ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์
สาขาวิชาวิทยาการประกันภัยและการบริหารความเสี่ยง
สาขาวิชา Business Analytics and Intelligence
คณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
วันก่อนผมสอนหนังสือทางออนไลน์ไป 9 ชั่วโมงรวด แล้วทาง จส.100 ชวนเข้าไปถกในคลับเฮาส์ต่ออีก 3 ชั่วโมง ผมเข้าไปในคลับเฮาส์แล้วก็พบว่า พอโควิดระบาดมามีพวกหนึ่ง พวกไหนก็ไม่บอกแล้วกัน เดาเอาเอง ทุกอย่างต้องฟรี หน้ากากอนามัยต้องฟรี เจลล้างมือต้องฟรี กักตัวต้องมีอาหารกินฟรีทุกมื้อ ต้องหยุุดพักหนี้ทุกอย่าง ต้องชดเชยรายได้ให้ทุกบาททุกสตางค์ ต้องได้วัคซีนฟรีทุกคนในสามวันหกสิบเจ็ดล้านคน จะไปหามาจากไหน เรียกร้องสุด ๆ
แล้วกล่าวว่าห้ามต่อว่าประชาชน ว่าการ์ดตก ประชาชนให้ความร่วมมือดีเลิศที่สุดแล้ว ไม่มีใครอยากติดโควิด แต่ต้องใช้สิทธิ์ให้เต็มที่ นี่คือเสรีภาพ
เรียกร้องแต่สิทธิและเสรีภาพ ไม่สนใจทำหน้าที่พลเมือง ไม่พูดถึงความรับผิดชอบต่อสังคม จะต้องได้ทุกอย่าง ฟรีทุกอย่าง เยียวยาทุกอย่าง เหลื่อมล้ำไม่เท่ากัน เจตคติ (attitude) แบบนี้ผมว่าประเทศชาติลำบากนะ
โปรดอย่าถามว่าประเทศชาติให้อะไรท่าน โปรดถามว่าท่านได้ให้อะไรกับประเทศชาติบ้างแล้วหรือยัง เคนเนดี้ ได้กล่าวไว้เช่นนี้
ในคลับเฮาส์คืนนั้น ผมวิจารณ์เรื่อง ผับบาร์ นักการเมืองไปคุยกัน รัฐมนตรีไปคุยกัน จนแพร่เชื้อโควิด นายคนหนึ่งชื่อ "ลูกเต๋าไม่ว่าอะไร พอผมบอกว่าไปชุมนุมต้าน ม 112 อะไรกันในเวลานี้ พูดแทรกตะโกนด่าใส่อย่างรุนแรง ใช้อารมณ์รุนแรง บอกว่าห้ามพูดเรื่องการเมือง แต่นายคนนี้ด่ารัฐบาล วิจารณ์รัฐบาลอย่างรุนแรง จะเอาแต่ได้ จะเยียวยา จะฟรีสารพัดอย่าง แทรกแบบไม่มีมารยาท ตะคอกตะโกน เสียงดัง ใส่อารมณ์รุนแรง ราวกับผมเอาตีนไปเหยียบหางส้มล้มเจ้าหรืออย่างไรก็ไม่ทราบ
ผมก็ยืนยันว่าผมไม่ได้พูดเรื่องการเมือง การเมืองฝั่งไหนหากจะชุมนุมกันเวลานี้ก็ทำลายชาติทั้งนั้น มั่วสุมกันในสถานบันเทิงเวลานี้ก็ทำลายชาติทั้งนั้น
สุดท้ายเขาถูกเตะออกจากห้อง ไปเปิดห้องใหม่ ด่าโน่นด่านี่สารพัด ด่ากราด
ที่เล่านี่คือแค่เล่าให้ฟังว่าคนพวกนี้ แบบนี้มีวิธีคิดอย่างไร มารยาทชั้นต่ำเป็นเยี่ยงไร อย่าตามไปถล่มหรือล่าแม่มดเขานะครับ อ้ออย่าทำตามด้วย มันทรามและไร้การศึกษาครับ
โปรดช่วยกันแผ่เมตตาให้เขานะครับ น่าสงสารและน่าเห็นใจมากจริง ๆ ครับ
