xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

ปชป.-ภท.ใครนินทา“ตู่” ขู่ขับออก ส่งสัญญาณไม่ง้อ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา- จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์- อนุทิน ชาญวีรกูล
ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - อย่าให้มีอีก ไม่อย่างนั้นจะปรับออก ริบโควตาพรรคคืน ตามคิวที่"บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ปรอทแตกก่อนปิดประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันอังคารที่27 เมษายน

ส่งสัญญาณถึงรัฐมนตรีบางคนที่เอาไปนินทาลับหลัง ขู่ดังๆให้เห็นว่าพร้อมเชือด

ตามจังหวะที่มีการถอดรหัส รัฐมนตรีขานินทาน่าจะมาจากพรรคร่วมรัฐบาล ไม่พรรคประชาธิปัตย์ก็พรรคภูมิใจไทย สองค่ายใหญ่กำลังขบเหลี่ยมกับแกนนำรัฐบาล

โดยเฉพาะรัฐมนตรีจากพรรคประชาธิปัตย์ ที่ถูกมองว่าเป็นคนในข่าว เพราะกำลังมีข่าวความขัดแย้งกับพรรคพลังประชารัฐ จากกรณีคำสั่งนายกรัฐมนตรี เรื่องแบ่งจังหวัดให้รัฐมนตรีดูแล ที่มีการดัน "ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า" รมช.เกษตรและสหกรณ์ ที่รับผิดชอบดูแลภาคเหนือ และจ.พะเยา ให้กับพรรคประชารัฐ ไปดูฐานเสียงสำคัญที่มีส.ส.เป็นกอบเป็นกำในภาคใต้ ไม่ว่าจะเป็น สงขลา นครศรีธรรมราช และภูเก็ต

ทับไลน์ "นิพนธ์ บุญญามณี" รมช.มหาดไทย เจ้าของพื้นที่และผู้ดูแลรับผิดชอบเก่า วัตถุประสงค์แจ่มชัดว่าต้องการผลักดัน ร.อ.ธรรมนัส ไปเตรียมพื้นที่ภาคใต้สำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้า ขณะเดียวกัน ยังจับเอา "สินิตย์ เลิศไกร" รมช.พาณิชย์ ที่เป็นส.ส.สุราษฎร์ธานี ไปดูแลภาคอีสานที่ จ.หนองบัวลำภู และร้อยเอ็ด

มันพิลึกกึกกือ และผิดมารยาทที่ปกติมักจะให้รัฐมนตรีที่เป็นส.ส. หรือเจ้าของฐานเสียงได้เข้าไปดูแลในจังหวัดของตัวเอง แต่ครั้งนี้กลับข้ามไลน์กันเพียบ

เป็นเหตุให้"จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์" รองนายกรัฐมนตรี รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ต้องออกมาปกป้องพรรค ประกาศว่าไม่พอใจคำสั่งดังกล่าว และจะแจ้งให้ พล.อ.ประยุทธ์ รับทราบถึงความไม่พอใจนี้

ขณะที่เด็กในพรรคพลังประชารัฐ ก็ออกมาเปิดศึกน้ำลายกับเด็กพรรคประชาธิปัตย์ในเรื่องดังกล่าว ชิงดีชิงเด่น แย่งความเป็นตัวแทนพี่น้องคนภาคใต้ ส่อเค้าบานปลาย

แล้วนั่นเป็นเหตุให้พล.อ.ประยุทธ์ รำคาญใจที่มาเล่นการเมืองกันในช่วงที่รัฐบาลกำลังเมาหมัดโควิด-19 เลยต้องมอบหมายให้ "เนติบริกร" วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ไปเขย่าโหลใหม่

ปมนี้ ทำให้หลายคนปักใจว่า รัฐมนตรีในพรรคประชาธิปัตย์นี่แหละพวกขาเมาท์ นินทาลับหลังพล.อ.ประยุทธ์ จนทำให้ฟาดงวงฟาดงากันกลางที่ประชุมคณะรัฐมนตรี

แต่มันก็มีจุดตั้งข้อสังเกตเหมือนกันว่า เพราะวันรุ่งขึ้นท่าทีของพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้สอดคล้องกับข่าว แต่"จุรินทร์" ออกมาแถลงว่า "พล.อ.ประยุทธ์" รับลูกเรียบร้อย ให้ใช้คำสั่งเดิมที่คนในพรรคยังได้ดูแลจังหวัดในภาคใต้อยู่ ขณะเดียวกันยังไม่โวยวายเรื่องงที่ พล.อ.ประยุทธ์ ริบอำนาจรัฐมนตรี พร้อมบอกกับว่า เป็นเรื่องเมื่อนานมาแล้ว ไม่มีอะไรแปลกใหม่

สายเมาท์ ยังรายงานว่าการประชุมคณะรัฐมนตรีที่ผ่านมา ในวาระเรื่องแบ่งจังหวัดให้รัฐมนตรีดูแล พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้โวยวายอะไร แรงสุดแค่สะกิดว่า อย่ามาเล่นการเมืองกันในเวลานี้ ขณะที่ช็อตปรี๊ดแตก เกิดขึ้นก่อนการปิดประชุมคณะรัฐมนตรี ไม่ได้มีลูกต่อเนื่องกันมา มันเลยยังไปปักใจว่า หมายถึงค่ายสีฟ้าเสียทีเดียวไม่ได้

