ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - นาทีนี้เดือดดาลกว่าใครต้องพรรคเพื่อไทยเท่านั้น หลังถูกต้มจนเปื่อย ในคิวที่ก่อนลงมติสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 1 วัน “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ปิดห้องคุยแกนนำรัฐบาล กดออดสัญญาณให้เอาหาร 500
แกนนำรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็น “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย “เสี่ยต่อ” เฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ “ลูกท็อป” วราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์พรรคชาติไทยพัฒนา และ สันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ พยักหน้าเอาสูตรนี้กันหมด
มี “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ คนเดียวช่วงแรกที่หัวดื้อ ยืนกรานจะเอาสูตรหาร 100 แต่เจอมนต์ 2 ป. “บิ๊กตู่ “และ “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ผนึกกำลังกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล กล่อมจนใจอ่อน
ช็อตนี้แม้จะเป็นการคุยวงเล็ก แต่เจตนาน่าจะต้องการให้รั่ว ส่งสัญญาณไปถึงส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล และส.ว.ให้รู้ทิศทางก่อนลงมติ1วัน
และก็เป็นไปตามนั้น ไม่มีผิดคิว ที่ประชุมรัฐสภาให้ความเห็นชอบสูตรหาร 500 ฉลุย คะแนนขาดยิ่งกว่าการพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 เสียอีก ต่อให้ตัดคะแนน ส.ว.ออกไปก็ตาม
ต้องบอกว่า พรรคเพื่อไทยถูกหลอกแบบนี้มาซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า แต่ไม่เข็ดหลาบ พ่ายเกมแก้ไขรัฐธรรมนูญฝ่ายรัฐบาลมาไม่รู้กี่หน
ย้อนกลับไปสมัยยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่ปีแรกของรัฐบาล เจอรัฐบาลเล่นเกมเตะถ่วง ให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่มี “เสี่ยตุ๋ย” พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง เป็นประธาน เสียเวลาไปตั้งเท่าไหร่
ขณะที่ช่วงแรกเล่นใหญ่ จะแก้มาตรา 272 เพื่อเปิดทางแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ง่ายขึ้น เพื่อปลดล็อก นำไปสู่การแก้ไขฉบับ สุดท้ายเจอศาลรัฐธรรมนูญสกัด ฝันค้าง
พออยากจะกำขี้ดีกว่ากำตด รัฐบาลไม่ขวางบัตรเลือกตั้งสองใบ ดูเหมือนจะสุขสมหวัง จะได้กลับมายิ่งใหญ่ เพราะได้เล่นในกติกาที่ถนัด เจอสับขาหลอกตอนโค้งสุดท้ายอีก
สมหวังบัตรเลือกตั้งสองใบ แต่ผิดหวังทั้งเรื่องเบอร์คน-เบอร์พรรค เป็นคนละเบอร์ และสูตรคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่สรุปต้องหารด้วย 500 เท่ากับว่า บัตรเลือกตั้งสองใบ ไม่ได้ทำให้พรรคเพื่อไทยได้เปรียบเลย
ความปรารถนาที่จะแลนด์สไลด์ เหมือนปราสาททรายที่คลื่นซัดทีเดียวพังทั้งหลัง กลายเป็นแค่วาทกรรมเท่ๆ แต่ไปไม่ถึงแล้ว
แม้ “นายใหญ่เพื่อไทย” ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีจะปากกล้าขาสั่น ประกาศว่า ไม่มีปัญหา พรรคเพื่อไทยจับมือกับพรรคก้าวไกล ก็เป็นรัฐบาลได้ แต่มือกำหมัดแน่น
