“โทรโข่งเจมส์”อาการร่อแร่ เปิดชื่อ“ม้ามืด”แต่งตัวรอเสียบ

ป้อมพระสุเมรุ

ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - หมกมุ่นกับ “เฟกนิวส์” เป็นพิเศษ

คิวที่ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว้ากเพ้ยกลางวงประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 27 ก.ค.64 เกี่ยวกับการจัดการข้อมูลข่าวสารที่บิดเบือน หรือ “เฟกนิวส์” ไล่เบี้ยทุกกระทรวงบังคับใช้กฎหมายให้เด็ดขาด

หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้สั่งการให้ตั้งศูนย์ต่อต้านเฟกนิวส์ประจำกระทรวงทุกกระทรวง เพื่อคอย “มอนิเตอร์” ข่าวสารที่บิดเบือนให้ร้ายรัฐบาล เล่นงานไม่ไว้หน้า “สื่อมวลชน-เซเลปบริตี้-เพจดัง”

ในอารมณ์ “เมาหมัด” กับการแก้ไขสถานการณ์โควิด-19 ที่นับวันมีแต่ “เตี้ยลงๆ” ตัวเลขป่วย-ตายพุ่งพรวด แล้วยังต้องมาเจอกับข่าวสารที่ไม่จรรโลงใจอีก

เข้าทำนอง “รำไม่ดีโทษปี่โทษกลอง”

เพราะเห็นๆอยู่ว่าปัญหาที่แท้จริงมาจากการบริหารที่ผิดพลาดล้มเหลวซ้ำแล้วซ้ำเล่าของรัฐบาลเอง
ไม่เพียงแต่ว้ากในภาพรวม ในที่ประชุมวันนั้น “นายกฯตู่” ยังตำหนิการหน้าที่ของ “ทีมโฆษกรัฐบาล” ที่ล่าช้าไม่ทันต่อสถานการณ์

ถึงขั้นบอกว่า “ไม่อยากทำ ก็ให้ลาออกกันไป”

ทำเอา “เสี่ยเจมส์” อนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ถึงกับหน้าถอดสี เพราะรู้ตัวดีว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา นายกฯ ไม่แฮปปี้กับผลงานตัวเอง มีชอตตำหนิทั้งต่อหน้า และฝากบอกต่อ หลายกรรมกลายวาระ แต่ก็ต้องยอมรับว่า ไม่มีแนวโน้มจะดีขึ้นเลย

ด้วยสไตล์การทำงานที่ “เพลย์เซฟ” ไม่บู๊ ไม่บุ๋น ไม่แตะต้องข้องแวะประเด็นการเมือง เน้นแถลงแต่งานรูทีน มติ ครม. นโยบายรัฐบาล โดยเนื้อหาก็เป็น “สำนักโฆษก” ที่เป็นข้าราชการประจำจัดให้เสร็จสรรพ แค่เต้มชื่อ “เสี่ยเจมส์” กล่าวว่า…. ตามด้วยเนื้อข่าว

จนพูดกันลั่นตึกนารีสโมสรว่า “แบบนี้ใครเป็นก็ได้”

ภาพลักษณ์นักเรียนนอก อดีตนักธุรกิจ มีประสบการณ์การเมืองกับดีกรี ส.ส. 2 สมัย คาแรกเตอร์สมาร์ท ไร้ตำหนิ ไม่มีเรื่องเสื่อมเสีย หวังใช้กอบกู้ความเชื่อมั่น เรียกเรตติ้งให้รัฐบาล ปรากฎถึงเวลา กลับไม่ได้ประโยชน์โภชผลจากที่หวังไว้แม้แต่น้อย

ว่ากันว่า รองโฆษก 2 สาว กวาง-ไตรศุลี ไตรสรณกุล จากค่ายภูมิใจไทย และ กานต์-รัชดา ธนาดิเรก จากค่ายประชาธิปัตย์ ยังดูโดดเด่นกว่าเสียด้วย




 ย้อนไปก่อนจะเข้ามาเสียบตำแหน่ง “โทรโข่งรัฐบาล” ส่วนตัว “เสี่ยเจมส์”

ก็เคยมีปัญหาเรื่องตำแหน่งมาแล้ว ในการเข้ารับหน้าที่เลขานุการ รมว.ศึกษาธิการ สมัย “เสี่ยตั้น” ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ

เพราะลงเลือกตั้งในสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อ มี.ค.62 แต่สอบตก แล้วมากินตำแหน่งการเมือง ในโควต้าพรรคพลังประชารัฐ ทำเอา “เฮียอู๊ด” จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี รมว. พาณิชย์ และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ควันออกหู

และมาเสียบเก้าอี้ “โฆษกรัฐบาล” ก็ด้วยแรงเชียร์ของ “เสี่ยตั้น-ณัฐฏพล” เบียดคู่แข่งอย่าง “ดร.แด๊ก” ธนกร วังบุญคงชนะ อดีตเลขานุการ รมว.คลัง (ขณะนั้น) - “เฮียหนุ่ม” ทศพล เพ็งส้ม ทีมกฎหมายพรรคพลังประชารัฐ

