ข่าวเขย่าเก้าอี้ “บิ๊กป๊อก” เกมคนในพลังประชารัฐ

ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - กลับมาอีกครั้ง กับปฏิบัติการเขย่าเก้าอี้ รมว.มหาดไทยของ “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา หลังมีข่าวลือออกจากพรรคพลังประชารัฐว่า ส.ส.หลายคนไม่แฮปปี้ ที่ไม่เคยยื่นมือช่วยเหลืออะไรพรรคเลย 

ร้อนมาถึง “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะพี่ใหญ่ของ 3 ป. และในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ต้องออกมาดับกระแสว่า ไม่แปลก เพราะ “น้องตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม และ “น้องป๊อก” พล.อนุพงษ์ ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรค แล้วจะให้เขาทำอะไร

กับปฏิบัติการสะกิด พล.อ.อนุพงษ์ครั้งนี้ ถือว่าไม่ใช่ครั้งแรก เพราะก่อนหน้านี้เคยเกิดขึ้นมาแล้ว 2-3 ครั้ง ตั้งแต่ช่วงตั้งคณะรัฐมนตรีแรกๆ ที่มีบางคนเสนอให้เปิดทางเก้าอี้ รมว.มหาดไทย เพื่อเอามาจัดสรรให้กับคนในพรรคพลังประชารัฐ 3 ป.ได้ยินเข้าถึงกับควันออกหู ตามล่าหาตัวคนปล่อยข่าว

อีกรอบ ก่อนอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งแรก ที่ พล.อ.อนุพงษ์ ตกเป็นเป้าซักฟอก มีการปล่อยข่าวจากในพรรคพลังประชารัฐว่าจะไม่ช่วย พล.อ.อนุพงษ์ ในสภา เนื่องจากไม่เคยให้การช่วยเหลือใดๆ ต่อสมาชิก

กับคำยอดฮิตในช่วงนั้น ที่ติดปาก ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ มี “นาย” 2 คนเท่านั้น คนแรก “นายป้อม” กับอีกคน “นายตู่” ทำเอาครั้งนั้น พล.อ.ประวิตร ต้องป้องปรามลูกพรรค

กระทั่งครั้งล่าสุด ข่าวออกมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย ทั้งที่ไม่ได้อยู่ในช่วงเทศกาลอภิปรายไม่ไว้วางใจ หรือมีกระแสข่าวจะปรับคณะรัฐมนตรี งานนี้คนเลยเพ่งเล็งไปที่เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐคนใหม่อย่าง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ที่ชั่วโมงนี้กำลังขึ้นหม้อ

เนื่องจากก่อนเข้ารับตำแหน่งแม่บ้านพรรคคนใหม่ มันมีการเปิดแผนทางการเมืองว่า หากพรรคพลังประชารัฐชนะเลือกตั้ง เตรียมจะผลักดัน ร.อ.ธรรมนัส ขึ้นเป็น รมว.มหาดไทย เพื่อนำกระทรวงดังกล่าวเป็นกลไกสำคัญในการทำงานของรัฐบาลและพรรคด้วย

เพราะที่ผ่านมา ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ มักบ่นกันว่า ไม่สามารถพึ่งพิงกลไกจากกระทรวงมหาดไทยได้เลยในยุคของ “บิ๊กป๊อก” ที่ลอยตัวเหนือการเมือง

เรื่องนี้เคยมีการนำไประบายให้กับ พล.อ.ประวิตร ฟังมาหนึ่งรอบ โดยก่อนการปรับคณะรัฐมนตรีครั้งก่อน ส.ส.ในพรรคพลังประชารัฐต่างยุยงให้ พล.อ.ประวิตร โยกมาเป็น รมว.มหาดไทยเอง และให้ร.อ.ธรรมนัส มาเป็น รมช.มหาดไทย เพื่อสะดวกในการใช้เป็นกลไกช่วยเหลือชาวบ้าน และทำพื้นที่ทางการเมือง

ถึงขั้นมีการเสนอชื่อ พล.อ.ประวิตร เป็น รมว.มหาดไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ แต่ พล.อ.ประวิตร ปฏิเสธ

ส่วนข่าวลือครั้งนี้ ที่พุ่งเป้าไปที่ “บิ๊กป๊อก” อีกครั้ง ดูแล้วต้นตอน่าจะมาจากแหล่งเดิมคือ คนในพรรคพลังประชารัฐ ที่ต้องการให้ บิ๊กป้อม นำกระทรวงมหาดไทยมาเป็นกลไกให้กับ ส.ส. และกระทุ้งให้ “บิ๊กป๊อก” หันมาใส่ใจใยดีพวก ส.ส.ในพรรคบ้าง ต่อให้ไม่เป็นสมาชิกพรรคก็ตาม

