xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

“ชอปปิงออนไลน์” โตแรง “ไลฟ์สดขายของ” ดันยอดสุดปัง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผู้จัดการสุดสัปดาห์ -  ขยายตัวต่อเนื่องสำหรับตลาดอีคอมเมิร์ซ (E-commerce) ยิ่งสถานการณ์โควิด-19 ยิ่งทำให้คนไทยหันมาช้อปปิ้งออนไลน์กันมากขึ้น ในปี 2564 คาดการณ์ว่าตลาดอีคอมเมิร์ซจะขยายตัวขึ้นอีก 15 - 20% น่าจับตาคือเทรนด์ไลฟ์คอมเมิร์ซ (Live Commerce) หรือการไลฟ์สดขายของผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ มีการเติบโตถึง 300%  


คุ้นเคยกันดีสำหรับคำว่าอีคอมเมิร์ซ (E-commerce) การซื้อขายผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชั่นของแบรนด์นั้นๆ ซึ่งมีความแตกต่างกับโซเซียลคอมเมิร์ซ (Social commerce) ที่กำลังสร้างสีสันในตลาดออนไลน์ โดยรูปแบบจะทำการซื้อขายกันผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียโดยตรง

 ผลสำรวจการใช้โซเชียลคอมเมิร์ซของคนไทยพบว่าตั้งแต่โควิด-19 แพร่ระบาด จำนวนร้านค้า 56% เข้ามาสู่ Social Commerce โดยแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมมากสุด คือ Facebook 58% Line 35% Instagram 21% Twitter 11%  

 ขณะที่ Global Digital Report ระบุว่านักช้อปชาวไทย ซื้อสินค้าออนไลน์ ผ่านสื่อโซเชียลมีเดียถึง 50% ซึ่งมากกว่าผู้บริโภคชาวจีนซึ่งมีตัวเลขเพียง 27% คนไทยนิยมใช้งาน Social Media เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Instagram หรือ Line ซึ่งกลายมาเป็นช่องทางการติดต่อระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย เป็นการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย ด้วยพฤติกรรมการซื้อของคนไทย ชอบพูดคุย สอบถามข้อมูลสินค้า มากกว่าการซื้อเพียงอย่างเดียว Social Media จึงกลายเป็นกลไลสร้างวัฒนธรรมการซื้อขายแบบออฟไลน์ให้มาอยู่ในออนไลน์ 

อาทิ Facebook ได้เพิ่มปุ่ม Marketplace เนื่องจากเห็นการเติบโตของ E-Commerce ตามด้วย Facebook Live ซึ่งชาวไทยใช้งานเพื่อสร้างคอนเทนต์เป็นช่องทางในการ Live ขายของ หรือ Instagram กับฟีเจอร์ Instagram Shopping ซึ่งได้รับความนิยมจากบรรดาร้านค้าและลูกค้าเป็นอย่างมาก หรือ LINE ได้เปิด MyShop และ LINE Shopping ช่องทางซื้อขายออนไลน์ เป็นต้น

นอกจากนี้ ผลสำรวจการใช้โซเชียลคอมเมิร์ซของคนไทยระบุด้วยว่า ลูกค้าประมาณ 69% จะเลือกซื้อสินค้าผ่านเพจต่างๆ โดยกลุ่ม ผู้หญิงให้ความสนใจด้านความงาม ผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกาย ส่วนกลุ่มลูกค้าผู้ชายให้ความสนใจผลิต Gadget ของตกแต่งบ้าน เป็นต้น

โดยผู้บริโภค 62 % รู้สึกชื่นชอบการซื้อสินค้าผ่านโซเชียลคอมเมิร์ซ สัดส่วนของผู้บริโภค 45% มียอดการใช้จ่ายเฉลี่ย 1,000 - 3,000 บาท ในช่วง 1 เดือน ขณะเดียวกัน กลุ่มพนักงานออฟฟิศและนักเรียน นักศึกษาใช้เวลาช้อปสินค้าผ่านโซเชียลคอมเมิร์ซประมาณ 2 ชั่วโมงต่อวัน

กล่าวสำหรับ Social commerce มีอยู่หลายด้าน แต่ที่น่าจับตามาแรงแบบสุดขีดคือ Live Commerceหรือการไลฟ์สดขายของ ซึ่งสอดคล้องกับพฤติกรรมคนไทยที่ชอบเข้ามาดูเพื่อความสนุกสนานและมีส่วนร่วมกับผู้ขายสินค้า

 พิจารณาภาพรวมในเอเชียมูลค่ารวมของยอดขายสินค้าผ่าน Live Commerce ไตรมาส 2 มีการเติบโต 160% จำนวนคำสั่งซื้อเติบโต 180% จำนวนการถ่ายทอดสดเพิ่มขึ้น 70% จำนวนความคิดเห็นเพิ่มขึ้น 125% 

 ขณะที่มูลค่ารวมของยอดขายสินค้าผ่าน Live Commerce ในไตรมาส 2 ของไทยมีการเติบโตถึง 300% โดยจำนวนคำสั่งซื้อเติบโตเพิ่มขึ้น 210% จำนวนการถ่ายทอดสดเพิ่มขึ้น 300% และจำนวนความคิดเห็นเพิ่มขึ้น 283% 

โดยช่วงเวลาที่ได้รับความนิยมสูงสุดในการทำ Live Selling ในไทย คือ 19.00 น. โดยหมวดหมู่ยอดนิยมจะเป็น ผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ 37% เครื่องแต่งกาย 28% และหมวดอาหารและเครื่องดื่ม 24%

