xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

“บิ๊กตู่”ติดล็อก หลังพิงฝาแล้ว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ – พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - ยิ่งนิ่งยิ่งเคลือบแคลง “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ยังสวมบทเตมีย์ใบ้ ไม่ตอบประเด็นนายกฯคนนอก หลังถูกซอกแซกถามมาหลายวัน

นับตั้งแต่ มือขวาคนสนิท “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” ส.ส.พะเยา และเลขาธิการพรรคเศรษฐกิจไทย จุดพลุนายกฯตามมาตรา 272 วรรคสอง และน้องเลิฟ “บิ๊กน้อย” พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย ฟันเปรี้ยงมีแค่พี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์เท่านั้นที่เหมาะสมเป็นคำตอบสุดท้าย

ไม่รู้ “บิ๊กป้อม” รำคาญขี้เกียจตอบ เพราะคำถามนี้มีมาบ่อยแบบซ้ำซาก ย้ำมาครั้งแล้วครั้งเล่า หรือเพราะกลัวดอกพิกุลจะร่วงจากปาก เลยไม่หือไม่อือกับสื่อ

แต่การใช้อวัจนภาษาแทนการใช้วัจนภาษา มันไม่ได้ทำให้สถานการณ์ดีขึ้น มีแต่ทำให้สถานการณ์มันอึมครึม ขมุกขมัว ไม่ชัดเจนกว่าเดิม

 เมื่อไม่กล้าชัดเจน มันเลยทำให้คนเทน้ำหนักไปว่า โอกาสจะเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองกับ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม จนทำให้ต้องเปิดก๊อกนายกฯนอกบัญชี หยิบชื่อ “บิ๊กป้อม” มาขัดตาทัพไปจนครบอายุขัยของรัฐบาลที่เหลืออีกไม่กี่เดือน มีความเป็นไปได้

แล้วนั่นยิ่งทำให้มีการมองว่า เดือนสิงหาคม สถานการณ์ของ “บิ๊กตู่” ดูจะร่อแร่เหลือเกิน ไม่ว่าจะเรื่องระยะเวลาการดำรงตำแหน่งนายกฯ 8 ปี ที่ศาลรัฐธรรมนูญน่าจะมีคำวินิจฉัยออกมา และการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่อยู่ในไทม์ไลน์เดียวกัน

แม้หลายฝ่ายจะมองว่า เป็นช่วงปลายรัฐบาลโอกาสจะเกิดอุบัติเหตุกับ “บิ๊กตู่” ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ แต่กระนั้นไม่สามารถมองข้ามได้ เพราะแม้จะเป็นระยะเวลาไม่กี่เดือน แต่มันมากพอสำหรับการเตรียมการเลือกตั้งของ “บิ๊กป้อม” และองคาพยพ ทั้งพรรคพลังประชารัฐ ทั้งพรรคสาขาอย่างเศรษฐกิจไทย

ที่ผ่านมาเรื่องแนวคิดการใช้อำนาจรัฐเพื่อสร้างความได้เปรียบให้กับตัวเองในสนามเลือกตั้งมีมาตลอด ถึงขั้นคนในพรรคพลังประชารัฐ รวมหัวกันเสนอชื่อ “บิ๊กป้อม” เป็น รมว.มหาดไทย กลไกสำคัญในสนามเลือกตั้งเมื่อการปรับครม.ครั้งก่อนมาแล้ว แต่สุดท้ายข้อเสนอถูกปัดตก เพราะมีน้องรองอย่าง “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นั่งอยู่ กลัวจะเป็นภาพแตกหัก

และตราบใดที่ “บิ๊กตู่” ยังอยู่ และไม่ยอมปรับครม. ได้อย่างที่คนรอบข้างบิ๊กบราเธอร์ต้องการ การสร้างความได้เปรียบก่อนจะถึงเลือกตั้งย่อมไม่สามารถเกิดขึ้นได้ตามแผน

แต่หาก “บิ๊กตู่” กระเด็นตกเก้าอี้ การจัดทัพเพื่อรองรับการเลือกตั้งจะง่าย “บิ๊กป้อม” สามารถนำขุนพลข้างกายที่เจนสนามมานั่งในตำแหน่งสำคัญได้

ดังนั้น แม้จะเป็นเวลาอีกไม่กี่เดือนแต่เหลือเฟือสำหรับการจัดทัพให้ตัวเองมีความได้เปรียบในสนามเลือกตั้งที่จะอุบัติขึ้น

