xs
xsm
sm
md
lg

หญิงออสซี่เป็นเหยื่อความรุนแรง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: โสภณ องค์การณ์



คนทั่วไปคงคาดไม่ถึงว่าออสเตรเลียเป็นประเทศที่มีปัญหาการใช้ความรุนแรงในครอบครัวมากกว่าประเทศที่พัฒนาแล้วอยู่ในระดับเดียวกัน เช่น สหรัฐฯ อังกฤษ และกลุ่มประเทศในยุโรป แม้จะเป็นเกาะใหญ่ถึงขั้นเป็นทวีปอยู่ห่างจากประเทศอื่นๆ

สถิติของรัฐบาลชี้ให้เห็นว่าความรุนแรงในครอบครัวในออสเตรเลียหนักถึงขั้นที่ว่าในทุกๆ 9 วัน จะมีหญิงถูกฆ่าตาย 1 รายโดยชายซึ่งใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน

และหญิงเป็นฝ่ายเสียเปรียบทุกด้าน สังคมออสเตรเลียถูกมองว่าเป็น “สังคมที่ชายเป็นใหญ่” เป็นช้างเท้าหน้า หรือเป็นวัฒนธรรมที่มีชายเป็นหัวเรือ ที่เรียกว่า “Blokey Culture” ถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติมายาวนาน

ถ้ามีปัญหาในครอบครัว แตกแยกรุนแรงถึงขั้นต้องแยกทางกันเดิน ฝ่ายหญิงจะต้องเป็นฝ่ายออกจากบ้านไป ฝ่ายชายจะครอบครองบ้าน

อย่างนี้ถือว่าไม่เป็นธรรมอย่างมาก ดังนั้นรัฐบาลออสเตรเลียได้หาทางออกอย่างง่าย แต่จะได้ผลระยะยาวหรือไม่ ยังต้องให้เวลาเป็นตัวตัดสิน

นั่นคือรัฐบาลจะจ่ายเงิน 5 พันดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือประมาณ 1 แสนบาท ให้คู่ที่ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน แต่ต้องเป็นฝ่ายจากไปเพื่อหนีปัญหาการใช้ความรุนแรง

เป็นเงินช่วยเหลือเบื้องต้น เช่นการใช้ชีวิตประจำวัน หรือการใช้จ่ายค่าเทอมสำหรับการศึกษาถ้ายังเป็นนักศึกษาแต่ใช้ชีวิตร่วมกัน

นั่นหมายความว่า จะเป็นฝ่ายหญิงหรือชายก็ได้ที่จะได้เงิน ถ้าเป็นเหยื่อของความรุนแรงในครอบครัว เป็นการหยุดยั้งความสัมพันธ์ที่ไม่ราบรื่น

การจ่ายเงินเริ่มตั้งแต่วันอังคารที่ผ่านมา ฝ่ายเหยื่อหรือผู้ถูกกระทำสามารถยื่นเรื่องต่อหน่วยงานของรัฐ และคาดว่าส่วนใหญ่ที่ยื่นขอรับเงินจะเป็นฝ่ายหญิง

แม้โครงการนี้จะเป็นที่ชื่นชมอย่างมากสำหรับกลุ่มผู้ศึกษาปัญหาความรุนแรงในครอบครัว โครงการนี้คงไม่ช่วยแก้ปัญหาอย่างเบ็ดเสร็จ เพราะสังคมออสเตรเลียยังมีความเหลื่อมล้ำอย่างมากระหว่างชายและหญิง

แมรี่ คุกส์ ผู้บริหารของกองทุนวิกตอเรียนสำหรับสตรี บอกว่าเรื่องปัญหาที่ว่านี้ต้องมีการถกเถียงกันอย่างจริงจัง เกี่ยวกับเรื่อง “สังคมชายเป็นใหญ่” ที่ทำให้ชายเป็นหัวหน้าครอบครัว ได้ตำแหน่งใหญ่ในภาครัฐ ผู้บริหารระดับสูงในภาคธุรกิจเอกชน

“ต้องมาถกกันอย่างจริงจังว่าทำไมฝ่ายผู้หญิงต้องเป็นฝ่ายต้องออกจากบ้านในกรณีที่ต้องแยกทางกันเดิน” เธอว่า และเรื่องนี้เป็นประเด็นทางศีลธรรมและจริยธรรม รวมทั้งแนวนโยบายว่าทำไมหญิงต้องเป็นฝ่ายรับความเสียเปรียบ