สำหรับกลุ่ม 5 สินค้าที่ได้รับความสนใจจากกลุ่มผู้บริโภคและมีการเลือกซื้อผ่านอีคอมเมิร์ซสูงสุด ได้แก่ กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม 28% ผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคล 16% โทรศัพท์มือถือและสมาร์ทโฟน 8% ของใช้ในบ้าน 6% สินค้าเพื่อความสวยงาม 5%

 นายชนนันท์ ปัญจทรัพย์ Country Manager, SHOPLINE Thailand ผู้นำระบบจัดร้านค้าบนอีคอมเมิร์ซและโซเซียลคอมเมิร์ซแบบครบวงจร เปิดเผยว่าเทรนด์โซเชียลอีคอมเมิร์ซที่กำลังเกิดขึ้นตั้งแต่ต้นปี 2564 จะคงอยู่ไปอีกนานหลายปี

ทั้งนี้ 5 เทรนด์น่าจับตา คือ  Omnichannel ช่องทางการขายที่จะมีทั้งออฟไลน์และออนไลน์ โดยเฉพาะออนไลน์มีหลายช่องทางจะต้องมีการบริหารจัดการอย่างไร Availability of payment and delivery options มีช่องทางรับการจ่ายเงินที่ควรมีหลายออปชั่นให้เลือก  Creative wins  จากเดิมที่ผู้บริโภคจะซื้อจากราคาแต่ในปัจจุบันเรื่องราคาไม่สำคัญสุด ผู้ประกอบการต้องมีความคิดสร้างสรรค์  Seamless customer experience  ทำให้ลูกค้ามีประสบการณ์ที่ดีตั้งแต่เข้ามาค้นหาสินค้าจนถึงการเลือกซื้อสินค้าและได้รับสินค้า และ Direct to consumer (D2C)  แบรนด์ต้องการอยากได้ข้อมูลโดยตรงกับลูกค้าสามารถไปต่อยอดได้

เกี่ยวกับ SHOPLINE ให้บริการมาเป็นเวลา 8 เดือน ในช่วงครึ่งปีแรกจำนวนร้านค้าที่เข้ามาใช้บริการชอปไลน์มีการเติบโต 10 - 15% ต่อเดือน นอกจากนี้ช่วงครึ่งปีหลัง มีการเพิ่ม 2 ฟีเจอรใหม่ เพื่อจับกระแส Live Commerce ได้แก่ ‘LIVE Bidding’ ฟีเจอร์การประมูลแบบไลฟ์ และ ‘Golden Minutes’ นาทีทอง สำหรับร้านค้าที่จะจัดกิจกรรมเล่นเกมกับลูกค้าเพื่อแจกของกำนัล โดยคาดว่าในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทจะสามารถเติบโตได้สองเท่าหรือกว่า 30 - 40% ต่อเดือน

นอกจากเทรนด์ Live Commerce ที่กำลังมาแรงไลฟ์โดนใจดันยอดขายทะลุเป้าแล้วนั้น สิ่งที่นักชอปออนไลน์ให้ความสำคัญคือ ความหลากหลาย ความคุ้มค่า และการสมนาคุณพิเศษ ข้อมูลจาก ช้อปปี้ ประเทศไทย เปิดเผยถึงรูปแบบนักช้อปออนไลน์ ดังนี้

 1. สายชอปเซฟ ยิ่งซื้อ ยิ่งคุ้ม เป็นนักชอปขาประจำ เน้นความคุ้มค่าทั้งราคาและคุณภาพ มากกว่า 60% ซื้อของออนไลน์อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง มีความอดทนและชอบวางแผน มากกว่าครึ่งของนักชอปกลุ่มนี้มีการวางแผนล่วงหน้าอย่างน้อย 2-3 วันก่อนทำการตัดสินใจซื้อ  2. สายชอปชอบส่อง  มองหาสินค้าเพื่อเปรียบเทียบอยู่บ่อยๆ อยากซื้อก็จัดไปทันที มากกว่า 80% ของนักชอปกลุ่มนี้จะเลือกชมสินค้ากว่า 10 อย่าง ก่อนที่จะเลือกซื้อ

 3. สายชอปสบาย สบาย  ชอบชอปเพราะความสะดวก สินค้ามาส่งถึงที่ มีของถูกใจอยู่แล้ว 22% หันมาชอปปิงออนไลน์เพราะความสะดวก ง่าย และปลอดภัย มีการซื้อของอยู่เป็นประจำเรื่อยๆ เพราะคุ้นชินกับความสะดวกสบายที่ได้รับ โดยเกือบ 3 ใน 5 ของกลุ่มนี้มีการชอปปิงอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง และ  4. สายชอปเซียนล่ารางวัล  มองหาความสนุก จากการลุ้นรางวัลและของสมนาคุณ 30% ของนักชอปสายนี้รู้อยู่แล้วว่าอยากได้สินค้าชิ้นไหน และมีการค้นหาข้อมูลเพื่อให้มั่นใจได้ว่าสินค้าที่พวกเขาเลือกใส่ลงตะกร้าจะมาพร้อมกับของสมนาคุณที่ดีที่สุด

บริษัทวิจัยการตลาดระดับโลก NielsenIQ รายงานว่าตั้งแต่เกิดสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย แต่ละครัวเรือนมีการซื้อสินค้าออนไลน์เพิ่มขึ้นถึง 58% ส่งผลให้ธุรกิจขนส่งและธุรกิจอีคอมเมิร์ชเติบโตขึ้นอย่างมาก

 สรุปได้ว่า E-commerce ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยวิกฤตโควิด-19 ส่งผลต่อพฤติกรรมผู้บริโภคชาวไทยให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยออนไลน์เพิ่มมากขึ้น และเทรนด์ Social commerce ที่สร้างสีสันไม่หยุด เป็นตัวกระตุ้นให้ตลาดออนไลน์คึกคัก 




กำลังโหลดความคิดเห็น