แอนดรูว์ คูโอโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก คนดังถูกกล่าวหาในรายงานอย่างเป็นทางการว่าได้คุกคามและล่วงละเมิดทางเพศสตรีซึ่งเป็นลูกน้องและพนักงานของรัฐมีจำนวน 11 รายซึ่งเป็นความผิดกฎหมายของรัฐและรัฐบาลกลาง ทำให้อยู่ในสภาวะร่อแร่
อนาคตทางการเมืองของคูโอโมน่าจะสิ้นสุดเพราะเป็นข้อกล่าวหาร้ายแรง โดยอัยการใหญ่ของรัฐ นางลิตเชีย เจมส์ หลังจากการสืบสวนโดยทีมนักกฎหมายนานหลายเดือน หลังจากตกเป็นข่าวฉาวโฉ่มานานและนำมาแถลงต่อสาธารณะในวันพุธที่ผ่านมา
หลักฐานที่ปรากฏมีรายละเอียดของพฤติกรรมคุกคามทางเพศแต่ละครั้ง โดยการให้ปากคำของเหยื่อซึ่งเล่าให้คณะผู้สอบสวน พร้อมแสดงให้เห็นหลักฐานว่าคูโอโมมีการกระทำอย่างนั้นกับสตรีหลายคน ทั้งแตะต้องตัว ล่วงเกินโดยเจ้าตัวไม่เต็มใจ
ผู้ถูกล่วงละเมิดมีทั้งพนักงานอดีตและปัจจุบัน โดยเฉพาะในสำนักงานของคูโอโม หลักฐานมีทั้งอีเมล บันทึกการสนทนา การสัมภาษณ์บุคคลที่เกี่ยวข้อง นอกจากเหยื่อ
“พฤติกรรมของคูโอโมเป็นสิ่งที่น่าสมเพชและสะอิดสะเอียน” นั่นเป็นข้อกล่าวหา
นอกจากนั้นพฤติกรรมล่วงละเมิดทางเพศทั้งการกระทำ และถ้อยคำพูดในวาระต่างๆ ได้สร้างบรรยากาศที่ไม่เหมาะสมในที่ทำงาน ทำให้เจ้าหน้าที่สาวๆ อยู่ในอาการหวาดผวาว่าตัวเองอาจตกเป็นเหยื่อของความหื่นของคูโอโม
พฤติกรรมของคูโอโมได้สร้างบรรยากาศและสภาวะแวดล้อม “เป็นพิษ”
รายงานยังชี้ให้เห็นว่านอกจากบรรยากาศไม่น่าไว้ใจ สภาวะความเป็นปฏิปักษ์แล้ว ยังมีการข่มขู่ การสร้างความหวาดผวา เจ้าหน้าที่ไม่เป็นอันทำงาน โดยเฉพาะในสำนักงานผู้บริหารสูงสุดของรัฐ นั่นคือผู้ว่าการรัฐ
ผู้ว่าการรัฐถือว่าเป็นผู้มีตำแหน่งสูงสุดในรัฐ คูโอโมสังกัดพรรคเดโมแครต อยู่ในระดับแนวหน้า ได้รับความนิยมอย่างสูงในช่วงของการระบาดของโคโรนาไวรัส ข้อกล่าวหามีมาตั้งแต่ปีที่ผ่านมา แต่คูโอโมยืนหยัด ไม่ยอมลาออกจากตำแหน่ง
ครั้งนี้ก็เหมือนอย่างเคย คูโอโมปฏิเสธเสียงแข็ง ไม่ยอมรับหลักฐาน อ้างว่าไม่ได้กระทำตามที่ถูกกล่าวหา และพฤติกรรมที่ว่านั้นไม่ใช่เป็นรูปแบบที่ตัวเองกระทำ แต่ครั้งนี้มีเสียงเรียกร้องให้ลาออก มิฉะนั้นจะถูกนำเข้าสู่กระบวนการถอดถอน
ดูแล้วชื่อเสียง ความน่าเชื่อถือของคูโอโมไม่น่าจะเหลือ รวมทั้งความศรัทธาของเจ้าหน้าที่ในที่ทำการ รวมทั้งแกนนำของพรรคเดโมแครต แม้แต่นายกเทศมนตรีเมืองนิวยอร์ก ก็ยังเรียกร้องให้คูโอโมลาออก เพราะพฤติกรรมไม่เป็นที่น่ายอมรับได้