ทว่า หลังรับตำแหน่งก็ “เสี่ยเจมส์” ที่เป็นตำแหน่งมีสปอตไลท์ส่องหน้า เอื้อในการช่วงชิงพื้นที่สื่อ กลับไม่ใช่โอกาสให้เป็นประโยชน์

ยิ่งภายหลังจาก “เสี่ยตั้น-ณัฐฏพล” ต้องหลุกจากวงจรอำนาจไปเมื่อต้องโทษจำคุกจากคดีชุมนุม กปปส. “เสี่ยเจมส์” ก็ “หัวเดียวกระเทียมลีบ” ไปร่วมก๊วนวอลล์เปเปอร์นายกฯ เดินตาม “เสี่ยแด๊ก-ธนกร” เลขานุการ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ “เสี่ยโบ้” เสกสกล อัตถาวงศ์ กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี

แทบหมดราศี “โฆษกรัฐบาล”

เหมือนอยู่ใน “คอมฟอร์ทโซน” เพื่อ “คั่นเวลา” รอแก้มือลงเลือกตั้งใหม่ แถมสังกัดก็หาใช่ “ค่ายพลังประชารัฐ” ที่ให้ตำแหน่งเสียด้วย แต่จะไปหันไปร่วมกับ “พรรคกล้า” ของ “เสี่ยดอน” กรณ์ จาติกวณิช ที่นอกจากเป็นก๊วนแฮงค์เอาท์ตามภาษาเด็กนอกด้วยกันแล้ว ยังเคยร่วมทีมลงสมัคร ส.ส. เมื่อปี 2550 ที่เป็นพวงใหญ่ และได้รับการเลือกตั้งเข้าสภาฯ ยกทีมทั้ง 3 คน

ผลงานไม่มี ใจไม่อยู่ด้วย เป็นเหตุให้ “บิ๊กตู่” ย่อมไม่พิศวาสเป็นธรรมดา ทำอนาคต “โฆษกเจมส์” น่าจะอยู่ในช่วงนับถอยหลัง

ติดก็แต่สไตล์ “บิ๊กตู่” ไม่ค่อยใช้วิธีตะเพิดไล่ออกกันง่ายๆ แถมตัวเลือกคนมาทำหน้าที่ “โทรโข่งรัฐบาล” ในยามนี้ก็ดูตีบตันเสียเหลือเกิน

อย่างไรก็ดียังมีชื่อ “จารย์แก๊ป” วรัชญ์ ครุจิต รองคณบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา คณะนิเทศศาสตร์และนวัตกรรมการจัดการ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) และที่ปรึกษาด้านการสื่อสาร ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 (ศบค.) ที่ว่ากันว่าลุ้นเข้าทำหน้าที่ “โฆษกรัฐบาล” อยู่เช่นกัน

จากชื่อเสียงเรียงนามอาจจะถือเป็น “ม้ามืด” แต่ตั้งแต่ช่วงวิกฤตการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา “วรัชญ์” มีบทบาทสำคัญในการสื่อสารของ ศบค. มีการระดมอาสาสมัครเข้ามาร่วมจัดทำข้อมูลให้กับ “หมอทีวีสี” นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. รวมทั้งการร่วมออกแบบแคมเปญต่างๆให้ ศบค.และรัฐบาลมาโดยตลอด

อีกทั้งในรอบที่ “อนุชา” ได้รับเลือกเป็นโฆษกรัฐบาลนั้น ก็เคยมีชื่อ “วรัชญ์” หลุดเข้าไฟนอลมาแล้ว แต่ไม่มีการพูดถึง

ไม่เท่านั้นที่ผ่านมา “วรัชญ์” หรือ “จารย์แก็ป” ก็ถือเป็น “เนตไอดอล” สายปั่นดรามาคนหนึ่งเหมือนกัน มักเคลื่อนไหวจับผิดข่าวที่นำเสนอผ่านสื่อ และเฟกนิวส์หลายกรณี

แต่ระยะหลังดูเหมือน “ออกตัวแรง” ไปหน่อย จนเหมือนถูก “สื่อใหญ่-เซเลปฯสื่อ” หลายแห่งออกอาการ “หมั่นไส้”

สดๆร้อนๆ ไปตั้งคำถามการนำเสนอข่าวของ “เฮียสอ” สรยุทธ สุทัศนะจินดา นักเล่าข่าวชื่อดัง จนเจอย้อนศรตอกกลับว่า “พยายามจะจับคำพูดแบบนี้ เป็นธรรมหรือเปล่าครับ”

ดันไปเปิดวอร์กับมวยมีชื่อ ทำเอา “วรัชญ์” ที่ว่าแน่ ก็ถอยกรูดไม่เป็นท่า ต้องโพสต์ขออภัย และลบโพสต์ต้นเรื่องอย่างรวดเร็ว

“โทรโข่งเดิม” ก็อาการร่อแร่ “แคนดิเดต” ยังมาเสียเชิงอีก น่าเก็กซิมแทน “ลุงตู่”.