รอคอยกันมาเกือบ 50 ปี สำหรับการ “เปลี่ยน” แปลงครั้งสำคัญของประเทศที่มั่งคั่งด้วยทรัพยากรมหาศาลในอเมริกาใต้ ทั้งทองแดง, ทองคำ, แร่ธาตุสำคัญๆ อื่นๆ ของโลก แต่ประชาชนแค่หยิบมือเดียว (1%) เป็นเจ้าของสินทรัพย์เกือบครึ่งหนึ่งของประเทศ (จากยูเอ็น) และชิลีเป็นประเทศที่มีความเหลื่อมล้ำสูงสุดในโลกประเทศหนึ่ง
นั่นคือ ในการเลือกตั้ง (ตรง) ตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อ 19 ธันวาคมนี้เอง อดีตผู้นำนักศึกษาคนสำคัญของสหพันธ์นักศึกษาแห่งชิลี นายกาเบรียล บอริก (Gabriel Boric) ได้ชัยชนะต่อคู่แข่งที่นิยมเผด็จการนายพลปิโนเชต์ (Pinochet) จอมโหด เป็นชัยชนะถึง 12% โดยนายกาเบรียล ได้ถึง 56% ขณะที่คู่แข่งได้แค่ 44%
เป็นชัยชนะขาดลอย ระหว่างนายกาเบรียลกับผู้สมัครฝ่ายขวาจัด นายโฮเซ่ อันโตนิโอ คาสท์ ซึ่งเป็นนักธุรกิจมั่งคั่ง และอายุแก่กว่ากาเบรียลถึง 20 ปี
เป็นชัยชนะในการเลือกตั้งรอบ 2 เพราะในรอบแรกไม่มีผู้สมัครคนใดใน 7 คนได้คะแนนเกิน 50%...แต่นายโฮเซ่ คาสท์ ได้คะแนนนำเป็นอันดับหนึ่งด้วยคะแนน 28%-ส่วนนายกาเบรียลได้แค่ 25% เท่านั้น
ขณะที่นายกาเบรียล ตัดสินใจลงสมัครเป็นตัวแทนของแนวร่วมพรรคฝ่ายซ้าย เพื่อลงแข่งการเลือกตั้ง ปธน.นั้น เขายังอายุไม่ถึง 35 ซึ่งเป็นคุณสมบัติของผู้สมัคร แต่เขาก็ฟันฝ่าการทำ Primaries (คัดตัวผู้สมัคร)-จากเหล่าพรรคแนวร่วมต้านขบวนการปิโนเชต์มาได้อย่างลอยลำ...และเมื่อได้ชัยชนะขาวสะอาด และเด็ดขาดท่วมท้นเมื่อ 19 ธันวาคมนี้...จะทำให้เขากลายเป็น ปธน.ที่อายุน้อยที่สุดในโลกคนหนึ่ง (เช่นเดียวกับ นายกฯ หญิงของฟินแลนด์ที่อายุแค่ 34 ปี เมื่อเข้ารับตำแหน่ง)
ที่ว่าชิลีกำลังผลัดใบ ก็เพราะประเทศมีความมั่งคั่งแต่เป็นสุดยอดแห่งความเหลื่อมล้ำแห่งนี้ อยู่ภายใต้ฝันร้ายระบอบเผด็จการปิโนเชต์มาถึงเกือบ 50 ปี ตั้งแต่การทำรัฐประหารเลือดปี 1973 (พ.ศ. 2516) ที่นายพลปิโนเชต์ ที่เป็นทั้ง ผบ.ทบ.และรมต.กลาโหม ได้ทำตามการยุยงของฝ่ายขวาจัดในสหรัฐฯ (ขบวนการซีไอเอที่สนับสนุนการเงินและอาวุธจัดทำปฏิบัติการนกเหยี่ยว “Commodore” เพื่อโค่นล้มรัฐบาลในทุกๆ ประเทศในอเมริกากลาง+อเมริกาใต้ที่มาจากการเลือกตั้ง แต่มีนโยบายกระจายความเป็นธรรมให้กับสังคม)
รมต.กลาโหมนายพลปิโนเชต์ได้นำรถถังปิดล้อมและยิงเข้าไปที่ทำเนียบของปธน.อัลเยนเด (เป็นนายแพทย์ที่ชนะการเลือกตั้งพร้อมนโยบายสร้างความเป็นธรรมแก่สังคม) มีเฮลิคอปเตอร์บินอยู่เหนือทำเนียบ และยิงกราดเพื่อสังหาร ครม.ของคุณหมออัลเยนเด ซึ่งถูกปิดล้อมและสังหารตายหมดทั้ง ครม.!!
