ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - ปี่กลองการเมืองอึกทึกครึกโครมกันมาพักใหญ่ๆ หลังได้กลิ่นเลือกตั้งโชยมา บรรดาพรรคการเมืองเปิดตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีกันเอิกเกริก ส.ส.นกแลขยับตัวโยกย้ายหารังใหม่กันสนุกสนาน ไม่เว้นแม้แต่คิวลงพื้นที่ช่วงนี้ที่แน่นเอี๊ยด
แต่ต้องเก็บฉาก ขนของกลับกันแทบไม่ทัน หลัง “ซือแป๋ไทยคู่ฟ้า” วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี มือกฎหมายข้างกาย “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กางไทม์ไลน์การจัดทำพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) 2 ฉบับ ให้สอดคล้องกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ กลางห้องประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันอังคาร
โรดแมปวิษณุ ไล่เรียงตั้งแต่ ขณะนี้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จัดทำร่าง พ.ร.ป. 2 ฉบับคือ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองเสร็จสิ้นแล้ว อยู่ระหว่างรอที่ประชุมคณะกรรมการ กกต. เห็นชอบ จากนั้นจะนำไปเปิดรับฟังความคิดเห็นตามมาตรา 77 ของรัฐธรรมนูญ เสร็จแล้วจะส่งให้ ครม.ประมาณเดือนธันวาคม
ล่วงเข้าปีใหม่ เดือนมกราคม 2565 ครม.จะส่งร่าง พ.ร.ป. 2 ฉบับสำคัญไปให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณา โดยจะมีการพิจารณาวาระที่ 1-2 ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2565 เมื่อผ่าน 2 วาระแล้ว สภาฯจะส่งให้ กกต.ตรวจสอบรายละเอียดภายใน 15 วัน โดย กกต.จะต้องตอบกลับภายใน 10 วัน
และประมาณช่วงเดือนเมษายน 2565 อาจจะต้องเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ เพื่อแก้ไขรายละเอียดตามที่ กกต.เสนอกลับมาและลงมติวาระ 3 ขั้นตอนนี้จะใช้เวลาประมาณ 25 วัน ก่อนส่งร่างกฎหมายให้รัฐบาลเพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ
แต่มีหมายเหตุตัวโตๆ ว่า ระหว่างนี้หากมีการส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยอาจเสียเวลาอีกประมาณ 1 เดือน แต่หากไม่มีการยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญ รัฐบาลก็สามารถนำขึ้นทูลเกล้าฯ โดยร่าง พ.ร.ป. 2 ฉบับ จะอยู่ในพระราชอำนาจ 90 วัน จะตรงกับช่วงเดือนกรกฎาคม 2565
นั่นหมายความว่า หากมีการยุบก่อนเดือนกรกฎาคม 2565 จะต้องใช้กติกาเดิมคือ บัตรเลือกตั้งใบเดียว
อย่างไรก็ดี แม้จะเป็นไทม์ไลน์กฎหมายลูก แต่มันทำให้คาดการณ์ได้แม่นยำขึ้นว่า โอกาสในการยุบสภาและเลือกตั้งมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นในช่วงไหน
หากอยากเลือกตั้งเร็ว ปีใหม่ปุ๊บเข้าคูหาปั๊บ ก็ต้องรับสภาพในการใช้กติกาเลือกตั้งเดิม เสี่ยงจะเจอบัตรเขย่ง ส.ส.ปัดเศษ เข้ามาเกะกะในสภา แต่หากอยากใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ก็ต้องอดเปรี้ยวไว้กินหวาน รอหลังกลางปี 2565 เพื่อให้กติกาใหม่ บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ มีผลบังคับใช้แล้วก่อน
นักเลือกตั้งที่กระสันอยากจะลงสนามก็ต้องชั่งใจว่าจะเอาอย่างไร
