เอพี - มิชชันนารีอเมริกัน 17 คน รวมถึงเด็ก ถูกแก๊งอาชญากรในเฮติลักพาตัวเมื่อวันเสาร์ (16 ต.ค.) ไม่กี่วันหลังจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ เยือนเฮติและให้สัญญาว่า จะสนับสนุนทรัพยากรเพิ่มให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติของประเทศแห่งนี้
คริสเตียน เอด มินิสทรีส์ เผยว่า มิชชันนารีที่ถูกลักพาตัวอยู่ระหว่างเดินทางกลับบ้าน หลังจากไปช่วยสร้างสถานเด็กกำพร้า
ในข้อความเสียงที่องค์กรแห่งนี้ส่งให้มิชชันนารีอีกหลายกลุ่ม มีข้อความหนึ่งระบุว่า นี่เป็นการแจ้งเตือนเพื่อให้ร่วมกันสวดมนต์เป็นวาระพิเศษให้สมาชิกแก๊งที่จับตัวกลุ่มมิชชันนารีไปเปลี่ยนใจ
ข้อความเสียงยังระบุว่า ผู้อำนวยการภาคสนามของกลุ่มเผยแพร่ศาสนานี้ทำงานให้สถานทูตอเมริกัน และครอบครัวของผู้อำนวยการและชายอีกคนที่ไม่ระบุชื่อที่อยู่ที่ฐานของคณะบาทหลวงขณะที่คนอื่นๆ ไปเยี่ยมสถานเด็กกำพร้า ถูกลักพาตัวไปด้วย
ทางด้านโฆษกรัฐบาลสหรัฐฯ เผยว่า รับรู้เรื่องนี้แล้ว และยืนยันว่า สวัสดิภาพและความปลอดภัยของพลเมืองอเมริกันในต่างแดนเป็นหนึ่งในภารกิจสำคัญที่สุดของกระทรวงต่างประเทศ
เฮติกลับมาเผชิญปัญหาการลักพาตัวที่เกี่ยวข้องกับแก๊งอาชญากรอีกครั้ง หลังจากที่ซาลงนับจากที่ประธานาธิบดีโจเวเนล มอยส์ ถูกยิงเสียชีวิตภายในที่พักส่วนตัวเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม และหลังจากแผ่นดินไหวที่วัดความแรงได้ 7.2 ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของเฮติในเดือนสิงหาคม ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 2,200 คน
แก๊งอาชญากรเหล่านี้มักเรียกค่าไถ่เป็นเงินไม่กี่ร้อยดอลลาร์ ไปจนถึงมากกว่า 1 ล้านดอลลาร์ เมื่อเดือนที่ผ่านมา บาทหลวงระดับสังฆานุกรคนหนึ่งถูกสังหารหน้าโบสถ์ในกรุงปอร์โตแปรงซ์ และภรรยาถูกลักพาตัว ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเหยื่อลักพาตัวนับสิบคนในช่วงไม่กี่เดือนมานี้
ตามรายงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเฮติ มีเหยื่อลักพาตัวอย่างน้อย 328 คนในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ ขณะที่รายงานของสำนักงานของยูเอ็นในเฮติที่ชื่อว่า บินูห์ ระบุว่า เหยื่อลักพาตัวในเฮติตลอดปี 2020 อยู่ที่ 234 คน
แก๊งอาชญากรถูกกล่าวหาว่า ลักพาตัวเด็กนักเรียน แพทย์ ตำรวจ รถบัสนักท่องเที่ยว หลังจากขยายอิทธิพลมากขึ้น เดือนเมษายน แก๊งหนึ่งลักพาตัวบาทหลวงและแม่ชี 5 คน ส่งผลให้มีการประท้วงเหมือนที่เกิดขึ้นเมื่อวันจันทร์ที่แล้ว (11 ต.ค.) เพื่อประณามรัฐบาลที่ไม่มีมาตรการรักษาความปลอดภัย
บินูห์ระบุในรายงานว่า ความวุ่นวายทางการเมือง ความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นจากแก๊งอาชญากร สภาพเศรษฐกิจและสังคมที่เสื่อมถอยลง รวมถึงความไม่มั่นคงทางอาหารและภาวะทุพโภชนาการ ช่วยกันทำให้สถานการณ์ด้านมนุษยชนในเฮติเลวร้ายลง
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (15 ต.ค.) คณะมนตรีความมั่นคงแห่งยูเอ็นลงมติเอกฉันท์ให้ขยายภารกิจทางการเมืองของยูเอ็นในเฮติ
การลักพาตัวคณะมิชชันนารีล่าสุดเกิดขึ้นไม่กี่วันหลังจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ เยือนเฮติ และให้สัญญาว่าจะสนับสนุนทรัพยากรเพิ่มให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเฮติ ซึ่งรวมถึงเงิน 15 ล้านดอลลาร์เพื่อช่วยลดปัญหาความรุนแรงจากแก๊งอาชญากรที่เฉพาะปีนี้ทำให้ชาวเฮตินับพันคนไร้ที่อยู่อาศัยและต้องอาศัยอยู่ในสถานพักพิงชั่วคราวท่ามกลางสภาพความเป็นอยู่ที่ไม่ถูกสุขลักษณะมากขึ้น
ทั้งนี้ ในบรรดาเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ที่พบกับอุซรา เซยา ผู้บัญชาการตำรวจเฮติ รวมถึงปลัดกระทรวงต่างประเทศด้านความปลอดภัยของพลเรือน ประชาธิปไตย และสิทธิมนุษยชน
