xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

ท้าวกุเวรธเนศวรธนบดีมหาราชลีลา เทพผู้บันดาลโชคลาภ ทรัพย์สมบัติ ความมั่งคั่ง ร่ำรวย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



คอลัมน์ ศิลปะแห่งศรัทธา
โดย ARTMULET

สวัสดีครับ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาหลังจากที่ผมได้นำเสนอเรื่องราวของการจัดสร้างพระพุทธรูปและได้กล่าวถึง  “พระพุทธลีลานฤมิตมิ่งมงคล” วัดขุนอินทประมูล จ.อ่างทอง ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางลีลาศิลปะสุโขทัยบริสุทธิ์ที่มีความงดงามอ่อนช้อยเป็นที่สุดไปแล้ว ในครั้งนี้จะขอกล่าวถึงเรื่องราวของเทพหรือเทวดาที่มีผู้ให้ความเคารพศรัทธาและนิยมนำมาบูชากันอย่างกว้างขวาง ในฐานะเทพผู้บันดาลความมั่งคั่ง ร่ำรวย ทรัพย์สมบัติและโชคลาภ อันเป็นที่รู้จักกันในนาม “ท้าวกุเวร” หรือ “ท้าวเวสสุวรรณ” ในอีกแง่มุมหนึ่งที่แตกต่างจากของเดิมที่เคยเขียนไปแล้วนะครับ

ในทางพระพุทธศาสนา ได้กล่าวถึงอดีตชาติของท้าวกุเวรเอาไว้ในพระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค เล่ม 3 ภาค 2 หน้าที่ 151 ว่า ในสมัยที่โลกยังว่างจากพระพุทธศาสนาไม่มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จอุบัตินั้น มีพราหมณ์ผู้หนึ่งนามว่า กุเวร เป็นคนใจดีมีเมตตากรุณา ประกอบสัมมาชีพด้วยการทำไร่อ้อย นำต้นอ้อยตัดใส่ลงไปในหีบยนต์แล้วบีบน้ำอ้อยขายเลี้ยงชีวิตตนและบุตรภรรยา ต่อมากิจการเจริญขึ้นจนเป็นเจ้าของหีบยนต์สำหรับบีบน้ำอ้อยถึง 7 เครื่อง จึงสร้างที่พักสำหรับคนเดินทางและบริจาคน้ำอ้อย จากหีบยนต์เครื่องหนึ่ง ซึ่งมีปริมาณน้ำอ้อยมากกว่าหีบยนต์เครื่องอื่นๆ ให้เป็นทานแก่คนเดินผ่านไปมาจนตลอดอายุขัย ด้วยอำนาจแห่งบุญกุศลที่บริจาคน้ำอ้อยให้เป็นทานนั้น ทำให้กุเวรได้ไปอุบัติเป็นเทพบุตรบนสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา มีนามว่า “กุเวรเทพบุตร” ต่อมากุเวรเทพบุตร ได้เทวาภิเษกเป็นผู้ปกครองดูแลพระนครด้านทิศเหนือ จึงได้มีพระนามว่า “ท้าวเวสสุวรรณ”

