ในที่สุด คู่แข่งขัน 2 คนสุดท้ายที่จะมาแทนนายกฯ บอริส จอห์นสัน ของพรรคทอรีก็คือ 2 รัฐมนตรีสำคัญในรัฐบาลนายกฯ จอห์นสัน ได้แก่ อดีตรมต.คลังเชื้อสายอินเดีย นายริชี ซูนัก ซึ่งเป็นรมต.ที่ค้ำบัลลังก์ให้แก่นายกฯ จอห์นสัน ตั้งแต่เชื้อโควิดกำลังระบาดหนัก ต้องมีปิดบ้านปิดเมืองจนธุรกิจแทบต้องเลิกล้มกิจการเพราะต้องหยุดให้บริการเป็นเวลานาน
อีกคนก็คือ รมต.ต่างประเทศที่ตอนนี้ก็ยังปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งนี้อยู่ เพราะเธอไม่ได้ลาออกแบบรมต.ริชี ซูนัก (ที่นำขบวนลาออกอ้างเหตุผลว่าอยู่ร่วมครม.กับนายกฯ ที่สับปลับไม่ได้อีกต่อไป) หรืออีกนัยหนึ่งคือ เธอไม่ยอมทิ้งเรือของนายกฯ จอห์นสัน, ไม่ทรยศต่อเขาเพราะเธอยังคงซื่อสัตย์ต่อนายกฯ ที่ตั้งเธอมารับงานสำคัญของบ้านเมือง ตรงข้าม นายกฯ จอห์นสัน กลับผิดหวังในตัวริชี ซูนัก ว่าทรยศต่อเขา เป็นผู้นำขบวนให้เกิดกระแสทิ้งรัฐนาวานายกฯ จอห์นสัน อย่างที่จอห์นสันได้กล่าวสุนทรพจน์ลาออกจากตำแหน่งหน้าที่ด้านหน้าพรรคทอรีอย่างขมขื่น เคียดแค้นว่า ที่เขาต้องประกาศลาออก ก็เพราะมี “herd instinct” หรือมีหัวหน้าฝูง (สัตว์) เป็นผู้เริ่มกระแส ซึ่งหมายถึงริชี ซูนัก นั่นเอง ซึ่งทำให้เกิดกระแสพวกมากลากไปจากจ่าฝูง...และนายกฯ จอห์นสันขณะนี้ ได้พยายามหาเสียงภายในพรรค ตั้งแต่ยังมีผู้สมัครแข่งถึง 8 คนว่า เขาสนับสนุนใครก็ได้ ที่จะมารับตำแหน่งแทนเขา ตราบเท่าที่ไม่ใช่จอมทรยศ “ริชี ซูนัก” นั่นเอง!! เพราะในจำนวนผู้สมัคร 8 คนนั้น มีบางคนที่ยังยืนอยู่ข้างบอริส จอห์นสัน ว่า เขาไม่ได้ทำอะไรผิดเช่น ดำเนินนโยบายผิด และขณะนี้จะไม่ยอมทิ้งเรือจอห์นสันจนถึงนาทีสุดท้ายที่เขาจะพ้นตำแหน่งนั่นเอง
การดีเบต 5 รอบแรก เป็นการคัดเลือกเพื่อให้เหลือคู่แข่งแค่สองคนสุดท้าย ซึ่งทั้ง 5 รอบนั้น ริชี ซูนัก ได้ที่ 1 มาตลอด โดยเป็นการลงคะแนนเฉพาะจากเหล่า ส.ส.ของพรรคที่นั่งอยู่ในสภาฯ...ไม่ใช่ให้สมาชิกพรรค ทั้งเกือบ 2 แสนคนเป็นผู้ลงคะแนน
ใน 4 รอบแรกนี้ เพนนี มอร์ดันท์ (ตำแหน่งเหมือน รมช.ที่ไม่ได้เข้าร่วมในคณะครม.) ได้คะแนนนำเป็นอันดับ 2 มาตลอด ซึ่งเธอก็ได้รับเสียงสนับสนุนจากสมาชิกวงกว้างของพรรค; สูงกว่าที่ริชี ซูนัก ได้รับ (จาก You Gov Poll) ประมาณ 54% ต่อ 33%
