xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

ปรากฎการณ์ “ไม้ด่างฟีเวอร์” “กล้วยด่าง” แพงกว่าทอง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - เทรนด์ต้นไม้ยังคงฟีเวอร์โดยเฉพาะพันธุ์ไม้ด่างไม้หายาก สร้างสีสันให้เห็นเป็นระยะๆ ซื้อขายกันทีตกเป็นข่าวครึกโครมด้วยราคาแพงสูงปรี๊ด และที่เป็นกระแสในเวลาคือ “กล้วยด่าง” ซึ่งมีอยู่หลายสายพันธุ์ทั้งไทยเทศไม่ว่าจะเป็น กล้วยแดงอินโดด่าง, กล้วยฟลอริด้าด่าง, กล้วยน้ำว้าคร่อมเตี้ยด่าง, กล้วยมะลิอ่องด่า, กล้วยน้ำว้าไอศกรีมด่าง, กล้วยตานีด่าง, กล้วยป่าด่าง ฯลฯ 

ในกลุ่ม “คนรักกล้วยด่าง” ไม่นานมานี้มีการแชร์ภาพส่งมอบต้น “กล้วยด่างพันธุ์แดงอินโด”  ราคา 4.35 แสนบาท หรืออย่างก่อนหน้านี้ มีการปิดดีลซื้อขาย “กล้วยแดงอินโดด่าง” ลายด่างว่ากันว่าสวยระดับเทพมูลค่ากว่า 1.2 ล้านบาท ยิ่งกว่านั้น  “กล้วยแดงอินโดด่าง” เคยมีการขายกันสูงถึง 2.7 ล้านบาทเลยทีเดียว

พูดเต็มปากว่าใครบังเอิญเจอกล้วยด่าง ดวงเฮงยิ่งกว่าถูกหวยรางวัลเลขท้าย ดังเช่นกรณีเจ้าของสวนผลไม้ บังเอิญพบกล้วยด่างในสวน หน่อเดียวขายได้ถึง 70,000 บาท ซึ่งเจ้าตัวบอกว่าปกติขายหน่อ  “กล้วยหอมคาเวนดิช”  ในราคาหน่อละ 50 บาทเท่านั้น หรือกรณีชาวบ้านใน จ.สุรินทร์ ลูกสาวเจ้าของสวนยาง ออกไปรดน้ำต้นยางบังเอิญพบเห็นต้นกล้วยน้ำว้าด่าง ขายได้ในราคา 50,000 บาท ปุ๊บปั๊บรับโชคไปตามๆ กัน

ถามว่าสวนกล้วยน้ำว้าทั่วๆ ไป มีโอกาสเจอ “กล้วยด่าง” หรือไม่? นายสมบัติ สุขนันท์ เจ้าของฟาร์ม สมบัติอาณาจักรกล้วย เปิดเผยว่ามีความเป็นไปได้แม้เปอร์เซ็นต์ต่ำมาก เช่นพื้นที่ไร่กล้วยพื้นที่ 3 ไร่ 5 ไร่ อาจบังเอิญเจอสัก 1 กอ คือถ้าเจอก็คือโชคดียิ่งว่าถูกหวย

ราคาของกล้วยด่างนั้นแตกต่างกันไปตามสายพันธุ์ ขนาด ลวดลาย สำหรับต้นเล็กๆ เช่น กล้วยป่าด่างลายหินอ่อน ขนาด 1 ฟุต ราคาประมาณ 8,000 -9 ,000 บาท กล้วยฟลอลิด้าด่าง ขนาด 1 ฟุต ประมาณ 30,000 – 40,000 บาท เป็นต้น ซึ่งราคาไม่ตายตัวปรับขึ้นลงตามความต้องการของตลาด