ในคิวที่พรรคขนาดใหญ่ โดยเฉพาะเพื่อไทยอย่างไรก็ต้องยอม กัดฟันทนอีกไปร่วมๆ เกือบปี แล้วค่อยออกมาขย่ม กดดันกันตอน พ.ร.ป. เกี่ยวกับการเลือกตั้ง 2 ฉบับมีผลบังคับใช้แล้วประมาณเดือนกรกฎาคม
แต่ดูเจตนา อยู่ๆ “ วิษณุ” ออกมากางไทม์ไลน์กันในห้องประชุม งานนี้น่าจะมีใบสั่ง ได้รับไฟเขียวจาก “บิ๊กตู่” แน่ เพราะเรื่องแบบนี้มันมัดตัวเอง ทำโดยพลการไม่ได้ มันเลยต้องมองไปที่จุดประสงค์ของบิ๊กตู่ ที่อยู่ๆ ออกมากางโรดแมปช่วงนี้ทำไม
ดูแล้วน่าจะต้องการส่งสัญญาณสยบความเคลื่อนไหวต่างๆ ในช่วงนี้ ที่บรรดานักการเมืองต่างโหมโรง มโนว่า “บิ๊กตู่” จะยุบสภาในไม่ช้า โดยเฉพาะบรรดาพรรคร่วมรัฐบาล ที่ 3 พรรคใหญ่ พรรคพลังประชารัฐ พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคภูมิใจไทย วิ่งแข่งกันอยู่ในพื้นที่
ต่างคนต่างเคลมผลงาน เอาไปอวดประชาชน ไม่อันเป็นทำงานทำการ แม้แต่เรื่องที่พรรคภูมิใจไทยออกมาคัดค้าน “บิ๊กเล็ก” พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง เป็นผู้อำนวยการศูนย์บูรณการแก้ไขโควิด-19 พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็ถูกมองว่า ตัดเครื่องมือหาเสียงของพรรคภูมิใจไทย หลังก่อนหน้านั้นไม่กี่วัน “หมอหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไปติดตามสถานการณ์แก้ไขปัญหาโควิด-19
แต่ถูกจับไต๋ว่าไปหาเสียงแฝงทางอ้อม เพราะพื้นที่ภาคใต้เป็นพื้นที่เป้าหมายของพรรคภูมิใจไทย ภายใต้การนำของ “นาที รัชกิจประการ” ที่รอบก่อนไปเจาะไข่แดงพรรคประชาธิปัตย์มาได้หลายพื้นที่เหมือนกัน
พอๆ กับ “อู๊ดด้า” จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่เหมือนจะได้ยาดีจากผลโพล เป็นแคนดิเดตนายกฯ ที่ร้อนแรง รองจาก “บิ๊กตู่” ทุกวันนี้ทยอยเปิดว่าที่ผู้สมัครตั้งแต่ไก่โห่ เป็นว่าเล่น
รัฐบาลตอนนี้ ต่างคนต่างลงพื้นที่หาเสียงให้ตัวเอง ไม่ได้เพื่อส่วนรวมแล้ว
ขณะที่ก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี เพิ่งจะยกมือไหว้ “บิ๊กตู่” ผ่านโซเชียลมีเดีย ขอให้ไปๆ ให้พ้น ช็อตกางไทม์ไลน์ของ บิ๊กตู่ เที่ยวนี้ เหมือนต้องการตอบโต้ทางอ้อม อยากไล่ใช่มั้ยอย่างนั้นรอไปให้อกแตกตายไปเลย
แต่เหนือสิ่งอื่นใด “บิ๊กตู่” ต้องการส่งสัญญาณถึงองคาพยพทั้งหมด เพราะตั้งแต่มีข่าวเลือกตั้ง แต่ละคนแทบไม่มีสมาธิในการทำงาน จดจ่อเฝ้ารอแต่ว่าจะนายกฯจะยุบสภาเมื่อไหร่กันลูกเดียว
รัฐบาลก็ไร้ทีมเวิร์ก แทนที่จะมาร่วมแรงร่วมใจช่วยกันเตรียมการเป็นเจ้าภาพการประชุมเอเปค แต่กลับไปโฟกัสกันที่เรื่องหาเสียง
มันเลยต้องควักโรดแมปมากางให้กลับไปทำงานทำการกันก่อน เลือกตั้งยังอีกนาน!
ส่วนหนึ่ง “บิ๊กตู่” เองก็ยังไม่พร้อมจะลงสนามในตอนนี้ เพราะแต้มบุญเมื่อครั้งเก่าใช้ไปหมดแล้ว ขณะที่ครั้งใหม่นอกจากไร้แต้ม แถมยังติดลบ หากเป็นหุ้นก็กระดานแดงเถือก
ตอนนี้ต้องการเวลาเอาไปใช้ปั่นแต้ม กู้วิกฤต สร้างผลงานเอาไปอ้างในสนามได้ สอดรับกับจังหวะที่ “สมศักดิ์ เทพสุทิน” รมว.ยุติธรรม ออกมาบอกช่วงนี้อย่าพูดเรื่องการเมืองกันเยอะ เอาเวลาไปสร้างผลงานกันดีกว่า
ไม่มีใครกล้าฟันธงว่า “สมศักดิ์” ด่าใคร แต่ยิงปืนนัดเดียวได้นกหลายตัว โดนกันหลายคน ที่สำคัญ พูดแทนใจ “บิ๊กตู่”อีกต่างหาก
งานนี้ถ้าไม่มีผลงาน อย่างไรรัฐบาลก็ไม่ยอมยุบสภาง่ายๆ