พรรคร่วมฝ่ายค้านหมายมั่นปั้นมือ ตีกลองศึกปั่นราคา ประกาศว่าจะไม่ยอมผ่านร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2566 ยอด 3.18 ล้านล้านบาท ในวาระแรก ไม่ต้องรอถึงวาระ 3โดยหวังว่าการล้มงบจะเป็นอาวุธล้มรัฐบาลผู้นำห้าวเป้งไปพร้อมกัน
คำประกาศโฉ่งฉ่างสร้างราคาอย่างหนักของฝ่ายค้าน ไม่ได้สร้างความประหลาดใจให้ชาวบ้าน เพราะก่อนหน้านี้ก็ประกาศอย่างนี้ แต่ผู้นำห้าวเป้งก็อยู่รอดมาได้นานจนจะครบ 8 ปีแล้ว แถมยังหวังจะอยู่ต่อไปอีก 1 สมัยให้ชาวบ้านช้ำใจอีก
ไม่เกรงใจประชาชนที่หัวอกระกำน้ำตาตกเพราะพิษเศรษฐกิจตายซากเรื้อรังแต่อย่างใด ทั้งยังหวังว่าจะมีปาฏิหาริย์ทางกฎหมายช่วยให้รอดสันดอนครั้งนี้ด้วย
ความมั่นใจมากถึงขนาดไม่มีใครกล้าต่อหรือรองเลย ว่างั้นเถอะ เพราะมีนักกฎหมายอยู่ในขบวนการบิดาแห่งการยกเว้น และเปี่ยมด้วยวิชามารศรีธนญชัย
ยิ่งถ้ามีพลังแฝงเร้น แอบอ้างเสียงกระซิบเหมือนการเอาตัวรอดครั้งก่อนด้วยแล้ว ก็ทำให้คำประกาศของฝ่ายค้านไม่มีราคาจริง ถึงจะมีพลังเร้นลับจากผู้กองก็ตาม ก็ไม่มั่นใจว่าจะมีพลังกล้วยแข็งแกร่งพอที่จะล้มผู้นำห้าวเป้งได้หรือไม่
ครั้งก่อนต้องลากกระเป๋า 4-5 ใบ หนักหลายร้อยกิโลผ่านวาระคับขันมาได้ ทำเอาลุงป้อมและผู้กองต้องเกิดปัญหาปัจจุบันทันด่วน จากขบวนการจ้องล้มผู้นำห้าวเป้งจึงขาดพลังกระชับ มีความพยายามทั้งสองฝ่ายในการสร้างฐานใหม่
ศึกครั้งนี้จะวัดกันที่พลังกล้วย ซื้อใจพวกนักเลือกตั้งกลุ่มต่ำเอี่ยว ปัดเศษที่พยายามเร่หาข้าวกินฟรีถ้ามีใครนัด เพื่อประเมินค่าตัวว่าจะเป็นเท่าไหร่ ใครจะให้ราคาสูงสุดเป็นที่พอใจสำหรับการเกษียณอายุจากอาชีพถ้าสภาวะแวดล้อมไม่เป็นใจ
ต้องลงทุนเยอะ ถ้าผู้นำห้าวเป้งต้องการอยู่รอด และฝ่ายค้านมีของจริง ต้องขนกล้วยจากพ่อค้าไฟฟ้าและพ่อค้าปลีกค้าส่งที่สะสมเงินสดพร้อม เอามาวัดดวงแบบใครดีใครอยู่ ว่ากันว่าอาจจะต้องใช้มากถึง 2-3 ตันเป็นอย่างต่ำ ถึงจะเอาอยู่
ยิ่งผู้กองส่งซิกว่าได้ไปสิงคโปร์เจรจากับชาวดูไบเจ้านายเก่ามาแล้ว เหมือนกับสร้างความมั่นใจ ถึงขั้นทำรัฐประหารในพรรคตัวเอง เปิดทางให้ก้าวขึ้นนั่งเก้าอี้หัวหน้า การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะเป็นปาหี่ ละครบทเดิมหรือไม่ ต้องรอการพิสูจน์
ลุงป้อมซึ่งรับบทแกนนำศูนย์รวมอำนาจยังไม่แสดงท่าทีชัดเจน แต่ความพร้อมจะรับงานใหม่ใหญ่กว่าเดิมยังดูเหมือนเดิม แม้ปากบอกว่าไม่อยากก็ตาม
การอภิปรายงบประมาณครั้งนี้ก็เป็นศึกน้ำลาย ถ้าฝ่ายค้านต้องการล้มช้างแต่ยังเสียดายพริกเกลืออยู่ ก็ไม่มีวันสำเร็จ เพราะผู้นำห้าวเป้งมีแรงหนุนไม่อั้น ยิ่งมีความหวังว่าจะอยู่ได้อีก 4 ปี ด้วยปาฏิหาริย์ทางกฎหมาย นายทุนย่อมต้องควักต่อไป