ตามหลักฐานในคัมภีร์ทางพุทธศาสนายืนยันว่า “ท้าวกุเวร” หรือ “ท้าวเวสสุวรรณ” เทวราชพระองค์นี้ได้สำเร็จเป็นพระอริยบุคคลชั้นโสดาบันเมื่อครั้ง “จุลสุภัททะ ปริพาชก” เกิดความสงสัยในความเป็นมาแห่งองค์สมเด็จพระพุทธเจ้าท่าน “ท้าวเวสสุวรรณ” องค์นี้จึงได้ไปร่วมต้อนรับเสด็จด้วยและยังเป็นประจักษ์พยานเรื่องพระมหาโมคคัลลานะ ใช้เท้าจิกพื้นไพชยนต์วิมานของพระอินทร์จนเกิดการสั่นสะเทือนไปทั้งดาวดึงส์เทวโลก อันเป็นการเตือนสติสักกะเทวราชอีกด้วย และก็เชื่อกันตามฎีกามาลัยเทวสูตร พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม 1 ภาค 2 หน้าที่ 435 ว่า “คทาวุธ” ของ “ท้าวเวสสุวรรณ” นั้นเป็นยอดศาสตราวุธมีอานุภาพสามารถทำลายโลกใบนี้ให้เป็นจุณวิจุณภายในพริบตา จะเห็นได้ว่า ท้าวกุเวร หรือ ท้าวเวสสุวรรณ นั้น ท่านเป็นเทพที่สำคัญยิ่งพระองค์หนึ่งที่พิทักษ์รักษาพระพุทธศาสนา ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่า ท่านท้าวสักกะเทวราช หรือ พระอินทร์เลยทีเดียว ตามวัดต่างๆ จึงมีรูปปั้นยักษ์ยืนเฝ้าอยู่หน้าประตูโบสถ์หรือวิหารที่เก็บของมีค่า พระพุทธรูป และโบราณสมบัติล้ำค่าของทางวัดบรรจุอยู่ด้านละ 1 ตน หรือไม่ก็บริเวณลานวัด หรือที่ที่มีคนผ่านไปมาแล้วเห็นโดยง่าย บ้างก็สร้างเอาไว้ในวิหารหรือศาลาโดยเฉพาะก็มี ซึ่งยักษ์เหล่านั้น ถ้าเป็น ตนเดียว ก็จะหมายถึงรูปเคารพของท้าวเวสสุวรรณ แต่ถ้าเป็น 2 ตนก็จะเป็นบริวารของท่านท้าวเวสสุวรรณ คอยทำหน้าที่ปกปักรักษา ดูแลบริเวณวัด นอกจากนี้ยังเชื่ออีกว่า พระสูตร อาฏานาฏิยสูตรนะ หรือ คาถาภาณยักษ์ใหญ่ที่พระใช้สวดเวลามีงานใหญ่ๆ ใครได้บูชาคาถานี้แล้วบุคคลผู้นั้นจะบังเกิดความเป็นสิริมงคลแก่ทั้งตนทั้งยังเป็นเมตตามหานิยมและยังมีอิทธิฤทธิ์ในการขับไล่ภูตผีปีศาจทั้งหลายอีกด้วย

คาถาบูชาท้าวเวสสุวรรณในคัมภีร์โบราณกล่าวไว้ว่าผู้ใดหวังความเจริญในลาภยศ ทรัพย์สินเงินทอง อำนาจวาสนา ให้บูชารูปท้าวเวสสุวรรณ หรือ ท้าวกุเวร ตามคาถาบูชาต่อไปนี้

คาถาบูชาท้าวเวสสุวรรณ หรือ ท้าวกุเวร
(บูชาทุกวัน) ตั้ง นะโม 3 จบ
อิติปิโสภะคะวา ยมมะราชาโน
ท้าวเวสสุวรรณโณ มรณัง สุขัง
อะหังสุคะโต นะโมพุทธายะ
ท้าวเวสสุวรรณโณ จตุมหาราชิกา
ยักขะพันตา ภัทภูริโต เวสสะ พุสะ
พุทธัง อะระหัง พุทโธ
ท้าวเวสสุวรรณโณ นะโมพุทธายะ

และด้วยกุศลผลบุญที่ ท้าวกุเวรหรือท้าวเวสสุวรรณ บำเพ็ญมานับหลายพันปี พระพรหม และ พระอิศวร จึงประทานพรให้ท้าวกุเวรหรือท้าวเวสสุวรรณเป็นอมตะ และเป็นเจ้าของทรัพย์สมบัติทั่วปฐพี เป็นเทพแห่งความร่ำรวย ดังนั้นผู้คนจึงนิยมเคารพบูชาเพื่อความมั่งคั่งและความสมบูรณ์แห่งทรัพย์อีกด้วย


