xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

ปาหี่กฎหมายเลือกตั้ง สุดท้ายเซตซีโร ร่าง กกต.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา - พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ - นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว
ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - ไม่ได้กลับกลอก กลิ้งไปกลิ้งมา เพื่อหากติกาให้ตัวเองได้เปรียบ แต่ทุกอย่างที่เดินมาตั้งแต่การกลับลํา หันไปใช้สูตรคํา นวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ด้วยการหาร500 แล้วอยู่ๆ อยากจะรีเทิร์นสูตรหาร100 หรือแม้แต่อยากจะปัดฝุ่นคืนชีพบัตรเลือกตั้งใบเดียว เป็นเกมที่ถูกกํา หนดไว้แล้ว

สิ่งที่เกิดขึ้นกับร่าง พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ทั้งหมดในวาระ2 ตลอดจนในชั้นคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว ล้วนเป็นปาหี่ ที่ฝ่ายกุมอํา นาจต้องการให้มันออกมาเป็นอย่างนี้

ต้องการให้ทุกอย่างกลับไปสู่จุดเริ่มต้น และจุดเริ่มต้นที่ว่า ไม่ใช่บัตรเลือกตั้งใบเดียวที่คิดได้และมีวิธีแต่น่ารังเกียจเกินที่จะทํา เพราะเพิ่งแก้ไขรัฐธรรมนูญกลับไปใช้บัตรเลือกตั้งสองใบ มีผลบังคับใช้แล้ว แต่ยังไม่เคยนํา ไปสู่การปฏิบัติแต่จะกลับแก้ใหม่อีกรอบประหนึ่งเขียนด้วยมือ ลบด้วยเท้า

หากตัดสินใจใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียว ต่อให้พรรคพลังประชารัฐ และ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ชนะการเลือกตั้ง แต่ยากที่จะบริหารได้ประเทศส่อเค้าจะเกิดกลียุคม็อบเต็มบ้านเต็มเมือง แม้แต่ท็อปบูต สีกากี โล่กระบอง แก๊สน้ํา ตาก็เอาไม่อยู่


การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นจะไม่ได้รับการยอมรับเพราะเป็นการใช้กติกาที่ผู้อํา นาจดีไซน์มาทุกอย่างให้กับตัวเอง ส่อแววซ้ํารอยการเลือกตั้งเมื่อปี2548 ที่แม้พรรคไทยรักไทยจะชนะขาดลอย แต่ ทักษิณ ชินวัตรนายกรัฐมนตรีในตอนนั้น บริหารประเทศไม่ได้เนื่องจากมีข้อครหาเยอะ

รัฐบาลรู้ดีว่าหากทําอย่างนั้น ตัวเองย่อมจบไม่สวย หากคิดจะเอาชิงความได้เปรียบแต่อยู่ในระดับที่น่ารังเกียจน้อยที่สุด มีแรงต้านบางเบาน้อยที่สุดดังนั้น การกลับไปสู่จุดเริ่มต้นคือ ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ฉบับคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอต่อสภา

ร่างกฎหมายลูกฉบับ กกต.นี่แหละคือ ของจริงและเป็นร่างที่ผ่านสายตาผู้มีอํา นาจจนเป็นที่พอใจแล้วถึงส่งไปยังรัฐสภา

สํา หรับ กกต.ชุดนี้อย่างที่รู้กันๆ อยู่ว่าใครเป็นคนเลือก ใครเป็นคนตั้งเข้ามาทํา หน้าที่ ทุกคนถูกสแกนมาอย่างดีไม่ได้เลือกสุ่มสี่สุ่มห้า

ฝ่ายกุมอํา นาจรู้อยู่แล้วว่า การพิจารณาในชั้นคณะกรรมาธิการฯ มันจะมีประเด็นงอกเงยบานปลาย เพราะมีหลายฝ่ายอยู่ มากคนมากความเหมือนตอนยกร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับ “ดร.ปื๊ด” บวรศักดิ์ อุวรรณโณ อดีตประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญยุคคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ที่บานปลายไปหลายอย่าง จนที่สุดคสช.จับทําแท้ง เพื่อต่ออายุให้ตัวเองแม้ฝ่ายรัฐบาลจะมีเสียงข้างมาก เพราะมีส.ว.ในมือเป็นตัวช่วยอีกแรงแต่การเอาชนะด้วยเสียงข้างมากมันดูง่ายไป และอาจถูกข้อครหาเรื่องเผด็จการรัฐสภาเลยปล่อยไปตามขั้นตอนแล้วมาทีเด็ดทีขาดในตอนที่ทุกคนไม่เหลือตัวเลือกอะไรมากนักแล้ว