แต่ในรอบที่ 5 ที่เป็นรอบสุดท้าย และเหลือกันแค่ 3 คนคือ ริชี, เพนนี, และลิซ...ปรากฏว่าลิซชนะแซงหน้าเพนนีขึ้นมาเป็นอันดับ 2... ซึ่งก็คือเหลือ 2 คนคู่ชิงสุดท้ายได้แก่ ริชี และลิซ
ก่อนลงคะแนนรอบที่ 5 (รอบสุดท้าย) ก็มีเสียงเชียร์ทั้ง 3 คนจากเหล่าบิ๊กๆ ระดับรมต.ปัจจุบัน และอดีตของพรรคทอรีออกมาส่งเสียงเปิดหน้าสนับสนุนผู้สมัครบางตนเช่น รองนายกฯ ปัจจุบันของครม.บอริส จอห์นสัน บอกว่า เขาสนับสนุนริชี ซูนัก เพราะนโยบายเอางบประมาณของรัฐออกมาโอบอุ้มกลุ่มเปราะบาง โดยเฉพาะธุรกิจขนาดเล็กที่รัฐเข้าช่วยเหลือ ถ้าไม่ปลดลูกจ้างออก โดยให้นายจ้างจ่ายค่าจ้างแค่ 80% ของรายได้ และรัฐก็ให้การช่วยเหลือแก่นายจ้างเหล่านั้น ซึ่งทำให้เศรษฐกิจอังกฤษไม่ล่มสลาย หรือไม่มีการว่างงานอย่างกว้างขวางในช่วงโควิดระบาดหนัก
ยังมีอดีตรมต.ต่างประเทศสมัยเดวิด คาเมรอน และสมัยเทเรซา เมย์ คือ นายเจเรมี ฮันต์ ก็ออกมาประกาศสนับสนุนริชี (เพราะการลงคะแนนภายในเพื่อเลือกคู่แข่งนี้ เป็นการลงคะแนนลับ ไม่ใช่เปิดเผย)
แต่พวกฝ่ายผู้สนับสนุนเพนนี มอร์ดันท์ ก็มีอดีตรมต.กระทรวง Brexit คือ เดวิด เดวิส ออกมาส่งเสียงโวยวายฟ้องสื่อบอกว่า การคัดเลือกครั้งนี้ถือว่า “สกปรกที่สุด” เพราะนายริชี พยายามบอก ส.ส.ที่สนับสนุนนายริชีบางคน ให้ไปลงคะแนนโปะให้กับนางลิซ ทรัสส์ เพื่อจะได้ตัดคะแนนนางเพนนี มอร์ดันท์ ให้สอบตกในรอบสุดท้าย
ที่อังกฤษไม่มีการแจกกล้วยเป็นหวีๆ แบบการอภิปรายไม่ไว้วางใจของไทย (ไม่ใช่เพราะเขาปลูกกล้วยไม่ขึ้นหรอก แต่เพราะเขาไม่กล้าจ่ายใต้โต๊ะกระมัง...) โดยอดีตรมต.เดวิด เดวิส แฉบอกว่า เพราะกลุ่มสนับสนุนนายริชีตระหนักดีว่า คู่แข่งที่น่ากลัวที่สุดของนายริชีคือ นางเพนนี มอร์ดันท์ ดังนั้น กลุ่มนายริชีจึงมองว่า ถ้าเพนนีแพ้ในรอบสุดท้าย คู่แข่งของริชีก็จะกลายเป็นลิซ ทรัสส์ แทนที่จะเป็นเพนนี มอร์ดันท์