 ท้าวกุเวรธเนศวรธนบดีมหาราชลีลา  จากตำนานความเชื่อสู่งานประติมากรรมศิลปะไทยแบบคลาสสิกที่มีความงดงามลงตัวเป็นอย่างมาก ทางคณะกรรมการผู้จัดสร้างโดย อ.ธนทัศน์ ทองเนียม ประธานดำเนินงานแห่ง Artmulet และดร.ทรงพล เขมะบุลกุล ที่ปรึกษาโครงการ ได้มอบหมายให้ อ.เกรียงกมล นาคบางแก้ว จิตรกรเอกแห่งยุค เป็นผู้ออกแบบผลงานดังกล่าว และมอบให้ อ.กฤษณะ นาพูลผล ประติมากรเอกชื่อดัง เป็นผู้รังสรรค์ปั้นแต่งผลงานในครั้งนี้ และเพื่อให้ผลงานในครั้งนี้มีความงดงามวิจิตรบรรจงใกล้เคียงองค์ต้นแบบมากที่สุดจึงได้มอบหมายให้โรงหล่อเอเชียไฟน์อาร์ต เป็นผู้รับผิดชอบการหล่อผลงานครั้งนี้ โดยหล่อด้วยโลหะบรอนซ์ออสเตรเลีย (สำริด) เพื่อมอบให้เป็นที่ระลึกเป็นเครื่องเจริญสติแด่ผู้มีจิตศรัทธาที่ได้ร่วมโครงการจัดสร้างที่พักและสถานปฏิบัติธรรม วัดขุนอินทรประมูล จ.อ่างทอง และมอบไว้เป็นสมบัติอันล้ำค่าของคนไทยสืบไป
ท้าวกุเวรธเนศวรธนบดีมหาราชลีลา
ผลงานการจัดสร้างโดย Artmulet
พิธีเทวาภิเษกพุทธาภิเษก ณ วัดขุนอินทประมูล จ.อ่างทอง

จัดสร้างเป็น 2 ขนาด
1.ขนาดใหญ่ หน้าตักกว้าง 7 นิ้ว
ความสูงจากฐานล่างถึงปลายซุ้มรัศมี 18 นิ้ว
ถึงปลายชฎา 15 นิ้ว
ฐานชั้นล่างกว้าง 11 นิ้ว ลึก 7 นิ้ว
ฐานชั้นบนกว้าง 9 นิ้ว
หล่อด้วยโลหะทองบรอนซ์ออสเตรเลีย จัดสร้างทั้งหมด 4 สี
เปิดให้สั่งจององค์ละ 32,900.- ถึง 39,900.-

2.ขนาดเล็ก หน้าตักกว้าง 3.5 นิ้ว
ความสูงจากฐานล่างถึงปลายซุ้มรัศมี 9 นิ้ว
ถึงปลายชฎา 7.5 นิ้ว
ฐานชั้นล่างกว้าง 5.5 นิ้ว ลึก 3.5 นิ้ว
ฐานชั้นบนกว้าง 4.5 นิ้ว
หล่อด้วยโลหะทองบรอนซ์ออสเตรเลีย จัดสร้างทั้งหมด 4 สี
เปิดให้สั่งจององค์ละ 12,900.- ถึง 15,900.-

ค่าจัดส่งขนาดหน้าตัก 7 นิ้ว 500 บาท ต่อ 1 องค์
ค่าจัดส่งขนาดหน้าตัก 3.5 นิ้ว 300 บาท ต่อ 1 องค์
กรณีรับที่วัดขุนอินทประมูลจ.อ่างทอง ไม่มีค่าส่ง

การจองในครั้งนี้มีกำหนดวันพิธีเทวาภิเษกพุทธาภิเษกในวันที่ 22 ธันวาคม 2564 ตั้งแต่เวลา 11.00 – 15.00น. ณ อุโบสถวัดขุนอินทประมูล จ.อ่างทอง โดยพิธีพุทธาภิเษกมีท่านเจ้าพระคุณสมเด็จมหารัชมงคลมุนี (ธงชัย ธมฺมธโช) วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร เป็นประธานจุดเทียนชัย และเริ่มทยอยจัดส่งตั้งแต่วันที่ 26 ธันวาคม 2564 เป็นต้นไป

สำหรับท่านที่สนใจต้องการสั่งจองหรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อได้ที่

 Facebook Inbox : Artmulet
Facebook Inbox : Artmulet Official
Tiktok : Artmulet Official
Line ID : @artmulet
เว็บไซต์: www.artmulet.com
และที่วัดขุนอินทประมูล จ.อ่างทอง T. 0925577511 


วัตถุประสงค์ในการจัดสร้างเพื่อร่วมจัดสร้างที่พักสำหรับผู้มาปฏิบัติธรรมและศาลาอเนกประสงค์ วัดขุนอินทประมูล จ.อ่างทอง




กำลังโหลดความคิดเห็น