ส่วนหนึ่งผมก็เข้าใจและเห็นใจนะครับ หลายคนขายเหล้า ขายเบียร์ ทำผับทำบาร์ ทำอาชีพคนกลางคืน ผมไม่ได้ดูถูกอาชีพนี้เลย ตรงกันข้าม ผมยกย่อง ผู้หญิงโสเภณีหลายคนที่ผมรู้จักมีคุณธรรมน้ำมิตร มีสัจจะดีกว่านักการเมืองจำนวนมากที่ผมรู้จัก ผมยกมือไหว้พี่น้องผู้หญิงโสเภณีเหล่านี้ได้สนิทใจกว่าการยกมือไหว้นักการเมืองไทยจำนวนมาก
แต่นายทุนคนกลางคืนเหล่านี้ออกมาเถียงว่าการปิดผับบาร์ไม่ได้ช่วยอะไร แล้วที่ปิดผับบาร์ก็ไม่ได้ทำให้ติด
ในผับบาร์ ผมก็เคยเที่ยวมาก่อน เบียดเสียดยัดเยียดมาก หายใจรดต้นคอกัน
ผับบาร์ยิ่งคนเยอะยิ่งเบียดยิ่งดีได้เสียดสีบี้อวัยวะคลึงกันสัมผัสกัน เต้นร่อนกันไปมาก็โผเข้ากอดกัน ยิ่งเมา ๆ ด้วย มองกันไปมองกันมาอ่อยกันเต็มที่ พอเมาได้ที่และถูกใจ จูบกันกลางผับแบบเฟรนช์คิส เสียด้วย จะไม่ติดโควิดกันได้อย่างไร
แก้วเหล้าวางเรียงรายเต็มโต๊ะ แก้วก็ทรงใกล้ ๆ กันหรือเหมือนกัน ชงเหล้าจากขวดเดียวกันสีก็เหมือนกัน ไม่ได้เอาปากกาเมจิคแขวนป้ายไว้สักหน่อยว่าใบไหนเป็นของใครกันแน่ ๆ เมา ๆ ก็หลงไม่รู้หยิบแก้วเหล้าของใครยกมาซดดื่ม จะให้ถือแก้วเหล้าตลอดเวลาก็ใช่ถือ เต้นไม่สะดวก เดี๋ยวเหล้าจะหกไปรดใครเขาเดี๋ยวจะมีเรื่องตีกันเอาได้ พออารมณ์ดี ๆ ได้ที่เอะอะก็ยกแก้วเหล้าชนกัน คราบน้ำลายที่ติดตรงแก้วเหล้าของแต่ละคนก็ได้แลกเปลี่ยนน้ำลายกันผ่านการชนแก้วเหล้ากันนี่แหละครับ เหล้านี่ดีกรีก็ไม่ได้แก่กล้าอะไร เหล้าขาวยังอ่อนๆ แค่ 40 ดีกรี ไม่ได้เป็นแอลกอฮอลล์ 70% เสียหน่อยจะได้ฆ่าเชื้อโรคได้ ไวรัสไม่ตายเพราะเหล้า วิสกี้ชงกับมิกเซอร์ ทั้งโซดา น้ำแข็ง จางลงไปมากจนเชื้อโรคอะไรก็ไม่ตายหรอกครับ
ไปผับบาร์บางทียังสูบบุหรี่กันหนักมาก มีการแลกบุหรี่กันสูบ ขอบุหรี่กันสูบ สนิทกันเต็มที่ถึงกับสูบจากก้นกรองเดียวกัน กะอีแค่ขอบุหรี่หยิบออกจากซอง ก็เอามาคาบใส่ปากจุดไฟแช็คสูบแล้ว ไม่ได้เอาแอลกอฮอลล์ เข้มข้น 70% ทาก้นบุหรี่ตรงก้นกรองก่อนจะหยิบมาจุดไฟสูบเสียเมื่อไหร่ จะไม่ให้ติดโควิดกันได้อย่างไร
ผับบาร์ชั้นสูง ห้องวีไอพีมีการขายยาและเสพยาเสพติด ถึงผับระดับล่างก็หาซื้อยาเสพติดได้จากหน้าห้องน้ำ เข็มฉีดยาอันเดียวกัน พออยากยาก็เห็นใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน
ผมงงเหลือเกินว่าทำไมคนทำผับบาร์บางคนถึงออกมาเถียงว่า ผับบาร์ไม่ทำให้ติดโควิด เป็นเรื่องที่ไม่มีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์เอาเสียเลยระลอกนี้ติดจากผับบาร์ทั้งนั้น พวกเจ้าของสถานบันเทิงหลายคนยังตีหน้ามึนกันอีก บอกว่าไม่ติดตอแหลและล้วนเห็นแก่ตัว ชาติพินาศเพราะพวกระยำแบบนี้ ตอนนี้ไปเห่ากันในคลับเฮาส์มากมาย พวกขายเบียร์ ทำผับบาร์ คนที่ดีก็มี แต่คนเลวๆ ก็เยอะ ไม่ได้ด่าเหมาอาชีพนะครับ
อย่าเถียงกันด้วยอคติและความเห็นแก่ตัวเลย มาดูตัวเลขกันดีกว่าครับ
สถิติจากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ที่มีนักระบาดวิทยาผู้เชี่ยวชาญมากมายได้สอบสวนโรค (outbreak investigation) ด้วยวิธีการทางระบาดวิทยาแล้วพบกว่าสองพันกว่ารายในสามสัปดาห์แรกของเดือนเมษายน ผู้ติดเชื้อเกือบร้อยละ 80 มาจากสถานบันเทิง เช่น ผับบาร์ ร้านเหล้า ตัวเลขนี้คงช่วยยืนยันได้ว่าต้นเหตุของปัญหาคืออะไร ตำรวจที่คุมผับบาร์ รับส่วยหรือเป็นหุ้นส่วนหรือไม่ ต้องรับผิดชอบต่อสังคมด้วย สำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องลงโทษอย่างไรทำให้ชาติเสียหาย ประชาชนเสี่ยงตายมากขนาดนี้
ไหน ๆ ก็ไหน ๆ มาดูสถิติโควิด-19 ที่น่าสนใจดีกว่า ให้พวกชังชาติได้ใช้ข้อมูลสถิติกันบ้าง จะได้คุยกันด้วยข้อมูล ใช้ความรู้ ไม่ใช้อารมณ์ อคติ และความเห็นแก่ตัวอย่างเดียวมาเถียงกัน ไม่มีประโยชน์อะไร ดูข้อมูลก่อนแล้ววิเคราะห์แล้วจึงถกเถียงกัน
ประการแรก อินเดียมีสัดส่วนผู้ติดเชื้อต่อจำนวนผู้เข้ารับการตรวจสูงสุดในโลกคือราวหนึ่งในห้าจะพบเชื้อ ของไทยอยู่ที่ราว 4% ต่ำกว่าสหรัฐอเมริกา อิตาลี ญี่ปุ่น แคนาดา
สอง อัตราการแพร่พันธุ์ ณ ขณะปัจจุบัน (Effective Reproductive rate) ของไทยสูงสุดในโลก เป็นสิ่งที่เราต้องช่วยกัน ประมาณ 1.7-1.8 สูงกว่าแม้กระทั่งอินเดีย ถ้าไม่ช่วยกัน self-lock down คงจะลำบากมากและสถิติอื่นๆ ก็จะสูงมาก
แต่ถ้าพิจารณา Basic reproductive rate รวมข้อมูลอดีตย้อนหลังไปนาน ๆ ของเราก็ยังไม่สูงมาก
แต่วางใจไม่ได้เลย ส่วนหนึ่งมาจากไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์อังกฤษที่มาจากผับแถวทองหล่อที่นักการเมืองไปใช้บริการแล้วยังออกพบปะประชาชน สิ่งที่น่ากลัวมากอีกประการหนึ่งคือสายพันธุ์ที่กลายพันธุ์ไปสองขั้นและสามขั้น (Double and triple mutation) ซึ่งได้แก่สายพันธุ์อินเดีย และสายพันธ์เบงกอล ที่กลายพันธุ์จากสายพันธุ์อินเดียอีกครั้งหนึ่งซึ่งคาดว่าจะแพร่พันธุ์ได้ไวมากยิ่งขึ้น
ประการสาม จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่อประชากรหนึ่งล้านคนของไทย ยังถือว่าต่ำมาก น้อยกว่าอังกฤษ แต่สูงกว่าสิงคโปร์ ส่วนเยอรมันกับอินเดีย นำลิ่วไปไกลลิบลับครับผม ราว ๆ สองร้อยนิดต่อประชากรหนึ่งล้านคน