จริงๆ ต้องโทษตัวเองที่ทำตัวเอิกเกริก มั่นใจในตัวเองเกินไป จนเลอะเลือนไปว่าอีกฝ่ายไม่ยอมคลายอำนาจง่ายๆ แน่ รีบหงายไพ่ ส่งลูกสาวในไส้ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร มานั่งเป็นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ส่งสัญญาณเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี
ไม่เพียงเท่านั้น ยังส่ง “เดอะเต้น” ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำคนเสื้อแดง มาปลุกคนเสื้อแดง หวังใช้ทั้งแบรนด์ชินวัตร และมวลชนคนเสื้อแดง เดินไปสู่จุดแลนด์สไลด์เหมือนอดีต
พอหงายไพ่เร็ว มันเลยทำให้อีกฝ่ายเห็นสถานการณ์จริงว่า กระแสชินวัตรและพรรคเพื่อไทย ยังไม่มอด มันเลยมีเวลาให้แก้เกม สกัดแลนด์สไลด์
ไม่เพียง “อุ๊งอิ๊ง” และพรรคเพื่อไทย แต่ผลการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และกระแส “ชัชชาติฟีเวอร์” มันทำให้ผู้มีอำนาจตื่นขึ้นมามองเห็นความจริงว่า กระแสตัวเองอ่อนแอแค่ไหน ก่อนจะพลิกเกมสู้ได้ทัน
ที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยเองตายใจเรื่องนี้มาตลอด ไม่คิดว่าจะถูกตลบหลัง ยิ่งเห็นความสัมพันธ์ของ 3 ป. กระท่อนกระแท่น ยิ่งนึกไม่ถึงว่า 2 ป. จะเป่ากระหม่อมพี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์ที่จะเอาหารด้วย 100 มาตลอดสำเร็จ
พรรคเพื่อไทยย่ามใจเกินไป ประมาทเขี้ยวเล็บ และเหลี่ยมของพี่น้อง 3 คนนี้ ทั้งที่มีตัวอย่างให้ศึกษา สมัยสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ที่ 3 ป. หักหลัง “อ.ปื๊ด” บวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ เพราะอยากอยู่ต่อ ด้วยการทำแท้งร่างรัฐธรรมนูญคา สปช.
นั่นขนาด “อ.ปี๊ด” เป็นคนกันเอง 3 ป.ยังกล้าทำ นับประสาอะไรกับพรรคเพื่อไทย ศัตรูตัวฉกาจ ที่สามารถอำมหิตได้มากกว่าที่คิด
แล้วเชื่อเถอะว่า สูตรหาร 500 ไม่ได้เพิ่งมาตัดสินใจกันวันสองวันนี้ แต่มันอยู่ในแผนมาสักระยะหนึ่งแล้ว แค่พรรคเพื่อไทยไม่ทันเกมของฝ่ายผู้มีอำนาจเอง
ประมาทการเคลื่อนไหวของ นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ และพรรคเล็กทั้งหลายมากเกินไป
“หมอระวี” เหมือนหมากในกระดานตัวหนึ่ง ที่ทำให้พรรคเพื่อไทยตายใจ จากการที่เที่ยวไปยื่นให้ผู้ตรวจการแผ่นดิน และศาลรัฐธรรมนูญล้มบัตรเลือกตั้งสองใบ แต่สุดท้ายเจอยกคำร้องหมด
พรรคเพื่อไทยคงคิดว่าทางสะดวก ไม่มีอะไรมาขวางได้ สุดท้ายเจอความเขี้ยวของอีกฝั่งตอนท้าย กว่าจะรู้ตัวก็สายไปเสียแล้ว
แล้วการตีโพยตีพายจะไปยื่นศาลรัฐธรรมนูญ ดีไม่ดีแม้แต่ขี้พรรคเพื่อไทยจะไม่ได้กำ เพราะหากศาลรัฐธรรมนูญตีความว่า สูตรหาร 500 ขัดรัฐธรรมนูญขึ้นมา เท่ากับกระบวนการแก้ไขกฎหมายลูก เจอเดดล็อก ต้องมานั่งยื่นแก้ไขกันใหม่อีก ที่ไม่รู้ทันเวลาต่อการเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่
กลิ่นมันตุๆ ว่าเกมของ 3 ป. ไม่ได้มีเพียงเท่านี้