติดปัญหาเรื่องภาพลักษณ์
ที่สำคัญ ความมีบารมีทางการเมือง กับการหาคะแนนมันคนละเรื่องกัน

เชื่อขนมกินได้ “บิ๊กตู่” ตาย “บิ๊กป้อม” ก็เฉาเหมือนกัน ...ถึงวันนั้นก่อนแล้วจะรู้สึก!!


กำลังโหลดความคิดเห็น