แม้ว่าเราจะเจอคลัสเตอร์ทองหล่อ ระลอกสาม ระลอกใหม่ก็แล้วแต่ เราต้องช่วยกัน ลาก curve ลงให้ได้ครับ เราต้องช่วยกันให้สุดกำลังความสามารถ อย่าดีแต่เห่าและด่า ต้องให้ความร่วมมือ
สี่ อัตรามรณะของไทยจากโควิด 19 ต่ำมากเกือบต่ำสุดของโลก อัตรามรณะคำนวณจากจำนวนผู้ป่วยโควิด-19 ที่เสียชีวิตหารด้วยจำนวนผู้ติดเชื้อ ในขณะที่อิตาลี อังกฤษ และเยอรมัน นำโด่งลิ่ว แสดงให้เห็นว่าการแพทย์ ของเราเก่งมาก ต้องปรบมือให้หมอ พยาบาล เภสัชกร นักเทคนิคการแพทย์ของไทย ไปยันพนักงานเข็นเปล แม่บ้านทำความสะอาดในโรงพยาบาล แม่ครัว และทุกคนที่ทำงาน ไปถึงอสม ที่ช่วยกันทำหน้าที่เข้มแข็งมาก ทำให้อัตรามรณะของไทยต่ำมาก ประมาณไม่ถึง 0.25% ถือว่าทำได้ดีมาก เกือบจะที่สุดในโลก
แต่ก็อย่าได้ชะล่าใจไป เพราะระบบสาธารณสุขเราใกล้เต็มแล้ว นายแพทย์ ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ก็ได้แถลงกล่าวเตือนว่าเตียงไอซียูเราจะเต็มได้ ในอีกไม่กี่สัปดาห์หากยังมีผู้ติดเชื้อเพิ่มมากเช่นนี้ แพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ เหมือนคนกำลังจะจมน้ำ ที่อุ้มเตียงคนไข้
ผมได้เคยเขียนบทความ คนไทยจะตายมากแค่ไหนหากเกิดมหาโรคระบาด “โควิด-19” เมื่อพิจารณาจากทรัพยากรทางการแพทย์ของเรา ? mgronline.com/daily/detail/9630000027840 ขอให้ลองกลับไปอ่านดูครับ
เราต้องพร้อมใจคารวะซูเปอร์ฮีโร่ของเหล่าฮีโร่ บุคลากรทางการแพทย์และทีมสุขภาพในท่ามกลางวิกฤติมหาโรคระบาดโควิด-19 เราจะชนะและผ่านความยากลำบากนี้ไปด้วยกันครับ
หากการระบาดของโควิด-19 หนัก ย่อมมีผู้ป่วยหนักด้วยปอดติดเชื้อเยอะมาก ณ วันนี้ ก็ปริ่ม ๆ โดยเฉพาะใน กทม. เครื่องช่วยหายใจที่มีอยู่ก็จะไม่พออย่างแน่นอน
ดังนั้นแพทย์ต้องเลือกว่าจะช่วยชีวิตใครก่อนหรือหลัง
อิตาลีผ่านนาทีวิกฤติเช่นนี้มาแล้ว
แพทย์อิตาลีเลือกช่วยชีวิตคนหนุ่มสาวที่ยังมีอายุขัยยืนยาวเพื่อให้หายกลับมาทำงานเป็นประโยชน์กับประเทศชาติได้ ไม่ใส่เครื่องช่วยหายใจ ปล่อยให้คนแก่ตายไป
สำหรับประเทศไทย ผมเกรงว่าสถานการณ์เช่นนี้จะมาถึงในอีกไม่นาน แต่จะกลายเป็นว่า แพทย์จะถูกกดดันให้ใส่เครื่องช่วยหายใจคนที่มีเส้นสายใหญ่โตมากกว่าคนหนุ่มสาวที่จะเป็นกำลังสำคัญและอนาคตของประเทศ
