xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

ดีเดย์เปิด “อ่างฯ” รับโควิดขาลงปลุกชีพธุรกิจกลางคืน กระตุ้นแสนล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - เมื่อโควิด-19 ส่งสัญญาณว่าอยู่ในช่วงขาลง รัฐบาลก็เร่งเครื่องประกาศเปิดประเทศเต็มรูปแบบรองรับนักเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวในประเทศไทย โดยข้อมูลระหว่างเดือน ม.ค. - 18 พ.ค. 2565 นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาประเทศไทย จำนวน 1 ล้านกว่าคน มากกว่าจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาประเทศไทยในปี 2564 ทั้งปี ถึง 5.88 แสนคน

ทั้งนี้  น.ส. รัชดา ธนาดิเรก  รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศไทยมากขึ้น ส่งผลตัวเลขรายได้ไตรมาสแรกปี 2565 เพิ่มขึ้นกว่าช่วงเดียวกันของปี 2564 กว่า 2 พันเปอร์เซ็นต์ มีรายได้เพิ่มขึ้น 1.4 พันเปอร์เซ็นต์

และแน่นอนว่า สิ่งที่สังคมให้ความสนใจกับมาตรการผ่อนคลายมากที่สุด ก็คือการที่ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) มีมติให้สถานประกอบการประเภท “สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ” รวมถึง “อาบอบนวด” เปิดให้บริการได้ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.2565 เป็นต้นไป ใน 17 จังหวัดที่เป็น   “สีฟ้า”  หรือ  “พื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว”  ประกอบด้วย กรุงเทพฯ กระบี่ กาญจนบุรี จันทบุรี ชลบุรี เชียงใหม่ เชียงราย นครราชสีมา นนทบุรี นราธิวาส ปทุมธานี ประจวบคีรีขันธ์ พังงา เพชรบุรี ภูเก็ต ระยอง และสงขลา  รวมทั้ง  “พื้นสีเขียว” 14 จังหวัด ประกอบด้วย  ชัยนาท พิจิตร อ่างทอง น่าน มหาสารคาม ยโสธร นครพนม ลำปาง บุรีรัมย์ ตราด สุราษฎร์ธานี สุรินทร์ อุดรธานิ และอำนาจเจริญ 


โดยกำหนดให้จำหน่ายและบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่เกิน 24.00 น. และห้ามนั่งเกินเวลา รวมทั้ง งดกิจกรรมการใช้แก้วร่วมกัน และเพ่งเล็งไปที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมที่ต้องสัมผัสใกล้ชิดอย่างอาบอบนวดเน้นย้ำระหว่างใช้บริการให้สวมหน้ากากอนามัย เพราะเป็นสถานที่ปิดทึบ อากาศไม่ถ่ายเท เสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่าย

นอกจากนี้ ทางด้านผู้ให้บริการต้องได้รับวัคซีนโควิดตามเกณฑ์ รวมทั้งเข็มกระตุ้น และต้องมีการคัดกรองความเสี่ยงของพนักงานทุกวัน ต้องมีการคัดกรอง หรือการประเมินโดยใช้ ไทยเซฟไทย หรือ มีการตรวจ ATK ทุก 7 วัน หรือเมื่อมีอาการ มีความเสี่ยง และขอให้ถือปฏิบัติมาตรการ Universal Prevention (UP) หรือการป้องกันคราบจักรวาล ส่วนผู้รับบริการเพียงโชว์ว่าได้รับวัคซีนก็เข้าได้ แต่กลุ่มเสี่ยง 608 ขอให้งดการเข้าพื้นที่ดังกล่าว

และสถานประกอบการจะต้องขออนุญาตการเปิดดำเนินงานต่อคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดหรือกรุงเทพมหานคร และประเมินตัวเองผ่านแพลตฟอร์ม Thai Stop COVID+2 และปฏิบัติตามมาตรการ Covid Free Setting ตลอดจนพนักงานต้องได้รับการกำกับดูแลตามข้อกำหนดอย่างเคร่งครัด

