สงครามปากของชนเผ่า

"โสภณ องค์การณ์"


ขณะที่ทหารส่วนใหญ่เป็นชนเชื้อสายสลาฟจาก 2 แผ่นดินเสี่ยงชีวิตในการทำสงคราม เข่นฆ่ากันอย่างดุเดือด ยอดผู้เสียชีวิตรวมทั้งพลเรือนมีเป็นหมื่นๆ ราย ผู้นำชาติแองโกลแซกซั่นมองเหตุการณ์ด้วยอารมณ์สนุกเมื่อร่วมประชุมวางแผนส่งเสริมให้ฆ่ากัน

ทหารชาวสลาฟจากแผ่นดินยูเครนและทหารรัสเซียเชื้อสายสลาฟเช่นกัน เคยอยู่ร่วมแผ่นดินกันมาก่อนภายไต้สหภาพโซเวียต ยังรบกันด้วยอาวุธที่ตัวเองเคยมีและฝ่ายยูเครนได้รับความช่วยเหลือจากชนหลายเผ่าพันธุ์นำโดยผู้นำแองโกลแซกชั่น

ที่น่าสนใจก็คือผู้นำยูเครนเป็นเชื้อชาติยิว มีกองทัพส่วนหนึ่งเป็นทหารนิยมนาซีและฝ่ายชาตินิยมขวาจัด ก่อนหน้านี้ได้ยกกำลังไปสังหารคนเชื้อสายสลาฟรัสเซ๊ยในแคว้นดอนบาส เข่นฆ่าชาวบ้านและนักรบไปกว่า 1.4 หมื่นราย รัสเซียเตือนก็ไม่ฟัง
ถ้าจะพูดโดยสรุปก็คือฝรั่งผิวขาวรบกัน เพียงแต่ฝรั่งชนเผ่าอื่นๆ ไม่ได้เข้าร่วมสมรภูมิโดยตรง แต่ส่งเสริม สนับสนุนอาวุธ ยุทธปัจจัย รวมทั้งงบประมาณเต็มที่

แทบไม่น่าเชื่อว่าฝรั่งผิวขาว อ้างความเป็นชาวศิวิไลย์ ยังเข่นฆ่ากันไม่ต่างจากยุคคนเถื่อนหลายพันปีก่อน สะท้อนให้เห็นว่าคนยังมีความโหดร้ายทารุณ สามารถเข่นฆ่ากันด้วยความโหดร้ายยิ่งกว่าสัตว์ป่า ไร้มนุษยธรรม ด้วยอาวุธเท่าที่จะสร้างได้

ชาวสลาฟยูเครนมีผู้นำยิว ฝักใฝ่กับชนเผ่าตะวันตกซึ่งนอกจากแองโกลแซกซั่นที่เป็นแกนนำ ยังมีเผ่าเยอมาเนีย เผ่าฟรังค์ เผ่าไวกิ้ง เผ่าโปลล์ ดั้งเดิมและเผ่าอื่นๆ อีก ยังมีแองโกลแซกชั่นอีก 2 กลุ่มในขั้วโลกไต้ที่ไปยึดแผ่นดินชนเผ่าเมารีและอะบอริจินีย์

รวมกันเป็นชนเผ่าจาก 47 แผ่นดิน รุมเล่นงานชนเผ่าสลาฟรัสเซีย นอกจากสงครามอาวุธเต็มที่ ยังมีสงครามเศรษฐกิจ สงครามข่าวสารมีผลด้านจิตวิทมาก

รบราฆ่าฟันด้วยอาวุธล้ำสมัย นานกว่า 4 เดือน ฝ่ายรวมชนเผ่ายังไม่สามารถเอาชนะเผ่าสลาฟรัสเซียได้ ด้วยมีกำลังเหนือกว่าด้านอาวุธ อาหาร น้ำมันและก๊าซไต้ดิน ซึ่งไม่มีในแผ่นดินของชนเผ่าเยอมาเนียและเผ่าฟรังค์ ชนเผ่าไวกิ้งมีอยู่พอสมควร

วันก่อนหัวหน้าชนเผ่าแองโกลแซกซั่น บอริส จอห์นสัน อาศัยอยู่บนเกาะนอกแผ่นดินยุโรป ไม่มีแสงแดดมากนัก ได้พูดจาเชิงขบขันเมื่อเข้าร่วมประชุมกับพวกเผ่าอื่นๆ ในแผ่นดินเยอมาเนียตอนไต้ วางแผนจะหนุนสลาฟยูเครนให้รบจนสิ้นชาติ

ช่วงหนึ่ง จอห์นสัน พูดเหน็บถากถาง วลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำสลาฟรัสเซีย ซึ่งมักไม่สวมเสื้อขี่ม้า ตกปลา ว่ายน้ำ เข้าป่า ผ่าฟืน แสดงให้เห็นความแข็งแกร่งของร่างกาย

จอห์นสันบอกพรรคพวกที่เข้าประชุมว่า “พวกเรามาถอดเสื้อกันเถอะ เอามั้ย” แล้วหัวร่อเฮฮา แต่ที่ทำได้คือถอดเสื้อนอก เนคไท เหลือไว้เสื้อเชิร์ตแขนยาว ให้เห็นความสามัคคี ความเป็นกันเอง ไม่สำนึกว่ากำลังปรึกษากันว่าจะให้คนฆ่ากันต่อไป