นอกจากนี้ อาจจะมี ส.ส.บางคนที่ต้องการให้ ร.อ.ธรรมนัส ขึ้นเป็น รมว.มหาดไทยจริงๆ ในการปรับคณะรัฐมนตรีครั้งหน้า ที่อาจเป็นครั้งสุดท้ายของรัฐบาลก่อนที่จะมีการยุบสภา เพื่อให้ ร.อ.ธรรมนัส ซึ่งได้รับมอบหมายให้เป็นหัวเรือใหญ่ในการเลือกตั้งครั้งหน้า เข้าไปเตรียมการให้พร้อมสู้ศึกที่จะเกิดขึ้นในเวลาอันใกล้นี้

ขณะที่ ร.อ.ธรรมนัส เอง ปฏิเสธไม่ได้ว่าเก้าอี้ รมว.มหาดไทยคือความฝันอันยิ่งใหญ่ของผู้ชายคนนี้ แต่ขณะเดียวกัน ก็รู้ตัวดีว่า การจะได้ขึ้นเป็น มท.1 ในรัฐบาลชุดปัจจุบันนั้นยาก เพราะมี “บิ๊กป๊อก” นั่งอยู่


แม้ “บิ๊กป๊อก” จะไม่ได้เป็นสมาชิกพรรค และไม่ได้มีความแนบชิดกับส.ส. แต่ยากที่ใครจะโค่นลงบ้าง เพราะหลายๆ ครั้งพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ไม่ว่านักการเมือง ส.ส. จะยุแยงให้ 3 ป. แตกคอกันมากแค่ไหน แต่ไม่มีครั้งไหนที่ใกล้เคียงความเป็นจริงเลย

และไม่ว่าภาพ “บิ๊กป้อม” จะสนิทชิดเชื้อกับนักการเมืองแค่ไหน จนบางครั้งดูเหมือนพี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์หลงกลและจมไปกับนักการเมือง แต่จนแล้วจนรอด เลือดข้นกว่าน้ำทุกครั้ง บิ๊กป้อม เอาพี่น้องก่อนเสมอ

หลายๆ ครั้งดูเหมือนนักการเมืองจะกดดัน “บิ๊กป้อม” ได้จนฟัง แต่หลายๆครั้งก็ออกมาตรงข้ามเสมอ กลายเป็นนักการเมืองที่ตกเป็นฝ่ายหลงกล

อย่างเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญล่าสุด ที่มีความพยายามเสนอแก้ไข มาตรา 144 และมาตรา 185 ที่เป็นกลไกป้องกันส.ส.และส.ว.เข้าไปแทรกแซงข้าราชการในการปรับลดงบประมาณ หรือจัดสรรงบประมาณ ซึ่งเป็นประเด็นใหญ่ที่พรรคพลังประชารัฐเสนอ

การแก้ไขประเด็นนี้ ถูกจับโยงกับคดีทุจริตโครงการก่อสร้างสนามฟุตซอลใน จ.นครราชสีมา ที่ “วิรัช รัตนเศรษฐ” ส.ส.บัญชีรายชื่อ และประธานวิปรัฐบาล ที่ถูกกล่าวหาว่าไปแทรกแซงการจัดสรรงบประมาณ ซึ่งหากแก้ไขรัฐธรรมนูญสำเร็จ อาจจะกลายเป็นการล้างโทษโดยอัตโนมัติ

การที่พรรคพลังประชารัฐเสนอเข้ามา หลายคนคาดการณ์ว่า “บิ๊กป้อม” คงไฟเขียวแล้วเพื่อจะหาทางช่วยเหลือลูกพรรคหรือไม่ แต่สุดท้ายก็มีส.ว.ออกมาเรียงหน้าค้านไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขมาตราดังกล่าว กระทั่ง “บิ๊กตู่” ส่งสัญญาณเบรกก่อนวันพิจารณาเพียง 1 วัน ทำเอาคนที่อยากจะแก้ฝันค้าง

หลายคนมองว่า “บิ๊กตู่”หัก “บิ๊กป้อม” หรือไม่ แต่ความจริงคือ ไม่ เพราะเรื่องใหญ่ระดับนี้พี่น้องย่อมต้องคุยกันเรียบร้อยแล้ว

บางครั้ง “บิ๊กป้อม” เหมือนจะตามใจลูกพรรค แต่เกือบทุกครั้งจะเห็นว่า นักการเมืองต่างหากที่นานวันจะเคี่ยวสู้ 3 ป.ไม่ได้

แม้แต่การปล่อยข่าวเขย่าเก้าอี้ “บิ๊กป๊อก” ครั้งนี้เหมือนกัน นอกจากไม่ได้ทำให้สถานการณ์ดีขึ้น อาจทำให้ 3 ป. ยิ่งหมั่นไส้ ไม่ไว้ใจนักการเมืองในพรรคพปชร. เข้าไปอีก

อย่าลืมว่า พี่น้องเขาอยู่ด้วยกันมานาน ขึ้นหลังเสือมาพร้อมกัน ไม่เห็นนักการเมืองดีกว่าแน่