“หญิงเป็นฝ่ายถูกกระทำ รับความทุกข์ทางใจและกาย ทำให้ต้องเป็นฝ่ายจากไปทั้งๆ ที่เป็นเหยื่อของความรุนแรงกระทำโดยฝ่ายชาย รวมทั้งต้องเป็นฝ่ายรับภาระดูแลลูกรวมทั้งสัตว์เลี้ยง แต่ไม่ได้เป็นฝ่ายได้ที่พักพิงอาศัย” เธอตั้งคำถาม

ความไม่เสมอภาคทางเพศก็เป็นประเด็นสำคัญในสังคมออสเตรเลีย และถูกจัดอันดับต่ำมาก ในบรรดาประเทศต่างๆ ความด้อยสภาพของสตรีทำให้ถูกเป็นฝ่ายรับความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจและการดำรงชีพ

ในเวที World Economic Forum ในปี 2021 มีรายการเกี่ยวกับความแตกต่างด้านความเสมอภาคทางเพศในประเทศต่างๆ ทั่วโลก ออสเตรเลียอยู่ในระดับ 50 ต่ำกว่าสหรัฐฯ อังกฤษ ฝรั่งเศส และนิวซีแลนด์เพื่อนบ้าน

ด้านรายได้ หญิงเป็นฝ่ายเสียเปรียบ ออสเตรเลียอยู่ในอันดับ 13.4 เปอร์เซ็นต์

ในช่วงการระบาดของโควิด-19 สถานภาพของหญิงในออสเตรเลียเลวร้ายกว่าเดิม สถิติชี้ให้เห็นถึงช่องว่างของรายได้ในออสเตรเลีย มีสตรีตกงานมาก ชั่วโมงการทำงานและรายได้ลดลง เมื่อมีการล็อกดาวน์ เมื่อเทียบกับฝ่ายชาย

ปัญหาการระบาดของโควิด-19 ทำให้ปัญหาความรุนแรงในครอบครัวเพิ่มขึ้นอย่างมากในออสเตรเลีย ซึ่งก็ไม่ต่างจากประเทศอื่นๆ เพราะปัญหาด้านรายได้

มีรายงานของรัฐบาลระบุว่าประมาณ 2 ใน 3 ของสตรีที่เคยถูกทำร้ายร่างกายหรือความรุนแรงทางเพศกระทำโดยคู่ชีวิตในปัจจุบันหรือคนที่มีความสัมพันธ์กันในอดีต ก็เกิดขึ้นในช่วงของการระบาดของโควิด-19 เช่นกัน

การล็อกดาวน์ทำให้สตรีไม่สามารถออกจากบ้านหรือเลี่ยงจากการถูกกระทำความรุนแรงในครอบครัว แม้ปัญหาเรื่องการระบาดของโควิด-19 ได้ลดลง การเขยิบราคาขึ้นของบ้าน ที่อยู่อาศัย หรือค่าเช่าบ้าน ก็ซ้ำเติมปัญหาความรุนแรงยิ่งขึ้น

วันอังคารที่ผ่านมา รัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งมีประชากรมากที่สุดในออสเตรเลีย ได้ประกาศมาตรการความช่วยเหลือด้านความรุนแรงในครอบครัว ด้วยการตั้งวงเงินประมาณ 300 ดอลลาร์สหรัฐ เพื่อแก้ไขปัญหานี้

เงินก้อนนี้ช่วยเหลือสตรีในด้านที่พักพิงชั่วคราว ห้องอุปกรณ์ด้านโสตทัศนะสำหรับการขึ้นศาล สถานที่พักพิง ห้องสันทนาการ และห้องครัว ซึ่งจะช่วยเหลือได้มากสำหรับหญิงที่เป็นเหยื่อของความรุนแรงและต้องออกจากบ้าน

ก่อนหน้านี้กลุ่มสตรีได้รวมตัวเดินขบวนประท้วงปัญหาความรุนแรง และเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินมาตรการเพื่อแก้ปัญหาอย่างได้ผล ความพยายามก่อนหน้านี้ยังไม่เป็นผลเพราะเกี่ยวโยงกับธรรมเนียมปฏิบัติด้านสังคม ความเหลื่อมล้ำทางเพศ

มาตรการต่างๆ ที่ผ่านมาถูกมองว่ายังเกาไม่ถูกที่คัน ความรุนแรงไม่ลดลง ทั้งยังมีความสิ้นเปลืองของสตรีในการจ้างทนายความและการขนย้ายสิ่งของ


กำลังโหลดความคิดเห็น