สมาชิกสภาของรัฐนิวยอร์ก รวมทั้งเจ้าหน้าที่ระดับสูงต่างเรียกร้องให้คูโอโมสละเก้าอี้โดยดี เพราะหลักฐานและข้อกล่าวหาร้ายแรงกว่าที่จะทนตากหน้าอยู่ได้ นอกจากนั้นยังเตรียมหามาตรการบีบบังคับให้คูโอโมลาออก รวมทั้งการถอดถอน
ที่หนักหนาสาหัสก็คือคำเตือนของประธานาธิบดีโจ ไบเดน หรือคูโอโมลาออกจากตำแหน่งโดยเร็ว เพราะการอยู่ต่อไปย่อมไม่เป็นผลดีต่อการบริหารงานในช่วงเวลาที่สหรัฐฯ กำลังเผชิญการระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่เพราะเชื้อสายพันธุ์เดลตา
ในวันพุธที่ผ่านมา ตัวเลขผู้ติดเชื้อในสหรัฐฯ มียอดสูงกว่า 1 แสนราย มากที่สุดในโลก หลังจากได้ปลดล็อกมาตรการเข้มงวด เช่น การสวมหน้ากากอนามัยและการทิ้งระยะห่างทางสังคม คนอเมริกันไม่ยอมฉีดวัคซีน ต้องให้มีมาตรการจูงใจต่างๆ
ในบางรัฐ ต้องเสนอเงินให้ 100 ดอลลาร์ให้คนฉีดวัคซีน แต่ก็ยังไม่จูงใจเพียงพอ
ในช่วงแรกของการระบาดหนัก โดยเฉพาะในรัฐนิวยอร์ก ซึ่งเป็นด่านหน้าของสายการบินจากยุโรป คูโอโมเปรียบเสมือนเป็นดาราได้ออกทีวีช่วงแถลงข่าวทุกวันโดยเฉพาะช่องสถานีซีเอ็นเอ็น แต่ละครั้งยาวนานเป็นชั่วโมง มีข้อเสนอต่างๆ มากมาย
ช่วงนั้น คูโอโมได้รับความนิยม เพราะเป็นหัวหอกในการต่อรองกับประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ สำหรับมาตรการความช่วยเหลือสำหรับคนในรัฐนิวยอร์ก ทำให้คูโอโมเป็นนักการเมืองเดโมแครตทรงอิทธิพล มีการประเมินว่าอาจเป็นผู้ชิงเก้าอี้ผู้นำทำเนียบขาว
บางครั้งคูโอโมแสดงให้คนอเมริกันเห็นว่าตัวเองกล้าตอบโต้และขัดขืนมาตรการต่างๆ ที่โดนัลด์ ทรัมป์ได้ชี้แนะ จนอยู่ในระดับที่ว่าคูโอโมดูน่าเชื่อถือกว่าผู้นำประเทศ ทำให้คูโอโมอาศัยสื่อและการแถลงข่าวยกระดับตัวเองให้เป็นคนดังระดับประเทศ
นับเป็นความใจกว้างของสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นที่ถ่ายทอดการแถลงข่าวของคูโอโม มีทั้งการตอบข้อซักถาม ตัวคูโอโมก็แสดงออกให้เห็นความเป็นผู้นำ ความมั่นใจในฐานการเมือง ทั้งยังมีน้องชาย คริส คูโอโม เป็นผู้ดำเนินรายการฝีปากกล้าของซีเอ็นเอ็น
นอกจากคำปฏิเสธ คูโอโม ยังแสดงให้เห็นว่าตัวเองเป็นผู้รักครอบครัว เป็นคนน่าเชื่อถือ ไม่เป็นพิษภัยต่อสตรี เอาภาพของความเป็นคนเอื้ออาทร รักครอบครัวมาโชว์ แต่ก็ถูกย้อนโดยบรรดาเหยื่อของคูโอโมว่านั่นเป็นการกระทำแบบ “โฆษณาชวนเชื่อ”
ดูสภาพแล้ว คูโอโม อยู่ต่อไปลำบาก และน่าจะรอดยากจากข้อกล่าวหา เมื่อถูกดำเนินคดีอาญาเพราะมีเหยื่อจำนวนมากถึง 11 คน พร้อมหลักฐานที่ปฏิเสธได้ยาก