นี่คือคำเตือนให้ทุกคน อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ กินร้อน ช้อนกู ล้างมือ ใส่แมสก์ แม้กระทั่งในบ้านเอง ก็ต้อง social distancing ไม่ให้ติดกันเองในบ้าน งดการกินอาหารนอกบ้าน Work from home และระวังตัวเองให้มากที่สุด ไม่เอามือไปจับหน้าตาตัวเอง หากไม่ได้ล้างมือด้วยน้ำสบู่ให้สะอาดเสียก่อน
เพศสัมพันธ์กับคู่สมรสในบ้านก็ต้องงดเสียก่อน หากไม่สามารถเว้นระยะห่างสองเมตรได้ระหว่างมีเพศสัมพันธ์
ถ้าหากคุณไม่มีเส้นสายใหญ่พอในสังคมไทย คุณจะเป็นผู้ที่ต้องถูกทอดทิ้ง ไม่ได้ใส่เครื่องช่วยหายใจที่มีจำกัด แล้วจะต้องเกิดการสูญเสียอย่างมหาศาล
เวลานี้แพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ทำงานหนักมาก ผมเพิ่งวางหูแพทย์ที่เป็นเพื่อนกัน คนไข้นั่งรถเข็นมาด้วยอาการหนักมาก ไม่ยอมบอกว่าไปเที่ยวผับแถวทองหล่อ และที่ไปด้วยกันอีกหกคนติดโควิด-19 แล้ว ทำให้แพทย์คนนี้ต้องกักตัวเองที่บ้านอีก 14 วัน ไปทำงานไม่ได้ เพราะไม่รู้ว่าตนเองติดโควิดจากคนไข้รายนี้ที่ปกปิดประวัติการสัมผัสความเสี่ยงหรือไม่
อย่าโกหกปกปิดแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์เลย คุณกำลังทำลายและทำร้ายชาติบ้านเมืองในเวลาวิกฤติที่สุด ที่ต้องการคนทำงานเพื่อช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์ครับ
ห้า จำนวนการได้รับวัคซีนต่อประชากรไม่ว่าจะหนึ่งโดสหรือครบสองโดสแล้วก็ตาม เราประเทศไทย ยังได้น้อยกว่าเพื่อน ประเทศที่ร่ำรวยและผลิตวัคซีนได้เอง โดยมีการคิดค้นวิจัยและพัฒนานวัตกรรมด้านนี้เองจะได้สูงกว่ามาก เรารับการถ่ายทอดเทคโนโลยีเลยช้ากว่าเขามาก สหรัฐอเมริกา อังกฤษ และสิงคโปร์ ทำสถิติพวกนี้ได้ดี สหรัฐอเมริกาฉีดไปแล้วร้อยละ 25 ของประชากร
เอาหละ รัฐบาลกำลังเร่ง แต่ว่าวัคซีนเป็นสินค้าควบคุม ไม่ได้ยอมให้ส่งออกกันได้ง่าย ๆ ไม่ใช่ว่ามีเงินก็หาซื้อได้ ต้องอาศัยความสัมพันธ์ระหว่างรัฐต่อรัฐ และถึงแม้จะฉีดวัคซีนแล้วก็ไม่ได้ป้องกันได้ 100% แต่อย่างใด
จากการสอบถามผู้เชี่ยวชาญได้ข้อคิดน่าสนใจดังนี้ครับ
วัคซีนเชื้อตาย ป้องกันติดเชื้อได้ไม่สูงนักราว 50% ซึ่งไม่ได้แปลกใจเพราะไวรัสนะครับ มันหลายปัจจัย เวลาฟักตัว การกลับมาเป็นซ้ำได้ และอื่น ๆ และใช้เทคโนโลยีเก่า ค่อนข้างปลอดภัยกว่า การแพ้มีน้อยกว่า ผลกระทบในระยะยาวน่าจะน้อยกว่ามาก ป้องกันการเข้าโรงพยาบาล ป้องกันการเข้าไอซียู และลดอัตราการตายได้ดีมากเท่า ๆ กับเทคโนโลยีอื่น ๆ