มันไม่ได้แค่เป็นการต่อเติมฝันให้กับ “บิ๊กป้อม” ในเก้าอี้นายกรัฐมนตรีสักครั้งในชีวิต เพื่อเกียรติยศของวงศ์ตระกูล “วงษ์สุวรรณ” แต่ยังเป็นการต่อยอดสู่การกลับสู่อำนาจในรัฐบาลหน้า

ว่ากันว่า คนรอบตัว “บิ๊กป้อม” ต่างยุยงส่งเสริมให้เจ้านายตัวเองตัดสินใจเข้ามาขัดตาทัพเพื่อผลระยะยาวในอนาคต และไม่รู้ว่าการที่ “บิ๊กป้อม” นิ่งไม่ตอบสื่อเหมือนทุกครั้ง เพราะเริ่มจะเคลิ้มกับคำเหล่านี้แล้วหรือเปล่า

ขณะที่ฟากฝั่ง “น้องตู่” วันนี้แม้จะประกาศไม่หวั่นไหว กับกระแสซื้อตัวส.ส. 3-50 ล้านบาทเพื่อล้มนายกฯ และกระแสข่าวนายกฯคนนอก แต่ใครก็ดูออกว่าหน้าตาหมองคล้ำ เหมือนมีความทุกข์อยู่ในอก

แต่ไม่แปลกเพราะนิสัยของ “บิ๊กตู่” เป็นแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไร อีโก้ไม่ค่อยยอมใคร ยอมตายดีกว่ายอมเสียศักดิ์ศรี จึงต้องหยิ่งทะนงตามฟอร์ม

เกมนี้ดูแล้ว “บิ๊กตู่” ไม่น่าจะยอมให้แผนการนี้สำเร็จแน่ และน่าจะหาทางต่อสู้เหมือนเมื่อครั้งต่อต้านฝ่ายกบฏในศึกซักฟอกจนรักษาเก้าอี้ตัวเองไว้ได้

แต่หนนี้ไม่น่าจะง่าย เพราะพี่ใหญ่กุมอำนาจเบ็ดเสร็จทุกกลไก ขนาดพรรคสำรองที่ใช้ “แรมโบ้อีสาน” เสกสกล อัตถาวงศ์ อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ไปซุ่มจัดตั้งยังเจอสกัดดาวรุ่ง ผู้ก่อตั้งยังอยู่ไม่ได้ทางการเมือง ต้องกระเด็นออกจากเก้าอี้

มือทำงานข้างกาย “บิ๊กตู่” ที่มีก็ไม่เจนจัดการทำการเมือง ต่างจากคนที่อยู่ข้างตัว “บิ๊กป้อม” ที่มีแต่นักเลือกตั้งมืออาชีพ เชี่ยวชาญทั้งบนดิน และใต้ดิน

นักการเมืองที่อยู่กับ “บิ๊กตู่” วันนี้ไม่ได้เก่งกาจถึงขนาดจะทำให้ “บิ๊กตู่” เป็นนายกฯสมัยสามได้ แม้แต่ทำพรรคขนาดเล็กยังเหนื่อยเลยชั่วโมงนี้

หากแยกวงกับพี่ใหญ่ อย่างไรก็ไปไม่รอด

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา “บิ๊กป้อม” มีทั้งพระเดชพระคุณกับส.ส. และนักการเมือง ไม่ว่าจะฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาล จึงมีบารมีกับคนพวกนี้ ต่างจาก “บิ๊กตู่” ที่ค่อนข้างจะมีเส้นแบ่งกับนักการเมือง ไม่ยอมลงมาเกลือกกลั้วด้วย เพราะกลัวตัวเองเปรอะเปื้อน

เพิ่งจะมาไหวตัวทันตอนเจอกบฏในสภาฯ ถึงจะปรับตัวเข้าหาส.ส. และนักการเมือง ซึ่งคนมองว่า มันช้าเกินไปที่จะมัดใจใครได้แล้ว

เรียกว่า หากขาด “บิ๊กป้อม” โอกาสที่ “บิ๊กตู่” จะกลับมาเป็นนายกฯอีก แทบไม่มีเลย

ทางไปต่อของ “บิ๊กตู่” มันแคบลงทุกที แก้สมการรอบนี้ค่อนข้างยาก

ทางรอดทางเดียวที่เหลือคือ สัญญาณว่ายังให้อยู่ต่อเท่านั้น นอกนั้นยังมืดมน


กำลังโหลดความคิดเห็น