คณะรัฐประหารโหดของนายพลปิโนเชต์ได้จับใหญ่กวาดต้อนฝ่ายนำที่สนับสนุนคุณหมออัลเยนเดถึงกว่า 3 พันคนไปรวมตัวกันที่สนามกีฬา ถูกยิงทิ้งถ้าต่อสู้ขัดขืน มีการอุ้มฆ่า, ทรมาน มีทั้งบาทหลวงคาทอลิกที่ต่อสู้เพื่อผู้ยากจน และเป็นฝ่ายรัฐบาลอัลเยนเดก็ต้องพลีชีพถูกทหารของนายพลปิโนเชต์ยิงตายเมื่อขัดขืนการจับกุม รวมทั้งนักร้อง นักแสดงจำนวนหนึ่งที่เป็นฝ่ายประชาชน ก็ถูกอุ้มฆ่าทรมานสูญหายจำนวนมาก
ต่อมาได้มีบาทหลวงชาวสเปนที่ทำงานที่ชิลีก็ถูกทำร้าย และฆ่าตาย และทำให้สเปนนำเรื่องเข้าพิจารณาในศาลอาญาระหว่างประเทศ จนนายพลปิโนเชต์ (ภายหลังยึดอำนาจก็ได้เป็นผู้นำสูงสุดของชิลีถึง 20 ปี) ได้ถูกศาลพิพากษาเป็นอาชญากรระหว่างประเทศ; ซึ่งถ้าเกิดเดินทางเข้าไปในเขตศาล (ในยุโรป) จะถูกดำเนินคดีทันที...ต่อมาเมื่อปิโนเชต์เจ็บป่วยในวัยชรา ได้เดินทางไปรักษาตัวที่อังกฤษ ก็มีความพยายามส่งตัวเข้าไปรับโทษที่กรุงเฮก จนนางแทตเชอร์ (ขณะเป็นนายกฯ อังกฤษ) ได้ออกมาปกป้อง และหาวิธีพาเขาหลบหนีออกจากอังกฤษเพื่อพ้นอำนาจศาลที่ยุโรป!
รัฐธรรมนูญปัจจุบันของชิลี ก็เป็นรัฐธรรมนูญที่เขียนขึ้นโดยปิโนเชต์ ที่จับมือกับต่างชาติในการเปิดเสรีให้ต่างชาติมาลงทุนทำเหมืองมากมายในชิลี และสร้างความมั่งคั่งให้ต่างชาติและคนชั้นปกครองหยิบมือเดียวของชิลี รวมทั้งมีการคอร์รัปชันสูงมาก
นายกาเบรียล เป็นอดีตผู้นำนักศึกษาหัวก้าวหน้า ที่เป็นทั้งนายกองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งชิลี เขาศึกษานิติศาสตร์ และรวบรวมนักศึกษาทั่วประเทศประท้วงใหญ่ต่อต้านรัฐบาลนิยมปิโนเชต์มากมาย เช่น การขึ้นค่ารถโดยสาร, ค่าน้ำมัน และเขาได้เป็นประธานสหพันธ์นักเรียน, นักศึกษาทั่วประเทศ ได้นำการประท้วงใหญ่ปี 2019 (2562) ต่อต้านที่รัฐบาลแปรรูปมหาวิทยาลัยออกจากรัฐ และทำให้ค่าเล่าเรียนในมหาวิทยาลัยสูงลิ่ว จนได้ต่อรองกับรัฐบาลนิยม ปธน.ปิโนเชต์ (ปธน.คนปัจจุบัน) เพื่อยังมีนักศึกษาบางส่วนที่ไม่อยู่ภายใต้มหาวิทยาลัยเปิดเสรี...นั่นเป็นการประท้วงใหญ่ทั่วประเทศ และขยายไปถึงการลงประชามติจะร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ที่นายกาเบรียลได้เป็นแกนนำ จนชนะประชามติจะมีการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ในปีหน้านี้เอง
ส่วนคู่แข่งของเขา เป็นฝ่ายสนับสนุนระบอบปิโนเชต์ ที่ต้องการเปิดเสรีทุกอย่าง...เขาเป็นนักธุรกิจมั่งคั่ง และกล่าวหานายกาเบรียลว่า จะทำให้ชิลีกลายเป็นคอมมิวนิสต์ ขณะที่นายโฮเซ่เองก็มีนโยบายที่เป็นแบบทรัมป์หรือนายจาเนโร โบลโซนารู ของบราซิล
นายกาเบรียลได้หาเสียงตอกย้ำว่า จะจัดการกับความเหลื่อมล้ำ และสกัดกั้นการเปิดเสรี กำจัดการคอร์รัปชัน บริหารอย่างโปร่งใส; จะขึ้นภาษีคนรวย; เขาจะกระจายอำนาจให้ทุกคนมีส่วนร่วม โดยเฉพาะผู้หญิง ซึ่งก็เป็น agenda (วาระแห่งชาติ)ที่เหมือนเข็นครกขึ้นภูเขาทีเดียว
พอผลออกมาว่ากาเบรียลชนะขาดลอย-ตลาดหุ้นชิลีดิ่งไป 10% เงินก็อ่อนทันที เพราะกลัวชิลีจะเป็นอย่างที่นายโฮเซ่ได้หาเสียงขู่เอาไว้ ที่ได้สร้างความกลัวแก่ผู้ประกอบการใหญ่น้อย เพราะเขาขู่ว่า บ้านเมืองจะวุ่นวาย ไม่มีความสงบ, ไม่มีกฎหมาย เป็นต้น
แต่ฝ่ายประชาชนส่วนใหญ่ ออกมาเต้นรำบนท้องถนนยินดีกับชัยชนะของคนของประชาชนทั่วประเทศ