“กล้วยแดงอินโดด่าง” ไม้ด่างหายาก ด้วยความผิดปกติของพันธุกรรม ทำให้เกิดลวดลายสวยโดดเด่น ฟอร์มสวยๆ ซื้อขายกันราคาทะลุหลักล้าน
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาไม้ด่างพันธุ์หายากสร้างปรากฎการณ์ไม่หยุด สร้างความฮือฮากรณี ราชินีแห่งไม้ใบมอนสเตอร่า (Monstera) สายพันธุ์มินต์ ซื้อขายกันในราคา 1.4 ล้านบาท โดยเจ้าของเดิมซื้อมาในราคา 5 แสนบาท หลังจากเลี้ยงไปได้สักระยะ ไม้กำลังสมบูรณ์ฟอร์มสวย ตัดสินใจประกาศขายในกลุ่มไม้ฟอกอากาศ และมีลูกค้าติดต่อขอซื้อราคาสูงลิบ
ไม้ด่างพันธุ์ไม้หายากเป็นเทรนด์ที่มาพร้อมๆ กับโควิด-19 ผู้คนอยู่บ้านมีเวลาให้กับตัวเองมากขึ้น แสวงหาไม้ประดับไม้ฟอกอากาศมาตบแต่งบ้านเรือน บวกกับกระแสดารานักแสดงคนดังในแวดวงสังคม หันมาปลูกต้นไม้ ถ่ายรูปอัพลงโซเชียลฯ ยิ่งกระตุ้นให้เกิดพฤติกรรมเลียนแบบ บางสายพันธุ์แทบขาดตลาด ราคาพุ่งสูงขึ้นเท่าตัวหรือหลายเท่าตัว

กล่าวสำหรับ “กล้ายด่าง” นั้น จัดเป็นของสะสมคนรักต้นไม้ จะเรียกว่าเป็นของเล่นคนรวยก็คงไม่ผิดไปจากความจริงเท่าใดนัก หรือจะซื้อมาเก็งกำไรขายต่อก็ได้ราคาคุ้มทุนไม่น้อย แต่ต้องยอมรับให้ได้ว่าการลงทุนมีความเสี่ยงเลี้ยงไม่ถูกวิธี ต้นไม้ตายเงินสูญทันที

ชาวบ้านบังเอิญเจอกล้วยด่างโชคดียิ่งกว่าถูกหวย มีผู้สนใจรับซื้อไปใน 50,000 – 70,000 บาท
ในสายตาคนทั่วไปไม้ด่างอย่าง ”กล้วยด่าง” อาจไม่ได้มีความพิเศษแตกต่างจากไม้ประทับทั่วๆ ไป มิหน้ำซ้ำ อาจเกิดคำถามทำนองว่าสวยตรงไหน?

ไม้ด่างเป็นเรื่องของความชอบส่วนบุคคล ก็เหมือนกับคนเลี้ยงปลาคาร์พลายสวยถูกใจแพงแค่ไหนก็ซื้อ หรือนักเลงพระเช่าบูชาพระเครื่องเก่าแก่ของเกจิดัง หรือผู้หลงไหลในรถสปอร์ตหรูราคาแพง เป็นต้น

อย่างไรก็ดี “กล้วยด่าง” พันธุ์หายากมีประมูลซื้อขายสูงลิบลิ่วราคาตั้งแต่หลักหมื่นแสนไปจนถึงหลักล้านบาท จนเกิดคำถามว่า “กล้วยด่าง” ที่กำลังมาแรงในวงการต้นไม้ ณ เวลานี้ มีการปั่นราคาสร้างกระแสหรือไม่

ทว่า หากสำรวจตลาดต้นไม้หายากต้องบอกว่าเป็นเรื่องธรรมดา เป็นเรื่องของอุปสงค์อุปทานเป็นความพึงพอใจของผู้ซื้อผู้ขาย ต้องเข้าใจว่าไม้ด่างไม้หายากเป็นที่นิยมเฉพาะกลุ่ม จึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากมีราคาค่าตัวสูงขึ้นตามความนิยม

แอดมินเพจกล้วยด่าง บอกว่าราคากล้วยด่างเป็นไปตามกลไกตลาด ไม่มีการปั่นราคา ราคาจำหน่ายอิงราคากลางในเวลานั้นๆ โดยเฉพาะฟาร์มที่มีเครดิตดี สร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้า พันธุ์ไม้หายากคุณภาพดี ย่อมขายได้ราคาดี

สำหรับปัจจัยที่ทำให้ไม้ด่างมีราคาแพงคือ เกิดขึ้นยากในธรรมชาติ แม้มีการตัดแต่งพันธุกรรมก็ถือว่าทำได้ยากอยู่ดี โดยเฉลี่ยมีการเกิดขึ้นตามธรรมชาติของพันธุ์ไม้ด่างสวยๆ เพียง 5% แถมยังโตช้าขยายพันธุ์ยากราคาค่าตัวจึงสูงเป็นธรรมดา นอกจากนี้ ยังมีไม้ด่างบางชนิดขยายพันธุ์ง่าย โตเร็ว ราคาไม่แพง เหล่านี้ไม่เป็นที่นิยมในหมู่นักสะสมต้นไม้ เช่น เงินไหลมา ออมเพชร พลูด่าง ชบาด่าง บาหยาด่าง เป็นต้น