แน่นอนว่า มันมีคนอยากได้สูตรคํา นวณส.ส.บัญชีรายชื่อหารด้วย500 จ่ริง เพราะยังมองในตรรกะที่ว่า จะทํา การคุมกํา เนิดพรรคเพื่อไทยไม่ให้แลนด์สไลด์ได้ โดยเฉพาะ ส.ว.สาย “บิ๊กตู่” ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ และบรรดาพรรคปัดเศษทั้งหลาย ที่ไม่อยากตกงาน และต้องการมีชีวิตต่อในสภา

เพียงแต่สูตรหาร 500 นั้น มันย้อนแย้งกับตัวรัฐธรรมนูญ เพราะหากพรรคการเมืองหนึ่งได้ส.ส.พึงมีครบแล้ว แต่ปรากฏว่า คะแนนพรรคได้หลายล้านแต่กลับไม่ได้ส.ส.บัญชีรายชื่อเลยสักคน มันจะลักลั่นกันมาก มองทางไหนก็ขัดรัฐธรรมนูญเต็มประตู

ครั้นจะใช้สูตรหาร 100 ตามที่คณะกรรมาธิการฯก็มีพวกจ้องจะไปยื่นศาลรัฐธรรมนูญ เพราะมองว่าขัดรัฐธรรมนูญเหมือนกัน เพราะมีคําว่า ส.ส.พึงมีบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ ทุกคะแนนไม่ควรตกน้ํา หากปล่อยให้มีการตกน้ํา ตรงนี้ถือว่าเป็นช่องโหว่อันใหญ่

เพราะ ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับพรรคประชาธิปัตย์ที่รัฐบาลใช้เป็นร่างหลักในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แก้เฉพาะเรื่องจํานวนส.ส.แบบแบ่งเขตส.ส.บัญชีรายชื่อ และบัตรสองใบ แต่ไม่ได้แก้มาตราต่างๆ ที่ผูกโยงกันเรียกว่าไปทางไหนก็ส่อเจออุบัติเหตุทั้งคู่ขณะที่การพลิกลํา ส่งสัญญาณให้ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล และ ส.ว.โหวตคว่ํา สูตรหาร 100 ในสภาแบบคาตาพรรคเพื่อไทย และให้โหวตเอาสูตรหาร 500มาใช้นั้น มันเป็นแผนลับ ลวง พราง

ขณะเดียวกัน ยังเป็นการล่อ ส.ส.พรรคปัดเศษให้ติดกับ เพื่อให้หันมาสนับสนุน “บิ๊กตู่”และรัฐมนตรีคนอื่นๆ ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมาอย่างที่รู้กัน ก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจ พรรคปัดเศษพวกนี้ฟาดงวงฟาดงาหนักมาก เพราะไม่พอใจรัฐบาลที่ใช้สูตรคํา นวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อแบบหารด้วย100 เนื่องจากจะทํา ให้ตัวเองสูญพันธุ์ปฏิบัติการขุดบ่อล่อปลา จึงบังเกิด โหวตเอาหาร 500 ก่อนการซักฟอกไม่กี่วัน เพื่อให้บรรดาพรรคเล็กตายใจ

แต่ทันทีที่ “บิ๊กตู่และรัฐมนตรี” รอดพ้นการอภิปรายไม่ไว้วางใจไม่นาน แผนการหวนคืนสู่การหาร100 ก็กลับมาเข้มข้น จนกระทั่งสัญญาณชัดขึ้นว่าผู้มากบารมีพรรคพลังประชารัฐ เอาบัตรสองใบหารด้วย 100

แต่การจะกลับไปหาร 100 ต้องรอให้ถึงชั้นคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)และศาลรัฐธรรมนูญเสียก่อน เพื่อยืมมือให้สูตรหาร 500 ถูกตีตก

ทว่าวิธีนี้มันเสี่ยงเกินไป เพราะกฎหมายฉบับนี้เสนอโดยรัฐบาล หากขัดรัฐธรรมนูญอาจจะเจอประเด็นทางการเมืองตามมาอีกได้ ฉะนั้น วิธีเดียวคือทํา ให้พิจารณาไม่ทันใน180 วัน เพื่อ “เซตซีโร” กลับไปใช้ร่างกฎหมายลูกของ กกต. ที่นักการเมืองไม่มีส่วนร่วมในการยกร่างเลย

ไม่แปลกที่จะเห็น ส.ส.และ ส.ว.อิดออดไม่ยอมเข้าประชุมสภา แถมบางพรรคส่งซิกให้ส.ส.แยกย้ายกลับบ้านเพื่อองค์ประชุมสภาล่ม และให้การพิจารณาช้าที่สุด ให้ไม่ทันวันที่ 15 สิงหาคม ซึ่งครบ180 วัน

แล้วถึงตอนนี้ ทุกฝ่ายต้องเอา เพราะเหลือไม่กี่เดือนจะครบเทอมรัฐบาล จะยกร่างกันใหม่ก็ไม่รู้ทันเวลาหรือไม่ ดีไม่ดีจะเจอยุบสภาก่อนจะวุ่นวายอีก


กำลังโหลดความคิดเห็น