โดยเฉพาะหนึ่งคีย์เวิร์ดสำคัญ ในจังหวะฟาดใส่กลางที่ประชุมคณะรัฐมนตรี คือมีทีมงานคอยติดตามเฟซบุ๊กทุกท่าน มันเลยทำให้มีผู้ต้องสงสัยเพิ่มขึ้น คือ พรรคภูมิใจไทย เพราะก่อนหน้านั้น 1 วัน เด็กๆ ในค่ายบุรีรัมย์ ออกมาเคลื่อนไหวเรื่องโควิด-19 กันผ่านทางเฟซบุ๊ก

ตั้งแต่ระดับหัวคือ "หมอหนู" อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี รมว.สาธารณสุข และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่โพสต์เฟซบุ๊กว่า ตนเองเป็นผู้ใต้บังคับบัญชานายกรัฐมนตรี ต้องทำตามคำสั่งนายกฯ ใครอ่านเผินๆเหมือนดูดีจะอวยผู้นำ แต่ต้องไม่ลืมว่าจังหวะนั้น "หมอหนู"กำลังอยู่ในสภาพตำบลกระสุนตก โดนประชาชนและหมอบางส่วนออกมาไล่ เพราะมองว่าบริหารโควิด-19 ล้มเหลว

โพสต์ของ "หมอหนู" ถูกถอดรหัสว่า เหมือนเจตนาต้องการจะบอกสังคมว่า อย่ามาลงที่ตนเองเพราะคนที่มีอำนาจสูงสุดในการบริหารโควิด-19 คือ พล.อ.ประยุทธ์ การมาไล่ตนเอง จึงเหมือนผิดฝาผิดตัวหรือไม่ ?


แล้วมันยังไปสอดรับกับโพสต์ของ "บังซุป" ศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ที่ใบหน้าติดยี่ห้อ เนวิน ชิดชอบ เจ้าของพรรคตัวจริง ที่กระแทกแป้นพิมพ์ทำนองว่า อย่าไปด่ารมว.สาธารณสุข เพราะอำนาจการบริหารโควิด-19 ถูกรวบอยู่ที่ ศบค.หมดแล้ว

มันเป็นคิวที่เหมือน"โยนขี้" กลับไปที่พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งว่ากันว่า มีทีมงานตึกไทยคู่ฟ้าเข้าไปส่องเฟซบุ๊กแล้วเห็น จึงรีบรายงานผู้เป็นนาย มันเลยเป็นเหตุให้เช้าวันอังคารก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีที่ผ่านมา หน้าตาพล.อ.ประยุทธ์ มึนตึง เหมือนมีอะไรในใจ

คนข้างกายสาธยายให้ฟัง อาการแบบนี้ของพล.อ.ประยุทธ์ จะเห็นได้เฉพาะตอนเวอร์ชั่นที่กำลังโมโหใครบางคน และอัดอั้นอยู่ เลยไม่แปลกที่จะไประเบิดอารมณ์ในตอนท้ายประชุม

ด้วยเหตุนี้ พรรคภูมิใจไทยเลยอยู่ในข่ายผู้ต้องสงสัยว่าจะเป็นคนที่ พล.อ.ประยุทธ์ กำลังจะสื่อถึงหรือไม่ เพราะแม้ภายนอกจะมองว่าความสัมพันธ์ระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ กับพรรคภูมิใจไทย ดีกว่าความสัมพันธ์ระหว่างพล.อ.ประยุทธ์ กับพรรคประชาธิปัตย์

แต่นั่นมันเป็นสิ่งที่เห็นเบื้องหน้า แต่ในใจมีอะไรหลายปมที่ขบกันบ่อยก่อนหน้านี้ ที่เห็นจะๆ ซัดกันมาหนึ่งรอบ คือประเด็นขยายสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว ที่กระทรวงคมนาคม ภายใต้การกำกับดูแลของพรรคภูมิใจไทย ขัดแข้งขัดขาไม่ยอมให้มีการขยายสัมปทานให้กับเอกชนเจ้าเดิม ขณะที่"บิ๊กเนม"ในรัฐบาล หรือแม้แต่ กทม.ต้องการจะขยายให้ จนกลายเป็นเรื่องค้างเติ่งอยู่ทุกวันนี้

หรือแม้แต่ เรื่องการแต่งตั้งคณะกรรมการจัดหาวัคซีนทางเลือก ที่ไม่มีชื่อของ "หมอหนู" ที่ลือกันว่า รมว.สาธารณสุข เสียเซลฟ์อย่างมาก

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นพรรคประชาธิปัตย์ หรือพรรคภูมิใจไทย สัญญาณที่รับรู้ได้จากปรากฏการณ์นี้คือ รอยปริร้าวภายในพรรคร่วมรัฐบาล ที่ไม่ต่างจากฝีที่ใกล้แตก

ที่สำคัญ มันยังทำให้เห็นว่า "3 ป."ไม่ได้แคร์สองพรรคร่วมรัฐบาลนี้สักเท่าไหร่ ไม่เช่นนั้นพล.อ.ประยุทธ์ คงไม่หักหาญน้ำใจกันแบบนี้ โดยเฉพาะข่าวลือข่าวปล่อยก่อนหน้านี้ที่ว่า "ปลัด ฉ." คนดัง ที่ไปตั้งพรรค ดูดส.ส.จากพรรคเพื่อไทยไว้ในมือได้แล้วประมาณ 70 คน พร้อมแสตนด์บาย หากพรรคพลังประชารัฐ ต้องหย่าร้างกับสองพรรคใหญ่

เรียกว่า ไพ่ในมือยังมีแต้มต่อกว่า



กำลังโหลดความคิดเห็น