ขณะเดียวกันอีกหนึ่งความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจก็คือ การที่ นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต  ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้เปิดเผยแนวทางปรับมาตรการเรื่อง  การสวมหน้ากากอนามัย  ว่า จะดำเนินการในพื้นที่นำร่องที่มีความพร้อมตามเกณฑ์ คือ มีสถานการณ์ระบาดในระดับต่ำ, มีการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนได้ตามเกณฑ์ และระบบการดูแลรักษาผู้ป่วยของสถานพยาบาลในพื้นที่มีความพร้อม แต่แนะนำให้มีการสวมหน้ากากอนามัยใน 3 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มผู้ป่วย หรือกลุ่มเสี่ยง 608 2.ผู้ที่อยู่ในสถานที่ปิด อากาศถ่ายเทไม่สะดวก และ 3.ผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มคนจำนวนมาก ทั้งนี้ เพื่อเป็นแนวทางในการใช้ชีวิตอยู่กับโควิด 19 ได้อย่างปลอดภัย ตามแผนมาตรการทางสาธารณสุข ซึ่งกำลังจะลดสถานะโควิด-19 จากโรคระบาดร้ายแรง สู่โรคประจำถิ่น ในวันที่ 1 กรกฎาคม 2565

และแน่นอนว่า การผ่อนปรนให้ “สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ” รวมถึง “อาบอบนวด” เปิดให้บริการ ย่อมทำให้ “ธุรกิจกลางคืน”  กลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลต่อสภาพเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งต้องยอมรับว่า มีเม็ดเงินหมุนเวียนจำนวนมหาศาล

อ้างอิงรายงานของ Nikkei Asian Review “Pandemic dims lights on Thailand’s $5bn nightlife sector” เมื่อต้นปี 2563 ประเมินว่าธุรกิจบริการภาคกลางคืนของไทยมีมูลค่ารายได้สูงถึง 5.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 1.8 แสนล้านบาท ขณะที่มูลนิธิเอ็มพาวเวอร์ (Empower Foundation) องค์กรด้านสิทธิของผู้ขายบริการทางเพศรวมถึงแรงงานในสถานบันเทิงยามค่ำคืน เปิดเผยมูลค่าจัวเลขทางเศรษฐกิจของธุรกิจสถานบันเทิงยามค่ำคืนสูงถึง 6.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่า 2.1 แสนล้านบาทต่อปี

อย่างไรก็ตาม ก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19 ธุรกิจบันเทิงยามราตรี ผับ บาร์ คาราโอเกะ อ่างอบนวด นับเป็นธุรกิจสีเทาที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจใต้ดินมูลค่ามหาศาล ซึ่งได้รับผลกระทบโดยตรงทันทีหลังมีคำสั่งปิดกิจการตามมาตรการณสาธารณสุข มีการประเมินมูลค่าสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจกว่าอย่างต่ำ 1.3 แสนล้านบาท รวมทั้ง ส่งผลให้ธุรกิจต้องปิดกิจการ เกิดปัญหาว่างงานตามมาทั้งระบบ

 นายธนากร คุปตจิตต์ ที่ปรึกษาสมาคมธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไทย (TABBA) ประเมินว่าหลังมาตรการผ่อนปรนของรัฐในวันที่ 1 มิ.ย. 2565 หากรัฐผ่อนปรนให้ภาคธุรกิจกลางคืนกลับมาเปิดบริการได้เต็มรูปแบบจะทำให้เศรษฐกิจกลับมาคึกคัก และมีเม็ดเงินสะพัด 3 - 4 แสนล้านบาท แน่นอนว่า การผ่อนปรนครั้งนี้ไม่ได้ส่งผลดีเพียงแต่ต่อธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในประเทศไทย จะกระตุ้นภาพรวมของธุรกิจกลางคืน

และอีกหนึ่งธุรกิจบันเทิงที่น่าจับตา คือ ธุรกิจอีเวนท์ - คอนเสิร์ต ซึ่งเป็นกิจกรรมมีการรวมตัวของผู้คนจำนวนมาก แต่อย่างไรก็ตามการลดสถานะโควิดจากโรคระบาดรุนแรงสู่โรคประจำถิ่น รวมถึงกำหนดเปิดประเทศเต็มรูปแบบในวันที่ 1 ก.ค. 2565 ภาคธุรกิจเด้งรับนโยบายรัฐทันที ผู้ประกอบการโหมงานอีเวนท์คอนเสิร์ตยาวเป็นหางว่าว แน่นทุกพื้นที่ทั่วประเทศ

