xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

“บิ๊กตู่”ตัวเบา ปชป.มารับแทน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


  จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ - ปริญญ์ พานิชภักดิ์ - พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา - เสกสกล อัตถาวงศ์
ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - ยังมองไม่เห็นหนทางว่า พรรคประชาธิปัตย์ภายใต้การนำของ “อู๊ดด้า” จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี รมว.พาณิชย์ ในฐานะกัปตัน จะโงหัวขึ้นได้อย่างไร โดยเฉพาะกรณีฉาวของทายาทมือเศรษฐกิจคนดัง “ปริญญ์ พานิชภักดิ์” ที่น่าจะหมดอนาคตทางการเมืองเรียบร้อย

เรื่องนี้ไม่จบง่ายๆแน่ เพราะเป็นนาทีของการเหยียบซ้ำ บรรดาเหยื่อต่างพาเหรดกันออกมาแฉรายวัน มีหลักฐานมัดหนาแน่น ต่อให้รอดคดี แต่ชีวิตทางการเมืองของปริญญ์ กลับมายาก

แล้วมันไม่ได้มีผลแค่สนามเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) ของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ “ดร.เอ้” สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ กุมขมับซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพราะโดนหางเลข แต่มันลามไปถึงสนามเลือกตั้งใหญ่ที่จะเกิดขึ้นอย่างเร็วในปลายปี 65 อย่างช้าในต้นปี 66

กรณีของ “ปริญญ์” เหมือนฐานภูเขาน้ำแข็งของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ถึงเวลาพังทลายให้คนได้เห็น หลังจากก่อนหน้านี้มีแต่เรื่องที่เป็นยอดภูเขาน้ำแข็งโผล่ออกมาเท่านั้น

และความขัดแย้งภายในพรรคประชาธิปัตย์ ระหว่างขั้วที่เอา จุรินทร์ และขั้วที่อยู่ตรงข้ามจุรินทร์ นี่เองทำให้กรณีของ ปริญญ์ ไม่ได้เป็นแค่เรื่องส่วนบุคคล แต่ลามไปถึงคนอื่นๆให้สะเทือนกันทั้งพรรค โดยเฉพาะบุคคลที่มีลักษณะคล้ายกัน

แต่ละวันมีการแฉอักษรย่อ บอกเรื่องราวรสนิยมทางเพศของคนในพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาไม่มีหยุดหย่อน ตามแก้ตามเช็ดกันไม่ทัน ภาพลักษณ์พรรคพระแม่ธรณีบีบมวยผมตอนนี้กลายเป็น “พรรคติดเรต18+” ไปแล้ว

ภาพลักษณ์ที่เคยสั่งสมว่าเป็นพรรคของคนดี จากกรณีของ “ปริญญ์” และอื่นๆ ที่ถูกแฉตามมาทำให้พรรคประชาธิปัตย์ถูกมองใหม่ ที่ผ่านมาตกลงเป็นแค่การสร้างภาพคนดีเท่านั้น

ขนาดเลือดใหม่ “สุนทร รักษ์รงค์” แกนนำชาวสวนยาง ซึ่งเป็นสมาชิกพรรค และอาสาจะลงสมัครรับเลือกตั้งส.ส.นครศรีธรรมราช ยังโพสต์เฟซบุ๊กลากไส้ พรรคนี้เก่งแต่ประดิษฐ์วาทกรรม

ต้องบอกว่า เป็นพรรคประชาธิปัตย์ในยุคมืดของแท้ ความแข็งแกร่งและเป็นปึกแผ่นที่เคยมีในอดีตหายหมด เหลือแต่ความอ่อนแอ

โดยเฉพาะเรื่องภาวะผู้นำของ “จุรินทร์” วันนี้ถูกตั้งคำถามเยอะ เรื่องปริญญ์ฉาวมาตั้งแต่ช่วงสงกรานต์ แต่กลับออกมาแถลงขอโทษตอนผ่านไปจนจะ 10 วันอยู่แล้ว

แล้วเป็นแอ็กชั่นที่ไม่ได้คิดได้เอง แต่เป็นเพราะถูกสังคมบีบรัด กดดัน รวมไปถึงผู้นำจิตวิญญาณในพรรคประชาธิปัตย์ อย่าง “ชวน หลีกภัย” ประธานสภาผู้แทนราษฎร ออกมากระทุ้งให้ทำอะไรสักอย่าง ถึงได้ต้องมาตั้งโต๊ะแถลง

ก่อนหน้านี้ ตั้งแต่เกิดเรื่อง มีแต่ “ดร.กานต์” น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และกรรมการบริหารพรรคเท่านั้น ที่ออกมารับหน้าเสื่อ ผู้หลักผู้ใหญ่ในพรรคหายหัวกันหมด เพราะกลัวจะโดนร่างแหซวยไปด้วย

