xs
xsm
sm
md
lg

คลังปัดกู้เงินซื้อทองตุนสำรองฯ ย้ำบริหารค่าใช้จ่าย-สภาพคล่อง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

คลังปัดกู้เงินตุนทองคำเป็นทุนสำรองระหว่างประเทศ ย้ำชัดอำนาจกระทรวงการคลังทำได้แค่นำมาใช้จ่าย และดูแลการงบประมาณ ทั้งในยามปกติ และฉุกเฉิน รวมถึงการพัฒนาเศรษฐกิจเท่านั้น

นางแพตริเซีย มงคลวนิช ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ชี้แจงว่า ตามมาตรา 20 แห่งพ.ร.บ.การบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 และที่แก้ไขเพิ่มเติม กำหนดให้กระทรวงการคลังมีอำนาจกู้เงินในนามรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย ได้เฉพาะ 6 วัตถุประสงค์เท่านั้น กล่าวคือ เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ หรือเมื่อมีรายจ่ายสูงกว่ารายได้ บริหารสภาพคล่องของเงินคงคลัง พัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ปรับโครงสร้างหนี้สาธารณะให้หน่วยงานอื่นกู้ต่อ และเพื่อพัฒนาตลาดตราสารหนี้

ในภาวะปกติ กระทรวงการคลัง จะกู้เงินตามกฎหมายว่าด้วยการบริหารหนี้สาธารณะ เพื่อสนับสนุนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ทั้งนี้ หนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือนเม.ย.64 จำนวน 8.59 ล้านล้านบาท เป็นการกู้เงินเพื่อการลงทุนสูงถึง ร้อยละ 70 หรือประมาณ 6 ล้านล้านบาท ทั้งนี้ ตั้งแต่ปี 2557 ถึงปัจจุบัน ประเทศไทยมีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานมากที่สุดถึง 165 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 2.2 ล้านล้านบาท ในสาขาคมนาคมขนส่ง สาธารณูปการ พลังงาน สังคม และการพัฒนาพื้นที่ทั่วภูมิภาคและทั่วประเทศ โดยมีโครงการที่แล้วเสร็จและเปิดให้บริการแล้ว จำนวน 60 กว่าโครงการ และอยู่ระหว่างการดำเนินการอีกกว่า 105 โครงการ

สำหรับในภาวะที่ไม่ปกติ กระทรวงการคลังจะกู้เงินโดยการ ตราพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ซึ่งเป็นกฎหมายพิเศษที่มีลักษณะเป็นการเฉพาะช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง เพื่อใช้ในการแก้ไขปัญหาวิกฤติของประเทศเป็นการเร่งด่วน อาทิ พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินและจัดหาเงินกู้เพื่อช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน พ.ศ. 2541 วงเงิน 500,000 ล้านบาท และ พ.ศ. 2545 วงเงิน 780,000 ล้านบาท เพื่อใช้ในการบรรเทาผลกระทบและฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมจากวิกฤติเศรษฐกิจปี 2540 (Asian financial crisis)พ.ร.ก. ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ. 2552 วงเงิน 400,000 ล้านบาท เพื่อใช้ในช่วงที่เกิดวิกฤตสินเชื่อซับไพร์ม (Hamburger crisis)พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2563 วงเงิน 1 ล้านล้านบาท และ พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 วงเงิน 500,000 ล้านบาท

กระทรวงการคลังขอเน้นย้ำว่า กระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อสนับสนุนการดำเนินมาตรการทางการคลังและเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมเท่านั้น ไม่ได้กู้เงินเพื่อซื้อทองคำสำหรับเป็นทุนสำรองระหว่างประเทศ อีกทั้งยังได้บริหารจัดการหนี้สาธารณะและชำระคืนหนี้อย่างครบถ้วน ถูกต้อง และตรงเวลามาอย่างต่อเนื่อง


กำลังโหลดความคิดเห็น