ขณะที่ฝั่งผู้บริโภคก็ให้การตอบรับเป็นอย่างดี ดูจากการเปิดจองบัตรคอนเสิร์ตศิลปินระดับโลก JUSTIN BIEBER กับคอนเสิร์ต JUSTIN BIEBER JUSTICE WORLD TOUR BANGKOK ซึ่งที่จัด ณ สนามราชมังคลากีฬาสถาน ช่วงปลายปี ขายบัตรหมดเกลี้ยงภายใน 1 ชม. แถมบัตรผีราคาพุ่งเป็นแสน หรืองาน FAN MEETING ของไอดอลเกาหลี MARK TUAN วง GOT7 "PULL-UP" MARK TUAN FAN MEETING IN THAILAND จัดขึ้น ณ อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี ในช่วงปลายเดือนนี้ เปิดแสดง 2 รอบหมดเกลี้ยงจนต้องเพิ่มรอบ

ยกตัวอย่างงาน FAN MEETING รูปแบบงานจัดเป็นแบบ 2 ที่นั่ง เว้น 1 ที่นั่ง เว้นระยะตามข้อกำหนดของภาครัฐ และผู้เข้าร่วมชมการแสดงทุกคนจะต้องเข้ารับการตรวจ ATK หน้างานและแสดงผลเป็นลบ ก่อนเข้าชมการแสดง และยิ่งงานสเกลใหญ่ผู้คนหลายหมื่นคนทางด้านผู้จัดต้องมีความพร้อม ต้องปฏิบัติตามมาตรการของ ศบค. อย่างเคร่งครัด

จะเห็นว่ารูปแบบงานอีเวนท์คอนเสิร์ตมีการปรับตัว ให้ความสำคัญกับมาตรการความปลอดภัยเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยหัวใจสำคัญคือการจำกัดจำนวนคนและพื้นที่ ตามข้อมูลล่าสุดมีการผ่อนปรนจากเดิม 1 คนต่อ 4 ตร.ม. เป็น 1 คนต่อ 1 ตร.ม. และโซนอาหารและเครื่องดื่มอนุญาตให้ถอดหน้ากากได้ เป็นต้น

นอกจากนี้ ข้อมูลจาก บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี เปิดเผยภาพรวมครึ่งปีหลัง 2565 ยอดจองพื้นที่จัดงานเริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้ง ทั้งงานคอนเสิร์ตเริ่มทยอยจับจองพื้นที่ ระหว่างเดือน พ.ค. – ก.ค. 2565 มียอดจองทั้งหมด 80 งาน อาทิ คอนเสิร์ต 10 งาน, งานแสดงสินค้าและนิทรรศการ 16 งาน เป็นต้น

หรืออย่างศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ที่มีการปรับโฉมใหม่อย่างยิ่งใหญ่ ทางด้านนายศักดิ์ชัย ภัทรปรีชากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น.ซี.ซี.แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด ในเครือเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี เปิดเผยว่าได้รับความไว้วางใจจากคณะผู้จัดงาน APEC ของรัฐบาลไทย ในการเลือกจัดงานประชุมและอีเวนต์ ซึ่งเป็นการประเดิมเปิดใช้ศูนย์สิริกิติ์โฉมใหม่ (QSNCC) อย่างเต็มรูปแบบ

และยังมีงานอีเวนท์งานแฟร์คึกคักทั่วประเทศ โดยเฉพาะงานแฟร์ของรัฐ เช่น กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ จัดงานแสดงสินค้าในประเทศช่วงครึ่งปีหลัง ได้แก่ งานแสดงสินค้าอาหาร อัญมณีและเครื่องประดับ เครื่องปรับอากาศ และงานประชุมทางวิชาการด้าน BCG ส่วนภาคเอกชนเปรยว่างานแฟร์ต่างๆ น่าจะได้เห็นมากขึ้นกันปลายไตรมาส 3 ด้วยกังวลเรื่องกำลังซื้อ และประเมินว่าจะกลับมาเต็มรูปแบบในไตรมาส 4

อย่างไรก็ดี นับตั้งแต่ช่วงเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา หลังจาก ศบค. คลายล็อกมาตรการด้านสาธารณสุข ทำให้บรรยากาศการจัดอีเวนต์เริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยแพลตฟอร์มบริหารจัดการอีเวนต์ Eventpop เปิดเผยว่าว่าจะเริ่มเห็นทั้งอีเวนต์และคอนเสิร์ตขนาดใหญ่มากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังเป็นต้นไป ภายใต้เงื่อนไขของสถานการณ์การระบาดต้องไม่รุนแรง กระทั่งต้องกลับมาเพิ่มมาตรการคุมเข้มกันอีกรอบ

ภาคเอกชนต่างขานรับนโยบายเปิดประเทศเป็นอย่างดี ถึงเวลาแล้วที่คนไทยต้องอยู่รวมกับโควิด และประเทศไทยต้องเดินหน้าต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น