ข้อดีอีกประการของวัคซีนเชื้อตายคือ เอาไวรัสตายแล้วเข้าไปทั้งตัวมีหนามสไปค์ครบถ้วนดี มีโอกาสทนต่อการกลายพันธุ์สูง antibody ที่ได้หลากหลาย น่าจะทนต่อการกลายพันธุ์ของไวรัสได้ดีที่สุด
ไวรัลเวคเตอร์วัคซีน ใช้เทคโนโลยีทันสมัยกว่าเชื้อตาย ใช้พันธุวิศวกรรมแบบไม่ invasive มาก ตัดต่อพันธุกรรมโดยเอา viral vector ใส่เข้าไปในเซลล์ แล้วเอาเซลล์ไปเลี้ยงในถังน้ำที่เรียกว่า bio reactor แล้วสกัดวัคซีนออกมา เทคโนโลยีนี้ผลิตได้เร็วและเยอะ ประสิทธิภาพก็ดีในการป้องกันอาจจะสูงกว่าวัคซีนเชื้อตาย แต่การป้องกันการเข้าโรงพยาบาล การเข้าไอซียู และลดอัตราการตาย ก็ไม่ได้หนีกันมาก ไม่แตกต่างกัน การแพ้ก็อาจจะไม่มากนักเช่นกัน
วัคซีนแบบเมสเซนเจอร์อาร์เอ็นเอ มีการใช้ messenger และสารเคลือบพาเข้าไปในเซลล์ เลือกสไปค์ของไวรัสแบบเจาะจง ประสิทธิภาพในการป้องกันสูงมาก แต่การป้องกันการเข้าโรงพยาบาล การเข้าไอซียู และลดอัตราการตาย ก็ไม่ได้หนีกันมาก ไม่แตกต่างกัน การแพ้อาจจะมากกว่าอาจจะเกิดจากสารเคลือบที่คนเราแพ้ได้ นอกจากนี้การเอา messenger RNA เข้าไป ในระยะยาว อีก 20-30 ปีที่เรามีชีวิตต่อหลังฉีดวัคซีนก็ยังไม่แน่ใจ ปกติเทคโนโลยีนี้ใช้กับยามะเร็งที่รักษามะเร็งระยะท้ายแบบ target therapy ได้ผลดี แต่ผู้ป่วยมักจะเป็นผู้ป่วยช่วงสุดท้ายแล้ว เลยไม่ได้ศึกษา side effect อื่น ๆ กันยาว ๆ แต่ก็ไม่น่าจะเป็นอะไร แต่ก็ยืนยันไม่ได้ รอดูไปนาน ๆ แต่สั้น ๆ ไม่มีอะไร อาจจะมีแพ้มากหน่อย
สรุปคือฉีดตัวไหนก็ได้ครับ มีข้อดี ข้อเสีย แตกต่างกันไป
สำหรับคนที่ระวังหน่อย เลี่ยงความเสี่ยง อาจจะฉีดวัคซีนเชื้อตาย เพราะเป็นเทคโนโลยีเก่า ฉีดไม่ได้ป้องกันติด แต่ป้องกันตาย ป้องกันเข้าโรงพยาบาล
จะอยากให้ป้องกันได้ผลก็อาจจะใช้วัคซีนที่เทคโนโลยีก้าวหน้าใหม่ ๆ แต่ก็อาจจะมีความเสี่ยงกว่า ต้องฉีดสองเข็ม เว้นระยะ 3-4 สัปดาห์ รอหลังเข็มสองอีกเดือนภูมิจะขึ้นใกล้เคียงกับคนที่เคยติดโควิดมาครับ บางเทคโนโลยีอาจจะเร็วกว่ากันช้ากว่ากัน แต่ไม่ได้แตกต่างกันมากนักครับ
ขอให้มีให้ประชาชนได้ฉีดไวที่สุด ทั่วถึงที่สุด
อ้อ ต้องฉีดเข็มแรกกับเข็มสองเป็นวัคซีนตัวเดียวกัน ไม่เช่นนั้นจะไม่มีประโยชน์อะไรเลยครับ
ฉีดวัคซีนแล้ว ครบสองเข็มแล้วก็ยังต้อง ใส่หน้ากาก กินร้อน ช้อนกู เว้นระยะทางสังคมอยู่ดีครับ เพราะกลับมาเป็นซ้ำได้ และไวรัสกลายพันธุ์ได้ง่ายมาก โดยเฉพาะโควิด-19 ที่กลายพันธุ์ได้ไวมาก
ขอให้ทุกคนปลอดภัยครับ