สาเหตุที่ทำให้ต้นไม้ใบด่าง เช่น ขาดแสงสว่าง ในการผลิตคลอโรฟิลล์ที่ทำให้ต้นไม้มีใบสีเขียว ขาดสารอาหาร หากต้นไม้ขาดแมกนีเซียมใบจะเป็นสีเหลืองเส้นใยเขียว ถ้าขาดกำมะถันหรือฟอสฟอรัส ใบด่างเหลืองทั้งใบอาการจะหายไปหากได้รับสารอาหารดังกล่าวในดินครบถ้วน หรือกรณีเนื้อเยื่อใบมีอากาศมาก เกิดจากแสงแดดไปตกกระทบใบจะเกิดการหักเหของแสง ทำให้ใบเป็นสีเทาเงิน เป็นอาการไม่เปลี่ยนแปลงถาวร นอกจากนี้ ยังเป็นเรื่องของความผิดปกติทางพันธุกรรม รวมทั้งเกิดจากโรคอีกด้วยๆ






ด้านอดีตนายกสมาคมไม้ประดับแห่งประเทศไทย รศ.ดร.สุรวิช วรรณไกรโรจน์  อาจารย์คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ให้คำอธิบายว่าไม้ด่างเกิดจากการกลายพันธุ์ แบ่งเป็น 2 แบบ คือ กลายพันธุ์แบบถาวร ด่างพันธุกรรม และด่างจากการกลายพันธุ์บางส่วน มีเป็นพันต้นอาจจะได้ด่างมาต้นนึง พอได้ด่างมาแล้วก็สามารถขยายได้ ด่างบางอย่างขยายแล้วไม่เหมือนเดิม พอมันด่างแล้วเอาไปขยายพันธุ์ยังมีด่างลายใหม่ได้อีก พวกที่ขยายแล้วไม่เหมือนเดิมจะยิ่งแพง เรียกได้ว่านาทีไม่มีวงการไหนหวือหวาเท่าวงการต้นไม้อีกแล้ว ราคาเวอร์วังอลังการ แพงโดดขึ้นมาเป็นร้อยเท่าพันเท่า

“ถามว่าทำไมแพง ผมไม่เรียกกระแสนะ เพราะมันถาโถมมากกว่าปกติ ในวงการต้นไม้ประดับมันจะมีกระแสอยู่แล้ว ราคามันก็จะขึ้นมาซัก 5 - 10 เท่าของปกติ แต่คราวนี้มันขึ้นทีเป็นร้อยเป็นพันเท่า ผมก็เลยเรียกว่าสึนามิ มันเหมือนหุ้นปั่นขนาดหนัก” รศ.ดร.สุรวิช วรรณไกรโรจน์ อดีตนายกสมาคมไม้ประดับแห่งประเทศไทย กล่าว

ที่น่าจับตาเมื่อวิกฤตโควิด-19 บรรเทาเบาบางลง ราคาต้นไม้ก็จะลดลง เรียกว่ากระแสต้นไม้มากับโควิดมันก็จะไปกับโควิด อีกทั้งมันมีซัปพลายเพิ่มขึ้น คนพยายามขยายพันธุ์ด้วยเทคนิคที่ขยายพันธุ์ได้เร็วขึ้น

 กระแสต้นไม้โดยทั่วไปมันก็จะอยู่ราวๆ 20 ปี และย้อนกลับมาอีกครั้งเหมือนแฟชั่น แต่สึนามิถ้าลงเมื่อไหร่คือลงเลย สำหรับสึนามิที่กำลังเกิดในวงการไม้ด่าง ผู้ที่สนใจเก็งกำไรต้องทำความเข้าใจยอมรับความเสี่ยง เพราะราคาลง
เมื่อไหร่ ขาดทุนทันที ยกตัวอย่าง 10 ปีที่แล้ว ในประเทศอินโดนีเซีย เกิดกระแส “หน้าวัวใบ” คนขายบ้านขายรถเพื่อไปซื้อมาลงทุน สุดท้ายราคาตกไม่เหลืออะไรเลย! 





กำลังโหลดความคิดเห็น