xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

เขาเป็นใครหนอ? นักการเมืองลวนลามหญิง แล้ว “ปริญญ์” ลาออกทำไม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - ฉาวโฉ่อีกแล้ว การเมืองไทย
หลัง “ทนายตั้ม” ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ออกมาจุดพลุเปิดประเด็นว่ามีผู้มาร้องทุกข์ว่า ถูก “รองหัวหน้าพรรคการเมืองใหญ่” ลวนลาม หอมแก้ม กอดจูบ จับก้น โดยไม่สมยอม และได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีไว้แล้ว

“มีน้องคนนึงมาปรึกษาว่า ถูกรองหัวหน้าพรรคการเมืองใหญ่ลวนลาม หอมแก้ม กอดจูบ จับก้นโดยไม่สมยอม เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่นะครับเพราะนักการเมืองคนนี้มีตำแหน่งหน้าที่การงานใหญ่โต สร้างความน่าเชื่อถือให้กับตนเอง โดยหลอกว่าจะพามาคุยเรื่องงานและสอนน้องเรื่องหุ้น เศรษฐศาสตร์ แต่พอมาจริงกลับคุยแต่เรื่องเพศ และลวนลามต่างๆนานา ซึ่งคุณแม่ของน้องได้ปรึกษาผมทาง LINE Official ผมได้แนะนำให้แจ้งความดำเนินคดีและเก็บหลักฐานไว้พร้อมหมดแล้วครับ” ทนายตั้มว่าไว้เช่นนั้น

พลันที่ “ทนายตั้ม” เปิดประเด็นขึ้นมาทำเอาชาวเน็ตต่างวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางโดยเดาไปต่างๆนานาว่า “รองหัวหน้าพรรคการเมืองใหญ่” ที่ว่าคือใคร

พร้อมๆกับมี “คำใบ้เพิ่ม” จาก “ทนายตั้ม” ออกมาเป็นระยะๆ ว่า ค้นประวัติรองหัวหน้าพรรคคนนี้ไม่ธรรมดา เคยก่อเหตุลักษณะนี้กับหญิงไทยอายุ 18 ปี 2 คนที่ประเทศอังกฤษสุดท้ายเรื่องเงียบเพราะพ่อใหญ่มากในเวลานั้น และทำแบบนี้กับอีกหลายคนในประเทศไทย ผมถือว่าเป็นภัยสังคมมากเลยนะครับ

นอกจากนี้ ยังมีการเปิดเผยแชตลับที่ระบุว่าเป็นวงใน บอกว่า เพื่อนผู้หญิงของเขามักเล่าเรื่องนักการเมืองคนนี้ให้ฟัง ตอนแรกเข้าใจว่าคนนี้เป็นคนดี มีความรู้ จึงมีการฝึกงานและสัมภาษณ์งานกับนักการเมืองรายนี้
สุดท้ายกลับกลายเป็นโดนลวนลาม แสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสม ทั้งก่อนและหลังที่นักการเมืองคนนี้จะแต่งงาน ส่วนคนในวงการหุ้นนั้นรู้ดี และการที่รองหัวหน้าพรรคคนนี้ต้องลาออกจากการเป็นหัวหน้าโบรกเกอร์แห่งหนึ่ง ก็เพราะถูกจับเรื่องพวกนี้ได้พร้อมหลักฐาน

อีกทั้งรองหัวหน้าพรรคคนนี้ ยังเคยถูกจับในคดีข่มขืนที่อังกฤษมาแล้วในปี 2003 แต่พ่อเส้นใหญ่เรื่องเลยจบ

“ทนายตั้ม” ยังได้ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมระหว่างเดินทางไปติดตามคดีที่ สน.ลุมพินี ว่า ทราบว่าตำรวจได้ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุคือร้านอาหาร รวมทั้งได้คุยกับผู้เสียหายและแม่ เล่าถึงเหตุการณ์นี้ว่า เหตุเกิดเมื่อ 11 เม.ย.65 นักการเมืองคนดังกล่าว ชวนผู้เสียหายไปที่ร้านอาหาร มีการพูดถึงเรื่องเพศและลวนลามหลายครั้ง เช่น กอด จูบ จับก้น และตั้งแต่เปิดเผยถึงเรื่องดังกล่าว มีผู้เสียหายติดต่อมา รวม 10 คน และผู้เสียหายที่ถูกข่มขืนมี 4-5 คน บางคนเป็นโรคซึมเศร้าเพราะถูกข่มขืน ซึ่งนักการเมืองคนดังกล่าวมัก ข่มขู่ว่า รู้ไหมว่าพ่อเป็นใคร ทำให้ผู้เสียหายหลายคนไม่กล้าแจ้งความ