ความสงสัยมีอยู่ว่า ฝ่ายค้านมีทีเด็ดหรือน้ำยาอะไรที่จะส่งหมัดเด็ดเข้าปลายคางลุงห้าวเป้งให้ชักตาตั้ง ตกเก้าอี้ได้ ที่ผ่านมาใช้แต่ข้อมูลตัดแปะ อาศัยลีลาลูกเล่นแบบน้ำๆ ไม่มีเนื้อมาก คนฟังก็เซ็ง สุดท้าย ลุงห้าวเป้งก็รอดไปได้พร้อมงบก้อนใหญ่
ถ้าฝ่ายค้านต้องการหวังผลจริง ไม่ต้องเอาจำนวนนักอภิปรายให้มาก ขอเพียงคัดตัวเด่น มีข้อมูลเด็ด ถล่มยาวคนละ 2-3 ชั่วโมงตลอดเวลา 3 วัน น่าจะได้เรื่องมากกว่าจำนวนคนหน้าไมค์แต่ไร้น้ำหนัก อภิปรายซ้ำกันไปมาจนน่าเบื่อหน่าย
ไม่ต้องมากลีลา ตีตรงเป้าใหญ่ ถ้ามีข้อมูลเด็ด แค่นี้ก็น่าจะได้ผลมากกว่า
ดูความเสียหายจากตัวเลขงบประมาณแล้วก็น่าห่วง เพราะท่านห้าวเป้งเล่นขยักงบกลางไว้ 5 แสนล้านบาท เหมือนตีเช็คเปล่า จะสั่งจ่ายอะไรก็ได้ ยิ่งมีประกาศภาวะฉุกเฉินคุ้มครองไม่เลิกราด้วยแล้ว การบริหารยิ่งคล่องตัว คล่องมือ คล่องคอ
งบซื้อเครื่องบินรบ เอฟ-35 ไม่แปลก นี่เป็นการซื้อล็อตแรก ก่อนจะซื้อในปีต่อไปให้ครบฝูง หรือมากฝูงกว่านั้นโดยอ้างความจำเป็นด้านความมั่นคง เพราะเครื่องบินรุ่นก่อนเช่นกริพเพนก็เอามาแล้วไม่ได้ใช้งานเต็มที่ มีปัญหาบอกใครไม่ได้
ที่น่าห่วงก็คือผู้นำห้าวเป้งจะยังทำงบขาดดุลกว่า 5 แสนล้านบาทต่อเนื่อง สร้างหนี้สินก้อนมหาศาล เป็นผู้นำรัฐบาลที่ใช้เงินมากที่สุด กู้มากที่สุด งบประมาณไม่เคยสมดุล มีแต่โครงการประชานิยมถมไม่เต็ม ตำน้ำพริกครกใหญ่ละลายแม่น้ำ
ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งก็จริง แต่จำเป็นต้องซื้อใจชาวบ้าน ซื้อความนิยมเพราะทำโพลกี่ครั้งความนิยมไม่กระเตื้อง เป็นเหมือนยาหมดอายุ สิ้นสภาพ
ไปงานต่างประเทศก็มีปัญหา ชาวบ้านหายใจไม่ทั่วท้อง สุดท้ายต้องเอาปี๊บคลุมหัวด้วยความอดสู ท่านผู้นำไม่อยู่ในมาดอินเตอร์ ระดับอยู่เพียงแค่หอการค้าต่างจังหวัดหรือสโมสร ชมรมชาวบ้าน ไม่ต้องการความรู้มากไอคิวสูงมาก
กู้อีก 5 แสนล้านบาท เท่ากับสร้างหนี้ งบใช้หนี้มีประมาณ 3 แสนล้านบาท คืนเงินต้นเพียง 1 แสนล้านบาท อีก 2 แสนล้านเป็นการชำระดอกเบี้ย แบบนี้จะไหวเหรอ
อยู่ได้เพราะกู้ ใช้เงินเก่ง หาเงินไม่เก่ง ทำอะไรก็ไม่เก่ง ทำอะไรก็ผิดอย่างว่า!
ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง ก็ไม่ต้องแคร์ความรู้สึกชาวบ้าน ไม่ต้องหาเสียง ตีกินให้พรรคการเมืองเสนอชื่อเป็นนายกฯ มีนักเลือกตั้งพรรคร่วมหิวยกมือสนับสนุน
ดังนั้นจะโทษผู้นำห้าวเป้งสำหรับความเสียหายต่อบ้านเมืองยืดเยื้อ ชาวบ้านมีหนี้ครัวเรือนท่วมหัว หนี้ประเทศเกือบท่วมตัวไม่ได้ ต้องโทษพรรคร่วมหิวทั้งหลายที่เป็นฐานให้ผู้นำห้าวเป้งได้อยู่ยาวมีวิกฤตสารพัด การเมือง เศรษฐกิจ สังคม ศีลธรรม
ความน่ากลัวอย่างมากคือการที่หัวหน้าห้าวเป้งจะได้อยู่ต่ออีก 4 ปี บ้านเมืองจะต้องกู้อีกอย่างน้อย 2 ล้านล้านบาท จะทนวิกฤตหนี้เหมือนศรีลังกา ปากีสถาน อาร์เจนตินาได้หรือ เพราะคงไม่มีใครรับผิดชอบ แย่งกันเอาตัวรอดเพราะรวยแล้ว