ทั้งที่ความจริงเรื่องนี้ หาก “จุรินทร์” มีไหวพริบกว่านี้สักหน่อย ตั้งโต๊ะขอโทษ ตั้งกรรมการสอบตั้งแต่วันแรกๆ พรรคจะไม่ดำดิ่งขนาดนี้ เพราะเรื่องพวกนี้มันเกิดได้ทุกที่ ทุกพรรค ตามประสานักการเมืองก็คือมนุษย์

ผิดแล้วสำนึกผิด สังคมไทยใจดีให้อภัยได้ไม่ยาก แต่การเชื่องช้ามันเหมือนพยายามหนีปัญหา ใช้มุกปล่อยให้เรื่องซาเงียบไปเองเหมือนที่พรรคประชาธิปัตย์ชอบใช้ในอดีต

แต่กรณีนี้ ดูแล้วไม่เงียบง่ายๆแน่ เพราะการเมืองช่วงนี้เป็นช่วงใกล้เลือกตั้ง เป็นจังหวะที่แต่ละพรรคจะควักไส้คู่ต่อสู้ออกมาดิสเครดิต
ใครมีชนักปักหลัง ในยุคโซเซียลต้องระวังตัวให้ดี

อย่างไรก็ดี อาการพระศุกร์เข้า พระเสาร์แทรกของพรรคประชาธิปัตย์ในช่วงนี้ เหมือนจะส่งผลดีทางอ้อมกับ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ทางอ้อมเหมือนกัน

เพราะมีพรรคประชาธิปัตย์รับสัมปทานเหมาก้อนอิฐไว้คนเดียว

เพราะก่อนหน้าที่จะมีเรื่องฉาวของ “ปริญญ์” นั้น “บิ๊กตู่” กำลังเมาหมัดจากกรณีคลิปเสียงฉาวของ “แรมโบ้อีสาน” เสกสกล อัตถาวงศ์ อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี เรื่องโควตาสลากกินแบ่งรัฐบาลอยู่

 แม้ “แรมโบ้อีสาน” จะชี้แจงว่าเป็นคลิปที่พูดเล่นกับ “จูลี่” จุรีพร สินธุไพร ข้าราชการเมืองประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี แต่สังคมไม่เชื่อน้ำคำ


ถึงขนาดระยะหลังๆ ตั้งแต่เกิดเรื่อง ไม่มีภาพ “แรมโบ้อีสาน” เดินตามต้อยๆ อยู่ข้างหลัง “บิ๊กตู่” เหมือนในอดีต ที่แทบจะติดทุกเฟรมในฐานะองครักษ์พิทักษ์นายกรัฐมนตรี ฝ่ายปะ ฉะ ดะ

แม้จะไม่เกี่ยวกับ “บิ๊กตู่” โดยตรง แต่ “แรมโบ้อีสาน” เป็นคนที่ใกล้ตัวนายกฯ และเป็นถึงผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำ “บิ๊กตู่” ปลาเน่าตัวเดียวย่อมเหม็นทั้งข้อง!!

ยิ่ง “บิ๊กตู่”เป็นคนกระเดียดไปทางรังเกียจเรื่องพวกนี้ แม้ไม่เอ่ยปาก หรือใช้วิธีไล่ออก แต่ย่อมไม่อยากเก็บคนด่างพร้อยไว้ใกล้ตัวแน่

“แรมโบ้อีสาน” อาจจะประกาศลาออกเอง แต่ย่อมรู้อยู่เต็มอกว่า “บิ๊กตู่และทีมงานรอบข้างนายกฯ” ปฏิบัติตัวกับเขาไม่เหมือนเดิม กันออกจากซีนนายกฯ ตั้งแต่เกิดเรื่อง

ถึงไม่พูด ไม่เอ่ยปาก แรมโบ้อีสานย่อมต้องรู้ตัวว่าหมดประโยชน์แล้ว !!

อย่าคิดว่า ทำหน้าที่พิทักษ์แบบถวายหัวแล้ว “บิ๊กตู่”จะปกป้อง เพราะหลายคนก่อนหน้านี้ ทั้ง “เอ๋” ปารีณา ไกรคุปต์ อดีตส.ส.ราชบุรี “สิระ เจนจาคะ” อดีต ส.ส.กทม. ของพรรคพลังประชารัฐ ที่ทำหน้าที่คล้ายกับ “แรมโบ้อีสาน” ถึงเวลาสร้างหายนะ “บิ๊กตู่” ก็ไม่เอาไว้เหมือนกัน

เพราะสุดท้ายแล้ว เอาซวยออกห่าง ดีที่สุด

ขนาดพรรคร่วมรัฐบาลอย่างพรรคประชาธิปัตย์ เจอมรสุม “บิ๊กตู่” ยังเลี่ยงที่จะไปแตะต้อง เพียงแต่ให้กำลังใจตามมารยาทในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล

ไม่ขอหารก้อนอิฐด้วย ตอนนี้ปล่อยให้พรรคประชาธิปัตย์รับไปเต็มๆ ตัวเองหายใจคล่องขึ้นก็พอ


กำลังโหลดความคิดเห็น