รมต.เดวิด เดวิส แฉบอกว่า นายริชี มองว่า ในเวลาโต้ดีเบตช่วง 1 เดือน (สิงหาคม-ซึ่งเป็นช่วงที่สภาฯ ปิดและพรรคทอรีจะจัดให้มีดีเบตหน้าจอทีวีหลายครั้ง ระหว่างคู่แข่ง 2 คนสุดท้าย) เขาน่าจะต้อนลิซ ทรัสส์ ให้ตกเวทีได้ง่ายๆ คือ เคี้ยวได้ง่ายกว่า ถ้าจะต้องดีเบตกับเพนนี; เพราะลิซ ทรัสส์ มีจุดโหว่ที่อาจถูกโจมตีได้ง่ายๆ ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่เคยเลื่อมใสฝ่ายซ้าย เพราะครอบครัวเป็นฝ่ายซ้าย (พ่อของลิซเป็นศาสตราจารย์ด้านคณิตศาสตร์ และแม่เป็นพยาบาลที่มีบทบาทในการเดินขบวนขับเคลื่อนตามท้องถนน) และสมัยเธอเรียนที่ออกซฟอร์ด เธอก็เป็นระดับหัวหน้าของพรรค Lib Dem ที่หาเสียงต่อต้านการมีกษัตริย์ปกครองอังกฤษ เป็นต้น
2 คู่ชิงสุดท้ายได้ออกทีวีประชันโต้คารมปะฉะดะนโยบายผ่านหน้าจอทีวีไป 2 รอบแล้ว รอบแรกจัดโดยบีบีซีเมื่อวันจันทร์ ตามมาด้วยวันอังคารจัดโดย เดอะ ซันซึ่งสื่อหลักของอังกฤษจะพาดหัวในลักษณะ Blue-on-Blue Dogfight คือ ฟ้า-ฟาดฟันกับ-ฟ้ากัดกันแบบสุนัข ซึ่งสีฟ้าคือสีของพวกอนุรักษ์หรือทอรี (พรรคแรงงานจะใช้สีแดง, สีเดียวกับพรรครีพับลิกันของสหรัฐฯ คือ พรรคสาธารณรัฐ) ซึ่งมีนัยแบบอนุรักษ์พวกเลือดสีน้ำเงินนั่นเอง
ก่อนเหลือคู่ชิง 2 คนสุดท้าย ก็มีดีเบตตั้งแต่ 6 คนที่ผ่านรอบแรกเข้ามา แต่ตอนที่เหลือแค่ 3 คนสุดท้ายนั้น เหล่ากรรมการอาวุโสของคณะกรรมการ 1922 ออกความเห็นว่า การโจมตีเผ็ดร้อนรุนแรงเป็นการลากไส้กันออกมาฟาดฟันกัน ซึ่งอาจทำให้พรรคเสียคะแนนนิยมลงได้ ก็พยายามหว่านล้อมให้ผู้สมัคร 3 คนถอนตัว จึงไม่เกิดการดีเบตขึ้น โดยริชีถอนก่อนแล้วลิซก็ถอน เหลือแค่เพนนีคนเดียวไม่ถอน แต่ก็เลยจัดดีเบตไม่ได้ ต้องงดการดีเบตไปโดยปริยาย
สำหรับดีเบตที่เดอะ ซัน จัด ปรากฏผู้ดำเนินรายการอาจตื่นเต้นและเตรียมงานมาหนักเกินไปจนพักผ่อนไม่เพียงพอ เพราะหลังจากการดีเบตทำไปได้แค่ครึ่งเวลา ผู้ดำเนินรายการก็เป็นลมฟุบไปเฉยๆ ก็เลยต้องจบดีเบตกลางคัน...มีการขอโทษผู้ชมทางบ้านที่ต้องจบรายการกลางคัน!!
ความเข้มข้นของการปะฉะดะทั้งนโยบายและเรื่องส่วนตัวที่งัดมาโจมตีกัน ปรากฏว่าในรอบสุดท้ายที่เดอะ ซัน จัด ทางริชีได้ผ่อนคลายการโจมตีลิซลงมาบ้าง เช่นกับคำถามที่ผู้ดำเนินรายการบอกให้ริชีถามลิซ ก็เป็นเรื่องวันเกิดของลิซที่ตรงกับวันดีเบตพอดี เป็นต้น
โอกาสหน้าจะได้นำเอาความแตกต่างของนโยบายคู่ชิงทั้งสองมาลองเทียบกันให้ดู