กลุ่มนี้เรียกตัวเองว่า จี 7 กุมอำนาจเศรษฐกิจของโลกไว้ อ้างว่าเป็นชาติร่ำรวยที่สุด ความเป็นจริงก็คือ พวกกลุ่มนี้ล้วนเป็นหนี้มากที่สุด บางแผ่นดินมีหนี้มากกว่ารายได้ในแต่ละปี แต่อาศัยเงินตราพิมพ์ออกมาไม่อั้น โดยไม่มีทรัพย์สินอื่นๆ เป็นฐาน

ใน 7 ชนเผ่านั้นยังมีชนเผ่านิยมบริโภคปลาดิบ เป็น 1 เดียวที่ไม่ได้เป็นชนเผ่าผิวขาวเชื้อสายคอเคเซียนผมแดงและสีอื่นๆ ที่ชาวจีนฮั่นเรียกว่า “อั้งม้อ”

ผู้เข้าประชุมแสดงออกถึงความลำพอง เห็นชีวิตเพื่อนร่วมโลกเป็นเหมือนผักปลา จะเป็นจะตายลำบากอย่างไรไม่รู้สึกทุกข์ จัดว่าเป็นกลุ่มนักล่าอาณานิคมดั้งเดิม ยังเป็นพวกนิยมทำสงครามรบชิงทรัพยากรจากชนเผ่าที่ด้อยกว่า ใช้ข้ออ้างไร้ยางอาย

เมื่อผู้นำสลาฟรัสเซียเดินทางไปประชุมร่วม 5 ชนเผ่าริมทะเลแคสเปียน มีผู้สื่อข่าวถามความเห็นถึงคำพูดเปรียบเปรยของจอห์นสันเรื่องการถอดเสื้อ

“ข้าพเจ้าไม่ทราบว่าพวกเขาต้องการถอดเสื้อออกให้ท่อนบนเปลือยเปล่าหรือไม่ แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ดูแล้วคงเป็นภาพที่น่าสะอิดสะเอียนอย่างยิ่ง” ผู้นำสลาฟรัสเซียย้อนเอาแบบเจ็บแสบ เพราะจอห์นสันมีรูปร่างอ้วนพุงพลุ้ย คาดเข็มขัดไต้สะดือ

แถมยังตอกให้เจ็บกว่าเดิม “ทุกอย่างควรได้รับการพัฒนาให้มีความกลมกลืนกันทั้งร่างกายและจิตวิญญาณ การจะให้ทุกอย่างมีความลงตัวดูดีนั้น ควรต้องเลิกดื่มของมึนเมา ละทิ้งพฤติกรรมและนิสัยไม่ดี ต้องเริ่มออกกำลังกาย เล่นกีฬา”

จอห์นสันยังพูดเหน็บปูตินอีกว่าเป็น “จอมคนของสงครามรุกราน” และสงครามยูเครนคงไม่เกิดขึ้นถ้าปูตินเป็นสตรี “แต่ดูแล้ว ปูแล้วไม่ใช่อิสตรีนี่นา”

ปูตินก็ย้อนอีก “ข้าพเจ้าอยากจะเตือนความจำถึงประวัติศาสตร์ยุคปัจจุบัน เมื่อนางมากาเร็ต แธตเชอร์ ได้ทำสงครามชิงเกาะฟอลค์แลนด์กับอาร์เจนตินา นี่คือสตรีซึ่งได้สั่งปฏิบัติการณ์ทางทหาร ดูซิว่าฟอล์คแลนด์อยู่ไหน อังกฤษอยู่ที่ไหน”
“นี่แหละเป็นตัวกำหนดสงครามตามความทะเยอทะยานของระบบจักรวรรดินิยม ไม่ใช่ด้วยเหตุอื่นใด การที่ผู้นำอังกฤษคนปัจจุบันพูดอย่างนี้ ก็ไม่ถูกต้องเมื่อคำนึงถึงสภาพที่เป็นอยู่” ปูตินตอบผู้สื่อข่าว

ยังไม่มีคำย้อนตอบจากจอห์นสัน หัวหน้าชาวเกาะแองโกลแซกซั่น ซึ่งเป็นตัวสำคัญในยุคล่าอาณานิคม ได้ครอบครองหลายแผ่นดินทั่วโลก เป็นจักรวรรดิ์ที่ได้ฉายาว่าเป็น “ตะวันไม่เคยตกดินในจักรภพอังกฤษ” ปล้นสะดมทรัพยากรทั่วโลก

ความตกต่ำ เสื่อมทรุดในช่วงร้อยกว่าปีที่ผ่านมา ทำให้จักรภพยิ่งใหญ่เหลือเพียงเกาะปัจจุบัน แถมชนเผ่าสก็อตก็ประกาศว่าจะทำประชามติขอแยกตัวออก ไม่ขออยู่ไต้ร่มธงเดียวกัน แม้จะอยู่ร่วมเกาะเดียวกันก็ตาม เผ่าอื่นๆ น่าจะเอาอย่างด้วย

ตัวจอห์นสันก็อยู่ในสภาวะร่อแร่ พวกเดียวกันกำลังจะเขี่ยให้ตกเก้าอี้ผู้นำด้วย