อย่างไรก็ดีข้อความหนึ่งที่ “ทนายตั้ม” ใบ้ค่อนข้างชัดเจนเป็นข้อความที่ว่า “พรรค (รูปแมลงสาบ) ครับ คนนี้พ่อใหญ่มาก ดังระดับโลก”

เพราะเป็นที่รู้กันว่า “พรรคแมลงสาบ” เป็นนิคเนมเชิงลบของ “ค่ายสะตอ” พรรคประชาธิปัตย์

เรื่องนี้ ราเมศ รัตนเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ชี้แจงเบื้องต้นว่า "พี่น้องสื่อมวลชนโทรศัพท์มาถามผมเยอะมาก ทั้งสอบถามผ่านในกล่องข้อความในทวิตเตอร์ ในเฟซบุ๊กว่าจะแถลงข่าวเรื่องรองหัวหน้าพรรคหรือไม่ ผมตอบไม่ได้จริงๆ ครับ ผมไม่ทราบว่าเป็นใครทำอะไรที่ไหนอย่างไร แต่ถ้าเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ขอย้ำในหลักการสำคัญว่า “ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมายและความถูกต้องของบ้านเมือง ผิดว่าไปตามผิดถูกว่าไปตามถูกครับ”

อย่างไรก็ดี หลังเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ปรากฏว่า “ปริญญ์ พานิชภักดิ์” รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นบุตรชายของ “ดร.ซุป” ศุภชัย พานิชภักดิ์ อดีตรองนายกฯ และรัฐมนตรีหลายสมัย อดีต ผอ.องค์การการค้าโลก (WTO) และเคยเป็นเลขาธิการการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (UNCTAD) ได้ออกมาแถลงข่าวปฏิเสธ ยืนยันว่าไม่มีพฤติกรรมเช่นนั้น และแสดงความเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ใจนี้

พร้อมกับได้แสดงความรับผิดชอบด้วยการตัดสินใจลาออกจากทุกตำแหน่งในพรรคประชาธิปัตย์ และเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เวลาจะพิสูจน์ความจริง

“ผมยังช็อกและตกใจมาก ยืนยืนไม่ใช่คนแบบนั้น และไม่ใช่เรื่องจริง เรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัว ขอชี้แจงกับตำรวจดีกว่า” ปริญญ์ ว่าไว้

ทั้งนี้ “ปริญญ์” ที่ปัจจุบันอายุ 45 ปี ถือเป็นนักการเมืองรุ่นใหม่ที่ได้รับการจับตามอง ทั้งในฐานะทายาท “ดร.ซุป” ที่เป็นมือเศรษฐกิจแถวหน้าของประเทศ และยังมีโปรไฟล์ประวัติการศึกษา-การทำงานสวยหรู

โดยจบการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาเศรษฐศาสตร์และการเงิน BSc. Economics and International Relations จาก L.S.E. (London School of Economics and Political Science) ประเทศอังกฤษ เมื่อปี 2542

ผ่านการทำงานในบริษัทระดับโลกในและนอกประเทศ อาทิ ABN AMRO Bank สหราชอาณาจักร, บริษัทหลักทรัพย์ Deutsche Bank - Tisco, บริษัทหลักทรัพย์ เครดิต ลียองเนส์ (CLSA), บริษัท เครดิต ลียองเนส์ ฮ่องกง และบริษัทหลักทรัพย์ CLSA เป็นต้น ขชณะเดียวกันยังได้เป็นที่ปรึกษาและกรรมการในองค์กรต่างๆมากมาย

สำหรับเส้นทางการเมืองของ “ปริญญ์” ยังไม่เคยเป็นลงสมัครรับเลือกตั้ง โดยเพิ่งเข้าสู่การเมืองเมื่อช่วงปี 2562 ด้วยตำแหน่งรองหัวพรรคและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจทันสมัย พรรคประชาธิปัตย์ ที่ปรึกษารองนายกฯ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รวมถึงเป็นที่ปรึกษาประธานคณะกรรมาธิการการพาณิชย์และทรัพย์สินทางปัญญา รัฐสภา และเลขาธิการคณะอนุกรรมการทรัพย์สินทางปัญญา รัฐสภาด้วย

ล่าสุดได้รับมอบหมายให้เป็นผู้อำนวยการเลือกตั้ง กทม.ของพรรคประชาธิปัตย์ ด้วย

การลาออกจากทุกตำแหน่งในพรรคประชาธิปัตย์ เสมือนเป็นการยอมรับด้วยตัวเองคือตัวละครที่เป็น “รองหัวหน้าพรรคการเมืองใหญ่” ส่วนผิดถูกอย่างไรก็คงเป็นเรื่องของกระบวนการทางกฎหมายที่จะพิสูจน์ความจริงกันต่อไป แต่ที่สงสัยก็คือ ทำไมถึงต้องรีบลาออกขนาดนี้.


กำลังโหลดความคิดเห็น